ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1663 เลือกโอกาสของตัวเอง (2) / ตอนที่ 1664 เลือกโอกาสของตัวเอง (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1663 เลือกโอกาสของตัวเอง (2) / ตอนที่ 1664 เลือกโอกาสของตัวเอง (3)
ในที่สุดสีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว เขาก้มหน้าลงช้าๆ และพูดด้วยเสียงกระซิบที่แทบจะไม่ได้ยิน ”ข้าไม่มีทางเลือก”
“อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาจวินอู๋เสีย
“ข้าไม่มีทางเลือก เขาอยากให้ข้าฆ่าใคร ข้าก็ต้องฆ่า”
“เจ้าไม่เลือก แล้วรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีทางเลือก” จวินอู๋เสียพูด
“น้องสาวข้าอยู่ในมือเขา” เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าว
จวินอู๋เสียมองเด็กหนุ่ม ”เล่ามาสิว่าเรื่องเป็นอย่างไร”
เด็กหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เขารู้สึกว่าจวินอู๋เสียไม่มีความคิดที่จะฆ่าเขา และดูเหมือนเสียงในใจเขาจะบอกว่านี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว
“ข้าคือหลานบุญธรรมของผู้อาวุโสเยว่ หรือพูดอีกอย่าง ข้าคือหุ่นเชิดของเขา…”
ชื่อของเด็กหนุ่มคือเยว่อี้ บิดามารดาของเขาเคยเป็นศิษย์ของตำหนักเงาจันทราที่เสียชีวิตไปอย่างไม่คาดคิดขณะทำภารกิจ ทิ้งเยว่อี้ที่อายุแค่เจ็ดขวบกับน้องสาวอายุสามขวบของเขาเอาไว้ หลังจากบิดามารดาตาย เยว่อี้และน้องสาวก็ถูกผู้อาวุโสเยว่รับไปเลี้ยงดูและกลายเป็นหลานชายหลานสาวของผู้อาวุโสเยว่
ผู้อาวุโสเยว่เป็นผู้อาวุโสที่มีความอาวุโสมากที่สุดในตำหนักเงาจันทรา และมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตกับจ้าวตำหนักเงาจันทรา ทำให้สถานะของเขาสูงกว่าผู้อาวุโสคนอื่น
เยว่อี้แสดงพรสวรรค์ออกมาให้เห็นตั้งแต่เด็ก หลังจากเขาถูกผู้อาวุโสรับไปเลี้ยงดู ผู้อาวุโสเยว่ก็เพิ่มการฝึกฝนในแต่ละวันให้เขา ทุ่มเทดูแลเขาอย่างเต็มที่
สิ่งนี้น่าจะทำให้เยว่อี้รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณและซาบซึ้งในความเมตตาที่เลี้ยงดูเขามา แต่ภายใต้ฉากหน้าที่สวยงามนี้คือสิ่งสกปรกที่ผู้คนยังทนดูไม่ได้
เยว่อี้มีใบหน้าที่หล่อเหลาและโดดเด่นมากมาตั้งแต่เด็ก ตอนยังเป็นเด็ก เขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กหญิงอยู่บ่อยๆ
ตอนแรกที่เยว่อี้เพิ่งถูกผู้อาวุโสเยว่รับมา เขาก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แม้ว่าผู้อาวุโสเยว่จะอายุมากแล้ว แต่ก็ใจดีและเป็นกันเองมาก และยังปฏิบัติกับน้องสาวของเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง เยว่อี้ถูกเรียกไปที่ห้องของผู้อาวุโสเยว่ตามลำพัง ฝันร้ายก็เริ่มต้นขึ้น…
สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้า เยว่อี้คือหลานชายที่ผู้อาวุโสเยว่รักใคร่เอ็นดู แต่ความจริงแล้ว เขากลายเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์ของผู้อาวุโสเยว่ เมื่อเยว่อี้โตขึ้น พลังของเขาก็เพิ่มขึ้น แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสหลุดพ้นจากมัน
เพราะน้องสาวร่วมสายโลหิตเพียงคนเดียวของเขาอยู่ในกำมือของผู้อาวุโสเยว่
เป็นเวลาหลายปีเหลือเกินที่เยว่อี้ยอมทนทุกอย่างเพียงเพราะผู้อาวุโสเยว่ไม่เคยลงมือกับน้องสาวของเขา นั่นคือสิ่งเดียวในชีวิตที่เขาห่วงใย
ตราบใดที่น้องสาวของเขายังอยู่ในกำมือของผู้อาวุโสเยว่ เยว่อี้ก็จะไม่มีวันเป็นอิสระไปตลอดชีวิต
จวินอู๋เสียฟังทุกอย่างที่เยว่อี้เล่า คิ้วของนางขมวดขึ้นเล็กน้อย นางรู้สึกได้ว่าเยว่อี้ไม่ได้จงรักภักดีต่อตำหนักเงาจันทราอย่างแท้จริง แต่ความจริงเบื้องหลังนั้นทำให้นางรู้สึกขยะแขยงอย่างถึงที่สุด!
