ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 511 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (2) ตอนที่ 512 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 511 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (2) ตอนที่ 512 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (3)
ตอนที่ 511 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (2) / ตอนที่ 512 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (3)
ตอนที่ 511 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (2)
ฮวาเหยาปรายตามองเฉียวฉู่แวบหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความระอาใจ “เจ้าโง่หรือเปล่า”
เฟยเยียนกลอกตาอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ “ถึงเวลานั้น กระดูกแก่ๆ ของเจ้าใครหน้าไหนยังจะต้องการ ใครเสียดายกัน!”
“พี่ฮวาเสียดาย! ใช่หรือไม่พี่ฮวา” เฉียวฉู่ชำเลืองมองฮวาเหยาด้วยสายตาเทิดทูนเหมือนสุนัขรับใช้
คราวนี้ฮวาเหยาไม่แม้แต่จะมองเขา
หรงรั่วมองดูพวกเขาหัวเราะล้อเลียนกัน ระหว่างนั้นก็เอื้อมมือออกไปหยิบอาหารมาส่งให้ฟ่านจิ่น เขาพยักหน้ายิ้มขมขื่น อิจฉาความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวฉู่กับพรรคพวก แต่ก็รู้ว่าถึงที่สุดแล้วตัวเองไม่ได้เดินทางเดียวกับพวกเขา หลังจากสำนักศึกษาเฟิงหัวก่อเรื่องพวกนี้ เขามีแต่ความรู้สึกผิดและละอายใจต่อจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ความรู้สึกที่ถูกจับจ้องนั้นพลันเกิดได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้นางไม่พบเงาใดๆ เลย
และสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันถัดมา จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ เพิ่งไล่ล่าสัตว์วิญญาณระดับสูงตัวหนึ่งเสร็จ ความรู้สึกนั้นก็ผุดขึ้นมาอีก
ครั้งนี้นางไม่ได้ตามหาอีก ทว่าแอบส่งเยี่ยซาออกไป
ครั้นแล้วเมื่อเยี่ยซากลับมา จวินอู๋เสียก็ผงะเล็กน้อย
เจ้าแกะน้อยขนปุกปุยตัวป้อมๆ ที่ถูกเยี่ยซาหิ้วมา ร่างกลมดิกนั้นจ้องเป๋งมา ลักษณะเหมือนก้อนหิมะหนานุ่ม มีเขาสองข้างขดเป็นม้วนอยู่บนหัวของเจ้าแกะน้อย ดวงตาคู่โตที่มีน้ำตาคลอเบ้ากำลังจ้องมองจวินอู๋เสียเหมือนน้ำตาจะไหลมิไหลแหล่
“นี่คือ…สัตว์วิญญาณหรือ” เฉียวฉู่เบิกตากว้าง มองแกะที่มีขนาดตัวไม่ได้ใหญ่มากไปกว่าเจ้าแมวดำตัวน้อยเท่าไหร่นัก รู้สึกว่าโลกนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
เฉียวฉู่เอื้อมมือไปจิ้มตัวที่มีขนปุกปุยของแกะน้อย เจ้านั่นก็สั่นสะท้านทันที
แบ๊ะ!
จวินอู๋เสียมองตาเป็นประกาย ทว่าไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
“สัตว์วิญญาณตัวนี้ติดตามคุณหนูใหญ่มาตลอดขอรับ” เยี่ยซากล่าว
“เอ๋! แปลกจริงๆ สัตว์วิญญาณตัวเล็กขนาดนี้ น่าจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับต่ำกระมัง ระดับหนึ่ง? ตามน้องเสียมาทำไมนะ” ความนุ่มฟูทำให้เฉียวฉู่เพลิดเพลินไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เอาแต่ขยำขนของเจ้าแกะน้อยจนกระเซิงไปหมด
เจ้าแกะน้อยที่ถูกเยี่ยซาหิ้วอยู่ ถึงพยายามใช้กีบเท้าทั้งสี่ข้างดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นจากฝ่ามือขยำของเฉียวฉู่ได้อยู่ดี ทำได้เพียงส่งเสียงร้อง แบ๊ะ แบ๊ะ ออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้
“ฮ่าๆ!” เฉียวฉู่เล่นจนเพลิน ดูเหมือนจะเข้าใจความชื่นชอบของจวินอู๋เสียที่มีต่อกุ๋นกุ่นแล้ว
ตับ!
