ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1083 ตัดสัมพันธ์ (1) / ตอนที่ 1084 ตัดสัมพันธ์ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1083 ตัดสัมพันธ์ (1) / ตอนที่ 1084 ตัดสัมพันธ์ (2)
ชวีเหวินเฮ่าร่ำไห้วิงวอน ไม่มีอย่างอื่นที่เขาจะพึ่งพาได้อีกแล้ว ใบหน้าของเขาซีดขาว ดวงตาแดงก่ำ ไม่เหลือคราบความหนักแน่นและสุภาพอย่างที่จวินอู๋เสียได้เห็นในวันนั้นที่นอกหอเมฆาสวรรค์ เส้นผมของเขาหลุดลุ่ยยุ่งเหยิงยิ่งทำให้เขาดูน่าเวทนาเข้าไปอีก หลังที่เคยตั้งตรงตอนนี้กลับก้มงอ ทั้งหมดก็เพื่อบุตรีของเขา
จวินอู๋เสียมองร่างอันน่าเวทนาของชวีเหวินเฮ่าอย่างเย็นชา ไม่มีความรู้สึกใดๆ อยู่ในแววตาของนางเลยสักนิด
ข้าขอร้อง ช่วยข้าด้วย…หากท่านยอมช่วย ท่านจะได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ…ชีวิตข้า ทุกสิ่งที่ข้ามี ข้าให้ท่านได้ทั้งหมดเลย ชวีเหวินเฮ่ายกมือปิดหน้าร้องไห้เสียงดัง
เขารู้ว่าหลังจากสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมดในวันนี้ เขาจะไม่มีวันได้รับการอภัยจากจวินอู๋เสีย แต่เพื่อชวีหลิงเย่ว์เขาไม่อาจละทิ้งเศษเสี้ยวความหวังสุดท้ายนี้ได้
การร่ำไห้วิงวอนของชวีเหวินเฮ่าไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากจวินอู๋เสีย ชวีเหวินเฮ่าคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างหมดสิ้นหนทาง
สยงป้ากำหมัดขมวดคิ้ว แววตาเศร้าโศกสิ้นหวังปนกับความยุ่งยากใจ แต่เขาก็ไม่สามารถเอ่ยปากพูดออกไปได้
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าขอตัดความสัมพันธ์กับเมืองพันอสูรทั้งหมด ไม่ว่าพวกท่านจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา จบประโยคนางก็หันหลังจากไปทันทีพร้อมกับอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะและกระต่ายโลหิตเอาไว้ในอ้อมแขน นางไม่อยากเห็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยคนทรยศอีกต่อไป
นางอาจจะไม่ได้เห็นสยงป้ากับคนอื่นเป็นสหายของนาง แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไว้ใจพวกเขา
แต่หลังจากวันนี้ ความไว้ใจนั้นถูกทำลายจนสิ้นซากหมดแล้ว
จวินอู๋เย่ากวาดสายตามองคนของตึกเพลิงพิโรธแวบหนึ่ง แล้วก็ก้าวตามหลังจวินอู๋เสียออกไป เมื่อเดินมาข้างๆ นาง เขาก็มองใบหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสียแล้วถามว่า นี่เสี่ยวเสียเอ๋อร์อ่อนโยนลงแล้วหรือ
ถ้าเขาไม่ได้ให้สัญญากับจวินอู๋เสียเอาไว้ว่าจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของเมืองพันอสูรละก็ ทุกคนในลานนี้ได้ตายกันหมดแล้ว
จวินอู๋เสียตอบอย่างเย็นชาว่า พวกเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า จะไปพูดถึงทำไม
ความสัมพันธ์เดียวที่นางมีกับเมืองพันอสูรก็คือการร่วมมือกันเท่านั้น และตอนนี้ชวีเหวินเฮ่าก็หักหลังนาง ความสัมพันธ์นั้นจึงไม่มีอีกต่อไป
จวินอู๋เย่ามองจวินอู๋เสียแล้วเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทั้งสองคนเดินจากไปทิ้งให้ชวีเหวินเฮ่ามองตามหลังที่เย็นชาของพวกเขา
ชวีเหวินเฮ่ามองตามหลังจวินอู๋เสียแล้วอดตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนกไม่ได้ว่า คุณชายจวิน! ไม่ได้นะ…
จวินอู๋เสียชะงักเท้า นางไม่ได้หันกลับไป แต่พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า
ที่นี่ไม่มีอะไรจะสั่งข้าได้ พูดจบนางก็เดินออกไปโดยไม่หยุดแม้แต่ก้าวเดียว
ชวีเหวินเฮ่าทรุดลงกับพื้นอย่างสิ้นหวังไม่เหลือเรี่ยวแรง แต่วินาทีต่อมาสายตาของเขาก็ดูบ้าคลั่งขึ้นมาอย่างรุนแรง!
