ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 375 ปัญหาเล็กๆ ของอลิเซีย
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 375 ปัญหาเล็กๆ ของอลิเซีย
บทที่ 375: ปัญหาเล็กๆ ของอลิเซีย
ศึกชิงถ้วยไม่ได้มีบทบาทสำคัญเท่าไหร่นักในเกมอายออฟโครนิเคิล
ภายในเกม ศึกชิงถ้วยถูกอธิบายเอาไว้ว่าเป็นงานแข่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ทว่ากลับไม่มีความสำคัญใด ๆ ในเนื้อเรื่องเลย นั่นก็เพราะเกมอายออฟโครนิเคิล เป็นเกมจีบสาว ไม่ใช่เกมต่อสู้
ก้นของพอลทำให้เกิดเหตุการณ์ที่มีความแตกต่างไปจากเนื้อเรื่องในเกม ซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับโรเอล ปัญหาก็คือมันเกี่ยวอะไรกับวิธีการช่วยแอสตริด?
โรเอลตรึกตรองไปมา ก็ได้ข้อสรุปว่าตัวเองก็น่าจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ที่ชนะการแข่งขันศึกชิงถ้วย จะได้รับรางวัลมากมายมหาศาล และในรางวัลเหล่านั้นอาจมีอะไรที่สามารถใช้ช่วยแอสตริดได้
ข้อดีคือเขามีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมศึกชิงถ้วย ด้วยสถานะผู้ถือแหวน และอันดับภายในนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ปัจจุบันโรเอลอยู่ที่อันดับสาม และน่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไป เนื่องจากเขาไม่คิดที่จะต่อสู้กับอีกสองอันดับที่อยู่เหนือกว่าเขา
อันดับหนึ่งคือนอร่า ส่วนอันดับที่สองคือชาร์ล็อต
ที่ตลกก็คือโรเอลได้อันดับ 3 โดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับตั้งแต่การต่อสู้จัดอันดับเริ่มต้นขึ้น คู่ต่อสู้ทั้งหมดที่ต้องเจอกับเขาต่างก็พากันยอมจำนนในทันที ทำให้คนนอกที่ไม่รู้อะไร คงคิดว่าโรเอลติดสินบนพวกนั้นไว้ล่วงหน้า
แต่แท้จริงแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่รู้ถึงการมีอยู่ของกรันด้า ทำให้ไม่มีใครคิดที่จะต่อสู้ท้าทายโครงกระดูกยักษ์อันน่าเกรงขาม ส่งผลให้โรเอลก้าวขึ้นมาอันดับ 3 อย่างง่ายดาย อันดับของเขาพุ่งขึ้นไปราวกับจรวด แต่แล้วมันก็หยุดชะงักทันที เมื่อเขาพบกับนอร่าในรอบรองชนะเลิศ
คราวนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายยอมจำนน
โรเอลไม่ใช่คนประเภทที่จะสนใจอันดับของตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งเขาเองก็ไม่สามารถต่อสู้กับนอร่าอย่างจริงจังได้เนื่องจากความสัมพันธ์ที่มีต่อเธอ นอกจากนี้เด็กหนุ่มก็ไม่ต้องการจะเปิดเผยไพ่ตายของตัวเองออกมาในที่สาธารณะด้วย เขาจึงเลือกที่จะยอมจำนน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือการต่อสู้อันดุเดือด ระหว่างนอร่าและชาร์ล็อตเมื่อพวกเธอพบกันในรอบชิงชนะเลิศ ท้ายที่สุดชาร์ล็อตก็ถูกต้อนให้จนมุม ด้วยการโจมตีอันก้าวร้าวอย่างไม่หยุดยั้งของนอร่า ทำให้เธอถูกบังคับให้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ไป
นักเรียนส่วนใหญ่มักจะไม่สู้สุดตัวในศึกจัดอันดับ แต่ศึกชิงถ้วยนั้นต่างกันออกไป เพื่อเงิน ชื่อเสียง และอนาคตที่สดใส ทุกคนแทบจะถวายชีวิตทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุชัยชนะ
เพื่อจำลองการต่อสู้ในชีวิตจริง ศึกชิงถ้วยจึงมีข้อจำกัดไม่มาก แม้แต่อุปกรณ์เวทย์ที่มีระบบอัตโนมัติก็ยังได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ได้
“หัวหน้า ไอศกรีมนมลาวาจะเสร็จแล้วนะครับ จะไม่ลองจริง ๆ เหรอ?”
เกอรัลถาม
“!”