กีบเท้าหน้าของเจ้าแกะน้อยกระแทกใส่สันจมูกของเฉียวฉู่โดยตรง และกีบเท้าเล็กๆ อันแข็งปั้กก็ประทับรอยแดงที่บริเวณสันจมูกของเฉียวฉู่
เฉียวฉู่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
“คุณหนูใหญ่ จะจัดการกับเจ้านี่อย่างไรขอรับ” เยี่ยซาเอ่ย
“ส่งมาให้ข้า” จวินอู๋เสียยื่นมือออกไป เจ้าแมวดำตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางใช้หางปิดตาของตัวเองไว้
เจ้าแกะน้อยถูกโยนเข้าไปในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย มันนอนหงาย และท้องของมันถูกปกคลุมไปด้วยขนปุกปุย ทำให้ดูคล้ายลูกกลมๆ
แบ๊ะ!
จวินอู๋เสียหรี่ตา มองก้อนขนเล็กๆ ที่อยู่ในอ้อมแขน สูดหายใจเข้าเล็กน้อย
และกอดหมับ!
ถูๆ ไถๆ!
แบ๊ะ! แบ๊ะ!
“…” เฉียวฉู่และทุกคนต่างก็ตกตะลึง แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ส่งเสียงกระซิบกระซาบ มองเจ้าแกะน้อยที่ถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียถูกนวดเฟ้น พวกเขาต่างหัวเราะแทบตาย
หลอกแต๊ะอั๋งสัตว์วิญญาณ เกรงว่าจะมีแต่จวินอู๋เสียเท่านั้นที่ทำได้
หลังจากที่จวินอู๋เสียเล่นจนพออกพอใจ นางก็ย่อตัวลงและวางเจ้าแกะน้อยลงกับพื้น เจ้าแกะน้อยที่ถูกขยำจนเวียนหัว ยืนโงนเงนอยู่บนพื้นครู่หนึ่ง มันพยายามสะบัดหัวเร่าๆ กว่าจะได้สติก็ยากลำบาก แล้วจึงพยายามเอี้ยวคอมอง แต่กลับพบตัวเองมีขนมากเกินไปจึงมองไม่เห็น จากนั้นมันก็ก้าวกีบเท้าเล็กๆ ทั้งสี่ข้าง เดินวนเป็นวงกลมอยู่ที่เดิมอย่างเชื่องช้า สุดท้ายหันหน้าเผชิญกับจวินอู๋เสียแล้วเงยหน้าขึ้น
แบ๊ะ!
ตอนที่ 512 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (3)
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วน้อยๆ แต่จู่ๆ เจ้าแกะน้อยก็ก้มหน้าลง อ้าปากเล็กๆ และเริ่มแทะหญ้าสีเขียวตรงเท้าของจวินอู๋เสีย กินอย่างเอร็ดอร่อย
“สัตว์วิญญาณตัวนี้ไม่กลัวคนหรือ หรือว่าระดับต่ำมาก” เฉียวฉู่เซียวหัวเราะจนน้ำตาไหล นี่เป็นครั้งแรกที่เคยเห็นสัตว์วิญญาณทั้งโง่ทั้งน่ารักเช่นนี้ สัตว์วิญญาณตัวอื่นถ้าเห็นว่ามีคนอยู่ ตัวที่ระดับต่ำหน่อยก็คงจะวิ่งหายลับไปนานแล้ว แต่เจ้าตัวนี้ ทั้งๆ ที่ถูกพวกเขาขยำเล่น กลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยซ้ำยังอยู่ที่เดิมอีก
ยังมีอารมณ์กินอาหารอีกหรือ
หรือไม่กลัวว่าพวกเขาจะฆ่ามันเอา
“ดูจากลักษณะตัวมันแล้วน่าจะเพิ่งเกิดได้ไม่นาน อาจจะเป็นเพราะว่าการรับรู้ทางจิตวิญญาณต่ำเกินไป จึงไม่รับรู้ถึงอันตราย” หรงรั่วชักจะชอบเจ้าแกะน้อยโง่เขลาขึ้นมาแล้ว
“เจ้าเคยเห็นแกะแรกเกิดที่มีขนดกมากขนาดนี้หรือ” เฉียวฉู่เลิกคิ้วขึ้น หรงรั่วพูดไม่ออก
เจ้าแกะน้อยทำราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงพูดคุยของเฉียวฉู่ ฉะนั้นมันยังคงก้มหน้าก้มตาเล็มหญ้าต่อ เล็มหญ้า เล็มหญ้า และเล็มหญ้า
จวินอู๋เสียขยับจะเดินหลบไปอีกด้าน ตอนแรกอยากจะขยับหลบให้พื้นที่เจ้านั่นได้กินหญ้า แต่ไม่คาดคิด จวินอู๋เสียเพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว เจ้าแกะน้อยตัวนั้นขยับกีบเท้าเล็กๆ เดินตามต้อยๆ
จวินอู๋เสียหยุด มันก็หยุดตาม แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเล็มหญ้าต่อ
“…หมายความว่ามันชอบน้องเสียหรือเปล่า ข้ารู้ว่าสัตว์จำพวกนกมีความคิดแบบลูกนกแรกเกิดที่รอคอยอาหารจากแม่นก และแกะตัวนี้…จะเป็นแบบนั้นหรือไม่” เฉียวฉู่พลางพูดพลางเกาศีรษะ
“ไม่ใช่แน่” ฮวาเหยามั่นใจมาก
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดสลัว อากาศที่ทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างเริ่มเย็นลง จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ตรากตรำมาทั้งวัน ควรพักผ่อนได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ทักษะการเอาตัวรอดแบบเดิม นั่นคือปีนขึ้นไปบนต้นไม้!
