ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 185 การประชันกันอย่างลับๆ (3) ตอนที่ 186 การประชันกันอย่างลับๆ (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 185 การประชันกันอย่างลับๆ (3) ตอนที่ 186 การประชันกันอย่างลับๆ (4)
ตอนที่ 185 การประชันกันอย่างลับๆ (3)
เมื่อมั่วเฉี่ยนยวนเคาะประตู คนที่ยืนอยู่ในห้องนั้นคือขันทีตัวน้อยที่มีใบหน้างดงาม
มั่วเฉี่ยนยวนหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง บ่าวรับใช้ของตำหนักหลินยวนเขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง แต่เขาไม่คุ้นกับใบหน้าของขันทีตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย
“พวกเขาเชื่อหรือไม่” ขันทีน้อยมองฮ่องเต้ที่ประทับอยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทันทีที่เขาพูดออกมา ก็ทำให้ใบหน้าของคนที่อยู่ตรงข้ามประหลาดใจไม่น้อย
“อู๋เสีย?!” มั่วเฉี่ยนยวนมองจวินอู๋เสียที่เปลี่ยนไปเป็นอีกคนด้วยความประหลาดใจ หากไม่ใช่เพราะน้ำเสียงนั้น เขาก็ไม่สามารถนำขันทีน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขามาเชื่อมโยงกันกับจวินอู๋เสียได้จริงๆ
รูปร่างและลักษณะของใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ใดจะสามารถคาดเดาได้!
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เจ้ากลายเป็น…แบบนี้ได้อย่างไร” มั่วเฉี่ยนยวนจ้องนางเขม็ง
“พวกเขาเชื่อคำพูดของไป๋อวิ๋นเซียนหรือไม่” จวินอู๋เสียกล่าวถามออกมาโดยไม่ใส่ใจต่อความประหลาดใจของมั่วเฉี่ยนยวน
“พวกเขาเชื่อ และสีหน้าที่พวกเขาแสดงออกมามันน่าทึ่งมาก” เมื่อมั่วเฉี่ยนยวนคิดถึงสีหน้าของเจียงเฉินชิงผู้หยิ่งผยองและเสแสร้งหลังจากได้ยิน ‘เหตุผล’ ของไป๋อวิ๋นเซียนแล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก
“พวกเขาตกลงรักษามั่วเซวี่ยนเฝ่ยหรือไม่” จวินอู๋เสียกล่าวถามอีกครั้ง
“ตกลงแล้ว แม้ว่าเจียงเฉินชิงคนนั้นจะเป็นคนไม่ดี แต่ฉินอวี่เยียนคุณหนูใหญ่ของพวกเขาดูน่าเชื่อถือมาก ข้าก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะตกลงจริงๆ” ฉินอวี่เยียนเป็นคนเดียวของสำนักชิงอวิ๋นที่มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกว่าเจริญตาที่สุด
จวินอู๋เสียเหลือบมองมั่วเฉี่ยนยวนและกล่าวว่า “ข้าจะดูพวกเขารักษามั่วเซวี่ยนเฝ่ยด้วยตนเอง”
มั่วเฉี่ยนยวนผงะไปครู่หนึ่ง และเข้าใจทันทีว่าเพราะเหตุใดจวินอู๋เสียจึงต้องปลอมตัว ฐานะและใบหน้าของนางไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏตัวที่นั่น แต่ถ้านางปลอมตัวเป็นขันทีธรรมดาแล้วถูกจัดให้อยู่ในวังหลวงก็ไม่มีผู้ใดสังเกต
“เจ้ากลัวว่าพวกเขาจะตรวจพบพิษในร่างกายของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยหรือ”
จวินอู๋เสียส่ายหัว “ข้ามั่นใจ แต่ที่ตามไปดูก็เพราะอยากรู้จักสำนักชิงอวิ๋นให้มากขึ้น”
