ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1693 เจตนาร้าย (1) / ตอนที่ 1694 เจตนาร้าย (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1693 เจตนาร้าย (1) / ตอนที่ 1694 เจตนาร้าย (2)
ตอนที่ 1693 เจตนาร้าย (1)
จูเก๋ออินเลิกคิ้วเล็กน้อย ”คนของตำหนักเงาจันทราถ่อมตัวขนาดนี้เลยหรือ ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าน่าจะชื่อเยว่อี้ใช่หรือไม่”
เยว่อี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จู่ๆ จูเก๋ออินก็ระบุตัวเขาออกมา ทำให้เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีว่าจูเก๋ออินได้เตรียมมาแล้ว
“ใช่”
“ปู่ของเจ้าก็น่าจะเป็นผู้อาวุโสเยว่แห่งตำหนักเงาจันทรา ถูกหรือไม่” จูเก๋ออินโบกพัดและมองเยว่อี้อย่างครุ่นคิด
“ถูกต้อง” ความรู้สึกไม่สบายใจในใจของเยว่อี้รุนแรงขึ้น จูเก๋ออินระบุถึงสถานะและตัวตนของเขาในตอนนี้ทำไม
“ผู้อาวุโสเยว่แห่งตำหนักเงาจันทราคือหนึ่งในสามสุดยอดฝีมือของตำหนักเงาจันทรา เป็นผู้อาวุโสเพียงคนเดียวที่มีพลังเทียบกับจ้าวตำหนักได้ เขาอยู่ในตำหนักเงาจันทรามานานกว่าจ้าวตำหนักเงาจันทราคนปัจจุบันและรับใช้จ้าวตำหนักมาสามคนแล้ว พูดได้ว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์และอาวุโสที่สุดในตำหนักเงาจันทรา เคยมีคนพูดไว้ว่า ด้วยความสามารถของผู้อาวุโสเยว่ เขาสามารถโค่นล้มจ้าวตำหนักเงาจันทราได้เลย แต่ผู้อาวุโสเยว่กลับจงรักภักดีต่อตำหนักเงาจันทราอย่างมั่นคง ไม่เพียงช่วยเหลือจ้าวตำหนักทั้งสามรุ่นอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่เคยแต่งงานและไม่มีลูกของตัวเองเลย” ดวงตาของจูเก๋ออินเปล่งประกายชั่วร้ายขณะจ้องมองเยว่อี้ รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งลึกขึ้น
“พูดถึงเรื่องนี้ ผู้อาวุโสเยว่นี่เป็นบุคคลตัวอย่างของคำว่าจงรักภักดีจริงๆ! แต่ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสเยว่คนนี้เหมือนจะมีงานอดิเรกอยู่อย่างหนึ่ง…” เสียงของจูเก๋ออินดังขึ้นเล็กน้อย ”ผู้อาวุโสเยว่ชอบรับเลี้ยงเด็กมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เด็กพวกนั้นจะติดตามอยู่ข้างกายผู้อาวุโสเยว่ตั้งแต่เล็กและถูกเลี้ยงดูโดยผู้อาวุโสเยว่ แต่ว่ามันแปลกอยู่อย่าง เด็กที่มีพรสวรรค์พวกนั้น หลังจากโตขึ้นมาก็จะหายตัวไปอย่างลึกลับ แถมผู้อาวุโสเยว่ก็ทำเป็นเพิกเฉยไม่รู้ไม่เห็นเสียอย่างนั้น ไม่เคยสืบเสาะหาร่องรอยใดๆ เยว่อี้…เจ้าตอบข้าได้หรือไม่ว่าอะไรคือสาเหตุของเรื่องแปลกๆ นี้”
สายตาของจูเก๋ออินจ้องมองไปที่เยว่อี้ เขายิ้มอย่างเห็นได้ชัด แต่มันทำให้เยว่อี้รู้สึกว่าตนกำลังถูกอสรพิษจ้องมองอยู่
คำพูดของจูเก๋ออินกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้เยาว์จำนวนมากที่อยู่รอบๆ บางคนเคยได้ยินชื่อผู้อาวุโสเยว่แห่งตำหนักเงาจันทรามาก่อน แต่ไม่รู้ลึกถึงความลับส่วนตัว พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเยว่อี้
เยว่อี้เป็นหลานบุญธรรมของผู้อาวุโสเยว่ไม่ใช่หรือ
เยว่อี้หน้าซีดเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายในคำพูดของจูเก๋ออิน จูเก๋ออินต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ถึงได้ถามคำถามเช่นนี้!
ทำไมพวกเด็กที่ผู้อาวุโสเยว่รับเลี้ยงไว้ถึงได้หายตัวไป เรื่องนี้ขนาดในตำหนักเงาจันทราก็ยังเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ เยว่อี้เองก็มารู้เรื่องนี้เข้าโดยบังเอิญ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อะไร เยว่อี้ เจ้าไม่รู้หรือ” จูเก๋ออินมองใบหน้าซีดขาวของเยว่อี้อย่างขบขัน แล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
เยว่อี้ขบกรามแน่นไม่ตอบ แต่จื่อจินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเริ่มวิตกกังวล ตอนที่จวินอู๋เสียและเยว่อี้คุยกัน จื่อจินได้รู้ถึงชะตากรรมอันขมขื่นของเยว่อี้จากปากของเขาแล้ว จูเก๋ออินพูดมาจนถึงขนาดนี้แล้ว เกรงว่าหลังจากนี้ก็ไม่มีคำพูดดีๆ รอเยว่อี้อยู่แน่
จื่อจินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกมายืนอยู่ด้านหน้าเยว่อี้ เผชิญหน้ากับจูเก๋ออินที่มีเจตนาร้าย
“จ้าวตำหนักน้อยจูเก๋อ ตอนนี้ทุกคนกำลังประลองฝีมือกันอยู่ ท่านเป็นถึงจ้าวตำหนักน้อยของตำหนักมังกรสวรรค์ มาเปิดเผยความลับส่วนตัวของคนอื่นเช่นนี้ดูจะไม่เหมาะสมเท่าไรนะ!”
ตอนที่ 1694 เจตนาร้าย (2)
จูเก๋ออินมองจื่อจินที่จู่ๆ ก็กระโจนเข้ามา แล้วยิ้มเยาะที่มุมปาก ”ไม่เหมาะสม แม่นาง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่อยากเตือนเยว่อี้เท่านั้น ด้วยนิสัยของผู้อาวุโสเยว่ ถ้าเขารู้ว่า ’หลานชายบุญธรรม’ ของเขาเลี่ยงการประลองอย่างคนขี้ขลาดในตอนที่สิบสองตำหนักรวมตัวกันและทำให้ตำหนักเงาจันทราต้องเสียหน้า ผู้อาวุโสเยว่คงไม่ปล่อยเยว่อี้ไปง่ายๆ แน่ ถ้าเยว่อี้ไม่ระวังก็อาจจะต้องเดินตามรอยเท้าของพวกเด็กๆ ที่หายตัวไป แล้วมันจะดีอย่างไร”
“เราคงไม่รบกวนท่านให้ต้องเป็นกังวลหรอก!” จื่อจินมองจูเก๋ออินอย่างระแวง กระทั่งนางก็ยังรู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูที่จูเก๋ออินมีต่อพวกเขา
จูเก๋ออินมองจื่อจิน แต่ไม่คิดจะเสียเวลาพูดกับนางอีก เป้าหมายของเขาคือเยว่อี้มาตั้งแต่แรก
“ข้าต้องกังวลหรือไม่ เยว่อี้ เจ้าน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ นิสัยใจคอของปู่เจ้าไม่ได้ดีอะไรเลยใช่หรือไม่เล่า ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะได้ลิ้มรส ’ความห่วงใยใส่ใจ’ ของเขามาแล้วไม่น้อย คงไม่อยากลองอีกครั้งหรอกกระมัง”
คำพูดแปลกๆ ของจูเก๋ออินและน้ำเสียงที่แปลกประหลาดนั่นทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดของเขา พวกผู้เยาว์ที่กำลังสนใจการประลองบนเวที ตอนนี้ก็ถูกดึงดูดความสนใจมาตรงนี้แล้ว ฝูงชนที่อยู่รอบๆ เยว่อี้ จื่อจิน และจูเก๋ออินก็พากันหูผึ่งอยากฟังข่าวที่น่าสนใจนี้
ท่ามกลางพวกผู้เยาว์จอมสอดรู้สอดเห็นทั้งหลาย ก็มีใครบางคนกำลังหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาแทนเยว่อี้และจื่อจิน
เฟยเยียนเห็นสถานการณ์ตอนนี้ก็รู้ว่าแย่แน่แล้ว จูเก๋ออินเอาความโกรธที่ถูกกู่ซินเยียนเมินไปลงที่ตำหนักเงาจันทรา ถ้าเป็นคนอื่นเฟยเยียนก็คงเพิกเฉยได้ แต่อีกฝ่ายดันเป็นคนที่มาตำหนักจิงหงพร้อมกับจวินอู๋เสียนี่สิ
จูเก๋ออินทำตัวสุภาพอ่อนโยนแค่ภายนอกเท่านั้น จิตใจของเขาทั้งคับแคบและชั่วร้าย แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ต้องแก้แค้น ตอนที่เฟยเยียนอยู่ในตำหนักมังกรสวรรค์ เขาเห็นจูเก๋ออินสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกศิษย์ที่ขัดหูขัดตาเขาด้วยวิธีการที่ค่อนข้างโหดร้าย ตอนนี้จูเก๋ออินเริ่มหาเรื่องเยว่อี้กับจื่อจินแล้ว เกรงว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ แน่!
เฟยเยียนขบกรามแน่น ด้วยสถานะของเขาก็อาจจะเข้าไปห้ามปรามได้บ้าง แต่จูเก๋ออินไม่ใช่คนที่จะห้ามได้ง่ายๆ อย่างนั้น เขาอดมองไปยังสหายคนอื่นๆ ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนไม่ได้ และบนใบหน้าของพวกเฉียวฉู่ เขาก็เห็นความกังวลแบบเดียวกัน
สถานการณ์วันนี้ พวกเขาออกหน้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันจะทำลายแผนการใหญ่ที่ให้พวกเขาแฝงตัวอยู่ในแต่ละตำหนักลง!
ในขณะนั้น เฟยเยียนทำได้แค่ถอยไปด้านหลังของฝูงชนเพื่อซ่อนตัวอยู่ในมุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ก่อนจะหยิบเอาแผ่นหยกที่ซ่อนไว้ออกมา
อีกด้านหนึ่ง คำพูดที่ก้าวร้าวเอาแต่ใจของจูเก๋ออินทำให้เยว่อี้หน้าซีดขาวราวกระดาษ คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจความนัยในคำพูดของจูเก๋ออิน แต่สำหรับเยว่อี้ คำพูดชั่วๆ ที่เต็มไปด้วยความนัยพวกนั้น ทุกคำเป็นเหมือนมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของเขา ความเข้มแข็งที่เขาพยายามอดทนมาเป็นสิบปีก็ค่อยๆ ถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ
“เออ ใช่! เยว่อี้ เจ้ามีน้องสาวด้วยไม่ใช่หรือ ถูกผู้อาวุโสเยว่รับเลี้ยงไว้เหมือนเจ้าใช่หรือไม่” จูเก๋ออินพูดอย่างชั่วร้าย เขามองใบหน้าที่ซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ ของเยว่อี้ด้วยความพอใจ ชื่นชมลูกแกะที่รอการสังหาร
สวะต่ำต้อยเช่นนี้ ถึงจะเกิดมาหน้าตาดี แต่ก็ยังเป็นได้แค่สวะไร้ประโยชน์
เขาจะให้กู่ซินเยียนรู้ว่า ไอ้คนจากตำหนักเงาจันทรานี่ ไม่มีค่าพอจะถือรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ!
พอเยว่อี้ได้ยินคำว่า ’น้องสาว’ เขาก็ตัวแข็งทื่อทันที
จูเก๋ออินต้องรู้ใบหน้าที่แท้จริงของผู้อาวุโสเยว่แน่ ทุกคำพูดที่ซ่อนความนัยของเขาราวกับกำลังเตือนเยว่อี้ว่า หากไม่ทำ ความจริงที่รับไม่ได้นั่นจะถูกเปิดเผยออกมาต่อหน้าทุกคน