ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1505 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (2) / ตอนที่ 1506 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1505 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (2) / ตอนที่ 1506 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (3)
ตอนที่ 1505 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (2) / ตอนที่ 1506 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (3)
ตอนที่ 1505 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (2)
ตอนที่ 1505 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (2)
นอกจากมีพละกำลังราวสัตว์ประหลาดแล้ว เผ่าวานรยักษ์ก็ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับความนิยมในหมู่ชนเผ่าอื่นๆ ในสามโลกชั้นกลาง และพวกเขาเป็นหนึ่งในประเภทที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป
ไม่รู้ทำไม พอจวินอู๋เสียได้ยินเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของเผ่าวานรยักษ์ นางก็นึกถึงเฟยเยียนทันที
แม้ว่าร่างกายของเฟยเยียนจะสูงเพรียวได้สัดส่วน ไม่ได้สูงใหญ่ล่ำบึ้กเหมือนผู้เยาว์จากเผ่าวานรยักษ์คนนี้ แต่ในบรรดาสหายเขามีพละกำลังมากที่สุด เห็นได้จากหลายต่อหลายครั้งว่าพละกำลังของเขาเกินขีดจำกัดที่คนทั่วไปจะมีได้
และ…
ภูติวิญญาณของเฟยเยียนก็บังเอิญเป็นวานรยักษ์
จวินอู๋เสียลูบคาง นางไม่เคยได้ยินว่าเฟยเยียนมาจากเผ่าพิเศษ แต่เนื่องจากคนเผ่าวานรยักษ์ไม่ได้ถูกมองว่าฉลาดมากนัก จึงไม่แปลกที่จะไม่มีการกล่าวถึง
ผู้เยาว์ทั้งสองยังคงคุยกันอยู่ตรงนั้น แต่ผู้เยาว์จากเผ่าวานรยักษ์ที่พวกเขาไม่ให้ความสนใจมากนักก็ได้เข้ารอบต่อไปและไม่ได้ถูกคัดออก
เผ่าวานรยักษ์เมื่อเทียบกับเผ่าเคลื่อนกระดูกจะเห็นความแตกต่างระหว่างเผ่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนเผ่าวานรยักษ์มีความพิเศษที่พละกำลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนอ่อนแอในเผ่าที่แข็งแกร่งก็ยังเทียบไม่ได้กับคนที่แข็งแกร่งในเผ่าที่เล็กและอ่อนแอ
นอกจากเผ่าวานรยักษ์และเผ่าเคลื่อนกระดูก จวินอู๋เสียได้ค้นพบผู้เยาว์จากเผ่าที่น่าสนใจอื่นๆ มากมาย และเนื่องจากการพูดคุยของคนช่างพูดทั้งสองคนนั้น ไม่นานจวินอู๋เสียก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดและลักษณะพิเศษของเผ่าต่างๆ
พวกที่มีผิวสีเทาผิดปกติมาจากเผ่าแม่มดหมอผี ลักษณะท่าทางและรูปลักษณ์ของคนเผ่าแม่มดหมอผีมักจะอ่อนแอและเปราะบาง มีถุงใต้ตาคล้ำตลอดปี พวกเขาไม่มีพละกำลังมากมายมหาศาลและไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างตัวเองได้
แต่พวกเขามีความสามารถพิเศษที่ทำให้ผู้คนต้องเย็นวาบไปทั้งตัว
คำสาป!
คนจากเผ่าแม่มดหมอผีสามารถใช้พลังวิญญาณในตัวเองเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายได้ พวกเขาสามารถสร้างผลกระทบในทางลบให้กับคู่ต่อสู้ได้มากมาย
เปราะบาง อ่อนแอ โรคระบาด ความสิ้นหวัง…
แม่มดหมอผีเป็นเหมือนภาชนะที่บรรจุผลกระทบด้านลบ พวกเขาเพียงแค่ชี้นิ้วไปที่คู่ต่อสู้แล้วส่งพวกเขาลงสู่ขุมนรก
ทั่วทั้งสามโลกชั้นกลาง แม่มดหมอผีคือคนที่ผู้คนไม่อยากเจอมากที่สุด เพราะความน่ากลัวและน่าขนลุกของพวกเขา และยังนิสัยเจ้าอารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ รวมถึงการมองโลกที่ไม่แยกแยะถูกผิด
และผู้เยาว์ที่มาจากเผ่าแม่มดหมอผีก็ผ่านเข้ารอบไปเร็วมาก
จวินอู๋เสียพบว่าผู้แข่งขันหลายคนที่นี่เป็นผู้เยาว์ที่มีพลังพิเศษและลักษณะเฉพาะจากเผ่าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีความสามารถอื่นๆ เช่น ช่างหลอมแหวน และอาชีพแปลกๆ อื่นๆ
ยิ่งเก่งก็ยิ่งเข้ารอบได้ง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่เก่ง ต่อให้มาจากเผ่าพิเศษ พวกเขาก็จะถูกคัดออกจากการแข่งขัน
เผ่าสามตาที่มีความสามารถในการมองเห็นพลังวิญญาณของคน เผ่าวายุที่มีร่างกายเพรียวบางและมีความเร็วเป็นเลิศ…
จวินอู๋เสียเฝ้าดูอยู่เงียบๆ จากด้านข้าง และไม่พลาดสังเกตเผ่าที่นางไม่คุ้นเคยเลยสักเผ่าเดียว ท่ามกลางสิบสองตำหนัก คนที่อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อนางได้มากที่สุดก็คือคนที่มีความสามารถพิเศษจากเผ่าพวกนี้และคนที่แข็งแกร่งมากๆ
ระยะเวลาที่ให้กับผู้แข่งขันบนเวทีนั้นมีจำกัดมาก นั่นคือไม่เกินสองนาทีก่อนที่จะทำการตัดสินว่าผ่านเข้ารอบหรือตกรอบ
ดังนั้น แม้ว่าจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากมาย แต่ความเร็วที่พวกผู้เยาว์ถูกคัดออกไปก็เหมือนกับน้ำที่ไหลออกไป ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบจะได้รับหมายเลขใหม่สำหรับรอบต่อไป และพวกเขาจะต้องรอจนถึงการแข่งรอบต่อไปในวันรุ่งขึ้น
บางคนดีใจ บางคนเสียใจ กฎที่ผู้ชนะเป็นเจ้า ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่เก่งที่สุด ที่สามโลกชั้นกลางกฎของธรรมชาติปลาใหญ่กินปลาเล็กนี้คือกฎแห่งความอยู่รอด
ตอนที่ 1506 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (3)
ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองของสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด บุรุษหลายคนมองอย่างเย็นชาไปที่พวกผู้เยาว์ที่มีเหงื่อไหลเต็มหน้าอยู่บนเวทีด้านล่าง สายตาปรารถนาและความพยายามอย่างสุดกำลังของผู้เยาว์เหล่านั้น ในสายตาของคนพวกนั้น มันก็เหมือนเรื่องตลก
“น่าเบื่อจริง การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดพวกนี้ ข้าดูจนเบื่อแล้ว ไอ้พวกเก่าเก็บพวกนี้คิดอะไรใหม่ๆ ไม่เป็นหรือไง” หนึ่งในคนพวกนั้นทนดูผู้เยาว์พวกนี้ใช้ความสามารถพิเศษของเผ่าแบบนั้นต่อไปไม่ได้แล้ว
ในสามโลกชั้นกลาง พวกเขาไม่เคยขาดคนจากเผ่าต่างๆ ที่เก่งกว่าผู้เยาว์พวกนี้มาก
“ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสั่งให้พวกเรามาที่นี่ ข้าอยากจะไปที่สนามแข่งพลังวิญญาณหรือภูติวิญญาณมากกว่า จะได้ดูการแข่งขันที่ดุเดือดโลหิตพล่านหน่อย แบบนั้นน่าสนใจกว่าไอ้นี่เยอะ นี่มันทำให้ข้าจะหลับอยู่แล้ว” บุรุษอีกคนที่นั่งอยู่ด้านข้างดูเบื่อมากและไม่อยากจะมองการแข่งด้านล่างเลยแม้แต่แวบเดียว
ภายในสิบสองตำหนักได้รวบรวมยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทุกประเภทเอาไว้เป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดจากเผ่าต่างๆ ทั้งหมดได้เข้าเป็นสมาชิกของสิบสองตำหนักและเก้าวัง คนพวกนี้ผ่านการทดสอบหลายครั้งและได้ฝึกฝนทักษะของตนให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เทียบกับผู้เยาว์อ่อนหัดพวกนี้ คนพวกนั้นอยู่ในระดับที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ดีใจเถอะที่อย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกส่งไปที่สนามแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ เจ้าอยากดูพวกปัญญาอ่อนนี่เล่นละครลิงหรืออยากดูคนเล่นสมุนไพรมากกว่าเล่า” บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างเป็นคนเดียวในหมู่พวกเขาที่ยังคงเฝ้าดูการแข่งขันอย่างสงบ
“พูดแบบนี้ไม่ได้สิ การแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ อย่างน้อยก็จะได้เห็นโอสถพิษร้ายกาจพวกนั้น! ครั้งที่แล้วข้าถูกส่งไปที่สนามแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ มันน่าสนใจอยู่นะ มีไอ้โง่คนหนึ่งที่กระตือรือร้นอยากจะแสดงให้ดูว่าพิษของเขารุนแรงแค่ไหน ก็เลยใช้ร่างตัวเองแสดงผลของโอสถพิษ สุดท้ายหมอนั่นดันลืมเอาโอสถวิเศษแก้พิษมา ตายอนาถคาที่เลย ฮ่าๆ ๆ! โคตรตลก! เจ้าต้องนึกไม่ออกแน่ว่าหมอนั่นร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังขนาดไหน”
เสียงหัวเราะที่ไม่ได้มีความสงสารเห็นใจอยู่เลยสักนิดดังขึ้นในห้องส่วนตัวนั้น บุรุษอีกสองคนก็ดูเหมือนไม่ได้คิดว่ามีอะไรผิด มุมปากของพวกเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ดูเหมือนจะคิดว่าสิ่งที่สหายของพวกเขาพูดนั้นตลกจริงๆ
“พูดเล่นกันพอแล้ว เจ้าสองคนควรมาดูบ้าง ผู้อาวุโสกำชับพวกเราเป็นพิเศษว่าต้องชวนผู้แข่งขันที่เก่งๆ เข้าตำหนักเปลวเพลิงปีศาจของเราให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่ตำหนักอื่นๆ จะทำ” บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
บุรุษอีกสองคนไม่กล้าพูดเล่นอีกต่อไป
“รู้แล้วน่า พวกเราเสียผู้อาวุโสที่สามโลกเบื้องล่างไปสองคนแล้ว ท่านจ้าวตำหนักโกรธเป็นไฟเลย ถึงพวกเราจะไม่อยากอยู่ที่นี่แค่ไหน เราก็ขัดความต้องการของท่านจ้าวตำหนักไม่ได้หรอก”
บุรุษสามคนในห้องส่วนตัวนั้นมาจากตำหนักเปลวเพลิงปีศาจนั่นเอง
อำนาจของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจไปถึงขั้นที่เกือบจะเหนือกว่าอีกสิบเอ็ดตำหนัก แต่ตอนที่พวกเขาค้นหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ พวกเขาได้สูญเสียผู้อาวุโสฮุยไป ทำให้จ้าวตำหนักโกรธมาก
สิบสองตำหนักมีสมาชิกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ผู้อาวุโสนั้นมีไม่มากนัก ผู้อาวุโสทุกคนจากตำหนักต่างๆ ล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นหัวกะทิ พวกเขาเป็นกำลังหลักในการต่อสู้ แต่ผู้อาวุโสคนหนึ่งของพวกเขากลับหายไปในสามโลกเบื้องล่าง ทำให้จ้าวตำหนักโกรธมาก จากนั้นก็ส่งผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งออกไปเพื่อทำให้สามโลกเบื้องล่างอยู่ในกำมือ
สุดท้ายเขาก็เสียชีวิตในสามโลกเบื้องล่าง
การสูญเสียผู้อาวุโสสองคนติดต่อกันได้สร้างความเสียหายให้กับจุดยืนของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นคนจากตำหนักเปลวเพลิงปีศาจจึงมาที่ภูเขาฝูเหยาพร้อมภารกิจอย่างหนึ่ง