แม้ว่านางจะไม่ค่อยรู้จักสำนักชิงอวิ๋น แต่ดูจากความสามารถของไป๋อวิ๋นเซียนและหมอคนอื่นๆ ในวังหลวงแล้ว นางก็สามารถคาดเดาได้ว่าฝีมือการรักษาของนางกับคนที่นี่แตกต่างกันมาก ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นยารักษาหรือยาพิษล้วนใช้ยาขั้นพื้นฐานมาเป็นรากฐาน นี่เป็นวิธีเริ่มแรกของการรักษาในแพทย์แผนจีน แต่ในโลกที่จวินอู๋เสียเคยอาศัยอยู่ อย่าว่าแต่ผลของยาสมุนไพรเลย แม้แต่ยีนก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่ไม่มีห้องทดลอง เกรงว่าสิ่งที่นางสามารถทำออกมาได้จะเกินจินตนาการของทุกคน
ความแตกต่างในฝีมือการรักษาทำให้หมอที่นี่ไม่อาจเทียบกับจวินอู๋เสียได้เลย
ยาพิษที่นางให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียนกลืนเข้าไป นอกจากจะทำให้พวกเขาเน่าเปื่อยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำลายเซลล์ในร่างกายของพวกเขา และทำให้เซลล์ที่ซ่อมแซมตนเองและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสูญเสียความสามารถของพวกมันไป ขอแค่มีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถลุกลามต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สามารถรักษาให้หายได้ ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้จึงทำให้จุดที่เสียหายขยายออกไปเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับส่วนผสมในยาพิษ ทำให้ผลที่น่ากลัวนั้นวนเวียนไปมาในร่างกายคนอย่างต่อเนื่อง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คนในโลกนี้สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนด้วยการจับชีพจร หากไม่มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง มันก็เป็นเพียงฝันกลางวันเท่านั้นที่พวกเขาจะพบร่องรอยของพิษในร่างกายของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียน
หากคนของสำนักชิงอวิ๋นต้องการเทียบฝีมือกับจวินอู๋เสียหมออัจฉริยะที่มาจากโลกปัจจุบันนั้นถือว่าเด็กเกินไปจริงๆ
ตอนที่ 186 การประชันกันอย่างลับๆ (4)
มั่วเฉี่ยนยวนไม่รู้ความลับเหล่านี้ของจวินอู๋เสีย เขารู้เพียงว่าฝีมือการักษาของจวินอู๋เสียเหนือกว่าทุกคนที่เขาเคยเห็น ชีวิตของเขาก็เป็นจวินอู๋เสียที่ช่วยไว้ ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจจวินอู๋เสียอย่างไม่มีเงื่อนไข
“เรื่องที่ให้เจ้าไปอยู่ที่นั่นนั้นไม่มีปัญหา แต่หลังจากเจ้าไปอยู่ที่นั่นเจ้าต้องระวังตัวเองให้ดี แม้ว่าพลังวิญญาณของฉินอวี่เยียนจะไม่สูง แต่เจียงเฉินชิงที่อยู่ข้างๆ นางนั้นแข็งแกร่งมาก”
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นางกล่าวถามว่า “ไป๋อวิ๋นเซียนเป็นคนเอ่ยปากขอร้องให้พวกเขารักษามั่วเซวี่ยนเฝ่ยหรือไม่”
มั่วเฉี่ยนยวนส่ายหัวทันที “ไม่ใช่ เดิมทีข้าตั้งใจจะพูดกับพวกเขาในงานเลี้ยง ให้พวกเขารักษาให้ดูเป็นพิธี จริงๆ แล้ว…ข้าคิดว่าต่อให้ข้าไม่พูด ไป๋อวิ๋นเซียนก็คงไม่ปล่อยโอกาสนี้ หากไม่ได้รับคำตอบจากคนอื่นๆ ในสำนักชิงอวิ๋น นางก็คงไม่สิ้นหวัง ก่อนจะแน่ใจว่าสำนักชิงอวิ๋นไม่สามารถแก้พิษได้ นางทำได้เพียงแค่เชื่อฟังเท่านั้น ข้าคิดว่าแม้ว่าข้าไม่ได้พูด นางก็คงพยายามหาทุกวีถีทางเพื่อให้ฉินอวี่เยียนและคนอื่นๆ รักษามั่วเซวี่ยนเฝ่ยเพื่อที่นางจะได้รู้ว่านางสามารถกลับคำได้หรือไม่”
