ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1153 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่หนึ่ง (2) / ตอนที่ 1154 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่หนึ่ง (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1153 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่หนึ่ง (2) / ตอนที่ 1154 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่หนึ่ง (3)
จวินอู๋เสียขี่ม้าอยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพรัฐเหยียนด้วยความรวดเร็วราวกับสายลม คำอ้อนวอนของแม่ทัพใหญ่รัฐซังดังอยู่ในหูของนางอย่างต่อเนื่อง แต่สีหน้าของนางไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย ป้ายชื่อหักๆ ของทหารกองทัพรุ่ยหลินกระแทกหน้าอกของนางไม่หยุดจากม้าศึกที่พุ่งไปด้วยความเร็ว ป้ายชื่อที่มีจิตวิญญาณของกองทัพรุ่ยหลินทำให้นางเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าสงครามครั้งนี้น่ากลัวขนาดไหน!
ฝ่าบาท! เหลยเชินที่ตามหลังจวินเสียอยู่อดเรียกออกมาไม่ได้ เขาได้ยินเสียงวิงวอนอย่างสิ้นหวังไม่หยุดของแม่ทัพใหญ่รัฐซัง
รัฐเล็กๆ อย่างรัฐซังไม่อยู่ในสายตาของรัฐเหยียน แต่รัฐซังนอบน้อมเชื่อฟังพวกเขาอยู่เสมอ พวกเขาไม่เคยขาดส่งบรรณาการประจำปีเลยสักครั้ง
เหลยเชินรู้สึกประหลาดใจที่เห็นจวินเสียนำกองทัพพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด จวินเสียไม่สนใจเสียงอ้อนวอนของรัฐซังเลย ความเร็วของกองทัพพวกเขาไม่ลดลงเลยสักนิด เขาตั้งใจพุ่งตรงเข้าไปในค่ายของรัฐซังอย่างชัดเจน!
เหลยเชินคิดว่าจวินเสียนำกองทัพเข้ามาที่รัฐชีเพื่อช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋อง แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว เขาไม่เคยเห็นจวินเสียเป็นแบบนี้เลย ปล่อยรังสีอำมหิตที่น่ากลัวขนาดนั้นออกมา ดูเหมือนเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตคน แต่เหมือนมาเพื่อกวาดล้างกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐมากกว่า!
ฆ่า จวินอู๋เสียหรี่ตาลง แววตาเย็นเยียบเต็มไปด้วยความต้องการฆ่า
นางไม่อยากได้ยินอะไร และจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว
ในหัวนางคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!
จัดการฝังผู้บุกรุกพวกนี้ไปตลอดกาล กระทืบพวกมันให้จมลึกลงไปในแผ่นดินของรัฐชี!
เลือดต้องล้างด้วยเลือด! ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
คำสั่งฆ่าของจวินเสียออกมาแล้ว กองทัพรัฐเหยียนพุ่งเข้าไปเหมือนคลื่นยักษ์ที่ไม่อาจหยุดได้ พวกเขาเป็นทหารที่มีวินัยไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล แค่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเท่านั้น!
จวินอู๋เย่าขี่ม้าอยู่เคียงข้างจวินอู๋เสีย เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้จวินอู๋เสียกำลังโกรธมาก ค่ายของรัฐซังอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว จวินอู๋เย่ายิ้มมุมปาก แล้วร่างสูงของเขาก็ทะยานขึ้นจากม้าทันที!
เขาเหาะตรงไปยังค่ายของรัฐซังราวกับเทพที่ลอยลงมาจากสวรรค์!
แม่ทัพใหญ่ของรัฐซังมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่เหาะตรงมาที่พวกเขาอย่างประหลาดใจ ตาของเขาพองโตจนดูเหมือนจะหลุดออกจากเบ้าได้ทุกเมื่อ!
ชายหนุ่มที่มีใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบเหาะอย่างสง่างามไปที่กลางค่ายของรัฐซัง มืออันงดงามทั้งสองข้างของเขากวาดผ่านอากาศเบาๆ
ลมพายุก่อตัวขึ้นในค่ายของรัฐซังทันที!
ในพายุลูกนั้นมีหมอกสีดำที่เหมือนกับเคียวยมทูตอยู่ด้วย มันลากเอาทหารของรัฐซังทั้งหมดเข้าไปในพายุ!
ทันใดนั้น!
กลิ่นโลหิตพลันคลุ้งขึ้นมา!
โลหิตพุ่งออกจากพายุหมุนสีดำกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง!
เสียงร้องที่ฟังดูน่ากลัวดังออกมาไม่หยุด!
ดาบ เกราะ เนื้อ และกระดูกถูกบิดหมุน เสียงครูดแหลมดังเข้าหูของทุกคน!
ในนามของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ข้าจะส่งพวกเจ้าลงนรก!
จวินอู๋เย่าก้าวอย่างสง่างามมายืนกลางอากาศ มีพายุหมุนสีดำสองลูกอยู่ทางซ้ายและขวาของเขา โลหิตสาดกระจายไปทั่วทุกตารางนิ้วของค่ายรัฐซังราวกับสายฝน!
โลหิตอุ่นๆ พร้อมเนื้อที่ถูกบดขยี้หล่นกระจายลงบนตัวของทหารรัฐซัง ใบหน้าของแม่ทัพใหญ่เปื้อนสีแดงจากฝนโลหิต ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว เขามองชายหนุ่มที่มีใบหน้างดงามราวกับเป็นปีศาจที่ทำให้เขาเย็นวาบไปทั้งสันหลัง!
ในชั่วพริบตา เพียงแค่เขาวาดมือเล็กน้อย ทหารเกือบพันคนของกองทัพรัฐซังก็กลายเป็นเนื้อบดในทันที!
และทหารพวกนั้นก็ไม่ทันได้รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น!
จวินอู๋เย่ายืนอยู่กลางฝนโลหิต ดวงตาปีศาจของเขาเปล่งรังสีอำมหิตสีม่วงออกมา เขาอ้าแขนทั้งสองข้างออกรับฝนโลหิตที่ตกลงมาบนตัวเขาพร้อมกับยิ้มอย่างน่ากลัว
ตอนที่ 1154 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่หนึ่ง (3)
เขาจัดการเปิดม่านการแสดงอันยิ่งใหญ่ให้กับเสี่ยวเสียเอ๋อร์ การสังหารหมู่เพื่อแก้แค้นของนาง ใช้โลหิตที่สาดกระจายไปทั่วนี้เป็นเครื่องไว้อาลัยให้กับความตายของทหารกองทัพรุ่ยหลินทุกคนที่ตายไป!
ฝนโลหิตที่ตกใส่พวกทหารรัฐซังทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจนแทบบ้า มันผลักพวกเขาไปที่ขอบเหวแห่งความสิ้นหวังและไร้ก้นบึ้ง!
ทำไม…ทำไม…พวกเราไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับรัฐเหยียนเลย! มันคือการเข้าใจผิด! ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ! แม่ทัพใหญ่ของรัฐซังรู้สึกแข้งขาหมดแรง เขาไม่เคยเห็นการสังหารหมู่ที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ชายหนุ่มคนเดียวบดขยี้คนเป็นพันในชั่วพริบตา!
คนที่เหมือนปีศาจร้ายคนนั้นเป็นใครกันแน่!
จวินอู๋เย่ามองแม่ทัพใหญ่ของรัฐซังยิ้มๆ
วินาทีที่กองทัพของรัฐซังก้าวเท้าเข้ามาในรัฐชี พวกเขาก็ถูกตัดสินให้ตายในดินแดนนี้แล้ว!
กองทัพของรัฐเหยียนบุกเข้าโจมตีค่ายของรัฐซังเสียงดังกึกก้อง!
การโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงนั้นทำให้กองทัพของรัฐซังที่ไร้การป้องกันต้องยอมแพ้ด้วยความหวาดกลัว!
กองทัพของรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกไม่ใช่สิ่งที่รัฐเล็กๆ กระจอกๆ อย่างรัฐซังจะหวังไปเทียบได้!
ทหารม้าเกราะบุกเข้ามาในค่าย ม้าศึกตัวใหญ่เตะส่งทหารศัตรูลอยไปในอากาศ หลายชีวิตจบลงใต้กีบเหล็กนั้นทีละคนๆ!
ทหารศัตรูที่มือเปื้อนโลหิตทหารกองทัพรุ่ยหลินถูกส่งลงนรกไปอย่างรวดเร็ว!
