ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 380 ตูม!
บทที่ 380: ตูม!
ขณะที่วิลเลียมและพรรคพวกทั้งเจ็ดคนก้าวขึ้นไปบนเวที นักเรียนของสถาบันก็ปรบมือส่งเสียงต้อนรับกันอย่างอบอุ่น พร้อมประเมินพวกเขาด้วยความสงสัย
เป็นเรื่องยากที่จะเห็นคนจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ย้ายมายังสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า และพวกขุนนางชั้นสูงเองก็ไม่ชอบที่จะเดินทางออกนอกอาณาจักร อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินอันโดดเดี่ยวแห่งนี้จึงลึกลับมากเสียจนใคร ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่านี่เป็นเรื่องจริงรึเปล่า
เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นักเรียนชั้นปีที่ 1 จะตื่นเต้นที่ได้พบพวกเขา และกลุ่มเจ็ดคนที่เดินขึ้นไปบนเวทีก็ไม่ทำให้ความคาดหวังของพวกเขาผิดหวัง
อัศวินหุ้มเกราะทั่วทั้งร่าง ‘วิลเลียม’
‘เทเรซา’ เด็กสาวผมสีชมพูนัยน์ตาสีชมพูผู้น่ารัก
เด็กสาวผมทองผู้กล้าหาญในชุดเกราะเบา ‘บริตตานี่’
‘เคิร์ต’ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ล่ำสันเป็นพิเศษ ไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัว
เด็กหนุ่มร่างผอมที่ปิดตาของเขาด้วยผ้าลึกลับ ‘สจ๊วร์ต’
‘จูเลียน่า’ เด็กสาวผมดำตาสีแดง ผู้แต่งกายด้วยชุดลูกไม้ดูสูงส่ง
‘เซลิน่า’ เด็กสาวผมสีส้มตาสีเขียว รอยยิ้มดูเจ้าเล่ห์
เมื่อวัยรุ่นทั้งทั้งเจ็ดคนปรากฏตัวบนเวที เหล่านักเรียนของสถาบันก็ซุบซิบกันด้วยความตื่นเต้น
“ว้าว ผู้ชายคนนั้นสูงมาก เขามีกล้ามเป็นมัด ๆ เลย!”
“ชายที่สวมผ้าปิดตาคนนั้นดูโดดเดี่ยวมากเลยว่าไหม?”
“อัศวินในชุดเกราะ ช่างให้บรรยากาศอันลึกลับจริง ๆ”
เหล่านักเรียนหญิงต่างประเมินนักเรียนที่ยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับปรบมือ ส่วนนักเรียนชาย พวกเขาล้วนตื่นเต้นมากกับรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของนักเรียนที่ย้ายมา โดยเฉพาะนักเรียนหญิงทำให้ความคิดที่ไม่ผ่านการคัดกรองใด ๆ ไหลออกมาจากปากของพวกเขา
“สาวผมสีชมพูคนนั้นน่ารักสุด ๆ!”
“เฮ้ ๆ สาวตาสีแดงคนนั้นสวยกว่าอีก เธอดูสง่างามมาก”
“โอ้ เทพีเซีย! ผู้หญิงผมทองคนนั้นหุ่นสุดยอดไปเลย!”
แต่ในหมู่นักเรียนชาย กลับมีเด็กหนุ่มผมสีเทาคนหนึ่งที่มีปฏิกิริยาแตกต่างไปคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
ธ…เธอมาที่นี่ทำไม?
ใบหน้าของเกอรัลยู่ยี่เมื่อได้เห็นผู้หญิงผมสีทองบนเวที เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าคนที่ย้ายมาจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินจะไม่ใช่นักเรียนที่ลำบากในการเรียน แต่เป็นชนชั้นสูง
ใช่แล้ว พวกเขาล้วนเป็นผู้สูงศักดิ์ทั้งหมด
นอกจากองค์ชายวิลเลี่ยมแล้ว อีกหกคนที่เหลือล้วนเป็นผู้สืบทอดตระกูลชนชั้นสูงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเทเรซาหรือบริตตานี่ พวกเธอทั้งสองคนล้วนเป็นลูกสาวของตระกูลดยุค
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่มีข้อมูลใดสำคัญอีกต่อไปแล้วสำหรับเกอรัล นั่นก็เพราะคนหนึ่งในหมู่นักเรียนที่ย้ายมา เป็นคนที่เกอรัลไม่อยากเจอที่สุด
เธอมองไม่เห็นเราหรอก เธอมองไม่เห็นเราหรอก เธอมองไม่เห็นเรา…
เมื่อมองไปยังเด็กสาวผมสีทองที่ตนหมั้นหมายด้วย เกอรัลก็อ้าปากค้างและเริ่มสวดมนต์ในใจ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายที่สั่นเทาหยุดอยู่นิ่ง ๆ ความจริงแล้วเขาอยากจะหนีไปเลยตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็กลัวว่ามันจะดูเด่นเกินไป
หอประชุมแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนอย่างน้อยก็หลายพันคน ไม่มีทางที่เธอจะได้เห็นเราท่ามกลางนักเรียนปี 1 มากมายขนาดนี้ได้หรอก!
เกอรัลเหลือบมองฝูงชนรอบตัวเขาอย่างมั่นใจ
เขาคิดไม่ผิดมีฝูงชนจำนวนมากเป็นที่กำบังให้แก่เขาจริง ๆ แต่แล้วมันก็เปล่าประโยชน์ เนื่องจากคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาคือดาวเด่น
โรเอล แอสคาร์ด คือดาวเด่นที่เจิดจ้าที่สุดของงานนี้
วิลเลียมในชุดเกราะกวาดสายตามองผ่านฝูงชนและสบตากับโรเอลแทบจะทันที เมื่อมองไปตามสายตาของเธอ อีกหกคนก็พบเป้าหมายการสังเกตการณ์ของตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน
จูเลียน่าหรี่ตาสีแดงเข้มของเธอ เซลิน่าเผยรอยยิ้มที่กระหายการต่อสู้ เคิร์ตผู้สูงตระหง่านดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างและขมวดคิ้ว สจ๊วร์ตหันศีรษะของเขาราวกับสามารถมองผ่านผ้าปิดตาได้
เทเรซาโบกมือและยิ้มให้โรเอล แต่เธอก็แข็งทื่อไปในทันทีเมื่อสังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมสีเทาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอพบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นดูคุ้นเคยจนผิดปกติ
เดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันนายน้อยของตระกูลสตีเฟนสันที่หมั้นกับ… แย่แล้วสิ!
เทเรซาเบิกตาสีชมพูด้วยความสยดสยองเมื่อนึกถึงตัวตนของเกอรัล แต่เธอระลึกได้ช้าเกินไป ก่อนที่จะรู้สึกตัวเด็กสาวผมทองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ปลดปล่อยพลังเวทย์มหาศาลออกมาพร้อมด้วยเสียงคำรามอันน่าสยดสยอง
“เ -ก -อ -รั -ล!”
“!”
พลังสายเลือดแห่งวัลคีรี่ของบริตตานี่กัดเซาะเหตุผลทั้งหมดของเธอทิ้งไป ระหว่างที่อีกหกคนที่เหลือกำลังประหลาดใจ เด็กสาวก็พุ่งลงไปจากเวทีกระโดดเข้าหาเกอรัล เทเรซาและวิลเลียมพยายามรั้งเธอไว้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดบริตตานี่ที่อาละวาดได้ทันการณ์
ด้วยเหตุนี้คำสัญญาของพวกเขากับอาจารย์ใหญ่แอนโตนิโอ ที่จะคอยเฝ้าสังเกตการณ์โรเอลจากระยะไกลก็ได้ถูกทำลายลงในพริบตา นักเรียนอีกหกคนมองหน้ากันก่อนที่จะรีบตามบริตตานี่ลงไปทันที
สถานการณ์อันพลิกผันนี้ทำให้เกอรัลตกตะลึง ความสยองขวัญเข้าปกคลุมทุกรูขุมขนของร่างกาย เขากระโดดขึ้นโดยสัญชาตญาณและพยายามจะหนี แต่มันก็สายเกินไป
บริตตานี่แปลงกายเป็นสายฟ้าสีทองที่ฟาดผ่านท้องฟ้า มาอยู่เหนือโรเอลและคนอื่น ๆ ในชั่วพริบตา ง้าวเรืองแสงพลันปรากฏขึ้นในมือของเจ้าตัว จากนั้นก็ฟาดมันลงบนคู่หมั้นที่พยายามจะหนีด้วยความโกรธ
ตูม!
พลังเวทย์ของบริตตานี่แปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าทำลายล้างพยายามทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า เกอรัลสะดุ้งอย่างรวดเร็วก่อนจะสร้างเกราะพลังเวทย์ขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ทว่ามันกลับกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น
การโจมตีด้วยความโกรธของบริตตานี่ ถูกขัดขวางด้วยมือโครงกระดูกสีแดงเข้ม ก่อนที่มันจะไปถึงเกราะพลังเวทย์ของเกอรัล เด็กหนุ่มผมสีดำที่ยืนอยู่ใต้มือโครงกระดูกสีแดงเข้ม เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องไปที่บริตตานี่
บริตตานี่พบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในดวงตาคู่หนึ่งที่ชวนให้หลงใหล ลึกลับและเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ราวกับแสงเทียนที่ส่องประกายในความมืด ดวงตาคู่นั้นดูสงบนิ่งราวกับทะเลสาบอันเงียบสงบ ไม่มีอารมณ์ใด ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อึดอัดใจ
เมื่อถูกจ้องมอง ความโกรธและความแค้นของเธอก็จางหายไปอย่างรวดเร็วราวกับถูกระงับด้วยพลังบางอย่าง แรงกดดันมหาศาลที่เธอรู้สึกได้เขย่าความมีเหตุมีผลให้กลับมาอีกครั้ง
“!”
