ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 178 ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี!
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 178 ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี!
บทที่ 178: ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี!
อีกไม่กี่วัน เราก็จะไปถึงที่นั่นแล้ว
รถม้าหรูหรางดงามกำลังแล่นไปยังเขตการปกครองแอสคาร์ดอย่างรวดเร็ว ข้างในนั้นมีเด็กสาวผมสีทองกำลังนั่งมองออกไปยังทิวทัศน์ฤดูหนาวที่เลื่อนผ่านไปข้างนอกหน้าต่าง จิตใจของเธอล่องลอยย้อนกลับไปเมื่อ 10 วันก่อน…
…
มันเป็นช่วงปีใหม่ของยุคที่สามปี 1007 ซึ่งแตกต่างออกไปจากการเฉลิมฉลองครั้งอื่น ๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ตามปกติแล้ว นอร่าผู้ดำรงฐานะผู้สืบทอดของราชวงศ์ จะต้องใช้เวลาวันปีใหม่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ลอเรน นำการสวดมนต์ภาวนาครั้งใหญ่ให้กับเหล่ามวลชน โดยในบางปี เธอก็จะเปลี่ยนไปเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงประสานเสียงเพื่อสร้างบรรยากาศ
ทว่าในปีนี้กลับไม่มีผู้ใดพบเห็นองค์หญิงนอร่าในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เลย ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงในพระราชวัง หรืองานสวดมนต์ของโบสถ์ การหายตัวไปของเธอส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อบรรดาผู้สนับสนุนในเมืองหลวงอันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ยอดขายบันทึกบทสวดของโบสถ์ในปีนี้ลดลงไปมาก
คำถาม : ถ้านอร่าไม่ได้ใช้เวลาช่วงปีใหม่ในเมืองหลวง แล้วเธอไปอยู่ที่ไหนกัน?
คำตอบก็คือ พรมแดนด้านตะวันออก
ในฐานะตัวแทนของราชวงศ์ เช่นเดียวกับผู้สืบทอดในอนาคต การปรากฏตัวของนอร่าในแนวหน้าถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจอย่างมากให้แก่เหล่าทหาร และแสดงให้เห็นว่าตระกูลเซไซต์ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำสงครามกับพวกกลายพันธุ์มากเพียงใด
หากจะบอกว่านอร่าเป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุดในจักรวรรดิเซนต์เมซิทก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงอะไร ดังนั้นการปรากฏตัวของเธอจึงได้รับการต้อนรับจากเหล่าทหาร ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อเธอไม่ใช่เพียงแค่การยกย่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความชื่นชมอีกด้วย
พวกเขายินดีต้อนรับนอร่าไม่ใช่เพียงเพราะแค่ความงดงามของเธอ แต่รวมถึงความแข็งแกร่งของเธอด้วย
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของนอร่าจะส่งผลต่อมุมมองของคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของเธอ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยตอกย้ำความภักดีของผู้คน การผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและศักยภาพพรสวรรค์อันเปี่ยมล้น คือสิ่งที่ทำให้เด็กสาวได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเป็นอย่างดี
