ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1775 เยว่เย่ (6) / ตอนที่ 1776 การต่อสู้และกลอุบาย (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1775 เยว่เย่ (6) / ตอนที่ 1776 การต่อสู้และกลอุบาย (1)
ตอนที่ 1775 เยว่เย่ (6)
จวินอู๋เสียยืนมองกลุ่มเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น ความเจ็บและความตกใจทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
พลังวิญญาณขั้นสีม่วง
นั่นคือพลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ในบรรดาศิษย์รุ่นใหม่ของตำหนักเงาจันทรา คนที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงก่อนอายุยี่สิบปีมีเพียงเยว่อี้คนเดียวเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงแม้คนจะไม่ชอบเยว่อี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขา
แต่วันนี้ ตรงหน้าพวกเขากลับมีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปีปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
และคนผู้นั้นก็เป็นคนที่พวกเขาดูถูกมากที่สุด ฉางฮวน!
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับพวกเด็กหนุ่มและเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้!
“อะไร เจ็บใจมากหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วมองพวกเด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้น ชื่นชมสีหน้าตกใจและเจ็บปวดของพวกเขา
นางไม่สนว่าฉางฮวนเป็นคนแบบไหน และไม่อยากใส่ใจว่าในอดีตฉางฮวนเป็นอย่างไร สิ่งเดียวที่นางต้องการคือทำให้ชื่อ ‘ฉางฮวน’ เป็นตัวตนที่ตำหนักเงาจันทราไม่อาจมองข้ามได้ มีแต่ทำเช่นนั้นนางจึงจะสามารถเข้าสู่จุดศูนย์กลางของอำนาจในตำหนักเงาจันทราได้ เพื่อจะได้มีโอกาสส่งตำหนักเงาจันทราอันเน่าเฟะนี้ไปลงนรก!
เมื่อโดนสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียกวาดมอง เด็กหนุ่มทุกคนก็รู้สึกราวกับโลหิตในร่างกายกำลังจะแข็งตัว พวกเขาพากันส่ายหน้าตัวสั่นงันงก ไม่กล้าพูดกับจวินอู๋เสียอีกแม้แต่คำเดียว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบฉางฮวน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าหาเรื่องผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ระดับพลังสูงสุดในหมู่พวกเขาก็แค่พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงิน ทั้งกลุ่มรวมกันก็ยังสู้จวินอู๋เสียที่ใช้นิ้วเดียวไม่ได้!
“พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ” ขณะที่พวกเด็กหนุ่มกำลังกลัวจนสติเตลิดอยู่นั้น เสียงไร้เดียงสาของเด็กก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา
จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไปเมื่อได้ยินเสียงนั้น และเห็นเด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งพันตัวด้วยเสื้อคลุมยืนอยู่ในเรือนอย่างขลาดกลัว นางมีใบหน้างดงามและดูเหมือนเยว่อี้มาก หน้าตาของเยว่อี้โดดเด่นอยู่แล้ว และหน้าตาของเด็กหญิงคนนี้เหมือนกับเยว่อี้มาก แต่งดงามในแบบที่อ่อนโยนมากกว่า ผมของเด็กหญิงคนนี้ยังมีน้ำหยดอยู่ เท้าเปล่าของนางเหยียบอยู่บนแผ่นหินเย็นๆ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสงสัย
นี่คือเยว่เย่ น้องสาวของเยว่อี้อย่างนั้นหรือ
จวินอู๋เสียรู้ตัวตนของเยว่เย่ได้อย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้าบาดเจ็บหรือ ข้าจะไปตามผู้รักษามานะ!” เมื่อเยว่เย่เห็นพวกเด็กหนุ่มนอนกระอักโลหิตอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางก็แสดงความกังวลออกมา นางกำลังจะวิ่งออกไป จวินอู๋เสียก็ยื่นมือออกมาหยุดนางไว้
เมื่อเด็กหญิงขี้อายเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสีย นางก็หดคอลงโดยไม่รู้ตัว
“พวกเขาไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องตามผู้รักษาหรอก” แม้ว่าจวินอู๋เสียจะพูดกับเยว่เย่ แต่ดวงตาของนางเลื่อนไปมองพวกเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น
เจอสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียกวาดมองมาครั้งเดียว พวกเด็กหนุ่มก็เริ่มตัวสั่นทันทีราวกับลูกนกที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนต่างรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่แล้ว แต่ก็ต้องฝืนยิ้มออกมา ทำให้พวกเขาดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม พวกเขาพากันร้องบอกเยว่เย่ว่า ”ไม่เป็นไร…พวกเราไม่เป็นไร พวกเราสบายดี…ฮ่าๆ…พวกเราแค่ซ้อมมือกับศิษย์น้องฉางฮวนเล่นๆ เท่านั้น…”
เมื่อเห็นจวินอู๋เสียละสายตากลับไป พวกเด็กหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกทันที จิตใจของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว พวกเขาทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาโดนแบบนี้
อะไรเข้าสิงฉางฮวนกันแน่ เขาถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังกลับมาจากตำหนักจิงหง…
ตอนที่ 1776 การต่อสู้และกลอุบาย (1)
“พวกเจ้าไม่เป็นไรแน่นะ” เยว่เย่ยังคงมองพวกเด็กหนุ่มอย่างไม่วางใจ
พวกเด็กหนุ่มแทบจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเยว่เย่
แม่นางน้อย! ถึงเป็นพวกเราก็ไม่กล้าพูดหรอก! ขอร้องล่ะ อย่าถามอีกได้หรือไม่ เจ้าไม่เห็นแววตาที่จ้องจะฆ่าพวกเราของเจ้ามารร้ายที่อยู่ข้างๆ เจ้าเลยเรอะ
พวกเราอยากถูกลืมแล้ว อย่าสนใจพวกเราอีกเลย…ขอร้องล่ะ!