เมื่อรู้ว่าตนได้ทำเสียมารยาทภายใต้อิทธิพลของพลังทางสายเลือด บริตตานี่ก็ลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็วและถอยหลังออกมา
เกอรัลหันไปมองโรเอลด้วยสายตาซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด
ทันใดนั้นเองเหล่านักเรียนโดยรอบก็หลุดจากความงุนงง และหนีไปพร้อมกับเสียงตะโกนโวยวาย
“ก... เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ เธอถึงจู่โจมมาทางนี้?”
“ยัยบ้าเอ้ย! เธอมาที่นี่เพื่อล้างแค้นเหรอ?”
การอพยพของเหล่านักเรียนอย่างกะทันหันทำให้เกิดพื้นที่โล่งรอบ ๆ โรเอลและคนอื่น ๆ พอลรู้สึกงงงวยกับสถานการณ์ ส่วนบริตตานี่เองก็กำลังสับสน
น่าเสียดายที่สถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายลงเท่านั้น
“ในเมื่อบริตตานี่เป็นคนเปิดก่อน ก็ไม่มีใครตำหนิฉันได้แล้วใช่ไหม?”
“เฮ้! นั่นมันนายน้อยคนโตของพวกสตีเฟนสันนี่ ใครจะไปคิดว่าเขาจะมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่? หึ เอาเถอะแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน!”
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ในเมื่อบริตตานี่ได้เปิดฉากโจมตีไปแล้ว เด็กมีปัญหาคนอื่น ๆ จากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินก็เล่นไปตามน้ำในทันที เผยให้เห็นต้นกำเนิดที่แท้จริงของพวกเขา
เซลิน่าเชื่อฟังสัญชาตญาณของตนเหมือนสัตว์ป่าวิ่งไปที่ศูนย์กลางของความขัดแย้ง จูเลียน่าห้อมล้อมตัวเองด้วยชั้นของความมืดมิดและเดินผ่านเงามืดเข้าไป ทั้งสองเพิกเฉยต่อเสียงตะโกนของวิลเลียมที่บอกให้หยุดและปรากฏตัวต่อหน้าโรเอลในทันที
ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะทำอะไรได้ แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ระเบิดขึ้นมา พร้อมคลื่นของดวงดารามากมาย
“ข้าได้ยินมาก่อนว่าอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ไม่เคยคิดเลยว่าขุนนางของที่นั่นจะป่าเถื่อนถึงขนาดนี้ ดูเหมือนคำว่ามารยาทคงจะไม่มีในหมู่คนของที่นั่นสินะ”
“กล้าดียังไงถึงมาโจมตีผู้ถือแหวน? เหลือเชื่อ! นี่ควรจะถือว่านี่เป็นความพยายามที่จะบ่อนทำลายอำนาจของผู้ถือแหวนไหม?”
นอร่าในชุดเกราะเบาและชาร์ล็อตที่ถือปืนอยู่ในมือปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ โรเอลพร้อมกัน และพวกเธอถามเหล่าขุนนางจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น แหวนกุหลาบทอง แหวนกุหลาบแดงและแหวนกุหลาบน้ำเงินเรืองแสงบนนิ้วมือของพวกเขาทั้งสามคน แสดงสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดในสถาบันการศึกษานี้ที่นักเรียนมีอิสระด้วยความแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านอร่าและชาร์ล็อตจะข่มขู่พวกเขา แต่เซลิน่าและคนอื่น ๆ ก็ไม่คิดที่จะถอย
ระหว่างที่ทุกคนกำลังหยุดนิ่ง วิลเลียมและเทเรซาก็มาถึงที่เกิดเหตุ วิลเลียมตั้งใจจะไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอนิ่งเงียบไปเมื่อเห็นเด็กสาวสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โรเอล
ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องมาทางพวกเขาอย่างเฉียบขาด ความเข้มข้นของพลังเวทย์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าทั้งสองไม่ได้มีแค่คำขู่
ขณะเดียวกันแอนโตนิโอบนเวทีผู้ถูกฝูงชนลืมไปแล้ว ก็จ้องมองการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างไม่แปลกใจอะไร