นอร่านั้นมีชาติกำเนิดอันสูงส่ง รูปลักษณ์อันงดงาม พรสวรรค์อันน่าทึ่ง การสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากเหล่าทหาร ช่างเป็นคุณสมบัติรอบด้านอันสมบูรณ์แบบโดยแท้จริง ไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามจะเทียบเคียงต่อสู้กับเธอ เขาก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูปเป็นแน่
ในช่วงปีใหม่ นอร่า ได้อุทิศบทสวดปลอบประโลม ให้กับเหล่าทหารที่ได้สละชีวิตตัวเองในสงคราม ซึ่งได้เพิ่มฐานผู้สนับสนุนในกองทัพของเธอขึ้นไปอีก
บนโลกนี้มีผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งและทรงเสน่ห์อยู่เสมอ ๆ โดยผู้บังคับบัญชาส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ บทบาทของพวกเขาจึงเกี่ยวข้องกับการเปิดทางในแนวรบของศัตรู สร้างโอกาสให้คนของพวกเขา หากพูดถึงความเป็นผู้นำแล้วล่ะก็ ผู้ที่มีอิทธิพลอำนาจย่อมมีข้อได้เปรียบในเรื่องนี้ บางครั้ง ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำ ก็แค่การแสดงความห่วงใยและความกังวลเล็กน้อยเท่านั้น
ทว่ามีผู้บัญชาการเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะใส่ใจดูแลทหารของตนหลังจากที่พวกเขาตายไปแล้ว เรียกได้ว่าในจักรวรรดิเซนต์เมซิทมีเพียงแค่ ตระกูลเซไซต์และตระกูลแอสคาร์ด ที่จะทำพิธีให้แก่เหล่าทหารที่ล่วงลับ
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กองทัพของตระกูลแอสคาร์ดแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทหารทุกคนไม่ได้โง่ พวกเขาย่อมรู้กันดีว่าใครมีคุณค่าคู่ควรแก่การสละชีวิตให้
นอกเหนือจากการทำพิธีให้แก่ทหารที่เสียชีวิตแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่นอร่าตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังแนวหน้า นั่นก็คือการไปเยี่ยมคาร์เตอร์
เนื่องจากโรเอลไม่สะดวกและไม่สามารถไปที่ชายแดนตะวันออกได้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เธอจะไปเยี่ยมคาร์เตอร์แทนเขา นอกจากนี้นอร่ายังต้องหารือเกี่ยวกับการเพิกถอนการหมั้นหมายของโรเอลอีกด้วย
แม้ว่าคาร์เตอร์จะเป็นผู้นำตระกูลที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมั่นคงเหนือทุกสิ่ง แต่เขาก็เป็นผู้ศรัทธาในการแต่งงานด้วยความรักที่แท้จริง จึงไม่แปลกที่เขาจะเอนเอียงเข้าข้างทางฝั่งของนอร่าและอลิเซีย อันที่จริงแล้ว คาร์เตอร์มีบทบาทสำคัญในแผนการกำจัดคู่แข่งคนที่สามเสียด้วยซ้ำ
ทว่าโชคชะตาก็มักจะเล่นตลก ขณะที่นอร่า อลิเซีย และคาร์เตอร์กำลังตบหน้าอกอย่างโล่งใจโดยคิดว่าพวกเขาทำตามแผนการได้สำเร็จ อีกด้านหนึ่งโรเอลก็เริ่มจับมือกับชาร์ล็อตเข้าสู่ช่วงการ ‘ใช้เวลาร่วมกันในห้องสมุด’ ของพวกเขาเสียแล้ว
ซึ่งระหว่างที่นอร่ากำลังเดินทางไปเยี่ยมคาร์เตอร์ เธอก็ได้ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้
ดูเหมือนว่าอลิเซียจะถูกปราบลงในถิ่นของตัวเอง หนีมายังเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ติดต่อหานอร่าเพื่อขอความช่วยเหลือ
พูดตามตรง นอร่านั้นเกือบจะเสียสติทันทีที่ได้ยินมาว่า อลิเซียไม่สามารถยื้อสถานการณ์เอาไว้ได้ จนโวยวายออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เจ้าหนีออกมาแบบนั้นเนี่ยนะ? เจ้าบ้าไปแล้วนรึไง! นั่นมันบ้านของเจ้านะ!”
