ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่1046 ข่มเหงเศษเดน ตบหน้าฉาด เสพติด(4)
“ถ้าเธอไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์เข้าร่วมแล้ว” เพียงแต่ คุณหลิวยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา ด้วยความดุดันเป็นอย่างมาก
ทุกคนได้ฟังดังนั้น ก็ตกใจไป เลยอดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นเสียง
ทุกคนที่คิดว่าเป็นคำพูดของแขกที่เพิ่งมา แต่ว่าทุกคนพบว่า เสียงนั้นดังออกมาจากในโรงแรมอย่างรวดเร็ว
เมื่อทุกคนเห็นว่าใครเป็นคนพูด ก็พากันตกใจไป เพราะว่าทุกคนเห็นว่าคนที่พูดนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นเจ้าของงานในวันนี้อย่างเว้ยคังที่เพิ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่อย่างมู่หรงดัวหยาง
“เจ้าชายมู่หรงหล่อ แล้วก็เท่จังเลย”
“อือ อือ หล่อมากเลยล่ะ ดูหล่อกว่าในข่าวอีก”
คุณหนูคุณนายที่เพิ่งจะพูดจาแดกดันเวินลั่วฉิงต่างมองไปที่มู่หรงดัวหยางด้วยความหลงใหล
เว้ยคังเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิ๋น มู่หรงดัวหยางอายุยังน้อยก็ได้เป็นประธานของเว้ยคังแล้ว อีกอย่างเว้ยคังยังเป็นบริษัทครอบครัว หุ้นราวๆ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเว้ยคังอย่ในมือตระกูลเว้ย เป็นคนร่ำรวยจริงๆ
ดังนั้น เมืองจิ๋นในตอนนี้มีแต่คนอยากแต่งงานกับมู่หรงดัวหยาง และหวังว่าจะได้อยู่ในสายตาของมู่หรงดัวหยางจากการมาร่วมงานสังสรรค์ในวันนี้
คุณหนูคุณนายทั้งหมดต่างเก็บความน่ารังเกียจเมื่อครู่ ก่อนจะแสดงท่าทีที่ดูดีที่สุด เพื่อให้มู่หรงดัวหยางมองพวกเธอบ้าง
แต่ว่ามู่หรงดัวหยางกลับไม่ได้มองพวกเธอ
มู่หรงดัวหยางค่อยๆ เดินมา ก่อนจะมองไปทางคุณหลิวที่เพิ่งพูดด้วยแววตาเย็นชา: “ฉันไม่รู้ เลยว่างานเลี้ยงของเว้ยคังมีคนนอกมาพูดอะไรเวิ่นเว้อด้วย”
มู่หรงดัวหยางแสดงความหมายอย่างเห็นได้ชัด คุณหลิวคนนี้ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงของเว้ยคังเพื่อมาพูดอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ
คุณหลิวมีสีหน้าที่ดูไม่ดีเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ามู่หรงดัวหยางจะพูดแบบนี้ต่อหน้าคนอืน
“ประธานมู่หรง เวินลั่วฉิงไม่ดูตัวเอง ไร้ยางอาย ถ้าเกิดให้คนแบบนี้เข้าร่วมงานเลี้ยงของเว้ยคัง มันหมายถึงการดูถูกเว้ยคังไม่ใช่เหรอ” คุณหลิวไม่เข้าใจสถานการณ์ และคิดว่ามู่หรงดัวหยางไม่ชอบที่เธอสนใจเรื่องไร้สาระ เธอคิดว่ามู่หรงดัวหยางนั้นแต่อยากจะปกป้องแขกของเว้ยคัง
คุณหลิวคิดว่าเวินลั่วฉิงเป็นแขกธรรมดาๆ คุณหลิวกลัวว่ามู่หรงดัวหยางจะไม่รู้ความน่ารังเกียจของเวินลั่วฉิง ดังนั้นเลยอธิบายออกมา
“ประธานมู่หรง คุณหลิวพูดถูก คุณเวินไร้ยางอายมาก เมื่อครู่คุณปู่เย่เปิดการแถลงต่อนักข่าว ประธานมู่หรงดูได้นะ” คุณเจ้ากับคุณหลิวมาด้วยกัน เลยช่วยอธิบายแทนคุณหลิว
มันชัดเจนว่าคุณเจ้านั้นคิดเหมือนกับคุณหลิว อันที่จริงนอกจากฉู่หลิงเอ๋อกับไป๋หยูหนิงที่อยู่ในงาน ก็มีความคิดไม่ต่างจากคุณหลิวกับคุณเจ้าเท่าไหร่นัก
ถึงอย่างไรด้วยฐานะของเวินลั่วฉิงไม่น่าจะรู้จักอะไรกับเว้ยคังเท่าไหร่ และน่าจะไม่รู้จักอะไรกับประธานคนใหม่ของเว้ยคังด้วย
ขนาดคำพูดที่มู่หรงดัวหยางเพิ่งพูดไปนั้น มีคนมากมายที่ไม่ได้สนใจ ถึงจะไม่ลืมแต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิด เพียงแค่คิดว่ามู่หรงดัวหยางแค่อยากปกป้องแขกเท่านั้น
มู่หรงดัวหยางหันมองไปทางเวินลั่วฉิง พลางขมวดคิ้วแน่น: “เกิดอะไรขึ้น?”
ตระกูลเย่มีหนอนบ่อนไส้อีกแล้วเหรอ?
คนแก่ทั้งสองของตระกูลเย่ยังไม่มีท่าทีจะหยุด
มู่หรงดัวหยางคิดเรื่องที่สองคนของตระกูลเย่ทำกับฉิงฉิงก่อนหน้านี้ ใบหน้าก็มีความโกรธอย่างเห็นได้ชัด
คุณเจ้าสังเกตท่าทีของมู่หรงดัวหยาง เธอเห็นความโกรธบนใบหน้าของมู่หรงดัวหยาง ก็คิดว่ามู่หรงดัวหยางโกรธเพราะว่าเวินลั่วฉิงก่อเรื่อง ดังนั้นเลยไม่รอให้เวินลั่วฉิงตอบ คุณเจ้าก็รีบหยิบมือถือออกมา ก่อนจะเปิดคลิปเมื่อครู่ พลางส่งให้มู่หรงดัวหยาง: “ประธานมู่หรง นี่คือคลิป คุณดก่อนสิ”
มู่หรงดัวหยางขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะมองไปที่มือถือในมือของคุณเจ้า คลิปนั้นไม่ยาว เปิดเพียงไม่นานก็จบแล้ว
มู่หรงดัวหยางดูคลิปจบ ใบหน้าก็เคร่งเครียดไป คนแก่ทั้งสองของตระกูลเย่นี่ร้ายมากขึ้นทุกที กล้ามาทำร้ายฉิงฉิงให้ป่นปี้ขนาดนี้ จะยกโทษให้ไม่ได้แล้ว
“ประธานมู่หรง คุณเวินไร้ยางอาย ไม่มีคุณธรรม ดังนั้นฉันกับคุณหลิวเลยหยุดคุณเวินเอาไว้ คนแบบนี้ให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงของเว้ยคังไม่ได้” คุณเจ้าเห็นใบหน้าเคร่งเครียดของมู่หรงดัวหยาง เธอก็มองออกว่ามู่หรงดัวหยางโกรธ เธอคิดว่ามู่หรงดัวหยางนั้นโกรธเพราะว่าเข้าใจเรื่องไร้ยางอายของแล้วเวินลั่วฉิงแล้ว
ไร้ยางอายขนาดนั้นยังกล้ามาเข้าร่วมงานเลี้ยงของเว้ยคัง มู่หรงดัวหยางไม่โกรธสิถึงจะแปลก
แน่นอนว่าคุณเจ้าเองก็ไม่ลืมที่จะเติมน้ำมันลงกองไฟ
มู่หรงดัวหยางหันมองไปทางคุณเจ้า ด้วยแววตาแปลกๆ
ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มมุมปากขึ้น ก่อนจะมองไปทางคุณเจ้าเหมือนมองคนโง่
มู่หรงดัวหยางอยากปกป้องฉิงฉิงแค่ไหนนั้นเธอรู้ดีที่สุด ไม่ ไม่ใช่แค่มู่หรงดัวหยาง แต่ตระกูลเว้ยนั้นเห็นฉิงฉิงเป็นเหมือนครอบครัว นังโง่คนนี้กล้ามาใส่ร้ายฉิงฉิงต่อหน้ามู่หรงดัวหยางขนาดนี้
เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ
แต่มู่หรงดัวหยางมองคุณเจ้าเพียงไม่นาน ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หันมองไปทางชายที่ยืนอยู่ติดเขา: “ส่งหมายศาลไปให้เย่ซือเฉิน ให้เขาอธิบายให้ชัดเจน”
มู่หรงดัวหยางรู้ว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ ไม่เกี่ยวกับเย่ซือเฉิน เขาเองก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้เย่ซือเฉินลำบากใจเพราะเป็นคนกลาง แต่ว่ามากลั่นแกล้งฉิงฉิงของเขานั้น เรื่องนี้ต้องไม่จบลงง่ายๆ
เขาไม่อยากคุยอะไรกับคุณปู่เย่ เขาเลยไปหาเย่ซือเฉินเลย
ถ้าเกิดเย่ซือเฉินหาวิธีแก้ปัญหาที่พึงพอใจเขาไม่ได้ล่ะ?
เย่ซือเฉินอยากแต่งกับฉิงฉิงงั้นเหรอ?ไม่มีทาง!
เมื่อมู่หรงดัวหยางพูดออกไป คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างงงไปหมด ส่งหมายศาลไปให้เย่ซือเฉินงั้นเหรอ?มันเกิดอะไรขึ้น?
มู่หรงดัวหยางจะส่งหมายศาลให้เย่ซือเฉินงั้นเหรอ?
มู่หรงดัวหยางบ้าไปแล้วเหรอ?ใครๆ ก็รู้ว่าจะไปมีเรื่องกับคุณชายสามเย่ไม่ได้!!
อีกอย่างทำไมมู่หรงดัวหยางต้องส่งไปหาเย่ซือเฉินด้วยนะ?
เกี่ยวกับเวินลั่วฉิงงั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่เชื่อ แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!!
แต่ว่ามู่หรงดัวหยางส่งหมายไปหาเย่ซือเฉินเพราะว่าเวินลั่วฉิงงั้นเหรอ?!
จะเป็นไปได้อย่างไร?!
มู่หรงดัวหยางกับเวินลั่วฉิงเป็นอะไรกันนะ?!
เพราะว่าคำพูดของมู่หรงดัวหยาง สีหน้าของทุกคนเลยจริงจังมากขึ้น ก่อนจะแอบเดาไปต่างๆ นานาว่ามู่หรงดัวหยางกับเวินลั่วฉิงเป็นอะไรกัน?
เวินลั่วฉิงนั้นไม่แปลกใจกับวิธีของมู่หรงดัวหยางเท่าไหร่ เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอรู้ว่ามู่หรงดัวหยางนั้นทำทุกอย่างเพื่อเธอ