ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (1) / ตอนที่ 1340 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (1) / ตอนที่ 1340 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (2)
ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (1) / ตอนที่ 1340 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (2)
ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (1)
ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (1)
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เหมือนจริงถูกแกะสลักลงบนผนังหินโดยรอบ เทคนิคที่ประณีตและล้ำเลิศทำให้ตัวละครที่ปรากฏบนนั้นดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมา จวินอู๋เสียมองสิ่งที่สลักไว้ผนังหินภายใต้แสงสลัว กำแพงตั้งแต่ต้นจนจบเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง แทนที่จะบอกว่ามันเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง อาจกล่าวได้ว่าพวกมันเป็นเหมือนบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตจะตรงกว่า
บนผนังที่อยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย มีบุรุษคนหนึ่งสวมหน้ากากถูกแกะสลักเอาไว้ หน้ากากของบุรุษคนนี้งดงามเป็นพิเศษ เขายืนอยู่ที่จุดสูงสุดของทุกคน ร่างสูงตรง มือไขว้ไว้ด้านหลัง เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายตัวขนาดมหึมา สัตว์ยักษ์นั้นจมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง หนวดของมันโบกอย่างร้ายกาจ ดูเหมือนมันจะกระโดดออกมาจากภาพได้ทุกเมื่อ
“นี่คือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ” จวินอู๋เสียพูดขณะมองดูบุรุษสวมหน้ากาก จากตำแหน่งที่เขายืนในภาพ เขาถูกทุกคนล้อมรอบเอาไว้ จึงเดาตัวตนของเขาได้ง่ายมาก
ยิ่งรวมกับความจริงที่ว่าตอนนี้นางอยู่ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ นางจะนึกถึงคนอื่นไปได้อย่างไร
สำหรับสัตว์วิญญาณตัวยักษ์นั้น ก็ไม่ใช่ว่าจวินอู๋เสียจะไม่เคยเห็น นั่นคือ ‘ปลาหมึกยักษ์’ ที่พวกเขาเจอในทะเลสาบระหว่างทางมาที่นี่นั่นเอง
บนภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ มันน่าจะเป็นภาพตอนที่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิปราบ ‘ปลาหมึกยักษ์’ ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แกะสลักเรียงรายไปตามกำแพงนี้ ทุกภาพดูเหมือนจะบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดคาด ภาพแกะสลักบนผนังทั้งหมดก็น่าจะเป็นการสรรเสริญชีวิตที่รุ่งโรจน์ของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ
แต่สิ่งที่จวินอู๋เสียกำลังมองไม่ใช่จุดเริ่มต้นหรือจุดจบ
บนภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น บุรุษลึกลับสวมหน้ากากคือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในทุกๆ ภาพแกะสลัก เขามักจะยืนอยู่คนเดียวเหนือผู้อื่นเสมอ ไม่รู้ว่าผู้คนจากดินแดนเทพมารจงใจยกย่องหรือเปล่า แต่ในภาพพวกนั้น ดูเหมือนเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจะมีอำนาจไร้ที่สิ้นสุดราวกับพระเจ้า
ปราบสัตว์ประหลาด เอาชนะกองทัพทั้งหมด ครองอำนาจเหนือสามโลกชั้นกลาง
แค่ดูภาพไม่กี่ภาพก็บอกถึงความยิ่งใหญ่ของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้แล้ว เขาดูไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง
“นี่คือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิหรือ ทำไมเขาต้องสวมหน้ากากด้วยเล่า” เจ้าแมวดำถามอย่างงุนงงพลางแกว่งหางไปมาอย่างเกียจคร้าน ตอนที่พวกเฉียวฉู่พูดถึงเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิสวมหน้ากากเลย
เป็นเพราะเขาน่าเกลียดกระมัง เจ้าแมวดำคิด
จวินอู๋เสียส่ายหน้าขณะเดินไปยืนหน้าภาพแกะสลักอีกภาพ มองดูหน้ากากหรูหรางดงามที่สวมอยู่บนหน้าของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ
“การออกแบบบนหน้ากากพิเศษมาก ข้าเคยเห็นมันมาก่อน เจ้ายังจำตอนที่เราทดลองใช้คาถาผ่านอักขระเสริมวิญญาณได้หรือไม่ พวกมันบางอันข้ายังไม่แน่ใจความหมาย ที่อยู่บนหน้ากากนั่นสลักอักขระเสริมวิญญาณที่ข้าไม่เข้าใจเอาไว้” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเอามือลูบคาถาอักขระเสริมวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นอย่างระมัดระวัง
นางไม่คิดว่าบุรุษที่แข็งแกร่งขนาดทำให้ทั้งสามโลกชั้นกลางยอมสยบต่อเขาได้จะต้องสวมหน้ากากเพราะใบหน้าของเขา ความจริงหน้ากากดูเหมือนถูกเพิ่มเข้ามาโดยช่างฝีมือของดินแดนเทพมารหลังจากที่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเสียชีวิตแล้ว
ด้วยอำนาจที่ไม่มีใครเทียบได้ของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิและตำแหน่งที่สูงส่งในดินแดนเทพมารของเขา คนในดินแดนเทพมารจึงไม่กล้าแกะสลักใบหน้าของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ นี่จึงเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะทำได้เนื่องจากพวกเขาไม่กล้าลบหลู่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิด้วยการบรรยายรูปลักษณ์ของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มหน้ากากเข้าไป และอักขระเสริมวิญญาณที่สลักไว้บนหน้ากากก็น่าจะมีความหมายพิเศษบางอย่าง
จวินอู๋เสียมองยังคงมองดูภาพจิตรกรรมฝาผนังต่อไป ถ้าเรื่องราวทั้งหมดที่สลักไว้เป็นเรื่องจริง บุรุษผู้ที่เคยครองอำนาจเหนือสามโลกชั้นกลางทั้งหมดก็มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดที่พวกเขาเคยรู้จัก
ในแสงไฟสลัวนั้น มีภาพแกะสลักอยู่เต็มทุกฝาผนัง ในขณะที่จวินอู๋เสียเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ เพื่อหาทางออก นางก็มองภาพแกะสลักหินทั้งหมดไปด้วย
ตอนที่ 1340 สมบัติของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ (2)
จวินอู๋เสียมองดูภาพแกะสลักพวกนั้นแล้ว ก็เข้าใจถึงสถานะของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิในหัวใจของผู้คนในดินแดนเทพมารได้ดีขึ้น เขาไม่เพียงเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจเหนือพวกเขาเท่านั้น แต่ในใจของคนในดินแดนเทพมาร เขาเป็นยิ่งกว่าเทพเจ้า พวกเขาเกรงกลัวเขา บูชาเขา เคารพนับถือเขา ในสายตาพวกเขา เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิคือพระเจ้าผู้มีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง
ในงานแกะสลักหินพวกนั้น นอกจากเรื่องที่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมักจะโดดเด่นออกมาจากผู้คนจำนวนมากอยู่เสมอนั้น คนอื่นๆ ทั้งหมดก็ดูนอบน้อมและอุทิศตัวจงรักภักดีต่อเขาอย่างมาก
จวินอู๋เสียนึกถึงพวกสมาชิกในลัทธิที่อุทิศตัวอย่างมากมายในชาติก่อนของนาง คนพวกนั้นก็เสียสละทุกอย่างเพื่อพระเจ้าที่พวกเขาเคารพนับถือ แต่เนื่องจากจวินอู๋เสียไม่เคยเชื่อในศาสนาไหนเลย นางจึงไม่ได้รู้สึกต่อต้านรุนแรง
แม้ว่านางจะไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้ แต่นางก็เคารพความเชื่อของคนอื่น
สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินั้นกว้างใหญ่มาก พอนางเข้ามาอยู่ในนี้ถึงได้รู้สึกว่าจริงๆ แล้วมันใหญ่โตขนาดไหน จวินอู๋เสียเดินมาครึ่งชั่วยามแล้ว และนางเพิ่งจะมาถึงสุดทางเดินก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังมองทางเดินอีกทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้แสงไฟสลัวนั้น ทางเดินดูทอดยาวไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุด เสาและคานก็มีอยู่เป็นช่วงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่านางต้องไปที่ไหนถึงจะพบทางออก จวินอู๋เสียสังเกตเห็นว่าผนังทั้งสองฝั่งทางเดินมีฐานรูปกรงเล็บถือลูกกลมสีม่วงที่วางไว้อย่างเรียบร้อย ลูกทรงกลมพวกนั้นดูสวยงาม ทุกอันมีขนาดเท่ากับลูกปิงปอง พวกมันถูกวางไว้ในช่องรูปกรงเล็บ แสงไฟสลัวสะท้อนออกจากพื้นผิวเรียบของมันรางๆ
มันไม่ใช่ไข่มุกหรืออัญมณี แต่จะเป็นอะไรก็ไม่สามารถยืนยันได้
มันเรียงเป็นสองแถวอย่างเป็นระเบียบติดกับผนัง ลูกกลมๆ สีม่วงทุกลูกมีขนาดเท่ากัน ตามทางเดินแค่ทางเดียวก็มีอย่างน้อยหลายพันลูกแล้ว ไม่ว่าลูกทรงกลมพวกนั้นจะทำมาจากอะไรก็ตาม แค่จำนวนที่มากมายของมันก็ทำให้อ้าปากค้างได้แล้ว
เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเคยปล้นสมบัติทั้งหมดของสามโลกชั้นกลาง หลังจากที่เขาตาย คนของเขาก็ฝังสมบัติพวกนั้นทุกชิ้นไว้ในสุสานโดยที่ไม่ทิ้งอะไรเอาไว้สักชิ้น มองแวบแรก การตกแต่งภายในของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิไม่ได้ดูหรูหราเป็นพิเศษอะไร แต่เมื่อมองดูดีๆ แล้ว จะเห็นว่าทุกมุมของสถานที่นี้ ไม่ว่าจะมุมใดก็ตาม จะพบสมบัติล้ำค่าทุกประเภทซุกซ่อนอยู่
ทองและเงินในสถานที่แห่งนี้ไม่ถือว่าเป็นของมีค่าอีกต่อไป เนื่องจากทองดำและเงินดำสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกหนแห่ง ใช้ในการตกแต่งภายในสถานที่ ฟ่านจัวเคยพูดไว้ว่าราคาของเงินดำสูงกว่าทองหลายเท่าเลยทีเดียว
หินชิ้นนั้นที่จวินอู๋เสียชนะการประมูลมาด้วยเงินหลายแสนตำลึงนั้น เป็นแค่เศษเล็กๆ ของเงินดำในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินี้เท่านั้น แม้แต่ฐานรูปกรงเล็บตามขอบผนังก็ยังหลอมมาจากเงินดำ แค่ราคาของฐานอันเดียวก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านตำลึงแล้ว
และภายในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิทั้งหมดนั้น ดูเหมือนว่าฐานที่สร้างด้วยเงินดำเหล่านี้มีจำนวนหลายหมื่น หรือกระทั่งหลายแสนอัน
ความมั่งคั่งของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะจินตนาการได้
จากการคำนวณของนาง จวินอู๋เสียคาดว่าตำแหน่งที่นางอยู่ในปัจจุบันน่าจะยังอยู่ในขอบด้านนอกของสุสานและอยู่ไกลที่สุด แต่ถึงอย่างอย่างนั้น สิ่งที่นางเห็นในที่นี้ก็ทำให้นางประหลาดใจมากแล้ว
“มิน่า คนจากสามโลกชั้นกลางถึงเคารพนับถือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมากมายขนาดนั้น” จวินอู๋เสียแสดงความเห็นขณะมองดูทุกอย่างที่นางเดินผ่านไป คุณค่าของสิ่งต่างๆ ในทุกๆ ตารางนิ้วของที่นี่มากพอจะเลี้ยงตระกูลหนึ่งให้อยู่ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าไปตลอดชีวิต
การครองอำนาจเหนือที่ใดๆ ก็ตาม พลังอำนาจเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความร่ำรวยก็เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
ไม่ต้องพูดถึงว่าในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมีของวิเศษที่ผู้คนปรารถนาอยู่มากมายเพียงใด แค่ความร่ำรวยอย่างเดียวก็ทำให้ผู้คนร้อนรนอยู่ไม่สุขกันได้แล้ว