เขาลุกขึ้นพุ่งเข้าใส่จวินอู๋เสียทันที!
ท่านเจ้าเมือง! สยงป้าใจหายวาบ เขาไม่คิดว่าชวีเหวินเฮ่าจะเสียสติได้ถึงขนาดที่คิดโจมตีจวินอู๋เสีย!
ขณะที่ชวีเหวินเฮ่ากำลังจะถึงตัวจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียก็พลันยกเท้าขึ้นและตวัดเท้าเตะกลับหลังส่งชวีเหวินเฮ่าลอยกระเด็นออกไป!
ลูกเตะนั้นราวกับพายุอันบ้าคลั่งรุนแรงพัดผ่าน พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินส่องประกายตามทางและกระจายหายไปในอากาศ
ชวีเหวินเฮ่าร้องออกมาขณะที่กระแทกเข้ากับกำแพงและตกลงมากองอยู่ที่พื้น เขาครางออกมาอย่างเจ็บปวด
ตึกเพลิงพิโรธเงียบกริบทั้งตึก ทุกคนเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ สายตาของพวกเขายังคงจ้องมองนิ่งราวกับพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินนั้นยังไม่หายไป…
ตอนที่ 1084 ตัดสัมพันธ์ (2)
พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงิน…เป็นไปได้อย่างไร…
คนที่ปล่อยพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินนั่นเป็นเด็กหนุ่มตัวผอมที่อายุประมาณสิบสี่สิบห้าปี นั่นมันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
สยงป้ายิ่งแปลกใจกว่าใคร เขาอ้าปากค้างมองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ เขาจำได้ว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในเมืองหลวงของรัฐเหยียน จวินอู๋เสียมีพลังวิญญาณที่ขั้นสีเขียวเท่านั้น แต่ไม่ถึงหนึ่งเดือนเด็กหนุ่มคนนี้กลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินแล้ว
ความเร็วในการเลื่อนขั้นแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกในอนาคต มันบดขยี้ความเข้าใจทุกอย่างที่ผู้คนเคยรู้มา!
ในเวลานี้แทบไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหลงเหลืออยู่เลย พลังวิญญาณขั้นสีครามจึงนับว่าเป็นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีอยู่ และต่ำกว่าพลังวิญญาณขั้นสีครามเพียงขั้นเดียวก็คือพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงิน…
ทั่วทั้งโลกจะหาผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินที่อายุน้อยเท่านี้ได้หรือไม่!
ชวีเหวินเฮ่ากุมหน้าอกมองแผ่นหลังของจวินอู๋เสีย ในใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หัวหน้าตึกอีกคนของเมืองพันอสูรก้าวออกมาตะโกนว่า จวินเสีย! เจ้าแข็งแกร่งถึงขนาดนี้แล้ว! ทำไมถึงไม่ยอมช่วยคุณหนูใหญ่! เจ้ากับคุณหนูใหญ่รู้จักกันไม่ใช่หรือ คุณหนูใหญ่ถูกชวีซินรุ่ยจับตัวไปจะเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ ทำไมเจ้าถึงเสียสละเพื่อช่วยชีวิตคนไม่ได้ ถ้าเจ้ายอมช่วย…เจ้าจะเป็นผู้มีพระคุณของเมืองพันอสูรตลอดไป!
