ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1655 ร่วมอวยพรวันเกิด (3) / ตอนที่ 1656 ร่วมอวยพรวันเกิด (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1655 ร่วมอวยพรวันเกิด (3) / ตอนที่ 1656 ร่วมอวยพรวันเกิด (4)
จวินอู๋เสียไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นเลย นางเดินนำเยี่ยซาและเยี่ยกูตรงไปยังห้องโถงใหญ่ที่จ้าวตำหนักหยกวิญญาณอยู่
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณกำลังนอนตะแคงอยู่บนโซฟานุ่ม เมื่อเห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัวต่อหน้า ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็กระตุกเล็กน้อย
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาไม่อยากเห็นใบหน้าของเด็กเวรนั่นมากแค่ไหน
“จะเอาอะไรอีกเล่า” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณรู้สึกว่าการที่เขาเลือกร่วมมือกับจวินอู๋เสียในตอนนั้นคือความผิดพลาด
ไม่ว่าเขาจะประท้วงและปฏิเสธอย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้ก็ยังทำตามความพอใจของตัวเองต่อไป สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจไม่พูดอะไร ปล่อยให้ทำไปตามใจ โชคดีที่นอกจากความอวดดีเล็กน้อยแล้ว เด็กคนนี้ทำตัวเหมาะสมมาก ไม่เคยทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับศิษย์คนอื่นๆ ของตำหนักหยกวิญญาณ ไม่อย่างนั้นจ้าวตำหนักหยกวิญญาณก็ไม่รู้ว่าเขาจะโยนเจ้าเด็กคนนี้ออกไปด้วยตัวเองหรือเปล่า
แน่นอนว่าจะทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อเทพพิทักษ์ประตูทั้งสองของจวินอู๋เสียไม่อยู่!
“ท่านยังจำข้อตกลงของเราได้หรือไม่” จวินอู๋เสียมองไปที่จ้าวตำหนักหยกวิญญาณอย่างสงบนิ่ง ไม่สนใจสายตารังเกียจแบบสุดๆ ของเขา
“ข้าย่อมไม่ลืม” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเลิกคิ้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเงื่อนไขน่าดึงดูดที่เด็กคนนี้พูดเอาไว้ในตอนแรก เขาจะถูกล่อให้ขึ้นมาบนเรือโจรสลัดลำนี้ได้อย่างไร!
“อีกสิบวันเป็นวันเกิดของจ้าวตำหนักจิงหง ตำหนักต่างๆ จะส่งคนของตนไปร่วมอวยพรวันเกิด ท่านสามารถไปรับดอกเบี้ยส่วนหนึ่งได้” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างเฉยเมย แต่คำพูดของนางทำให้จ้าวตำหนักหยกวิญญาณไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ดอกเบี้ย
ความหมายของคำนี้เป็นไปได้ทั้งใหญ่และเล็ก จวินอู๋เสียวางแผนจะทำอะไรบางอย่างระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของจ้าวตำหนักจิงหงอย่างนั้นหรือ
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณหยุดมองด้วยสายตารังเกียจ ดวงตาของเขาฉายแววระมัดระวังขึ้นมา
แม้ว่าตำหนักจิงหงจะเทียบกับตำหนักเปลวเพลิงปีศาจและตำหนักมารโลหิตไม่ได้ แต่ก็สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้โดยไม่พังทลาย เมื่อไม่ถูกตำหนักอื่นกดขี่อย่างเต็มที่ ตำหนักจิงหงย่อมมีความแข็งแกร่งของตัวเอง และในวันเกิดจ้าวตำหนักจิงหง ตามกฎของสิบสองตำหนักแล้ว พวกเขาจะส่งคนไปร่วมอวยพรวันเกิดแน่ๆ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเคยประสบมาก่อนที่จะตกต่ำลง
ถึงจะพูดว่าเป็นการอวยพรวันเกิด แต่มันเหมือนกับงานที่ตำหนักต่างๆ ส่งศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตนมาอวดความแข็งแกร่งกันมากกว่า เป็นวิธีหนึ่งที่พวกเขาใช้อวดตัวเอง
แล้วจวินอู๋เสียก็เลือกช่วงเวลานี้มาเชิญเขา เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้คิดจะทำอะไรบางอย่างระหว่างงานเลี้ยง
แต่!