หลังจากหยุดพูดไปชั่วครู่ มั่วเฉี่ยนยวนก็กล่าวต่อว่า “แต่ไม่คาดคิดว่าข้ากับไป๋อวิ๋นเซียนยังไม่ทันเอ่ยอะไรเลย คนของสำนักชิงอวิ๋นก็ตกลงแล้ว”
ท่าทีของสำนักชิงอวิ๋นในการตกลงว่าจะช่วยชีวิตคนนั้นเด็ดขาดเกินไปหรือไม่
แม้ว่ามั่วเฉี่ยนยวนจะมีความประทับใจที่ดีต่อฉินอวี่เยียน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านี่ไม่เหมือนกับวิถีของสำนักชิงอวิ๋นเลย
ถูกลูกศิษย์คนหนึ่งทำให้เสียหน้า ไม่เพียงแต่ไม่โมโหยังตกลงที่จะรักษามั่วเซวี่ยนเฝ่ยอย่างใจดี นี่ไม่ใช่วิถีของสำนักชิงอวิ๋นเลย
“ก่อนที่พวกเขาจะตกลง ข้าเห็นอย่างชัดเจนว่าเจียงเฉินชิงโมโหจนตัวสั่นไปหมด ข้าคิดว่าเขาจะโมโหจนระเบิดออกมาแล้ว แต่ไม่คิดว่าฉินอวี่เยียนจะตอบตกลงในทันที”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางไม่อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เดิมทีนางคิดว่าที่สำนักชิงอวิ๋นตอบตกลงรักษานั้นเป็นเพราะการรบเร้าของไป๋อวิ๋นเซียน แต่สถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างไปจากที่นางคาดไว้อย่างสิ้นเชิง
คงจะไร้สาระมากถ้าจะบอกว่าสำนักชิงอวิ๋นมีท่าทีและความคิดว่าการช่วยเหลือชีวิตคนเป็นกุศล
ยิ่งมีผู้บาดเจ็บมากมายนับไม่ถ้วนที่เสียชีวิตอยู่ใต้ภูเขาสำนักชิงอวิ๋น ก็ไม่เคยเห็นว่าสำนักชิงอวิ๋นจะยื่นมือออกมาช่วยใครสักคน พวกเขาไม่เคยเสียเวลากับคนที่ไม่มีค่าสำหรับพวกเขา
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐชีและสำนักชิงอวิ๋นนั้นไม่ได้แน่นแฟ้นเยี่ยงนั้น มั่วเฉี่ยนยวนได้ขึ้นครองราชย์แล้วและมั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็สูญเสียความเป็นไปได้ที่จะขึ้นครองบัลลังก์ สำนักชิงอวิ๋นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยชินอ๋องที่สูญเสียอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกศิษย์ของพวกเขาทำให้พวกเขาเสียหน้าเพียงเพราะช่วยชีวิตชินอ๋อง
ไม่ว่าจะมองอย่างไร ความเป็นไปได้ที่สำนักชิงอวิ๋นจะยอมตกลงรักษานั้นเป็นศูนย์
แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตอบตกลง
“ให้บ่าวรับใช้ในวังที่ดูแลคนของสำนักชิงอวิ๋น จับตาดูการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างลับๆ ได้ยินอะไรให้รีบมาบอกข้าทันที” จวินอู๋เสียไม่ระวังไม่ได้ ขณะนี้หากสำนักชิงอวิ๋นรู้ในสิ่งที่นางทำลงไป ไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แม้แต่จวนหลินอ๋องทุกคนก็ต้องโดนหางเลขไปด้วย
ก่อนที่นางยังไม่แข็งแกร่งพอนางจะต้องระมัดระวังในทุกย่างก้าว
“เอ่อ ไม่แน่บางทีพวกเขาอาจเกิดความเมตตาและจะจากไปในอีกไม่กี่วัน” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าว
จวินอู๋เสียเหลือบมองเขา “เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีเลศนัย”
มั่วเฉี่ยนยวนตกใจ เขาเข้าใจความกังวลของจวินอู๋เสีย “ข้าจะสั่งให้คนจับตาดูให้ดี”