ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 53 สะกดรอย (2)ตอนที่ 54 วิธีบ่มเพาะพลังที่แปลกประหลาด (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 53 สะกดรอย (2)ตอนที่ 54 วิธีบ่มเพาะพลังที่แปลกประหลาด (1)
ตอนที่ 53 สะกดรอย (2)
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลงฉีรับผิดชอบดูแลจวินชิงเป็นการเฉพาะมาโดยตลอด เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นในจวนหลินอ๋องเลย การที่จวินอู๋เสียลอบออกจากจวนกลางดึก องครักษ์ลับย่อมต้องตามมาปกป้องนางอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องให้หลงฉีตามมาอารักขานางด้วยตัวเอง แต่การปรากฏตัวของหลงฉีที่นี่ นั่นหมายความว่าในที่สุดหลงฉีก็ยอมดูแลคนอื่นที่ไม่ใช่จวินชิง
ดูเหมือนว่ายาของเด็กน้อยจะซื้อใจคนกลับมา
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่นางจะได้เอ่ยอะไรออกไป จวินอู๋เย่าก็หมุนตัวนางกลับมา จับเอวของนางด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับคางของนางไว้แล้วเชยใบหน้างามให้เงยขึ้นเล็กน้อย
ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าที่ควรจะสะสวยงดงามกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าอัปลักษณ์
ปลายนิ้วหยาบกร้านของจวินอู๋เย่าค่อยๆ ลูบไล้ริมฝีปากบางและเนียนนุ่มของจวินอู๋เสีย รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“น่าเกลียดจริงๆ” ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาอยากลบทิ้งไปให้หมด
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามอง” จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจวินอู๋เย่าคิดอะไรอยู่
เขาไม่ค่อยอยู่ติดจวนหลินอ๋องนัก ปกติก็แทบไม่เจอตัวเขา เขาจะปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งคราวโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว อย่างที่เขาเคยกล่าว เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับทุกคนในจวนหลินอ๋อง เขาแค่เปลี่ยนความทรงจำของพวกเขา ซึ่งการปลอมแปลงความทรงจำนี้ จะทำให้คนนึกถึงตัวเขาก็ต่อเมื่อเห็นเขาเท่านั้น หากเขาไม่อยู่ จวินเสี่ยนและจวินชิงก็แทบจำไม่ได้ว่ามีคนคนนี้อยู่
“ข้าจะกลับแล้ว” จวินอู๋เสียพูดอย่างกะทันหัน บอกเป็นนัยให้เขาปล่อยมือ
“ได้ เรากลับกันเถิด” จวินอู๋เย่าเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นและอุ้มจวินอู๋เสียขึ้นมา
“…” จวินอู๋เสียเพ่งมองมาที่เขา
จวินอู๋เย่ากลับไม่รู้สึกตัวใดๆ อุ้มจวินอู๋เสียแล้วเดินออกไปทันที เจ้าแมวดำวิ่งตามหลังทั้งคู่ไปอย่างเร่งรีบ
บนถนนใหญ่ หลงฉีที่กำลังอารมณ์เสียเพราะการหายตัวไปของจวินอู๋เสีย แต่ไม่นานเขาก็เห็นจวินอู๋เย่าอุ้มจวินอู๋เสียออกมาจากหัวมุมถนน
“คุณชาย คุณหนูใหญ่” หลงฉีกล่าวทำความเคารพด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่เขาแปลกใจมาก
ก่อนที่จวินอู๋เย่าจะปรากฏตัว เขาสัมผัสถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายไม่ได้เลย
จวินอู๋เย่าไม่ได้มองไปที่หลงฉี เขาอุ้มจวินอู๋เสียกลับจวนหลินอ๋องอย่างมีความสุข
หลงฉีเดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบๆ
เรื่องที่จวินอู๋เสียออกจากจวนกลางดึกนั้น ทุกคนในจวนหลินอ๋องล้วนพร้อมใจกันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เช้าวันที่สองจวินเสี่ยนและจวินชิงเองก็ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแต่อย่างใด และหลงฉีก็กลับไปติดตามดูแลจวินชิงตามเดิม
หลังจากเตรียมอาหารยาเสร็จแล้ว จวินอู๋เสียและแมวดำก็กลับไปที่ห้องและเรียกเจ้าดอกบัวขาวออกมา
ดอกบัวขาวน้อยที่สวมเสื้อเอี๊ยมตัวเล็กๆ ยืนก้มหน้าเล่นนิ้วมืออยู่ในห้องอย่างเงียบๆ
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นกอดอก หรี่ตาลง ปล่อยให้กลิ่นอายเย็นเยียบไหลออกมาจากร่างอย่างต่อเนื่อง
ดอกบัวขาวน้อยตัวสั่น
ภายในห้องเงียบสงัด
หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง ดอกบัวขาวน้อยก็ไม่สามารถทนความกดดันได้อีกต่อไป เขาแผดเสียงร้องไห้จ้า หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มยุ้ยๆ นั่น เขามองไปที่จวินอู๋เสียด้วยแววตาน่าสงสาร
“อย่า…อย่า…ส่งข้ากลับไปเลยนะขอรับ” น้ำตาของดอกบัวขาวน้อยยังคงไหลริน มองไปที่จวินอู๋เสียอย่างใจสั่น รู้สึกได้ว่าการกระทำของตนในเมืองผีเมื่อคืนนี้ทำให้เจ้านายไม่พอใจแล้ว
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงด้วยสายตาเย็นชา
ขาสั้นๆ ของดอกบัวขาวน้อยสั่นระริก
“ว่าเจ้าไร้ประโยชน์ เจ้าก็ไร้ประโยชน์จริงๆ จะเอาตำราเก่าๆ พวกนี้กลับมาทำไม” เจ้าแมวดำกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะ กรงเล็บของมันตะปบลงบนตำราโบราณที่ทั้งโทรมทั้งชำรุดพวกนั้นแล้วเงยหน้ามองเจ้าดอกบัวขาว
……………..
ตอนที่ 54 วิธีบ่มเพาะพลังที่แปลกประหลาด (1)
ดอกบัวขาวน้อยเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “นั่นมิใช่ตำราชำรุดนะ!”
“โอ้!” เจ้าแมวดำขยับอุ้งเท้าของมัน และตำราโบราณก็ถูกปัดลงมาจากขอบโต๊ะ
“อย่านะ!” ใบหน้าของดอกบัวขาวน้อยซีดเผือดขึ้นทันตาเห็น เขาขยับขาป้อมสั้นวิ่งออกไปอย่างสุดกำลัง แล้วกอดตำราโบราณนั้นไว้ในอ้อมแขนของตัวเองแน่น ทุกการกระทำช่างเต็มไปด้วยความทะนุถนอม
เจ้าแมวดำหรี่ตาลง เพ่งมองไปที่แววตาที่น่าสงสารของดอกบัวขาว
ตุ้บ!
ตำราอีกเล่มถูกปัดลงไป
ภายในห้อง ดอกบัวขาวน้อยเปล่งเสียงร้องไห้จ้า ใบหน้าน่าหยิกเปื้อนเปรอะเต็มไปด้วยน้ำตา เขาใช้ขาสั้นๆ คู่นั้นวิ่งออกไปช่วยตำราอีกครั้ง แมวดำมองปฏิกิริยาโต้ตอบที่น่าสงสารของเจ้าดอกบัวขาวแล้วกลับยิ่งเล่นอย่างมีความสุข
“พอได้แล้ว” ในที่สุดจวินอู๋เสียก็เอ่ยปาก ขัดจังหวะการทะเลาะวิวาทระหว่างเจ้าแมวดำและดอกบัวขาว
ดอกบัวขาวน้อยนั่งแหมะอยู่บนพื้นด้วยอาการเหนื่อยหอบ หน้าตามอมแมมกอดตำราเก่าๆ พวกนั้นไว้อย่างระมัดระวังราวกับพวกมันเป็นสมบัติล้ำค่า เขามองจวินอู๋เสียด้วยแววตาเศร้า
“เจ้าต้องการตำราเหล่านี้เพื่ออะไร” จวินอู๋เสียเอนหลังพิงเก้าอี้โดยใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางไว้
“มิใช่ข้า แต่เป็นเจ้านายที่ต้องใช้มัน” ดอกบัวขาวน้อยสูดลมหายใจเข้าลึก
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เมื่อวานนี้ตอนที่นางอยู่ในเมืองผีได้เปิดดูตำราเหล่านี้แล้ว เนื้อหาด้านในมีแต่วิธีการเพาะปลูกดอกไม้และต้นไม้ เจ้าเด็กนี่อยากให้นางเป็นคนสวนรึ!
