ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่1048 ข่มเหงเศษเดน ตบหน้าฉาด เสพติด ขั้นตอนการรนหาที่ตาย (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่1048 ข่มเหงเศษเดน ตบหน้าฉาด เสพติด ขั้นตอนการรนหาที่ตาย (6)
เสียงของเขาเย็นชาและทุ้มต่ำ ไม่อ่อนโยนเหมือนตอนที่คุยกับฉู่หลิงเอ๋อเลย
“คุณหลิวกับคุณเจ้า” มีคนที่เห็นว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล เลยผลักภาระไปที่คุณหลิวกับคุณเจ้าที่ก่อเรื่องเมื่อครู่ อีกอย่างคนที่มามุงดูเหมือนคุยกันมาจนเสร็จแล้ว เลยถอยออกไปพร้อมๆ กัน เพื่อออกห่างจากคุณหลิวกับคุณเจ้า
คุณหลิวกับคุณเจ้าออกมาสองคน!
“ทั้งสองคน ไสหัวออกไป” มู่หรงดัวหยางกวาดตาไปมองคุณหลิวกับคุณเจ้าด้วยความเย็นชา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก โดยไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
คำว่าไสหัวออกไปนั้นเขาพูดออกมาได้ง่ายๆ อีกอย่างในที่แบบนี้มันเหมือนกับการดูถูกเลยล่ะ
มีคนไล่ออกไปจากที่แบบนี้ มันมีอะไรน่าอายกว่านั้นอีกเหรอ?
คุณหลิวกับคุณเจ้าคิดไม่ถึงว่าประธานที่เพิ่งขึ้นมารับตำแหน่งของเว้ยคัง จะกล้าไล่ให้พวกเธอออกไป?!
ในตอนนั้นสีหน้าของทั้งสองคนดูไม่ดีเลย
“ประธานมู่หรง ฉันเป็นแขกที่พวกคุณเชิญมานะ อีกอย่างวันนี้ฉันมากับพ่อแม่ พ่อแม่ของฉันยังอยู่ข้างในอยู่เลย” คุณเจ้าโกรธขึ้นมาเป็นอย่างมาก ใบหน้าเลยแดงก่ำ แต่เธอก็ยังคุมสติได้ และคิดถึงพ่อแม่ของเธอ
แน่นอน ว่าน้ำเสียงของเธอมันวางมาดอย่างเห็นได้ชัด และก็มีความข่มขู่อยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่ของเธอน่าจะเป็นคนระดับสูง
“คุณหมายความว่าจะให้ฉันบอกพ่อคุณว่าให้ออกไปพร้อมกันงั้นเหรอ?” มู่หรงดัวหยางฉลาดมาก เลยเข้าใจน้ำเสียงข่มขู่ของคุณเจ้าออก มู่หรงดัวหยางเลยยิ้มออกมา
ขู่เขางั้นเหรอ?
หลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าขู่เขา!!
“ประธานมู่หรง พ่อของฉันเป็นคนรับผิดชอบดูแลของสำนักงานการก่อสร้างใหญ่ของเมืองจิ๋นเลยนะ……” คุณเจ้าได้ยินมู่หรงดัวหยางไม่ไว้หน้าก็อึ้งไป เธอคิดว่ามู่หรงดัวหยางไม่รู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร ดังนั้นเธอเลยตั้งใจเตือนมู่หรงดัวหยางสักหน่อย
ธุรกิจของเว้ยคังนั้นกว้างขวางมาก ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงการรับเหมาก่อสร้าง พ่อของเธอเป็นคนควบคุมทั้งหมด
เธอไม่เชื่อว่ามู่หรงดัวหยางจะกล้ามีเรื่องกับพ่อของเธอ ถ้าเกิดมู่หรงดัวหยางมีเรื่องกับพ่อของเธอ เดี๋ยวพ่อของเธอจะต้องหาวิธีจัดการกับเว้ยคังแน่นอน
เว้ยคังจะเก่งกาจขนาดไหนก็มีเพียงธุรกิจเดียว เหมือนกับคำที่บอกว่าประชาชนไม่สู้กับทางการ เว้ยคังจะกล้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมีเรื่องกับผู้นำได้
ในสถานการณ์แบบนี้พ่อของเธอถือธุรกิจหลักๆ ของเว้ยคังเอาไว้มากมาย
มุมปากของฉู่หลิงเอ๋อยิ้มขึ้นอย่างร้ายกาจ ดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางคุณเจ้าอีกครั้ง คุณเจ้าคนนี้ไม่มีสมองหรือเปล่าเนี่ย?
