ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1523 แย่งตัว (5) / ตอนที่ 1524 สำนักธาราเมฆ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1523 แย่งตัว (5) / ตอนที่ 1524 สำนักธาราเมฆ (1)
ตอนที่ 1523 แย่งตัว (5)
แม้แต่ผู้อาวุโสของสิบสองตำหนักก็ยังไม่กล้าต่อต้านเก้าวังตรงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตำหนักหยกวิญญาณจะถูกสิบสองตำหนักกดขี่ แต่สิทธิ์ในงานชุมนุมเทพยุทธ์ก็ไม่เคยถูกลบล้างไป ดังนั้น แม้ว่าในใจของพวกเขาจะรู้สึกว่าตำหนักหยกวิญญาณกลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่ถ้าเก้าวังโยนหนังสือว่าเรื่องกฎใส่พวกเขา สิบสองตำหนักก็ไม่มีอำนาจที่จะปฏิเสธได้
“อย่างนั้นข้าก็สามารถเลือกตำหนักหยกวิญญาณได้ใช่หรือไม่” จวินอู๋เสียกวาดตามองเหล่าผู้อาวุโสของสิบสองตำหนัก เมื่อเห็นใบหน้าของคนพวกนั้นที่ดูสดใสด้วยความยินดีในตอนแรก เปลี่ยนมืดหม่นหดหู่ ดวงตาของนางก็ทอประกายเยียบเย็น
พวกเจ้าคิดว่าทุกคนต้องยอมศิโรราบให้กับสิบสองตำหนักหรืออย่างไร
แต่ขอโทษนะ นางมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อตบหน้าพวกเขา
ไม่ยอมเลือกสิบสองตำหนักที่กำลังรุ่งโรจน์ราวดวงอาทิตย์ แต่กลับไปเลือกตำหนักหยกวิญญาณที่กำลังเสื่อมโทรม ถ้าเป็นคนอื่นทำเช่นนี้ คนจากสิบสองตำหนักคงหัวเราะเยาะโทษฐานที่ไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเองและโง่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากโดนดูถูกต่อหน้าทุกคน ใบหน้าของพวกผู้อาวุโสก็ไม่น่ามองแล้ว พวกเขาย่อมไม่ละเว้นคนที่ปฏิเสธพวกเขา
แต่เมื่อคนที่ทำเช่นนั้นเป็นจวินอู๋เสีย
มันก็กลายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนขึ้นมา
การเสริมวิญญาณดึงดูดและล่อใจสิบสองตำหนักได้อย่างมาก แม้ว่าผู้อาวุโสของสิบสองตำหนักจะอยากสั่งสอนเจ้าเด็กที่ไม่รู้ดีรู้ชั่วคนนี้แค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากอดกลั้นเอาไว้เพื่อทักษะเสริมวิญญาณ
ผู้อาวุโสของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจเห็นว่าสถานการณ์เกินควบคุมจากการแทรกแซงของซูจิ่งเหยียน เขาก็หัวเราะออกมาดังๆ และมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“ตัวเลือกของคุณชายน้อยไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่สถานการณ์ปัจจุบันของตำหนักหยกวิญญาณไม่ได้ดีอะไรนัก เกรงว่ามันจะขัดขวางอนาคตที่สดใสของคุณชาย แต่ในเมื่อคุณชายตั้งใจเช่นนั้น เราก็จะไม่ดึงดันต่อ แต่ถ้าคุณชายพบว่ามีอะไรไม่เข้าท่า หรือรู้สึกว่าตำหนักหยกวิญญาณไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ โปรดจำไว้ว่าประตูของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจจะเปิดให้คุณชายเสมอ ไม่ว่าคุณชายจะมาหาเราเมื่อไรก็ตาม ตำหนักเปลวเพลิงปีศาจก็จะต้อนรับคุณชายอย่างอบอุ่นแน่นอน” เทียบกับผู้อาวุโสหัวแข็งของตำหนักนภาวิจิตรแล้ว ผู้อาวุโสของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจจัดการสถานการณ์ได้อย่างราบรื่นกว่ามาก เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับให้จวินอู๋เสียเปลี่ยนใจโดยที่มีซูจิ่งเหยียนอยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงไหลไปตามน้ำและยอมโอนอ่อนผ่อนตามจวินอู๋เสียไปก่อนเพื่อที่จะชนะใจนาง ให้เวลานางเผื่อว่านางจะเปลี่ยนใจในอนาคต
จากมุมมองของผู้อาวุโสตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ ตำหนักหยกวิญญาณที่ถูกไล่จนตรอกแล้วไม่มีโอกาสจะลุกขึ้นมาอีกครั้งได้เลย แม้ว่าเขาจะอยากรู้ว่าคนจากตำหนักหยกวิญญาณติดต่อกับจวินอู๋เสียได้อย่างไร และพวกเขาโน้มน้าวจวินอู๋เสียให้เข้าร่วมกับพวกเขาได้อย่างไร แต่เขาก็สรุปว่าสุดท้ายแล้วตำหนักหยกวิญญาณที่ไร้ค่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
เมื่อเวลาผ่านไป จวินอู๋เสียจะรู้เองว่านี่เป็นตัวเลือกที่ผิดพลาด ถึงตอนนั้นนางจะออกจากตำหนักหยกวิญญาณ จากนั้นก็จะถึงเวลาของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ
ทักษะเสริมวิญญาณก็จะเป็นของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ!
