ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 373 ความสำคัญของก้นพอล
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 373 ความสำคัญของก้นพอล
บทที่ 373: ความสำคัญของก้นพอล
ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่นานนักหลังจากที่โรเอลฟื้นจากการถดถอยทางร่างกายอันน่าวิตก ก็พบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายแบบเดียวกับที่เจอเมื่อปีก่อนอีกครั้ง
ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังงีบหลับยามบ่ายภายในราชรถของคนบาป เจตนาอันเยือกเย็นก็ได้โอบล้อมเขา ทั้งในความเป็นจริงและในความฝัน
มันเป็นดวงตาคู่สวย แต่กลับเย็นชาอย่างไม่อาจหยั่งถึง มันจ้องมองมาที่โรเอลข้ามผ่านพรมแดนของกาลอวกาศ ทำให้ร่างกายของเขาเย็นเฉียบจนหัวใจหยุดนิ่ง จนกระทั่งเมื่อดวงตาคู่นั้นหายไป ในที่สุดเขาก็สะดุ้งตื่น
ร่างกายของโรเอลสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขาหอบหายใจอย่างหนัก เสื้อผ้าเปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ ไม่ว่ายังไงความสนใจของมารดาแห่งเทพธิดาไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน
โรเอลไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่มารดาแห่งเทพธิดาจะจับจ้องมาที่เขา เนื่องจากเขาได้ดูดซับพลังของทูตของเธอเข้าไป อย่างไรก็ตามการถูกเทพเจ้าจับตามอง ทำให้เขารู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก และเด็กหนุ่มก็รู้ดีว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาอยู่เคียงข้าง ถ้าเขาต้องการที่จะเอาชีวิตรอดจากความพิโรธของมารดาแห่งเทพธิดา
แน่นอนว่าสิ่งนี้ควบคู่ไปกับเป้าหมายอื่นของโรเอล นั่นก็คือการช่วยแอสตริด อาร์เด้
ภายในสถานะผู้เฝ้ามองเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว ทำให้โรเอลได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของราชาจอมเวทพริสเลย์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าแอสตริดเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างโค่นพริสเลย์ แม้ว่าการดำรงอยู่ของมิติห้วงความฝันในแหวนกุหลาบดำ จะเป็นหลักฐานว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม
ทว่าตอนนี้ โรเอลยังขาดข้อมูลมากมายสำหรับการเคลื่อนไหวหรือตัดสินใจลงมือ
มีสองวิธีสำหรับเขาที่จะได้รับข้อมูลดังกล่าว หนึ่งคือผ่านทาง ‘ผู้พิทักษ์’ แอนโตนิโอและอีกคนหนึ่งก็ผ่าน ‘วิญญาณเทียมปลอม’ อย่างมากาเร็ต
สาเหตุที่โรเอลยังไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาทั้งคู่ เป็นเพราะเขาเพิ่งกลับมาที่สถาบันการศึกษา แต่เขาก็คิดว่าทั้งสองเองก็คงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้เกี่ยวกับสถานการณ์ของแอสตริดเช่นกัน
ตลอดสี่ร้อยปีที่ผ่านมา แอนโตนิโอได้มาถึงจุดสูงสุดในแง่ของอิทธิพล อำนาจ และสถานะ ถ้าเขารู้วิธีที่จะทำให้อาจารย์ของตนกลับมายังโลกได้จริง ๆ ละก็เขาคงจะลงมือไปแล้ว
เช่นเดียวกับมากาเร็ต ซึ่งได้รับมอบหมายให้คอยจัดการกับสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าตามคำสั่งของแอสตริด ถ้าเธอมีแผนสำรองใด ๆ ละก็ มันคงจะถูกเปิดใช้งานไปแล้ว
หาก ‘นักวิชาการ’ แอสตริดไม่ได้กลับมาเป็นเวลานานกว่าสี่ร้อยปี ก็หมายความว่าสภาพของเธอแย่กว่าที่โรเอลคาดไว้มาก นี่เป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจใช้คำแนะนำของเทพธิดาแห่งโชคชะตาสำหรับเรื่องนี้
จากมุมมองส่วนตัว ทั้งโรเอลและลิเลียนต่างก็มีความประทับใจที่ดีต่อบรรพบุรุษของพวกเขาและต้องการช่วยเหลือเธอ และจากมุมมองของหลักเหตุผล การมีบรรพบุรุษของระดับแก่นแท้หนึ่งเป็นพันธมิตร เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะคิดได้แล้วในตอนนี้
ด้วยแรงจูงใจทั้งสอง โรเอลจึงได้พึมพำความปรารถนาของตนและเปิดใช้งานพร
【เปิดใช้งานพร 】
【การเปิดใช้งานสำเร็จ】
【มีโอกาสที่คุณจะได้รับคำแนะนำของโชคชะตา】
【กริ๊ง!】
【คุณได้รับคำแนะนำจากเทพธิดาแห่งโชคชะตา】
“หืม? คำแนะนำจากเทพีแห่งโชคชะตามันได้รับกันง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?”
โรเอลตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เขากำลังเฉลิมฉลองต่อโชคลาภของตนเอง
คำแนะนำที่ว่าคืออะไรกัน…
เด็กหนุ่มกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างตั้งใจ แสวงหาอะไรในงานเลี้ยงที่อาจสามารถช่วยเขาหรือช่วยแอสตริดได้ ทว่าก่อนที่จะเจอคำตอบ เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
【คำแนะนำของเทพธิดาแห่งโชคชะตา
ลดสะโพกของคุณ ยกขาขึ้น แล้วเตะก้นของพอล แอคเคอร์มันน์ให้สุดแรง
ระยะเวลาจำกัด : 10 วินาที】
【นับถอยหลัง: 10… 9… 8…】
ก...เกิดอะไรขึ้น?
โรเอล แอสคาร์ดรู้สึกงุนงงกับการแจ้งเตือนอันน่าขันที่ได้รับมาจากคำแนะนำของเทพธิดาแห่งโชคชะตา
ภูมิปัญญาระดับเทพธิดาโบราณ ก้าวแรกในการช่วยบรรพบุรุษของเขาที่ถูกขังอยู่เป็นเวลาสี่ร้อยปีคือการเตะตูดของพอลเนี่ยนะ?
เทพธิดาแห่งโชคชะตาเป็นโรคจิตงั้นเหรอ?
โรเอลจ้องไปยังพอลที่กำลังเปรมปรีดิ์หลังจากเพิ่งทานเค้กเสร็จ โดยมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจ อย่างไรก็ตามการนับถอยหลังยังคงเดินต่อไป และเขาคงไม่ต้องการปล่อยให้โอกาสแห่งความเป็นไปได้นี้หลุดมือไปแน่ โรเอลจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันและตัดสินใจที่จะลองทำตามคำแนะนำดู
ยังไงซะมันก็มาจากเทพธิดาแห่งโชคชะตาเลยนะ เธอไม่มีทางแนะนำอะไรไร้สาระออกมาแน่ ๆ
ด้วยความคิดดังกล่าวโรเอลจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ลดสะโพกลง ยกขาขึ้น ส่งเตะอันทรงพลังตรงไปที่ก้นของพอล แอคเคอร์มันน์
“อ๊ะ!”
การจู่โจมที่ก้นอย่างกะทันหันทำให้พอลตกตะลึง เขาส่งเสียงอุทานออกมา ก่อนที่จะลอยหวือในอากาศ โชคดีที่ฝูงชนที่กำลังส่งเสียงจอแจอยู่ดังพอจะกลบเสียงร้องพอล จึงไม่ทำให้เกิดความโกลาหลใด ๆ
ถึงแม้ว่าจะมีเด็กสาวสองคนมองเห็นก็ตาม
นอร่าและชาร์ล็อตยังคงรู้สึกขุ่นเคืองอย่างสุดซึ้งต่อพอลที่เลือกเข้าข้างลิเลียนอย่างโจ่งแจ้ง ดังนั้นดวงตาของพวกเธอจึงฉายประกายขึ้น เมื่อเห็นการกระทำของโรเอล แม้ทั้งสองจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ แต่มันก็ทำให้พวกเธอพึงพอใจ และช่วยบรรเทาความโกรธของพวกเธอลงไปมาก
ขณะเดียวกันโรเอลไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาได้ระงับความโกรธแค้นของเด็กสาวทั้งสองคนและหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไปได้ เขายังคงจ้องมองไปที่วิถีการเคลื่อนที่ของพอลอย่างตั้งใจ ด้วยที่ต้องการเห็นผลจากคำแนะนำของเทพธิดาแห่งโชคชะตา
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือแอสตริด จะเริ่มต้นด้วยการเตะก้นพอลจริง ๆ งั้นเหรอ?
โรเอลสงสัยขณะมองดูพอลที่เดินเข้าไปในฝูงชน
…
ที่ส่วนท้ายของห้องจัดเลี้ยงอาจารย์ใหญ่ แอนโตนิโอ ลูบเคราสีขาวราวกับหิมะ ขณะที่เขากำลังพูดคุยกับเหล่าผู้นำจากภาคีแห่งปัญญาที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับศึกชิงถ้วย
ศึกชิงถ้วย เป็นงานประลองครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นในเลนสเตอร์ทุก ๆ สองถึงสามปี นักเรียนที่มีตำแหน่งทั้งหมดในเลนสเตอร์ล้วนมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานนี้ ส่วนช่องว่างที่เหลือก็ถูกจัดสรรออกไปสู่องค์กรอื่น ๆ อีกสองสามแห่งที่มีสมาชิกที่มีอายุเหมาะสมตามเกณฑ์ มันเป็นงานใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหวัง และความฝันของวัยรุ่นเลือดร้อน
งานนี้เป็นการแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากมวลชนอย่างล้นหลาม และมีอิทธิพลอย่างมาก ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับชื่อเสียงและเกียรติยศ รวมถึงโอกาสใหม่ ๆ มากมาย
เทียบได้กับงานแข่งโคชิเอ็งที่ญี่ปุ่นในอดีตชาติของโรเอล ใครก็ตามที่สามารถเข้าสู่โคชิเอ็งได้เพียงครึ่งก้าว ก็ถือเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต เปรียบเสมือนเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเยาวชน ผู้เล่นดาวเด่นในโคชิเอ็งจะได้รับความนิยมเทียบเท่ากับไอดอล และได้รับข้อเสนอจากทีมงานมืออาชีพมากมาย
ทว่าอิทธิพลของศึกชิงถ้วยนั้นมีผลไปไกลกว่านั้นอีกมาก
อิทธิพลของโคชิเอ็งมีรากฐานมาจากความรักในกีฬาเบสบอลของญี่ปุ่น แต่พลังเหนือธรรมชาตินั้นเป็นถึงรากฐานของอารยธรรมมนุษย์ เหตุผลหลักที่ทำให้ศึกชิงถ้วยโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะว่าความแข็งแกร่งคือคุณค่าที่จับต้องได้มากที่สุดบนทวีปเซีย งานประลองนี้จึงกลายเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเหล่าวัยรุ่นที่อยากจะพิสูจน์ตนเอง
วัยรุ่นทุกคนจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าตำแหน่งสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกข้ามวันข้ามคืน หรือการระดมสมองคิดแผนการอันแยบยลเพื่อโค่นล้มคู่แข่ง ผู้ที่ประสบความสำเร็จ จะได้รับชื่อเสียงและโชคลาภมากมายมหาศาล
ปัญหาเพียงอย่างเดียวที่รบกวนใจแอนโตนิโอและอาจารย์คนอื่น ๆ รวมถึงเหล่าผู้นำของภาคีแห่งปัญญาก็คือ นักเรียนปีหนึ่งเหมาะจะเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่
กฎในศึกชิงถ้วยครั้งก่อน ระบุว่านักเรียนชั้นปีที่หนึ่งยังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันในศึกชิงถ้วย แต่สถานการณ์ในปีนี้นั้นต่างออกไป ทั้งภายในและภายนอกสถาบัน
ในแง่ของสถานการณ์ภายนอก การบุกรุกของพวกกลายพันธุ์ที่ชายแดน ทำให้จำเป็นต้องค้นหาบุคลากรชั้นยอดให้เจอมากขึ้น และขัดเกลาพวกเขาให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนในแง่ของสถานการณ์ภายใน นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งในปัจจุบันนั้นมีความสามารถมากกว่ารุ่นก่อน ๆ อย่างชัดเจน นั่นก็เพราะในรุ่นนี้มีผู้ถือครองแหวนถึงสามคน!
มันคงจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ หากจะตัดสิทธิ์ผู้ถือแหวนทั้งสามก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น
พวกเขาต้องตัดสินใจว่าตนเองควรจะยึดติดกับประเพณี หรือเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เนื่องจากศึกชิงถ้วยเป็นงานใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็สนใจ หมายความว่าทุกการตัดสินใจของพวกเขาจะทำให้เกิดคลื่นระลอกใหญ่
“ทำไมพวกเราไม่ลองถามความเห็นของนักเรียนดูล่ะ?”
แอนโตนิโอไม่สามารถตัดสินใจในขั้นสุดท้ายได้ แม้จะผ่านอภิปรายมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม เขาลูบเคราพร้อมแนวคิดนี้ ทันใดนั้นเองก็มีใครบางคนล้มลงมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา
และแล้วในช่วงเวลาอันสำคัญนี้ พอล แอคเคอร์มันน์ ก็ได้ปรากฏกายขึ้นมา!