ในสถานการณ์แบบนี้กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา ผู้บริหารระดับสูงนั้นต่างนอบน้อมกันทั้งนั้น อย่างน้อยก็ต้องนอบน้อมในที่สาธารณะแบบนี้ถึงจะถูก แต่คุณเจ้ากลับมาขู่อย่างวางมาดขนาดนี้
คุณเจ้านั้นพูดออกไปต่อหน้าทุกคน จากนี้ถ้าเกิดเกิดอะไรขึ้นกับเว้ยคัง ถึงพ่อของเธออย่างหัวหน้าใหญ่เจ้าจะไม่ใช่คนทำ แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะต้องพึ่งพ่อของคุณเจ้าคนนี้
มันถือเป็นอำนาจที่ได้มาอย่างไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่นัก
อีกอย่างงานเลี้ยงของเว้ยคังในวันนี้มีผู้บริหารมากมาย พ่อของคุณเจ้าเองก็ไม่ได้ใหญ่โตเท่าไหร่ แต่คนที่บริหารสำนักงานการก่อสร้างใหญ่ของเมืองจิ๋นก็ดูแลธุรกิจของเว้ยคังโดยตรงจริงๆ
ดังนั้น คุณเจ้าในตอนนี้เลยกล้าขู่อย่างแน่นอน
ทุกคนต่างมองไปทางมู่หรงดัวหยาง เพื่อรอเขาตอบ ทุกคนคิดว่าคนหนึ่งเป็นเพื่อนของแฟน อีกคนเป็นผู้บริหารที่ดูแลธุรกิจของเว้ยคัง ความเลวร้ายของการทำธุรกิจคือการมีเรื่องกับคนอื่น ในสถานการณ์แบบนี้ต้องสนใจผู้บริหารอยู่แล้ว
ดังนั้นทุกคนในตอนนี้ต่างคิดว่ามู่หรงดัวหยางจะต้องไว้หน้าคุณเจ้าบ้าง เรื่องแบบนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องเลือกทำแบบนั้น
มู่หรงดัวหยางมองคุณเจ้า แต่ไม่ได้รีบตอบอะไร เหมือนกำลังคิด และไตร่ตรองอยู่
อันที่จริงมู่หรงดัวหยางไม่ได้กำลังคิดอะไรอยู่ และไม่ได้ไตร่ตรอง เขาไม่คิดว่ามันมีอะไรให้น่าคิด เขาแค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ เขาไม่อยากจะพูดกับเธอ
คุณเจ้าเห็นว่ามู่หรงดัวหยางไม่พูดอะไร เลยคิดว่ามู่หรงดัวหยางลังเล ในใจเลยภาคภูมิเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเธอวางมาดในใจ โดยที่ไม่ปกปิดเลย พลางแสดงออกมาบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
มู่หรงดัวหยางมองไปทางคนข้างกาย: “แจ้งให้พ่อแม่ของคุณเจ้าคนนี้มานี่ แล้วจูงคุณเจ้าคนนี้กลับไป”
มู่หรงดัวหยางพูดอย่างชัดเจน และไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างมู่หรงดัวหยางพูดต่อหน้าทุกคน คนโดยรอบต่างได้ยินอย่างชัดเจน และรู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น
ทุกคนตกใจอีกครั้ง ใครก็คิดไม่ถึงว่ามู่หรงดัวหยางรู้ถึงฐานะของพ่อคุณเจ้าแล้วแต่ยังไม่ไว้หน้าขนาดนี้ อีกอย่างมู่หรงดัวหยางยังใช้คำว่าจูงด้วย
คำว่าจูงกลับไปกับพากลับไปนั้นมันต่างกัน เพราะคำว่าจูงนั้นส่วนใหญ่ใช้กับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็สัตว์
ไม่พูดไม่ได้ว่าคำพูดของมู่หรงดัวหยางนั้นพูดได้อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา
“นี่มันอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น?หลิงหลิง เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” พอดีในตอนนั้น มีคุณหญิงคนหนึ่งวัยกลางคนเดินออกมา ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเจ้า
“แม่ เขา เว้ยคังจะไล่พวกเราออก” คุณเจ้าเห็นแม่ของตัวเอง บนใบหน้าก็มีความน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
“ประธานมู่หรง นี่มันความเข้าใจผิดหรือเปล่า?” คุณนายเจ้าได้ยินลูกสาวเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็มองไปทางมู่หรงดัวหยาง เธอเพิ่งมา เลยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เธอคิดว่ามันเกิดความเข้าใจผิดอะไร ไม่อย่างนั้นเว้ยคังจะไล่ลูกสาวของเธอได้อย่างไร
เว้ยคังกล้ามาไล่ลูกสาวเธองั้นเหรอ?