งานเลี้ยงจะจัดขึ้นในตำหนักจิงหง ในช่วงเวลานั้น ยอดฝีมือจากตำหนักต่างๆ ก็อยู่ด้วย เด็กคนนี้กล้าแค่ไหนที่เลือกช่วงที่ไม่เหมาะสมที่สุดในการทำลายล้างสิบสองตำหนัก
สมองเขามีน้ำเข้าไปหรืออย่างไร
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไปที่นั่นเพื่อ ’เก็บดอกเบี้ย’ ของข้า ไม่ใช่เอาชีวิตไปทิ้ง” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณหรี่ตาลงมองจวินอู๋เสีย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในความสามารถของจวินอู๋เสีย แต่วิธีนี้มันกล้าบ้าบิ่นเกินไป หากพลาดเพียงก้าวเดียวแล้วโดนค้นพบเข้า เด็กคนนี้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังทันที ถูกปิดล้อมหมดทุกด้านเช่นนั้น แม้ว่าจะมีเยี่ยซาและเยี่ยกูคอยปกป้อง แต่การที่จวินอู๋เสียจะหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัยภายใต้การถูกปิดล้อมรอบด้านจากตำหนักจิงหงและพวกยอดฝีมือจากตำหนักต่างๆ มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างแน่นอน
เด็กคนนี้กำลังเล่นกับชีวิตของตัวเอง!
“ถ้าเชื่อข้าก็ไป ถ้าไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านเถอะ” จวินอู๋เสียไม่คิดจะอธิบายให้จ้าวตำหนักหยกวิญญาณฟังมากนัก นางมาบอกเขาก็เพราะต้องการทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้เท่านั้น
มุมปากของจ้าวตำหนักหยกวิญญาณกระตุกเล็กน้อย ในใจอยากจะฟาดเจ้าเด็กเวรคนนี้ให้ตายคามือนัก
เมื่อไรเจ้าเด็กนี่จะรู้จักพูดดีๆ บ้าง!
ตอนที่ 1656 ร่วมอวยพรวันเกิด (4)
“ข้าให้เวลาท่านคิดห้านาที” จวินอู๋เสียพูด
“…” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเกิดความรู้สึกอยากจะบีบคอจวินอู๋เสียให้ตายคามืออีกครั้ง
ไป เขาจะไปได้อย่างไรกันเล่า
ก่อนที่ตำหนักหยกวิญญาณจะตกต่ำ เขาไม่เคยไปงานไหนเลย ด้วย ”สภาพที่ไม่เหมือนใคร” ของเขา มาขอให้เขาไปที่ตำหนักหยกวิญญาณและเบียดอยู่ในฝูงชนที่มีพวกบุรุษ…แค่คิดก็ทำให้จ้าวตำหนักหยกวิญญาณขนลุกซู่แล้ว
เจ้าเด็กนี่ก็รู้อยู่แล้วชัดๆ ยังจะวิ่งมาถามเขาอีก คิดอะไรอยู่ในใจกันแน่!