โรเอลหลุดออกจากห้วงความคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองไอศกรีมรูปภูเขาไฟอันน่าดึงดูดใจในมือของเกอรัล และนั่นทำให้ความอยากขนมหวานเย็น ๆ พุ่งสู่จุดสูงสุด โดยที่ไม่มีการลังเลใด ๆ แม้แต่วินาทีเดียว เด็กหนุ่มก็เดินไปทางมันอย่างสง่างาม
ชิ ในเมื่อมีของอร่อยอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ใครจะไปสนเรื่องงานแข่งกัน? เอาไว้คิดพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย
ต่อหน้าอาหารเลิศรสอันน่าดึงดูดโรเอลได้ตัดสินใจที่จะปิดสมองตัวเอง เพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรสที่เชฟชั้นนำของเมืองเลนสเตอร์นำเสนอ ภายใต้บรรยากาศที่สนุกสนานนี้ ในที่สุดงานเลี้ยงฉลองก็จบลง
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา โรเอลได้เดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนอันกว้างใหญ่เพียงลำพัง
ในฐานะผู้นำของฝ่ายกุหลาบน้ำเงินโรเอล ควรนำสมาชิกในฝ่ายกลับไปยังคฤหาสน์สีกรมท่า ทว่าหลังจากงานเลี้ยงเลิก สถานการณ์พิเศษก็ได้ขัดขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้น เด็กหนุ่มจึงออกจากงานเลี้ยงมาตามลำพัง
โรเอลเดินมาสักพักใหญ่ ๆ จนมาหยุดที่ย่านอยู่อาศัยของอาจารย์ระดับสูง
จุดหมายของเขาคือบ้านสองชั้นอันสวยงามใจกลางย่านนี้ ซึ่งเป็นที่พักของอาจารย์เพียงคนเดียวที่โรเอลสนิทด้วย ‘คริส ไวลด์’ หญิงสาวผู้ที่อาจจะกลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัวคนใหม่ของเขาในอนาคต
แน่นอนว่าโรเอลไม่ได้มายังที่พักของคริสกลางดึกเพื่ออวยพรให้เธอฝันดี เขามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องมาที่นี่
นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่ที่โรเอลกลับมาจากแดนเหนือ ชีวิตเด็กหนุ่มค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพอันสนุกสนานและสงบสุขตามปกติ เขาได้บอกลาการคุกคามของราชาจอมเวทย์ และดินแดนอันเต็มไปด้วยหิมะอย่างเขตการปกครองของดยุกเอิร์ลโบรวล์ แต่มีคนคนหนึ่งที่เขาไม่สามารถบอกลาได้
อลิเซีย
หลังจากที่พวกเขากลับมาจากแดนเหนือ อลิเซียก็ยืนกรานว่าจะตามโรเอลมาที่เลนสเตอร์ให้ได้ แถมยังปฏิเสธแยกออกไปอย่างแข็งขัน โรเอลได้พูดคุยกับเธอถึงเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่อลิเซียก็คิดหาข้ออ้างต่าง ๆ ที่จะเปลี่ยนเรื่องว่าตนเองตามมาเพราะ ‘งาน’
“หนูตามมาที่นี่ เพื่อประเมินบุคลิกและลักษณะของคุณคริสค่ะ”
เธอกล่าวอ้าง
อลิเซียเป็นดั่งสื่อกลางระหว่างคริสกับคาร์เตอร์ เธอจึงมีหน้าที่ตรวจสอบรุ่นน้องในอดีตของคาร์เตอร์คนนี้ที่พยายามส่งจดหมายถึงเด็กหนุ่มบ่อย ๆ ตลอดช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา
นี่เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างตึงเครียด ทำให้โรเอลไม่สามารถขัดอะไรได้
การที่อลิเซียกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างคาร์เตอร์กับคริสนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะว่านี่คือเรื่องภายในครอบครัวของพวกเขา นั่นทำให้โรเอลต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องการทำให้อลิเซียรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก และนั่นทำให้ในตอนนี้เขากำลังตกที่นั่งลำบาก
นอกจากนี้อลิเซียยังเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญ ในเครือข่ายข่าวกรองของเขตการปกครองแอสคาร์ด ดังนั้นนี่จึงเป็นส่วนหนึ่งในงานของเธอ เพื่อค้นหาภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นและคอยสืบสวนสอบสวน
ที่ซับซ้อนยิ่งกว่านั้นก็คือการที่คริสและอลิเซียเข้ากันได้ดีจนน่าประหลาด โรเอลไม่รู้ว่าทั้งสองคนคุยกันเรื่องอะไรในการพบกันครั้งแรก แต่ครั้งต่อไปที่เห็นทั้งสอง พวกเธอก็สนิทสนมกันราวกับพี่น้องสตรีเสียแล้ว เขาเคยลองถามพวกเธอแล้วด้วยความสนใจ ซึ่งคำตอบของพวกเธอก็คือ ทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกถึงความสนิทสนมที่มีระหว่างกัน
ก่อนที่จะรู้ตัว อลิเซียก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในที่พักของคริส และไม่ยอมกลับไปยังเขตการปกครองแอสคาร์ดอีก
โรเอลจะแวะไปเยี่ยมอลิเซียเป็นครั้งคราว แต่วันนี้นั้นมีเหตุพิเศษบางอย่างที่ทำให้เขาต้องมาที่นี่ นั่นก็คือจดหมายที่ส่งมาถึงเขาด้วยคาถาเวทย์ ทำให้เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
【เตียงของฉันเสีย มารับตัวเธอไปที
—คริส】
“…”
คำพูดง่าย ๆ พวกนี้ทำให้โรเอลพูดไม่ออก เขาอดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยว่า เตียงมันเสียง่ายอะไรขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ ทั้ง ๆ ที่มีคนใช้งานมันเพียงคนเดียวเนี่ยนะ
หลังจากถอนหายใจอีกครั้ง โรเอลก็เคาะประตูบ้านสองชั้น จากนั้นคริสก็เปิดออกมาต้อนรับอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากอีกฝ่ายเชิดขึ้นทันทีที่เห็นโรเอล แต่แล้วเธอก็ตบหน้าผากพร้อมทำทีเป็นบ่น
“เธอมาสายนะ เธอปล่อยให้อลิเซียรอนานมากเลยนะรู้ไหม?”
“ผมต้องขอโทษด้วย แต่งานเลี้ยงเพิ่งจะจบลงไม่นานเอง”
โรเอลตอบ
คริสมองดูริบบิ้นที่ห้อยอยู่บนชุดสูทของโรเอลพลางยิ้มเยาะ เธอปัดริบบิ้นบนไหล่ของเขาออกและเสนอคำชมที่หายาก
“ครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก ต้องขอบคุณสำหรับสิ่งที่เธอลงแรงไปจริง ๆ เพราะเธอตอนนี้ฉันเลยมีหัวข้อมากมายให้เขียนลงจดหมายเลยทีเดียว”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ จะว่าไปแล้ว อาจารย์คริส… ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าเตียงของคุณพังได้ยังไงกัน?”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็…”
“ท่านพี่โรเอล!”
ขณะที่คริสกำลังรีดเค้นคำตอบจากหัวสมองเพราะคำถามอย่างกะทันหันของโรเอล จู่ ๆ ร่างของเด็กสาวผมสีเงินก็พุ่งออกมาจากห้องห้องหนึ่ง กระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของโรเอล ขัดจังหวะการสนทนาระหว่างทั้งคู่ลง
“อลิเซีย เตียงของเธอ…”
“ท่านพี่โรเอล หนูคิดถึงท่านพี่มากเลยค่ะ”
“…เฮ้อ ช่างมันเถอะ”
โรเอลตั้งใจที่จะพูดถึงประเด็นนี้ แต่เมื่อเขามองไปยังเด็กสาวที่กำลังตื่นเต้นพลางซุกตัวเข้ามาหา นิสัยนิยมน้องสาวของเขาก็ตัดบทจบลงในทันที เขารู้ว่านี่เป็นแค่ข้ออ้าง แต่ก็เลือกที่จะปล่อยให้เธอได้ทำตามใจไป
ปฏิสัมพันธ์อันแสนหวานระหว่างทั้งคู่ ทำให้คริสเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นโดยไม่รู้ตัว
อืม สองคนนี้จริง ๆ ด้วย…
อลิเซียแอบให้สัญญาณ ‘โอเค’ กับคริสเพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ที่เธอต้องลี้ภัยมาอาศัยอยู่กับคริส เพราะที่นี่มีกฎห้ามไม่ให้นักเรียนพาบุคคลภายนอกเข้ามาในสถาบัน หากไม่ใช่เพราะกฎนี้ เหล่าขุนนางที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า คงจะนำกองทัพของสาวใช้และพ่อบ้านของตนติดมาด้วยแน่ ซึ่งจะขัดกับจุดมุ่งหมายของสถาบันเซนต์เฟรย่าในการสร้างอุปนิสัยที่ดีและความอุตสาหะให้แก่นักเรียน
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดดังกล่าวใช้ไม่ได้กับอาจารย์ คริสได้รับสิทธิ์ให้พาเพื่อนฝูงและสมาชิกในครอบครัวมาอาศัยอยู่ได้ หลังจากที่ลงทะเบียนกับทางสถาบันแล้ว
นี่เป็นวิธีที่ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันได้อย่างรวดเร็ว อลิเซียเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคริสและคาร์เตอร์ ในขณะที่คริสมีอำนาจที่ทำให้อลิเซียสามารถอยู่ในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า หรือก็คือพวกเธอสามารถตอบสนองความต้องการของกันและกันได้นั่นเอง
สองสาวก่อตั้งพันธมิตร ‘พิชิตใจชายตระกูลแอสคาร์ด’ ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และนี่เป็นเพียงการร่วมมือครั้งแรกของแผนมากมายที่จะเกิดขึ้น
หลังจากขอบคุณคริสที่ช่วยดูแลอลิเซีย โรเอลและอลิเซียก็โบกมือลาอีกฝ่าย ก่อนจะเดินทางไปยังคฤหาสน์สีกรมท่า
ขณะที่อลิเซียกำลังรู้สึกยินดีในความสำเร็จของตน รถม้าสุดหรูที่มีตราสัญลักษณ์ดาบและโล่ก็ได้มาถึงทางเข้าของสถาบันเซนต์เฟรย่า จากนั้นคนขับก็ยกเอกสารขึ้นประกาศเสียงดังก้อง ถึงตัวตนฐานะของบุคคลในรถม้า
“จงเปิดประตูออก นี่คือรถม้าของราชวงศ์แคมบอนไนต์จากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์!”