สามีของเธอนั้นดูแลธุรกิจของเว้ยคังตั้งมากมาย
“ไม่เข้าใจผิดหรอก ในเมื่อคุณนายเจ้าเพิ่งจะมา ก็พาคุณเจ้ากลับไปด้วยนะ” มู่หรงดัวหยางยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ไม่ได้มีท่าทีจะอ่อนลงเพราะการมาของคุณนายเจ้าเลย คำพูดของเขานั้นตรงไปตรงมา โดยไม่มีท่าทีจะให้ได้เจรจาเลยแม้แต่น้อย
คุณเจ้ากระซิบข้างหูคุณนายเจ้า ทุกคนไม่ได้ยินว่าคุณเจ้าพูดอะไร เพียงแต่ได้เห็นสีหน้าของคุณนายเจ้าที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
แน่นอน ว่าทุกคนต่างรู้ดี ว่าพี่เจ้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณนายเจ้าฟัง
“ประธานมู่หรง สามีของฉันเป็นแขกที่เว้ยคังเชิญมา คุณจะไล่พวกเราไปงั้นเหรอ?” คุณนายเจ้ายิ้มขึ้น ในตานั้นมีความโกรธอยู่ เธอคิดว่าเมื่อครู่เกิดความเข้าใจผิดอะไร ดังนั้นเธอเลยอยากจะถาม แต่คิดไม่ถึงว่าประธานมู่หรงจะไม่ไว้หน้าขนาดนี้
นี่มันเหมือนตบหน้าเธอไม่ใช่เหรอ?
“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราเองก็เป็นคนที่เว้ยคังเชิญมา นี่คือมารยาทที่ประธานมู่หรงทำกับแขกเหรอ?” คุณนายเจ้าฉลาดกว่าคุณเจ้ามาก คงจะเป็นเพราะเจอเหตุการณ์มามากมาย
คุณนายเจ้ามองไปทางมู่หรงดัวหยาง ในใจก็ยิ้มเยาะ คุณชายของตระกูลเว้ยนี้เด็กเกินไปแล้ว แถมคุณชายเหว้ยยังไม่เคยบริหารธุรกิจเท่าไหร่ อยู่ข้างนอกมาตลอด ไม่เคยบริหารธุรกิจของเว้ยคังเลย
คุณชายแบบนี้ต่างกล้าวางมาดกันทั้งนั้น และทำอะไรอย่างไม่คิด จะให้เขาทำงานอะไรได้นะ?
“ฉันเพิ่งคุยกับคุณนายเหว้ยข้างในเอง ฉันว่าเรื่องนี้ให้คุณนายเหว้ยมาจัดการดีกว่านะ” คุณนายเจ้าไม่สนใจมู่หรงดัวหยางเลยด้วยซ้ำ เธอเสนอให้คุณนายเหว้ยมาจัดการเรื่องตรงหน้านี้
คุณนายเจ้ามั่นใจแล้วว่ามู่หรงดัวหยางไม่รู้จักกลัว แต่ว่าคุณนายเหว้ยนั้นจะต้องสนใจผลประโยชน์แน่นอน ดังนั้นคุณนายเจ้าเลยมั่นใจว่าคุณนายเหว้ยออกหน้าแล้วจะไว้หน้าเธอ
จากนั้น เธอก็ให้คุณนายเหว้ยเชิญเธอเข้าไปด้วยตัวเอง
มู่หรงดัวหยางได้ฟังคำพูดของคุณนายเจ้า ก็ยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย!
ตอนแรกเขาจะทำให้ทุกอย่างจบเร็วที่สุด ไม่อยากให้แม่ของเขาต้องตกใจ แต่ว่าคุณนายเจ้าอยากเชิญแม่เขามางั้นเหรอ?
งั้นก็อย่าโทษเขาก็แล้วกัน!!
แม่ของเขาเห็นฉิงฉิงสำคัญกว่าใครเป็นไหนๆ !!
ดังนั้น เมื่อแม่เขามา ผลที่จะเกิดขึ้น……
มันเหมือนรอรนหาที่ตายชัดๆ !!