“ข้าเลือกอะไรไม่ได้เลย เจ้าเลือกได้ว่าจะฆ่าข้าตอนนี้ หรือพอข้ากลับไปที่ตำหนักเงาจันทราและผู้อาวุโสเยว่รู้เรื่องที่พวกเจ้าซุ่มโจมตีรถม้า เขาจะต้องส่งข้าออกตามล่าพวกเจ้าอย่างแน่นอนข้ารู้ว่าตัวข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ทำไมไม่ฆ่าข้าเสียตอนนี้เลยเล่า” เยว่อี้มองจวินอู๋เสียอย่างสงบ ราวกับอดีตอันเหลือทนที่เขาพูดถึงนั้นไม่ใช่อดีตของเขา และในดวงตาของเขาก็ไม่มีประกายเลยแม้แต่น้อย
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางโจมตีสิบสองตำหนักเพื่อปกป้องตัวเองและเพื่อแก้แค้น แต่เมื่อนางได้รู้ว่าเกิดเรื่องสกปรกโสโครกเช่นนั้นขึ้นที่ตำหนักเงาจันทรา ความตั้งใจที่จะล้มล้างพวกมันทั้งหมดก็ยิ่งเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นมากขึ้น
ทันใดนั้น จวินอู๋เสียก็หันไปมองเยว่อี้และพูดว่า ”เจ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ตอนนี้ตรงหน้าเจ้าก็มีอยู่ทางเดียวให้เลือก”
ตอนที่ 1664 เลือกโอกาสของตัวเอง (3)
“ฆ่าผู้อาวุโสเยว่เสีย ทำลายตำหนักเงาจันทรา และช่วยน้องสาวของเจ้า เจ้าจะเดินทางนี้หรือไม่” จวินอู๋เสียหรี่ตาลงมองเยว่อี้ นางไม่ได้วางแผนจะโจมตีตำหนักเงาจันทราเร็วขนาดนี้ แต่นางก็ไม่รังเกียจที่จะเลื่อนมันเข้ามาให้เร็วขึ้นสักหน่อย
ถึงอย่างไร นางก็ไม่คิดจะละเว้นตำหนักไหนแม้แต่ตำหนักเดียวอยู่แล้วนี่
เยว่อี้มองจวินอู๋เสียด้วยแววตาตกตะลึง เด็กหนุ่มตรงหน้าเขาคนนี้เห็นได้ชัดว่าอ่อนกว่าเขาอยู่หลายปี แต่ไม่รู้ทำไม ทุกคำที่เด็กคนนี้พูดออกมาทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว
“จะเชื่อข้าหรือไม่ เจ้าไม่จำเป็นต้องเลือกตอนนี้ หลังจากการเดินทางไปตำหนักจิงหงครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าค่อยเลือกตอนนั้นก็ยังไม่สาย” จวินอู๋เสียไม่รีบร้อนเอาคำตอบจากเขา นางรู้ดีอยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร
เนื่องจากไม่มีเส้นทางอื่นให้เขาถอยกลับไปแล้ว
เช่นเดียวกับนางในตอนแรก มีเพียงหนทางเดียวให้นางก้าวเดินเท่านั้น
“ช่วงที่อยู่ในตำหนักจิงหงนี้ เจ้าจะเป็นตัวแทนของตำหนักเงาจันทรา ส่วนเราคือพรรคพวกของเจ้า เข้าใจหรือไม่” จวินอู๋เสียพูดพลางมองไปที่เยว่อี้
“เจ้าไม่กลัวข้าจะทรยศเจ้าหรือ” เยว่อี้ไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียเอาความมั่นใจมาจากไหน ไม่เพียงไม่ฆ่าเขา แต่ยังให้อิสระเขาถึงขั้นนี้ เมื่อเขาปรากฏตัวในตำหนักจิงหง ถ้าเขาเปิดเผยความจริงของสถานการณ์ที่นั่น จวินอู๋เสียจะถูกศัตรูรุมล้อมรอบด้านทันที
เขาไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นเลยหรือ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ”เจ้าจะยอมละทิ้งโอกาสเพียงครั้งเดียวนี้ไปอย่างนั้นหรือ”
เยว่อี้อึ้งแล้วลดสายตาลงทันที
“เยี่ยซา แก้มัดเขา” จวินอู๋เสียสั่ง