นอร่ารู้สึกกระวนกระวายที่สุด แต่ทางด้านอลิเซียนั้นหนักยิ่งกว่า
“จะให้ดิฉันทำอย่างไรได้ล่ะคะ แผนของเราถูกเปิดโปงแล้ว! ชาร์ล็อตล่วงรู้ถึงแผนของพวกเรา และได้บอกท่านพี่ไปหมดแล้ว ตอนนี้ท่านพี่จะต้องเกลียดดิฉันมากแล้วแน่ ๆ! ฮือออ…”
พูดไปได้ครึ่งทางอลิเซียก็ร้องไห้ออกมา สีหน้าอันขุ่นเคืองของเด็กสาว ทำให้นอร่าอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก แต่ลึก ๆ เธอก็รู้ดีว่าตนไม่สามารถติเตียนวิพากษ์วิจารณ์อะไรอลิเซียได้
ไม่ใช่ว่าอลิเซียไม่ได้พยายาม เพียงแต่ว่าพฤติกรรมของชาร์ล็อตนั้นเหนือความคาดหมายของพวกเธอไปมาก โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการทำนายสามครั้งเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ ซึ่งทำให้นอร่ารู้สึกท้อแท้เมื่อได้ยินถึงมัน
ยิ่งไปกว่านั้น ชาร์ล็อตยังมีความชอบธรรมอยู่เคียงข้างตัวเธออีกด้วย เธอมีสถานะเป็นคู่หมั้นของโรเอล ในขณะที่อลิเซียเป็นเพียงน้องสาวบุญธรรมของเขา หากอลิเซียแสดงความรักความต้องการมากเกินไป นอกจากจะเป็นการไม่ให้เกียรติแล้ว มันยังจะทำลายความประทับใจของโรเอลที่มีต่อเธอลงอีกด้วย ซึ่งอาจจะยิ่งกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจของโรเอลที่มีต่อชาร์ล็อต ทำให้เขาเข้าข้างเธอมากขึ้นไปอีก
ชาร์ล็อตตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ดี ดังนั้นเธอจึงไม่รีรอที่จะโอบกอดโรเอลต่อหน้าต่อตาของอลิเซีย ปล่อยให้คู่ต่อสู้ของเธอคลุ้มคลั่ง
“ท่านพี่โรเอลบอกว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเพียงแค่เรื่องของผลประโยชน์เท่านั้น และพวกเขาก็จะยกเลิกการหมั้นเมื่อมันจบลง แต่ว่า…”
“คำพูดเหล่านั้นสามารถเชื่อถือได้งั้นเหรอ?”
นอร่าพ่นคำดูถูกเหยียดหยามออกมา แม้โรเอลจะไม่ได้โกหก แต่เธอรู้สึกว่าชาร์ล็อตไม่ได้คิดแบบนั้น เนื่องจากอีกฝ่ายได้ยืนยันความสัมพันธ์ด้วยการทำนายถึงสามครั้ง แบบนั้นแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นเพียงแค่เพื่อผลประโยชน์จริง ๆ งั้นเหรอ?
มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะเชื่อเรื่องแบบนั้น!
นอร่ารู้สึกว่าสติปัญญาของเธอกำลังโดนดูถูกอย่างร้ายแรง
ต่อให้ชาร์ล็อตไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อโรเอลเลยจริง ๆ ในตอนนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ตกหลุมรักเขาในอนาคต การที่ปล่อยชายหญิงใช้เวลาอยู่ร่วมกันสองต่อสอง จับมือกัน กอดกัน… มันเป็นอะไรที่อันตรายเกินไป!