จวินอู๋เสียหันหน้ากลับมาเล็กน้อย นางมองหัวหน้าตึกคนนั้นอย่างเย็นชา
แค่เพราะพวกเจ้าอ่อนแอเลยทำให้พวกเจ้าเป็นฝ่ายถูกอย่างนั้นหรือ
หัวหน้าตึกคนนั้นอึ้งไปทันที
จวินอู๋เสียกับเมืองพันอสูรไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันมาตั้งแต่แรก เหตุผลที่นางมาที่นี่ก็เพราะนางตกลงกับชวีหลิงเย่ว์ว่าจะร่วมมือกัน นอกนั้นแล้ว จวินอู๋เสียไม่ได้มีข้อผูกพันที่จะต้องสละอะไรให้กับเมืองพันอสูรเลย
นี่เป็นเรื่องของคนเมืองพันอสูรเองอย่างชัดเจน แต่พวกเขาจะให้นางเสียสละเพื่อแก้ปัญหาให้…
ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงคนข้างนอก พวกเขาคงถูกคนทั้งโลกเหยียดหยามและหัวเราะเยาะเอาแน่!
นางไม่ยอมเสียเวลาไปกับคนพวกนี้อีกแล้ว จวินอู๋เสียก้าวเท้าเดินออกไปจากตึกเพลิงพิโรธ และตลอดชีวิตของนาง นางจะไม่มีวันเหยียบเข้ามาที่นี่อีกเด็ดขาด!
ร่างของจวินอู๋เสียกับจวินอู๋เย่าหายไปจากประตูใหญ่ของตึกเพลิงพิโรธ ชวีเหวินเฮ่าตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนโดยไม่ยอมให้หัวหน้าตึกคนนั้นช่วย
ท่านเจ้าเมือง… สยงป้ามองชวีเหวินเฮ่าที่ดูอิดโรย ถึงเขาจะคัดค้านเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แต่ว่า…
ท่านเจ้าเมือง…ท่านทำผิดไปจริงๆ … ชิงอวี่พูดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้ว่าครั้งนี้จวินอู๋เสียจะไม่ได้ระเบิดความโกรธออกมา แต่จากสายตาของเด็กหนุ่มผู้นี้ ชิงอวี่เข้าใจเลยว่าความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรของพวกเขาได้แตกหักลงไปแล้ว พวกเขาได้ผลักไสเด็กหนุ่มที่พวกเขาเชิญมาช่วยเหลือเมืองพันอสูรจากภาวะวิกฤตออกไปด้วยมือของพวกเขาเอง
ชิงอวี่ไม่มีวันลืมสายตาเย็นยะเยือกของจวินอู๋เสียไปได้เลย
ชวีเหวินเฮ่าหน้าซีดขาวและไม่พูดอะไรเลยสักคำ เขาเดินโซเซออกไปนอกประตู มือกำขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณเอาไว้แน่น
สยงป้ากับคนอื่นๆ ได้แต่รู้สึกอับจนหนทาง พวกเขาไม่รู้แล้วว่าจะมีใครในโลกนี้ที่ช่วยพวกเขาจากปลักโคลนนี้ได้ พวกเขาทำลายความหวังสุดท้ายที่มีด้วยมือของพวกเขาเอง…
ชวีเหวินเฮ่าออกจากตึกเพลิงพิโรธและเดินไปยังหอเมฆาสวรรค์ ลูกเตะเพียงครั้งเดียวของจวินอู๋เสียตรงหน้าอกของเขาทำให้อวัยวะภายในของเขาบอบช้ำ เขารู้สึกเจ็บปวดทรมานราวกับมีไฟเผาอยู่ข้างใน แต่เขาก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ เดินทีละก้าวอย่างยากลำบากตรงไปที่หอเมฆาสวรรค์ แล้วยกแขนที่หนักอึ้งขึ้นมาทุบประตูที่ปิดสนิท