“นี่คือ…นี่คือตำราฝึกยุทธที่ท่านเอ่ยถึงบ่อยครั้งอย่างไรเล่า” เจ้าดอกบัวขาวถือกองตำราพวกนั้นไว้ ก่อนตัดสินใจยกมือขึ้นช้าๆ แล้วยื่นมันให้กับจวินอู๋เสีย
“ตำราฝึกยุทธหรือ!” จวินอู๋เสียหยุดชะงักไปชั่วขณะ
เจ้าดอกบัวขาวพยักหน้าหงึกๆ
“ใช่แล้วขอรับ ข้าเป็นภูตวิญญาณประเภทพฤกษา ฉะนั้นเจ้านายจึงไม่สามารถใช้วิธีบ่มเพาะพลังแบบคนทั่วไปได้ ท่านอย่าได้ดูถูกตำราเหล่านี้เชียวนะ พวกมันหายากมากเลย เจ้านายคนก่อนของข้าไม่เคยพบสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถบ่มเพาะพลังใดๆ ได้เลย ท่านโชคดีมาก…” ดอกบัวขาวน้อยพยายามอธิบายให้จวินอู๋เสียฟัง แต่ท่าทางเขินอายของเขานั้นไม่น่าเชื่อถือเลยจริงๆ
จวินอู๋เสียถือตำราเหล่านั้นไว้ในมือข้างหนึ่งแล้วเปิดดู หากมิใช่เพราะเจ้าดอกบัวขาวบอกนางล่ะก็ นางคงไม่มีวันคิดถึงว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตำราฝึกยุทธ!
“การปลูกต้นไม้สามารถช่วยข้าบ่มเพาะได้จริงหรือ” จวินอู๋เสียยังคงลังเล นางพลิกหน้ากระดาษและมองดูเนื้อหาในตำรา
ดอกบัวขาวน้อยพยักหน้าตอบอย่างหนักแน่น
“เช่นนั้น…ข้าต้องปลูกอะไร” จวินอู๋เสียไล่อ่านชื่อต้นไม้ที่ถูกบันทึกไว้ในตำรา ล้วนเป็นสิ่งที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อน
ดอกบัวขาวน้อยรีบยกมือขึ้น นิ้วป้อมสั้นเต็มไปด้วยเนื้อขาวๆ ชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเอง
“ข้าขอรับ ปลูกข้า!”
“…” จวินอู๋เสียพูดไม่ออกไปชั่วขณะ และจู่ๆ ภาพแปลกๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองของนาง
ต้นฤดูใบไม้ผลิ นางปลูกเจ้าดอกบัวขาวน้อยลงดิน ถึงฤดูใบไม้ร่วงนางก็สามารถเก็บเกี่ยวดอกบัวขาวได้มากมาย…
ภาพดอกบัวขาวตัวน้อยถูกฝังลงดินทั้งตัว เหลือเพียงศีรษะเล็กๆ นั่นโผล่พ้นพื้น นี่มัน..ค่อนข้างกระทบต่อสายตา ชวนให้จำฝังใจจริงๆ!
“ตรงนี้ขอรับ ตรงนี้ มันถูกเขียนไว้ตรงนี้ว่าแค่ปลูกข้าในที่ที่มีน้ำก็พอแล้ว จะพูดให้ถูกก็คือมิใช่ปลูกข้า แต่เป็นปลูกเมล็ดบัวของข้า หลังจากท่านปลูกพวกมันลงในสระ ระหว่างที่รอพวกมันเจริญเติบโต เหล่าดอกบัวในสระจะผลิตพลังวิญญาณออกมาเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถดูดซับพลังวิญญาณเหล่านี้เพื่อบ่มเพาะได้ นอกจากนี้หลังจากที่พวกมันเติบโตเป็นดอกบัวเต็มวัยแล้ว แม้ว่าจะไม่มีผลเทียบเท่ากับร่างกายของข้า แต่หากกินพวกมันเข้าไป ก็จะให้ผลดีกว่ากินเมล็ดบัวมาก” ดอกบัวขาวน้อยกะพริบตาปริบๆ ดวงตาที่มีหยดน้ำตาคลอยิ้มจนตาหยี เขากล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง สีหน้ามีชีวิตชีวายิ่ง
จวินอู๋เสียรู้สึกว่าหากเจ้าตัวเล็กนี่มีหาง ตอนนี้เขาต้องกระดิกหางอย่างมีความสุขแน่นอน!
“ดูเหมือนว่า…การบ่มเพาะพลังแบบนี้จะง่ายกว่าการบ่มเพาะทั่วไปมาก” จวินอู๋เสียอ่านตำราฝึกยุทธมามิใช่น้อย จึงรู้ว่าการบ่มเพาะพลังแต่ละแบบนั้นยากมาก ทว่าวิธีบ่มเพาะในตำราโบราณเหล่านี้กลับเขียนไว้อย่างง่ายดาย แค่ปลูกดอกไม้ก็พอแล้ว!
……………..