“ไม่เป็นไร สบายดีมากๆ” พวกเด็กหนุ่มกลัวอย่างมากว่าจะถูกจวินอู๋เสียทำร้ายอีกครั้ง จึงพยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะเจ็บแทบตายก็ตาม พวกเขายังต้องฝืนยิ้มบิดๆ เบี้ยวๆ ขณะช่วยกันตะเกียกตะกายออกไปให้ห่างจากสายตาของเยว่เย่และจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียมองดูเด็กหนุ่มพวกนั้นหลบหนีไปอย่างน่าอนาถแล้วเลิกคิ้วขึ้น
“พี่ฉางฮวน” ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นางหันหน้าไปและพบว่าเยว่เย่กำลังดึงเสื้อผ้าของนาง
“หืม” อาจเป็นเพราะเยว่เย่คือน้องสาวของเยว่อี้ จวินอู๋เสียจึงไม่ได้เย็นชากับเยว่เย่มากนัก
“พี่ฉางฮวนก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหรือ” เยว่เย่เอียงคอถาม นางมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าสับสน
“อืม” จวินอู๋เสียพยักหน้า
“ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงแข็งแกร่งมากใช่หรือไม่ เหมือนพี่ชายของข้า เขาก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง…แต่…ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บ พี่ฉางฮวนรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้ากังวล แม้ว่าเยว่อี้จะบอกนางว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บมาก แต่เยว่เย่เห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ดีเลย เห็นชัดๆ เลยว่าเขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ
“ไม่มีอะไรมากหรอก” จวินอู๋เสียรู้ว่าเยว่อี้ห่วงใยน้องสาวของเขามากแค่ไหน นางรู้ว่าเยว่อี้ไม่อยากให้เยว่เย่รู้ถึงความมืดดำของโลกใบนี้ นางจึงไม่บอกอะไรเยว่เย่มากนัก
เยว่เย่อ้าปากเหมือนกำลังจะถามต่อ แต่นางก็เห็นผู้อาวุโสเยว่เดินนำศิษย์กลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาหาจวินอู๋เสียด้วยสีหน้ามืดมน เยว่อี้ก็เดินตามหลังผู้อาวุโสเยว่มาด้วยเช่นกัน เขาเดินอยู่ข้างหลังกลุ่ม เมื่อเห็นจวินอู๋เสียและเยว่เย่ยืนอยู่ข้างกัน สายตาของเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งสายตาเตือนให้จวินอู๋เสียอย่างรวดเร็วก่อนจะละสายตาออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉางฮวน” ผู้อาวุโสเยว่เดินเข้ามาหาจวินอู๋เสีย เมื่อเขาเห็นแสงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อยู่รอบๆ ตัวจวินอู๋เสียซึ่งกำลังสลายไปพอดี ดวงตาของเขาก็ทอประกายมุ่งร้ายออกมา
เป็นไปได้อย่างไร!
เจ้าเด็กนี่กลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงตั้งแต่เมื่อไร
ผู้อาวุโสเยว่รู้สึกตกใจเล็กน้อย
“ขอรับ” จวินอู๋เสียขานรับอย่างเฉยเมย
ท่าทางเฉยเมยไม่แยแสนั่นทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสเยว่ยิ่งไม่น่าดูมากขึ้น
“เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป” ผู้อาวุโสเยว่ถามเสียงเย็นชา
“โอ้ ข้าทำอะไรไปอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
ผู้อาวุโสเยว่ส่งเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา ”ในตำหนักเงาจันทรา ห้ามศิษย์ต่อสู้กันเองอย่างเด็ดขาด เจ้ารู้แต่ก็ยังทำ ตอนนี้ศิษย์หลายคนได้รับบาดเจ็บกลางวันแสกๆ ความผิดนี้ของเจ้าควรลงโทษอย่างไร!”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงมองผู้อาวุโสเยว่ที่เตรียมตัวมา อารมณ์เย็นชาเกิดขึ้นในใจนาง
ผู้อาวุโสเยว่มาถึงที่นี่เร็วเกินไป เด็กหนุ่มพวกนั้นเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ผู้อาวุโสเยว่ก็พาคนมาที่นี่แล้ว ถ้าบอกว่าผู้อาวุโสเยว่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ‘ข้อตกลงของฉางฮวน’ กับเด็กหนุ่มพวกนั้น จวินอู๋เสียจะไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
ดูจากกลุ่มคนที่เขาพามา ผู้อาวุโสเยว่ต้องวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่ต้น!
จวินอู๋เสียไม่คิดเลยว่านางเพิ่งมาถึงตำหนักเงาจันทราแท้ๆ ก็ได้เจอกับการแสดงที่น่าสนุกเช่นนี้!