แค่คิดถึงเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่นอร่าเคยได้เห็นในเมืองโรซ่าเมื่อไม่นานมานี้ เธอก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของตนได้ตกลงไปในขุมนรกอันไม่มีที่สิ้นสุด สายเลือดไฮเอลฟ์ของชาร์ล็อต ทำให้เธอมีภาพลักษณ์อันสูงส่งและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ชาร์ล็อตจะชนะใจใครสักคนได้ง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลโซโรฟยายังมีคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้หากชาร์ล็อตตกหลุมรักโรเอลเข้าจริง ๆ
แน่นอนว่าโรเอลเองก็มีเสน่ห์มากเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นนอร่าก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำให้ชาร์ล็อตที่เป็นดั่งองค์หญิงของเมืองโรซ่าตกหลุมรักได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยที่เธอเคยพบกับชายหนุ่มที่โดดเด่นมามากมาย กลายเป็นการสร้างมาตรฐานอันสูงลิ่วในใจเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงของตระกูลโซโรฟยาเองก็มักจะระมัดระวังเรื่องการแต่งงาน
ไม่มีทางที่พวกเขาจะรักกันได้ในเวลาสั้น ๆ เพียง 10 วันแน่
“ดิฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะสามารถจัดการกับเธอได้ แต่ถ้าเป็นฝ่าบาทล่ะก็ทำได้แน่”
หลังจากร้องไห้ออกมาพักหนึ่ง นัยน์ตาสีทับทิมของอลิเซียก็หรี่ลงแสดงให้เห็นแรงจูงใจที่แท้จริงที่ส่งให้เธอเดินทางมายังเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ เพื่อติดต่อกับนอร่า คำพูดเหล่านั้นทำให้นอร่าเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ก่อนจะพยักหน้าตอบช้า ๆ
การต่อสู้ครั้งนี้อลิเซียเสียเปรียบเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าชาร์ล็อตเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่ามันแตกต่างกันออกไปหากเป็นนอร่า
นอร่าเป็นถึงองค์หญิงของจักรวรรดิเซนต์เมซิท ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของราชวงศ์ ในแง่ของสถานะ เธอมีค่าเทียบเท่ากับชาร์ล็อต หรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญเธอยังเป็นผู้พิทักษ์ของโรเอลอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พิทักษ์และเป้าหมายที่ต้องปกป้องระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทำให้นอร่าสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง
ในเรื่องการใช้กลอุบาย อลิเซียอาจจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบมากกว่า เนื่องจากเธอใกล้ชิดกับโรเอล แต่หากเป็นการต่อสู้กันซึ่ง ๆ หน้าแล้วล่ะก็ นอร่าในฐานะผู้พิทักษ์ของโรเอล อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าอลิเซียมากอย่างแน่นอน
มันก็จริงอยู่ว่านอร่านั้นลังเลที่จะเข้าไปแทรกแซงกิจการของตระกูลแอสคาร์ด เนื่องจากตำแหน่งอันละเอียดอ่อนของเธอในจักรวรรดิเซนต์เมซิท อาจจะทำให้คนอื่น ๆ ไม่สบายใจ หากรู้ว่าตระกูลเซไซต์กำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของห้าตระกูลขุนนางชั้นสูง ทว่าตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ช่างหัวเรื่องการเมืองสิ! ตอนนี้เรากำลังจะเสียโรเอลให้คนอื่นไปแล้ว!
นอร่าน้อมรับสัญญาณขอความช่วยเหลือของอลิเซียและรีบกลับมาจากชายแดนทันที เธอใช้เวลาไม่ถึงห้าวันในการไปที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือเป็นความเร็วในการเดินทางที่น่าพอใจมาก และมันก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นด้วยเช่นกัน
เด็กสาวรู้ดีว่าโรเอลเป็นคนประเภทที่มักจะระวังคนแปลกหน้า และชาร์ล็อตซึ่งเป็นผู้หญิงจากตระกูลโซโรฟยาเองก็น่าจะดื้อรั้นเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน มันไม่น่าจะมีเวลาเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะเกิดความสัมพันธ์ใด ๆ ขึ้นมาได้
“ที่ข้าต้องทำตอนนี้ มีแค่การคิดหาวิธีไล่เธอออกไป…”
นอร่าพึมพำกับตัวเอง
ด้วยความมั่นใจดังกล่าวเด็กสาวจึงเริ่มวางแผนก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นว่าตนเองจะประสบความสำเร็จได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ในมุมมองของเธอ ชาร์ล็อตเป็นเพียงแค่เสือกระดาษที่กำลังจะถูกโค่นล้มลงในไม่ช้า!
อีกแค่สามวัน นอร่าก็จะไปถึงเขตการปกครองแอสคาร์ดแล้ว
ตอนนี้ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี!