ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1769 ตำหนักเงาจันทรา (3) / ตอนที่ 1770 เยว่เย่ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1769 ตำหนักเงาจันทรา (3) / ตอนที่ 1770 เยว่เย่ (1)
ตอนที่ 1769 ตำหนักเงาจันทรา (3)
หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ พวกเขาก็ปล่อยให้รถม้าผ่านเข้าไปทันที
เมื่อรู้ว่าคณะที่ส่งไปร่วมงานฉลองวันเกิดกลับมา จ้าวตำหนักหยกวิญญาณและเหล่าผู้อาวุโสก็ออกมาที่ห้องโถงของตำหนัก แต่เมื่อพวกเขาเห็นเยว่อี้และจวินอู๋เสียยืนอยู่ในห้องโถง สีหน้าของพวกเขาก็แปลกไปเล็กน้อย
สำหรับการเดินทางไปตำหนักจิงหงเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดครั้งนี้ ตำหนักเงาจันทราได้ส่งคนออกไปไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าตอนกลับมาจะเหลือคนอยู่แค่สองคน และยังกลับมาเร็วกว่าที่คาดไว้สองสามวันด้วย
“เยว่อี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ด้านล่างขวาของจ้าวตำหนักถามขึ้น เขาขมวดคิ้วมองใบหน้าซีดขาวของเยว่อี้
เยว่อี้คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น และก้มหน้าพูดว่า ”เรียนท่านจ้าวตำหนัก เกิดเรื่องขึ้นที่ตำหนักจิงหงทำให้งานฉลองวันเกิดต้องหยุดกลางคัน นอกจากนั้นความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ทำให้ศิษย์จำนวนมากบาดเจ็บ ตอนนี้มีเพียงข้าและฉางฮวนเท่านั้นที่กลับมาได้อย่างปลอดภัย”
“เกิดเรื่องที่ตำหนักจิงหงอย่างนั้นหรือ เรื่องอะไร” เหล่าผู้อาวุโสในตำหนักมีสีหน้าประหลาดใจ
งานฉลองวันเกิดกลายเป็นความหายนะได้อย่างไร
ไม่เพียงงานเลี้ยงวันเกิดจะจบลงก่อนเวลาเท่านั้น แต่กระทั่งศิษย์ของตำหนักเงาจันทราก็ติดร่างแหไปด้วยอย่างนั้นหรือ
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ทุกคนรู้สึกสงสัยอย่างมาก
เยว่อี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตำหนักจิงหงให้ทุกคนในตำหนักเงาจันทราฟัง
เมื่อได้ฟัง สีหน้าของทุกคนก็บิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
“จ้าวตำหนักน้อยตำหนักมารโลหิตฆ่าจูเก๋ออินจริงๆ หรือ” ผู้อาวุโสเยว่ขมวดคิ้วถาม เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในสิบสองตำหนัก ตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์ต่างก็มีพลังที่แข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าทั้งสองตำหนักอาจจะร่วมมือกัน แต่ไม่มีใครคิดว่าหลังจากงานฉลองวันเกิดที่ตำหนักจิงหง เรื่องจะกลับตาลปัตรแบบนี้
“จากที่เจ้าพูดมา ศิษย์ของตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์ได้วิวาทต่อสู้กันแล้วทำให้ศิษย์ของเราโดนลูกหลงไปหลายคนอย่างนั้นหรือ” ชายชราอีกคนขมวดคิ้วมองเยว่อี้
“ขอรับ” เยว่อี้พยักหน้า
ชายชราคนนั้นหันไปมองจวินอู๋เสียที่อยู่ข้างๆ
“ฉางฮวน เจ้าพูดมาสิ”
จวินอู๋เสียรู้ทันทีว่าชายชราคนนี้อาจจะเป็นผู้อาวุโสอิ่งที่เยว่อี้เล่าให้ฟัง
“ที่ศิษย์พี่เยว่อี้เล่ามาเป็นความจริงขอรับ สถานการณ์ตอนนั้นวุ่นวายโกลาหลมาก ตำหนักจิงหงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พวกเขาขอให้ทุกคนจากตำหนักต่างๆ กลับไปก่อน” จวินอู๋เสียตอบผู้อาวุโสอิ่งให้สอดคล้องกัน
ในใจของผู้อาวุโสอิ่งยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่ผู้อาวุโสเยว่ก็พูดขึ้นว่า ”เรื่องความขัดแย้งระหว่างตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรา ในเมื่อเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ของตำหนักจิงหง ตามหลักเหตุผลแล้วตำหนักจิงหงต้องให้คำตอบแก่ทุกตำหนัก ทำไมศิษย์ที่เราส่งไปร่วมอวยพรวันเกิดที่นั่นถึงได้เสียชีวิตในตำหนักโดยไม่มีเหตุผลที่ดี ข้าเห็นว่าเยว่อี้ทำดีที่สุดแล้ว และยังได้รับบาดเจ็บหนักกลับมาด้วย ขอท่านจ้าวตำหนักอนุญาตให้เขาไปรักษาตัวก่อนได้หรือไม่”
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณที่นั่งอยู่ในห้องโถงพยักหน้า เขามองจวินอู๋เสียและเยว่อี้ จากนั้นก็พูดว่า ”เอาล่ะ ทางตำหนักจะจัดการเรื่องต่อจากนี้เอง เจ้าสองคนไปพักผ่อนเถอะ”
จวินอู๋เสียกับเยว่อี้พยักหน้าและเดินออกไปจากห้องโถง
เยว่อี้พาจวินอู๋เสียไปที่ห้องของฉางฮวน พวกเขาพบศิษย์ของตำหนักเงาจันทราระหว่างทางจำนวนมาก ตอนแรกศิษย์พวกนั้นก็เดินหัวเราะกันอยู่ แต่พอเห็นเยว่อี้กับฉางฮวน รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็จางหายไป และหลีกทางให้ราวกับพยายามหลีกเลี่ยง
เยว่อี้กับ ‘ฉางฮวน’ ไม่ได้สนิทสนมกัน ดังนั้น หลังจากพาจวินอู๋เสียไปที่ห้องของฉางฮวนแล้ว เยว่อี้ก็จากไปทันที
ตอนที่ 1770 เยว่เย่ (1)
ภายในห้อง จวินอู๋เสียกวาดตามองสำรวจห้องของฉางฮวนอย่างรวดเร็ว มันสะอาดและเป็นระเบียบมาก นางนั่งลงที่โต๊ะและเจ้าแมวดำก็กระโดดลงบนโต๊ะอย่างเงียบๆ
“ข้ารู้สึกได้ว่าท่านราชาปีศาจผู้นั้นอยู่ใกล้ๆ” เจ้าแมวดำทำจมูกฟุดฟิด พวกจวินอู๋เย่าถูกจวินอู๋เสีย ‘ทอดทิ้ง’ และไม่อนุญาตให้เข้ามาในตำหนักเงาจันทราด้วยกัน แต่ตำหนักแห่งนี้ก็เหมือนกับสวนในบ้านของจวินอู๋เย่า แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นว่าจวินอู๋เย่าอยู่ที่ไหน แต่เจ้าแมวดำก็แน่ใจอย่างถึงที่สุดว่าจวินอู๋เย่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
จวินอู๋เสียพยักหน้า แต่ในใจคิดเรื่องอื่นอยู่
ก่อนมาที่ตำหนักเงาจันทรา เยว่อี้เคยบอกว่าสุขภาพของจ้าวตำหนักเงาจันทราไม่ค่อยดี เมื่อสักครู่ที่จวินอู๋เสียอยู่ในห้องโถงของตำหนัก นางได้แอบสังเกตอาการของจ้าวตำหนักเงาจันทราแล้ว จ้าวตำหนักเงาจันทรายังไม่ถือว่าแก่มากนัก เทียบกับผู้อาวุโสหลายคนที่นั่นแล้ว เขายังถือว่าหนุ่มอยู่ แต่สีหน้าของเขาซีดขาวมาก ริมฝีปากแห้งกรัง ถุงใต้ตาดำคล้ำ แววตาว่างเปล่า ดูเหมือนจะมีอาการของโรคลมปราณและโลหิตพร่อง ดูท่าทางไม่ค่อยสบาย
แต่จวินอู๋เสียสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ จากประสบการณ์ของนาง อาการของจ้าวตำหนักเงาจันทราไม่ใช่แค่สุขภาพไม่ดี แต่เหมือน…โดนวางยาพิษมากกว่า
“ชักน่าสนใจขึ้นมาแล้ว วางยาพิษจ้าวตำหนัก ผู้อาวุโสสองคนที่ภายนอกดูสงบแต่แอบสู้กันอยู่ลับๆ…ตำหนักเงาจันทรานี่น่าสนุกจริงๆ…” จวินอู๋เสียลูบคาง ท่าทางตำหนักเงาจันทราจะไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เยว่อี้บอกนาง สิ่งที่เยว่อี้รู้ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ผู้อาวุโสเยว่บอกเขา ถ้าผู้อาวุโสเยว่ไม่ได้บอก เยว่อี้ก็คงไม่รู้
ขณะที่จวินอู๋เสียกำลังครุ่นคิดถึงปัจจัยต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในตำหนักเงาจันทรา เยว่อี้ก็กลับมาถึงห้องของเขาแล้ว มองดูห้องที่คุ้นเคยอีกครั้ง สีหน้าของเยว่อี้ไม่ได้ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ในห้องและไม่ได้นั่งลง หลังจากรออยู่พักหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูที่ด้านนอก
เมื่อเดินไปเปิดประตู ก็เห็นศิษย์ของตำหนักเงาจันทราคนหนึ่งยืนอยู่
“ศิษย์พี่เยว่อี้ ผู้อาวุโสเยว่เรียกให้ไปพบ”
เยว่อี้พยักหน้า เขาชินกับเรื่องนี้แล้ว เด็กหนุ่มรีบไปที่ห้องของผู้อาวุโสเยว่โดยที่ยังไม่ได้พักผ่อนเลย
เยว่อี้ยืนอยู่นอกห้องของผู้อาวุโสเยว่ มือของเขาเหงื่อออกไม่หยุด ฝันร้ายแบบไหนที่ซ่อนอยู่หลังประตูบานนี้ เขาเท่านั้นที่รู้ดี
“เย่เอ๋อร์นี่เป็นเด็กดีจริงๆ” เสียงทุ้มของผู้อาวุโสเยว่ดังมาจากด้านหลังประตู
“ท่านปู่ แบบนี้สบายหรือไม่คะ” เสียงอ่อนโยนของเด็กหญิงดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงนั้น เยว่อี้ก็เย็นวาบไปทั้งตัว!
เยว่อี้ผลักประตูเข้าไปทันที และเห็นเด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่มัดผมทรงซาลาเปาสองข้างนั่งอยู่บนม้านั่งเตี้ยๆ นางกำลังนวดขาให้ผู้อาวุโสเยว่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หัวใจของเยว่อี้ก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
“ท่านพี่!” เมื่อเห็นเยว่อี้ปรากฏตัว ใบหน้าเล็กๆ ก็สดใสขึ้นทันทีพร้อมด้วยรอยยิ้มแสนหวาน นางวิ่งไปหาเยว่อี้อย่างดีอกดีใจและกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของเยว่อี้
“ท่านพี่กลับมาแล้ว! เย่เอ๋อร์คิดถึงท่านพี่ม๊ากมาก” เยว่เย่เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเยว่อี้
เยว่เย่หน้าเหมือนเยว่อี้มาก แค่ไม่มีความหล่อแบบเด็กหนุ่ม แต่กลับมีความไร้เดียงสาและสดใสของเด็กหญิงแทน เมื่อร่างนั้นกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของเยว่อี้ เยว่อี้ก็รู้สึกเหมือนเขาได้กอดโลกทั้งใบไว้ในอ้อมแขน