แม่ทัพใหญ่ของรัฐซังตกใจและหวาดกลัวจนแทบบ้า ทหารม้าเกราะของรัฐเหยียนบุกเข้ามารอบตัวเขาเต็มไปหมด เหลือแค่เขาคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครโจมตีเขา ไม่มีใครสนใจเขา
แม่ทัพใหญ่มองดูกองทัพที่เขาบัญชาการดิ้นรนอย่างสิ้นหนทางจากการโจมตีราวสายฟ้าของทหารม้าเกราะรัฐเหยียนอย่างสิ้นหวัง
เขาคิดว่าอย่างน้อยทหารหลายแสนคนของรัฐซังก็น่าจะยันเอาไว้ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่พอเขาเห็นกองทัพที่ดุดันและปราศจากความกลัวของรัฐเหยียน ความหวังทั้งหมดของเขาก็พังครืน!
แม้ว่าทหารม้าเกราะของรัฐเหยียนจะไม่ได้ดุดันห้าวหาญเท่ากองทัพรุ่ยหลิน แต่การประสานงานและความแข็งแกร่งของพวกเขาก็อยู่ในระดับที่สูงมาก รวมกับความได้เปรียบเรื่องจำนวนคนของรัฐเหยียนและการที่กองทัพของรัฐซังถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว…ทหารของรัฐซังต่างกลัวชื่อเสียงของรัฐเหยียนอยู่แล้ว ในสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาจึงไม่มีใจจะต่อสู้ เป็นผลให้พวกเขาถูกจัดการจนหมด!
ทำไม! ทำไม! รัฐซังไม่เคยล่วงเกินรัฐเหยียนเลย! ทำไมรัฐเหยียนถึงโจมตีเรา! รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแต่กลับย่องมาโจมตีเราแบบนี้! ถ้าข่าวนี้รั่วออกไป พวกท่านไม่กลายเป็นตัวตลกให้คนทั้งโลกหัวเราะเอาอย่างนั้นหรือ! แม่ทัพใหญ่กรีดร้องอย่างสิ้นหวัง เขาไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ว่ากำลังเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับเขา พวกเขาเพิ่งกวาดล้างกองทัพของรัฐชีจนหมดและกำลังเตรียมผ่อนคลายและเพลิดเพลินยินดีกับรางวัล แล้วจู่ๆ ความฝันอันสวยงามนั่นก็ถูกบดขยี้อย่างโหดร้าย!
ทันใดนั้นเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขี้นเหนือศีรษะของแม่ทัพใหญ่แห่งรัฐซัง!
รัฐชีทำผิดอะไร ทำไมพันธมิตรทั้งสี่รัฐถึงรวมตัวกันบุกโจมตีพวกเขา รัฐชีทำผิดอะไร! ทั้งสี่รัฐได้ให้โอกาสรัฐชีเตรียมตัวบ้างซักนิดหรือเปล่า!
เสียงนั้นราวสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่แม่ทัพใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นทันที และด้วยการที่มีพระอาทิตย์อยู่ด้านหลัง เขาจึงเห็นเป็นเงาร่างนั่งอยู่บนม้าศึกตัวใหญ่
คนผู้นั้นสวมเกราะสีเงิน แสงจ้าด้านหลังทำให้ไม่สามารถมองเห็นหน้าของเขาได้ แต่รังสีอำมหิตเย็นชารอบตัวเขาถึงกับทำให้แม่ทัพใหญ่ที่ผ่านสงครามมามากมายรู้สึกเย็นวาบขึ้นมากะทันหัน!
รัฐจิ้ว…เป็นรัฐจิ้ว…รัฐจิ้วให้เราทำเช่นนั้น! เราสู้รัฐจิ้วไม่ได้ เราไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทำตามคำสั่งของพวกเขา! แม่ทัพใหญ่เปล่งเสียงผ่านฟันที่กระทบกัน ร่างที่อยู่บนม้าเป็นเหมือนความฝันที่เลวร้ายที่สุดของเขา
เรา…เราไม่ได้อยากโจมตีรัฐชีจริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของรัฐจิ้ว! หลังจากได้ยินคำถามจากร่างที่นั่งตระหง่านอยู่เหนือศีรษะ แม่ทัพใหญ่ก็ทำได้แค่พยายามโยนความผิดให้รัฐจิ้ว เขายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐเหยียนจะต้องสนใจชะตากรรมของรัฐเล็กๆ อย่างรัฐชีด้วย!