ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1665 มาทำให้โกรธ (1) / ตอนที่ 1666 มาทำให้โกรธ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1665 มาทำให้โกรธ (1) / ตอนที่ 1666 มาทำให้โกรธ (2)
ตำหนักจิงหงคึกคักมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ วันคล้ายวันเกิดของจ้าวตำหนักที่ใกล้จะถึงนี้ สิบสองตำหนักได้ส่งคนมาร่วมอวยพรมากมาย ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ มีแขกขนของขวัญและคำอวยพรหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ทำให้ตำหนักจิงหงเต็มไปด้วยสมบัติจำนวนมาก ทุกตำหนักต่างส่งตัวแทนมา ไม่ว่าเบื้องหลังพวกเขาจะวางแผนขัดแข้งขัดขากันมากแค่ไหน แต่นี่เป็นงานฉลองวันเกิด พวกเขาย่อมทำให้ยิ่งใหญ่ดูดีอยู่แล้ว
คนของตำหนักจิงหงรับของขวัญกันจนมือล้า ใบหน้าก็ต้องพยายามคงรอยยิ้มรับแขกเอาไว้ให้ดูเหมือนเป็นเจ้าภาพที่ดี
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น
จ้าวตำหนักจิงหงที่ควรนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่เพื่อรอให้คนมาอวยพรวันเกิด ตอนนี้กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียด
ผู้อาวุโสหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่ในห้องทำงาน สีหน้าของพวกเขาไม่ค่อยดีนัก
ตำหนักต่างๆ ใช้ข้ออ้างว่ามาร่วมอวยพรวันเกิด ส่งศิษย์หนุ่มๆ สาวๆ ที่หน้าตาดีและมีพรสวรรค์มามากมายเพื่ออวดความแข็งแกร่งของศิษย์รุ่นใหม่ของพวกเขา ทำให้ตำหนักจิงหงยิ้มไม่ออกแล้ว
ตำหนักจิงหงอยู่ในระดับล่างสุดของสิบสองตำหนัก ในงานชุมนุมเทพยุทธ์พวกเขาไม่สามารถดึงตัวผู้เยาว์ที่เล็งไว้ในใจได้เลย แม้ว่าจะดึงคนมาเข้าร่วมได้ไม่น้อย แต่เมื่อเห็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมที่สุดซึ่งโดนตำหนักอื่นดึงตัวไปมาอยู่ตรงหน้า มันก็ทำให้ตำหนักจิงหงแทบกระอักโลหิต แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
หลังจากพยายามอย่างหนัก พวกเขาก็ได้ตัวเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ดีพอสมควรมาคนหนึ่ง และเตรียมที่จะพาเขากลับมาที่ตำหนักเพื่อดูแลฝึกฝนเขาอย่างดี แต่ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักจิงหง เด็กหนุ่มคนนั้นก็ถูกเด็กสาวจากตำหนักมังกรสวรรค์ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะความหื่นกามของเขา อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก แม้ว่าจะเชิญหมอมานับไม่ถ้วนเพื่อรักษาเขาหลังจากที่นำเขากลับมาที่ตำหนักแล้ว แต่ผลที่ได้ก็ทำให้พวกเขาหมดหนทาง เส้นลมปราณของเด็กหนุ่มคนนั้นถูกทำลายจนเกือบหมด การจะให้เขาหายดีและฟื้นตัวเต็มที่นั้นเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
มีเพียงแค่เชิญหมอเทวดาไป๋สวี่มาเท่านั้นที่พอจะมีความเป็นไปได้บ้าง แต่ไป๋สวี่ก็ลึกลับเหลือเกิน เขาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าจะไปหาเขาได้ที่ไหน จดหมายที่พวกเขาส่งไปก็เหมือนก้อนหินที่โยนลงทะเล ใครจะรู้ว่าเมื่อไรจะถึงตาของเจ้าเด็กโชคร้ายคนนี้
แล้วตัวการใหญ่ที่สร้างความวุ่นวายทั้งหมดนี้ก็เพิ่งจะเดินตามหลังจ้าวตำหนักน้อยของตำหนักมังกรสวรรค์ผ่านประตูตำหนักจิงหงเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ศิษย์ที่ยืนอยู่หน้าตำหนักจิงหงเพื่อต้อนรับแขก เห็น ‘เด็กสาว’ ที่น่าหลงใหลเดินเข้ามาหาอย่างสง่างามเพื่อส่งบัตรเชิญให้ เขาก็ตกตะลึงกับใบหน้าที่งดงามนั้นทันที และจ้องมองอย่างมึนงง
‘เด็กสาว’ ยิ้มกว้างขณะมองไปที่ศิษย์ของตำหนักจิงหงและพูดว่า ”เฟยเยียนแห่งตำหนักมังกรสวรรค์และจ้าวตำหนักน้อยของเรามาเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดของจ้าวตำหนักจิงหง”
สายตาหลงใหลของศิษย์ตำหนักจิงหงแตกเป็นเสี่ยงๆ จากคำพูดยิ้มแย้มของเฟยเยียน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาที่จ้องมองเฟยเยียนก็ฉายแววตกใจอย่างมาก!
เฟยเยียน
เด็กสาวที่ทำร้ายศิษย์ของตำหนักจิงหงคนนั้นจนบาดเจ็บสาหัสอย่างนั้นหรือ
ศิษย์ตำหนักจิงหงไม่นึกฝันเลยว่าเฟยเยียนจะมาที่ตำหนักจิงหงเพื่อร่วมงานฉลองวันเกิดของจ้าวตำหนักได้อย่างเจ็บแสบขนาดนี้
แทนที่จะบอกว่ามาที่นี่เพื่อร่วมอวยพรวันเกิด…น่าจะบอกว่าคนพวกนี้มาเพื่อทำให้พวกเขาโกรธมากกว่า!
เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่เฟยเยียนทำร้ายนั้นเป็นต้นกล้าที่จ้าวตำหนักและผู้อาวุโสคาดหวังเอาไว้มาก แต่ถึงต้นกล้านี้จะดี มันก็ถูกมือร้อนของเฟยเยียน ‘ทำลาย’ ลงไปแล้ว ทุกวันนี้เขายังเจ็บกระเสาะกระแสะอยู่ที่เรือนด้านหลัง จะเดินก็ยังลำบาก
การปรากฏตัวของเฟยเยียนทำให้คนของตำหนักจิงหงยิ้มไม่ออก สายตาที่พวกเขามองไปยังเฟยเยียนก็แปลกไป ความเป็นศัตรูอย่างรุนแรงในสายตาของพวกเขาไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าใครบางคนจะไม่รับรู้ถึงความเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงของอีกฝ่ายเลย เขายิ้มอย่างสดใสให้กับศิษย์ของตำหนักจิงหง รอยยิ้มที่สดใสนั้นทำให้ดวงตาของศิษย์พวกนั้นแสบร้อนอย่างมาก
นี่นางมาที่นี่เพื่อหาเรื่องพวกเขาใช่หรือไม่
ตอนที่ 1666 มาทำให้โกรธ (2)
แม้ว่าสิบสองตำหนักจะไม่ได้สามัคคีกลมเกลียวกันจากใจจริง แต่ฉากหน้าพวกเขาก็ยังต้องแสดงออกถึงความสามัคคีกัน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการทะเลาะกันหลังฉาก แต่ถึงแม้จะต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจดีว่าควรหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความสงสัย อย่างน้อยก็ไม่มีใครส่งผู้ร้ายที่เป็นตัวการใหญ่ไปร่วมงานฉลองวันเกิดของเหยื่ออย่างโจ่งแจ้ง!
นี่เป็นการเพิ่มเชื้อไฟชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ
จากที่ตำหนักจิงหงรู้ การกระทำของเฟยเยียนนั้นแทบมั่นใจได้เลยว่าเป็นความคิดของตำหนักมังกรสวรรค์
การมาของเฟยเยียนทำให้คนของตำหนักจิงหงรู้สึกว่าตำหนักมังกรสวรรค์ข่มเหงกันมากเกินไปแล้ว
แต่เนื่องจากมีแขกคนอื่นๆ อยู่มากเกินไป พวกเขาจึงคิดว่าไม่ใช่โอกาสเหมาะที่จะต่อต้านอย่างเปิดเผย ดังนั้นจึงทำได้แค่ฝืนยิ้มแข็งๆ และยืนจ้องเฟยเยียนอยู่ตรงนั้น
“เสี่ยวเยียน ยังไม่เสร็จหรือ” ในขณะนั้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาก็เดินเข้ามาช้าๆ เขาสวมชุดผ้าหรือไม่ทั้งตัว ดูดีมาก ดวงตาของเขามองตรงไปที่เฟยเยียน
ดวงตายิ้มแย้มของเฟยเยียนฉายแววเยาะเย้ยแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มอย่างสดใสให้บุรุษคนนั้นและพูดว่า ”คุณชาย ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ดูเหมือนตำหนักจิงหงจะไม่ต้อนรับพวกเรา” พูดจบเฟยเยียนก็ก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเสียใจเล็กน้อย แววตาเศร้าสลด
บุรุษคนนั้นขมวดคิ้ว ดวงตาฉายแววไม่พอใจ แต่ไม่ได้มุ่งตรงไปที่เฟยเยียน สายตานั้นพุ่งตรงไปที่ศิษย์ของตำหนักจิงหง
“ข้าคือจูเก๋ออินจากตำหนักมังกรสวรรค์ มาร่วมอวยพรวันเกิดจ้าวตำหนักในนามของท่านพ่อ ไม่ทราบว่ามีเรื่องไม่พอใจอะไรอย่างนั้นหรือ” จูเก๋ออินกล่าวด้วยเสียงที่ดูเหมือนอ่อนโยน แต่ในน้ำเสียงของเขามีความแข็งกระด้างแฝงอยู่
เมื่อศิษย์ของตำหนักจิงหงได้ยินจูเก๋ออินประกาศชื่อแซ่ของเขา พวกเขาก็เหงื่อตกทันที
จูเก๋ออินคือบุตรชายคนเดียวของจ้าวตำหนักมังกรสวรรค์!
แม้ว่าพวกเขาจะทำไม่เหมาะสมต่อเฟยเยียนไปบ้าง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจ้าวตำหนักน้อยของตำหนักมังกรสวรรค์ พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงความไร้มารยาทออกมาแม้แต่น้อย
“ไม่ ไม่มีขอรับ! เชิญเข้ามาเลย” ศิษย์ของตำหนักจิงหงปาดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วรีบเชิญแขกเข้าข้างในอย่างลุกลี้ลุกลน
จูเก๋ออินพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาฉายแววหยิ่งผยองขณะหันหน้าไปทางเฟยเยียนและพูดว่า ”เสี่ยวเยียน เราเข้าข้างในได้แล้ว”
“เจ้าค่ะ” เฟยเยียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ตำหนักมังกรสวรรค์ส่งคนไปประมาณเจ็ดแปดคน จูเก๋ออินเป็นหัวหน้าคณะตัวแทน ตลอดทางตั้งแต่ต้นจูเก๋ออินแสดงความห่วงใยเอาใจใส่เฟยเยียนเป็นพิเศษ ศิษย์คนอื่นๆ ของตำหนักมังกรสวรรค์เห็นกับตาแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
“เสี่ยวเยียน เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ตำหนักจิงหงไม่เข้มงวดกับลูกศิษย์ทำให้เกิดพวกสารเลวเช่นนี้ อย่าเสียใจไปเลย เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าอย่างแน่นอน” จูเก๋ออินกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใยขณะมองเฟยเยียนที่เดินอยู่ข้างๆ เขา จากที่เขาเห็น เฟยเยียนใจอ่อนกับคนของตำหนักจิงหงมากเกินไป และมันไม่ควรเป็นแบบนั้น
แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป สาวน้อยผู้งดงามเช่นนี้ก็ควรได้รับการปกป้อง ดังนั้นจูเก๋ออินจึงพอใจมากกับท่าทาง ‘สงบเสงี่ยม’ ของเฟยเยียน
“คุณชาย ข้าไม่คิดว่าท่านจำเป็นต้อง…เรามาที่นี่ก็เพื่อร่วมอวยพรวันเกิด ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นเพราะข้า คนของตำหนักจิงหงอาจจะไม่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปง่ายๆ ถ้าพวกเขาทำร้ายคุณชาย ข้าก็คงไม่รู้จะทำอย่างไร” เฟยเยียนก้มหน้ากัดริมฝีปากอย่างกังวล แสดงภาพลักษณ์ของผู้ที่ทนทุข์กับความอยุติธรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ท่าทางนั้นทำให้หัวใจของจูเก๋ออินเต้นแรง ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่ไม่เหมาะสม เขาก็คงไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าโอบกอดเฟยเยียนไว้ในอ้อมแขนเพื่อปกป้องและปลอบประโลม ‘นาง’
“ทำร้ายข้า ตำหนักจิงหงเนี่ยนะ พวกเขาน่ะหรือจะกล้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีข้าอยู่ตรงนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทั้งนั้น อย่าให้ตัวเองต้องทุกข์ใจเลย ข้าจะทวงความอยุติธรรรมให้เจ้าเอง” พูดจบ มือของจูเก๋ออินก็ขยับไปโดยอัตโนมัติ โดยคิดที่จะโอบไหล่เฟยเยียนเพื่อ ‘ปลอบโยน’ เด็กสาว
แต่ในตอนนั้นเอง…
“ฟู่!”