ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1675 บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (3) / ตอนที่ 1676 บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1675 บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (3) / ตอนที่ 1676 บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (4)
“น่ามองขนาดนั้นเลยหรือ” เสียงของกู่อิ่งดังขึ้นข้างหูของกู่ซินเยียน กู่ซินเยียนเหงื่อแตกพลั่กทันที และรีบถอนสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว
กู่ซินเยียนหันหน้าไปมองกู่อิ่ง และพบว่าถ้วยสุราที่เขาถืออยู่มีสุราหยดออกมาจากก้นถ้วย ดูเหมือนข้างถ้วยไม่มีความเสียหาย แต่ก้นถ้วยน่าจะแตกจากแรงบีบของเขา
“คนที่เข้ามาคุยคือจ้าวตำหนักน้อยของตำหนักมังกรสวรรค์ใช่หรือไม่” กู่อิ่งมองกู่ซินเยียนอย่างยิ้มแย้ม
กู่ซินเยียนเห็นเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรงในแววตาของเขา ”ช่วงหลายปีนี้ความแข็งแกร่งของตำหนักมังกรสวรรค์เพิ่มขึ้นเร็วทีเดียว ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าสร้างศัตรูกับพวกเขาจะดีที่สุด เป้าหมายของเราตอนนี้คือตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ”
กู่ซินเยียนเตือนเสียงเบา
กู่อิ่งหัวเราะออกมาทันที ”เจ้ากลัวอะไรกันแน่ กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าคนจากตำหนักมังกรสวรรค์ หรือกลัวว่าข้าจะฆ่าคนจากตำหนักเงาจันทราคนนั้น”
กู่ซินเยียนชะงักไปครู่หนึ่ง อย่างที่คาด กู่อิ่งจับได้แล้ว
กู่อิ่งมองไปทางจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย
“ตาเขาสวยจริงๆ”
คำพูดง่ายๆ ไม่กี่คำนี้ทำให้กู่ซินเยียนเย็นวาบไปทั้งตัว นางเคยได้ยินแบบนี้มาแล้ว
“อย่าทำเขานะ!” กู่ซินเยียนเผลอตัวร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก
กู่อิ่งเลิกคิ้วเล็กน้อย ”โอ้ ปกป้องเขาขนาดนี้เลยหรือ”
กู่ซินเยียนเองก็แปลกใจ ความจริงนางไม่แน่ใจเลยว่าคนผู้นั้นคือคนเดียวกับคนที่อยู่ในใจนาง แต่ท่าทาง สายตา และเสียงนั้นคล้ายกันมาก ทำให้ส่งผลต่อความรู้สึกของนาง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มจากตำหนักเงาจันทราที่คล้ายกับจวินอู๋คนนั้นต้องตกอยู่ในเงื้อมมืออันน่ากลัวของกู่อิ่ง
“ข้าแค่ไม่อยากให้ท่านก่อเรื่องที่ตำหนักจิงหง ไม่อย่างนั้นพอกลับไป พวกเราจะตอบคำถามท่านพ่อไม่ได้ เรามาที่นี่เพื่อร่วมงานฉลองวันเกิดเท่านั้น ท่านจำใส่ใจไว้ด้วย” กู่ซินเยียนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง นางรู้ดีว่ากู่อิ่งสามารถทำอะไรได้บ้าง ถ้านางพูดมากเกินไป ก็มีแต่จะทำให้เขาโกรธ แล้วมันจะเกิดผลตรงกันข้าม
กู่อิ่งแค่มองกู่ซินเยียนยิ้มๆ แต่รอยยิ้มนั้นทำให้กู่ซินเยียนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
“ข้าไม่เห็นว่าเจ้าปกป้องเจ้าจูเก๋ออินนั่นขนาดนั้น แต่กับเจ้าเด็กตำหนักเงาจันทรานั่น เจ้ากลับปกป้องเขาเสียมากมาย ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครในตำหนักเงาจันทรามากนัก เห็นเจ้าปกป้องเขามากขนาดนี้ เป็นเพราะอะไรกันนะ”
“ไม่มีอะไร” กู่ซินเยียนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทำไมนางไม่ถอนสายตากลับมาให้เร็วกว่านี้
กู่อิ่งไม่ได้ซักไซ้นางต่อ แต่หันไปมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ไม่ไกล ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาทำให้เกิดรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
…
จวินอู๋เสียไม่ได้สังเกตว่าการปรากฏตัวของนางทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมากแค่ไหน และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการที่กู่ซินเยียนสนใจนางทำให้จูเก๋ออินและกู่อิ่งจดจำนางเอาไว้ในใจ นางแค่นั่งเงียบๆ อยู่กับที่ สายตากวาดมองผู้คนที่นั่งอยู่ในห้องโถง ท่ามกลางใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเหล่านั้น นางได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่หลายคน แต่พวกเขาต่างเลี่ยงที่จะสบตากันอย่างรู้กันดี ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่รู้จักกันเลย
แต่นี่คือตัวหมากที่จวินอู๋เสียฝังเอาไว้ในสิบสองตำหนัก และพวกเขานี่แหละที่เป็นคนนำพาสิบสองตำหนักไปสุ่จุดจบในอนาคต
แขกทุกคนมาถึงหมดแล้ว งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตำหนักจิงหงกล่าวขอบคุณทุกคนในนามของตำหนักจิงหงและพูดคำที่ฟังดูดีอีกหลายคำ แต่มีไม่กี่คนที่ฟังเขา ผู้เยาว์ส่วนใหญ่เป็นหัวกะทิจากตำหนักของตนและมีความหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก ถือตัวว่าเป็นคนพิเศษ พวกเขาต่างนั่งดื่มกันเป็นกลุ่ม พร้อมกับดูนางรำร่ายรำอยู่ในห้องโถงใหญ่และพูดคุยกันอย่างมีความสุข
ตอนที่ 1676 บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (4)
จื่อจินนั่งอยู่ข้างๆ จวินอู๋เสีย เพราะคำสั่งของจวินอู๋เสียทำให้นางไม่กล้าพูดหรือมองไปรอบๆ อย่างไม่ระวัง แต่หลังจากนั่งอยู่พักหนึ่ง และมีเสียงเพลงดังก้องอยู่ข้างหู เสียงของความสนุกสนานรอบตัวทำให้นางผ่อนคลายเล็กน้อย นางแอบดึงแขนเสื้อของจวินอู๋เสียแล้วถามว่า ”เจ้ารู้จักกู่ซินเยียนหรือ”
จวินอู๋เสียมองจื่อจินด้วยสายตาสงสัย
จื่อจินจึงพูดเบาๆ ว่า ”ตอนที่เราเข้ามาเมื่อสักครู่ ข้าสังเกตเห็นว่านางเอาแต่มองเจ้า ข้าจำได้ว่าเจ้าฝึกอยู่ที่สำนักธาราเมฆเกินครึ่งปีไม่ใช่หรือ คุณหนูใหญ่ตำหนักมารโลหิตก็อยู่ที่นั่นด้วยนี่ หรือว่านางจำเจ้าได้”
สัมผัสที่หกของเด็กสาวนั้นมักจะเฉียบคมเป็นพิเศษ แม้ว่าจื่อจินจะไม่กล้ามองไปรอบๆ แต่ประสาทสัมผัสของนางเฉียบคมพอที่จะรับรู้ได้ถึงความสนใจที่กู่ซินเยียนมีต่อจวินอู๋เสีย ทำให้นางอดรู้สึกกังวลไม่ได้
จวินอู๋เสียเบนสายตาออกมาอย่างเฉยเมย และมองไปทางกู่ซินเยียน ในตอนนั้นกู่ซินเยียนก้มหน้าอยู่ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไร
“ไม่รู้สิ” จวินอู๋เสียตอบนิ่งๆ
กู่ซินเยียนจำนางได้หรือเปล่า นางเองก็ไม่แน่ใจ นางได้ปลอมแปลงใบหน้าไปแล้ว คนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับนางจะไม่สามารถพบความผิดปกติได้เลย นางมีปฏิสัมพันธ์กับกู่ซินเยียนอยู่ช่วงหนึ่งก็จริง แต่ก็ไม่ได้นานนัก ยิ่งกว่านั้นนางก็ไม่คิดว่ากู่ซินเยียนจะมีความประทับใจอะไรในตัวนางมากนัก
ความสงบนิ่งของจวินอู๋เสียมาจากการวิเคราะห์ตามหลักเหตุผลของนาง แต่นางไม่ได้รู้เลยว่าเวลาที่หญิงสาวมีใจให้ใครสักคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างไร ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยังอยู่ ไม่ได้ถูกทำลายง่ายขนาดนั้น
“เจ้า…เจ้าต้องระวังให้มากเล่า อย่าให้ตัวเองถูกจับได้” จื่อจินมองจวินอู๋เสียด้วยความเป็นห่วง
จวินอู๋เสียแค่พึมพำตอบรับอย่างเฉยเมยว่า ”อืม” เท่านั้น
ไม่รู้ว่ากู่ซินเยียนที่ก้มศีรษะอยู่นั้นแท้จริงแล้วกำลังแอบให้ความสนใจเหตุการณ์รอบๆ ตัวจวินอู๋เสียอยู่ เมื่อนางเห็นจื่อจินเอนตัวเข้าไปกระซิบใกล้หูของจวินอู๋เสีย นางก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ดวงตายิ่งฉายแววเศร้าซึม
ในงานเลี้ยงนั้น จูเก๋ออินไม่ได้ละสายตาไปจากกู่ซินเยียนเลย ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่านางงดงามอย่างถึงที่สุด ใจของเขารู้สึกว่าท่านพ่อตัดสินใจได้ฉลาดมาก แต่…
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็ไปสบเข้ากับดวงตายิ้มๆ ของกู่อิ่ง ร่างทั้งร่างของเขาเย็นยะเยือกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“คนที่นั่งข้างๆ ซินเยียนเป็นใคร” จูเก๋ออินขมวดคิ้วถามเฟยเยียนที่กำลังแอบชื่นชม ‘ความงาม’ ของหรงรั่วอยู่
เมื่อถูกจูเก๋ออินขัดจังหวะความสุข เฟยเยียนก็หันหน้ามามองด้วยสายตาเย็นชา แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยน
“นั่นคือกู่อิ่ง จ้าวตำหนักน้อยของตำหนักมารโลหิต พี่ชายของกู่ซินเยียน”
”อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” จูเก๋ออินพยักหน้าเล็กน้อย เขาเคยได้ยินคนพูดถึงกู่อิ่ง แต่กู่อิ่งไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนัก คนจำนวนมากจึงจำเขาไม่ได้ ”พี่น้องคู่นั้นดูไม่เหมือนกันเลย แต่ทั้งคู่หน้าตาดีมากจริงๆ”
เฟยเยียนยิ้มและไม่พูดอะไร เขาคิดอยู่ในใจว่า กู่ซินเยียนเป็นอย่างไรข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ารู้ดีเลยว่ากู่อิ่งโหดเหี้ยมมากแค่ไหน
อีกด้านหนึ่ง จวินอู๋เสียกำลังวางแผนว่าจะทำอย่างไรในงานเลี้ยงวันเกิดอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วจู่ๆ นิ้วมือของนางที่วางอยู่บนเข่าก็รู้สึกถึงความเย็นบางอย่าง
จวินอู๋เสียก้มหน้ามอง และเห็นอสรพิษทมิฬตัวหนึ่งที่มีขนาดลำตัวเท่าตะเกียบพันอยู่รอบนิ้วก้อยของนาง เมื่อเจ้าอสรน้อยสังเกตเห็นจวินอู๋เสียมองมาที่มัน มันก็คายจดหมายออกมา แล้วเลื้อยผ่านน่องของจวินอู๋เสียลงไปที่พื้น ออกไปทางประตูห้องโถงใหญ่ทันที