เมื่อตำหนักเปลวเพลิงปีศาจนำทางให้เช่นนี้ ผู้อาวุโสจากตำหนักอื่นๆ ก็ไม่ได้โง่ พวกเขาเข้าใจทันทีว่าผู้อาวุโสปีศาจเพลิงกำลังทำอะไร ทุกคนรีบเก็บสีหน้าไม่พอใจทันทีและพูดอย่างอ่อนโยนกับจวินอู๋เสียอีกสองสามประโยคเพื่อแสดงให้เห็นว่าตำหนักของพวกเขาก็จะต้อนรับจวินอู๋เสียให้เข้าร่วมกับพวกเขาอย่างอบอุ่นเช่นเดียวกัน
เมื่อเห็นว่าได้ข้อสรุปกันแล้ว ผู้สมัครอีกเก้าคนที่ถูกเมินก็ได้รับคำเชิญจากสิบสองตำหนัก แต่ผู้เยาว์พวกนี้แตกต่างจากจวินอู๋เสีย พวกเขาทนรอตอบรับคำเชิญไม่ไหวแล้ว อยากจะสาบานเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อกลุ่มผู้อาวุโสเสียเดี๋ยวนี้เลย
พวกผู้เยาว์ในการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดยืนยันสถานที่ที่จะไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นคนของสิบสองตำหนักก็จากไปพร้อมด้วยผู้เยาว์อีกเก้าคนที่เดินตามหลังผู้อาวุโสของตัวเอง
ตอนที่ 1524 สำนักธาราเมฆ (1)
“ตำหนักหยกวิญญาณ เจ้าแน่ใจนะว่าได้ยินไม่ผิด เด็กนั่นเข้าตำหนักหยกวิญญาณหรือ” ในสำนักธาราเมฆ ชายชราตัวเล็กนั่งจิบชาอยู่ในลานบ้านของเขา แล้วเขาก็ได้ยินข่าวที่ไม่น่าเชื่อเข้า
บุรุษที่นำข่าวมาบอกเขาพูดขึ้นว่า “เป็นเรื่องจริงแน่ขอรับ ข้าได้ยินแน่ๆ ว่าตำหนักหยกวิญญาณ”
ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความสับสน จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมองถ้วยชาในมือก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ
“ตำหนักหยกวิญญาณนี่จริงๆ เลย! ครั้งนี้สิบสองตำหนักสูญเสียครั้งใหญ่แล้ว ฮ่าๆ ๆ …เจ้าหนูนั่น ข้าไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือเปล่าที่ได้พบกับตำหนักหยกวิญญาณ ตอนนี้ข้าจินตนาการได้เลยว่าหน้าของไอ้พวกสารเลวจากสิบสองตำหนักจะน่าเกลียดขนาดไหน” ชายชราตัวเล็กยิ่งคิดก็ยิ่งขำ
ตั้งแต่เขารู้ว่าจวินอู๋เสียมีสิ่งที่เรียกว่าการเสริมวิญญาณ เขาก็รู้ทันทีว่าสิบสองตำหนักจะทำทุกอย่างเพื่อแย่งกันครอบครองความสามารถของจวินอู๋เสีย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าสิบสองตำหนักจะกลับไปมือเปล่ากันหมด เนื่องจากจวินอู๋เสียไม่ได้เลือกหนึ่งในพวกเขาเลย แต่กลับไปเลือกตำหนักที่แทบจะเหลือแต่ชื่อ ตำหนักหยกวิญญาณที่เกือบไม่มีตัวตนในสายตาของผู้คนในสามโลกชั้นกลาง
นี่มันเป็นการเตะตัดขาสิบสองตำหนักที่เจ็บแสบจริงๆ
“ดูเหมือนเจ้าหนูนี่จะฉลาดเอาเรื่อง” ชายชราตัวเล็กหัวเราะเบาๆ เขารินน้ำให้ตัวเองหนึ่งถ้วยแล้วนั่งจิบอย่างอารมณ์ดี
“นายท่าน…หมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ” บุรุษคนนั้นไม่เข้าใจ ถ้าจวินอู๋เสียเลือกหนึ่งในสิบสองตำหนัก ถึงแม้ว่ามันจะสร้างปัญหาให้เล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับอำนาจของสิบสองตำหนักในปัจจุบัน ตำหนักหยกวิญญาณก็ไม่มีอะไรจะพูดถึงได้เลย ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แต่ตำหนักหยกวิญญาณได้เก็บตัวเป็นเวลาหลายปีแล้ว จึงเป็นการยากที่พวกเขาจะปกป้องจวินอู๋เสีย คนปกติในหัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าตำหนักหยกวิญญาณคือตัวเลือกที่แย่ที่สุด
ชายชราตัวเล็กเอนหลังพิงเก้าอี้และมองดูปลาคาร์ปที่ว่ายอยู่ในสระน้ำ
“หัวทึบอย่างเจ้าจะรู้อะไร ตำหนักหยกวิญญาณอาจจะอ่อนแอ แต่การอ่อนแอก็มีข้อดีของมันอยู่ ถ้าเด็กนั่นเลือกหนึ่งตำหนักในสิบสองตำหนัก อีกสิบเอ็ดตำหนักก็จะเกิดความเกลียดชังและจะพยายามหาทางกำจัดเด็กนั่นก่อนที่เขาจะออกจากสำนักธาราเมฆเสียอีก ถึงอย่างไร สิบสองตำหนักก็พยายามชิงดีชิงเด่นกันอยู่อย่างลับๆ มาตลอดหลายปี ไม่มีใครจะยินดีที่ได้เห็นตำหนักอื่นขึ้นมาอยู่เหนือพวกเขาหรอก แม้ว่าเจ้าหนูนั่นจะเลือกตำหนักเปลวเพลิงปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุด แต่อำนาจของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจเข้ามาไม่ถึงข้างในสำนักธาราเมฆ สิ่งที่จะพึ่งพาได้มีเพียงเด็กคนอื่นๆ ที่ตำหนักเปลวเพลิงปีศาจเลือกไว้ แต่อย่าลืมสิ นอกจากคนของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ สำนักธาราเมฆยังมีคนจากอีกสิบเอ็ดตำหนักอยู่ด้วย หนึ่งต่อสิบเอ็ด เจ้าคิดว่าตำหนักไหนจะต้านได้ถ้าเจอแบบนี้”
ชายชราตัวเล็กยิ้มที่หางตา ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าจวินอู๋เสียคนที่เขาชอบตั้งแต่เจอครั้งแรกนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดมากจริงๆ
“แต่สำหรับตำหนักหยกวิญญาณนั้นต่างกัน ใครบ้างไม่รู้ว่าตำหนักหยกวิญญาณเป็นลูกธนูที่หมดกำลังแล้ว และเจ้าหนูนั่นเป็นศิษย์เพียงคนเดียวจากตำหนักหยกวิญญาณที่อยู่ในสำนักธาราเมฆ แม้ว่าเจ้าหนูนี่จะเข้าร่วมกับพวกเขา ตำหนักหยกวิญญาณก็ยังไม่มีโอกาสที่จะเหนือกว่าตำหนักอื่นๆ ได้ ยิ่งกว่านั้น ด้วยสภาพที่อ่อนแอของตำหนักหยกวิญญาณ ตำหนักอื่นๆ ก็ยังมีโอกาสคว้าตัวเด็กนี่ไปอยู่ฝ่ายตัวเองได้ ดังนั้น…การที่เจ้าหนูนี่เลือกตำหนักหยกวิญญาณ ไม่เพียงแต่จะหลีกเลี่ยงการถูกกดขี่จากตำหนักอื่นๆ ในสำนักธาราเมฆได้แล้ว ยังยั่วน้ำลายสิบสองตำหนักได้ด้วย ทำให้คนจากสิบสองตำหนักพยายามเอาชนะใจเขาต่อไป เจ้าไม่คิดว่าเด็กนี่ฉลาดมากหรอกหรือ”