“ท่านจ้าวตำหนัก!” เสียงที่ไพเราะนุ่มนวลดังขึ้น
ไม่รู้ว่าจื่อจินปรากฏตัวในห้องโถงใหญ่ตั้งแต่เมื่อไร นางเดินช้าๆ เข้ามาตรงหน้าจ้าวตำหนักหยกวิญญาณและคุกเข่าลง
“จื่อจินยินดีไปที่ตำหนักจิงหงกับคุณชายจวินเจ้าค่ะ” จื่อจินกล่าวอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับก้มหัวลง
การกดขี่ข่มเหงที่ตำหนักหยกวิญญาณได้รับมาตลอดหลายปี จื่อจินรู้แจ้งแก่ใจอย่างชัดเจนจนไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว ถ้าสิ่งที่จวินอู๋พูดเป็นความจริง ว่าเขาสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับสิบสองตำหนักได้ นางก็อยากไปเห็นด้วยตาของตัวเอง
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่จื่อจินซึ่งก้มหัวอยู่ตรงหน้าเขา หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็เงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสีย
“จื่อจินไปแทนข้าได้หรือไม่”
จวินอู๋เสียพยักหน้า นางแค่เสนอตัวเลือกให้สำหรับความร่วมมือกันของพวกเขา ใครจะเป็นคนไปนั้นไม่ได้สำคัญสำหรับนางเลย
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณหันกลับไปมองจื่อจิน
“จื่อจิน อย่างนั้นข้าจะสั่งให้เจ้าไปที่ตำหนักจิงหงกับคุณชายจวิน แต่มีอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องจำให้ขึ้นใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามผลีผลาม สิ่งที่เจ้าทำไม่เพียงเกี่ยวข้องกับตัวเจ้าเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตำหนักหยกวิญญาณด้วย” เสียงเอื่อยๆ เนือยๆ ของจ้าวตำหนักหยกวิญญาณฟังดูเข้มงวดจริงจังขึ้นมาทันที
จื่อจินเป็นคนที่เขาเลี้ยงมากับมือ นิสัยของจื่อจินเขารู้ดีที่สุด
จื่อจินเป็นคนซื่อตรงไม่ซับซ้อนแต่ใจร้อนมาก การที่นางไม่สามารถคุมอารมณ์ได้คือจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุดของนาง เมื่อพวกเขาเข้าไปในตำหนักจิงหง พวกเขาจะเป็นเหมือนลูกแกะในฝูงหมาป่า หากก้าวพลาดเพียงนิดเดียว พวกเขาจะถูกกินจนไม่เหลือกระดูกแน่
“จื่อจินเข้าใจแล้ว” จื่อจินตอบรับอย่างเชื่อฟัง
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณยังคงกังวลเล็กน้อย เขาอดพูดกับจวินอู๋เสียไม่ได้ว่า ”เจ้ามากินดื่มอยู่ที่ตำหนักหยกวิญญาณของข้านานมากแล้ว วันนี้ข้าให้จื่อจินไปกับเจ้า ข้าจะถือว่าเราตกลงกันแล้วว่าไม่ว่าเจ้าจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เจ้าต้องพานางกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่อย่างนั้นการร่วมมือกันของเราจะสิ้นสุดลง”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเตือนจื่อจินอีกสองสามคำ จากนั้นก็อนุญาตให้พวกจวินอู๋เสียออกไปได้
เมื่อเดินออกจากตำหนักหยกวิญญาณ แสงแดดสาดส่องลงมาบนพื้น ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศก็ดีมาก
เมื่อเทียบกับตำหนักหยกวิญญาณที่เป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี รู้สึกว่าภูเขาฝูเหยาหนาวกว่าเล็กน้อย จื่อจินที่ตามหลังพวกจวินอู๋เสียมารู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง อุณหภูมิที่ต่ำลงอย่างกะทันหันทำให้นางตัวสั่นระริก
ตอนนั้นเอง เสื้อคลุมตัวหนาก็ถูกยัดใส่มือของนาง จื่อจินเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ และสบตาเข้ากับสายตาเย็นชาและเฉยเมยของจวินอู๋เสีย
“ใส่เสีย” จวินอู๋เสียพูดอย่างไร้อารมณ์ พูดจบก็หันกลับไปเดินต่อทันที
จื่อจินอ้าปากค้างเล็กน้อย นางมองเสื้อคลุมในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่ด้านหลังของจวินอู๋เสีย ดวงตากลมโตของนางทอประกายแวววาว
เยี่ยซาและเยี่ยกูที่เดินตามหลังจวินอู๋เสียหันไปมองจื่อจินที่ตกไปอยู่ด้านหลัง และเห็นแววตาแปลกๆ ของนาง
เยี่ยกูนั้นยังดี เขาคิดแค่ว่าคุณหนูใหญ่ของเขาช่าง ‘อ่อนโยนและเอาใจใส่’ จริงๆ
แต่แววตาของเยี่ยซานั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความรู้สึกในแววตาของจื่อจินที่เขาได้เห็นนั้นเป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขาเคยเห็นในดวงตาของชวีหลิงเย่ว์…