เยี่ยซาแก้เชือกที่มัดอยู่รอบตัวเยว่อี้ออกทันที ท่าทางของเขาดูเหมือนไม่ระวังตัวเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว” จวินอู๋เสียพูดพลางยักไหล่
เยว่อี้มองจวินอู๋เสียอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
จนกระทั่งเยว่อี้ออกไปแล้ว เยี่ยซาก็อดถามไม่ได้ว่า ”คุณหนูใหญ่เชื่อใจคนผู้นี้จริงๆ หรือขอรับ”
จวินอู๋เสียหยิบกาน้ำชาบนโต๊ะขึ้นมารินชาร้อนๆ ให้ตัวเองหนึ่งถ้วย ก่อนจะจิบอย่างช้าๆ
“ทำไมจะไม่เล่า”
คนที่ไม่เคยประสบกับความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดจะไม่มีทางรู้ว่าฟางเส้นสุดท้ายแห่งความหวังที่สามารถช่วยชีวิตตนไว้ได้นั้นมีความหมายมากเพียงไร
ติดอยู่ในอนาคตที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง แม้ว่าจะต้องฆ่าผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยโลหิตและถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนยอมแพ้ได้
เยว่อี้เลือกที่จะไม่คิดถึงตัวเองได้ แต่เพื่อน้องสาวของเขา เขาจะไม่ยอมเสี่ยงเดิมพันสักครั้งไม่ได้
ต้องทนกับความอัปยศอดสูอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อน้องสาวมานานหลายปี และกล้าที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมากับคนแปลกหน้าอย่างนาง เด็กหนุ่มคนนี้ต้องจนตรอกอย่างถึงที่สุดแล้ว
“ดูแล้วเยว่อี้น่าจะอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี น้องสาวของเขาก็น่าจะเพิ่งเริ่มโตเป็นสาวงาม สำหรับปีศาจร้ายที่ไม่ละเว้นกระทั่งเด็กหนุ่มอย่างเขา จะเก็บกรงเล็บเอาไว้ไม่แตะต้องเด็กสาวแรกรุ่นได้อย่างไร” ดวงตาของจวินอู๋เสียมองต่ำลง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
สิ่งที่นางทนไม่ได้เลยก็คือความต่ำช้าโสมมเช่นนี้
สำหรับเยว่อี้ที่ร้องขอความตายนั้น หมายความว่าเขาเข้าใจดีว่าตนไม่มีความหวังใดๆ เลย เขาตระหนักดีว่าชะตากรรมแบบไหนที่รอน้องสาวของเขาอยู่ และเขาไม่มีพลังที่จะช่วยนางได้เลย ทำได้เพียงลาจากโลกนี้ไปและกลายเป็นผีร้ายกลับมาทวงชีวิต
เยี่ยซารู้สึกหม่นหมองเมื่อได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสีย แต่เยี่ยกูที่อยู่ด้านข้างนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยสักคำ
เยี่ยกูและเยี่ยเจี๋ยเป็นสองวิญญาณในร่างเดียว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พี่น้องแบบปกติทั่วไป แต่สายสัมพันธ์ฉันพี่น้องของพวกเขาก็เป็นของจริง ดังนั้นเยี่ยกูจึงเข้าใจถึงความรู้สึกสิ้นหวังของเยว่อี้
“ตราบใดที่ข้าทำให้เยว่อี้เข้าใจได้ว่า การร่วมมือกับข้าจะทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง ทำไมเขาจะอยากละทิ้งโอกาสนี้เล่า” จวินอู๋เสียพูดพลางมองชาใสในถ้วยของนาง การเดินทางไปยังตำหนักจิงหงเที่ยวนี้ นางต้องทำให้เยว่อี้มั่นใจให้ได้