เจ้าแกะน้อยที่กำลังเล็มหญ้าอยู่บริเวณเท้าของจวินอู๋เสีย ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสียกำลังเคลื่อนไหว จึงไม่สนใจที่จะกินต่อ มันเดินตึกๆ ตามไป
ผลสุดท้าย…
เจ้าแกะน้อยแหงนคอมองขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่เบื้องหน้า เมื่อเห็นร่างของจวินอู๋เสียที่ทะยานขึ้นไปบนนั้น ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาคลอหน่วยนั้นก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
แบ๊ะ! แบ๊ะ!
“จะให้หิ้วมันขึ้นไปด้วยหรือไม่?” เฉียวฉู่ก้มหน้ามองลงไปยังจุดสีขาวเล็กๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แทบไม่มองไม่เห็น เจ้านี่เอาแต่ใจจริงๆ
“ไม่ต้อง” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา ตอนที่เอนตัวนอนทั้งชุดนั้น กลับโยนขวดยาที่มีสรรพคุณในการขับไล่สัตว์วิญญาณลงไป ขวดยาตกลงข้างต้นไม้ เจ้าแกะน้อยกระโดดโหยงรีบหลบด้วยความตกใจ ครั้นเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เดินไปอย่างกล้าหาญ ก้มหน้าสูดดม แล้วใช้ปลายจมูกกดๆ ดู
“เจ้ากลัวว่ามันจะโดนสัตว์วิญญาณตัวอื่นกินกระนั้นหรือ” เฉียวฉู่จับตามองการกระทำของจวินอู๋เสีย แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
พูดว่าไม่สนใจเจ้าแกะน้อยตัวนั้น แต่ก็ใจอ่อนโยนของลงไปช่วยอยู่ดี เพียงแต่…
เฉียวฉู่สงสัยเหลือเกิน ด้วยสติปัญญาอันโง่งมของเจ้าแกะน้อยตัวนั้น มันจะรู้หรือไม่ว่าจะต้องใช้ขวดนั้นในช่วงเวลาวิกฤติ
“นอน” จวินอู๋เสียหันกลับมาและหลับตาพักผ่อน เฉียวฉู่และคนอื่นๆ เข้าใจดีแต่ก๋ไม่ได้กล่าวอะไร ส่งยิ้มให้กันไม่นานก็ผล็อยหลับไป
ใต้ต้นไม้ เจ้าแกะน้อยดื้อรั้นยังส่งเสียงร้องไม่หยุด เมื่อเวลาผ่านไปนานโข ท้องฟ้ามืดสนิท เจ้าแกะน้อยที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้เหมือนจะเหนื่อยล้า มันจึงหยุดร้องเรียก มันพักกีบเล็กๆ ทั้งสี่ข้างของตัวเองแล้วผล็อยหลับไปใต้โคนต้นไม้ใหญ่ หลังจากนอนลงไปแล้ว ยังไม่วายยืดคอไปเล็มหญ้าอีก แต่คราวนี้มันไม่กลืน ใบหน้าเล็กๆ ทำหน้าย่น แล้วรีบคายหญ้าที่เพิ่งกินเข้าไปออกมาจนหมด
แบ๊ะ…
ไม่อร่อยเลยสักนิด
เจ้าแกะน้อยผู้โศกเศร้าหลับตาลงด้วยความปวดใจ และหลับไปอย่างทรมาน น้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาจากหางตา