ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 579 เตรียมพร้อมตบหน้า (2) ตอนที่ 580 เตรียมพร้อมตบหน้า (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 579 เตรียมพร้อมตบหน้า (2) ตอนที่ 580 เตรียมพร้อมตบหน้า (3)
ตอนที่ 579 เตรียมพร้อมตบหน้า (2) / ตอนที่ 580 เตรียมพร้อมตบหน้า (3)
ตอนที่ 579 เตรียมพร้อมตบหน้า (2)
จวินอู๋เสียตอบ “หลังจากข้าไปจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ ข้าก็โดนผู้คนด่าทอสาปแช่งมากมายนับไม่ถ้วน และถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากความเข้าใจผิด ดังนั้นถ้าข้าจะกลับมา ก็ต้องทำทุกอย่างให้สะอาดหมดจดเพื่อที่จะได้กลับมาอย่างถูกต้องและเปิดเผย”
กู้หลีเซิงชะงัก รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของเขา ความรู้สึกผิดและละอายใจเข้ามาแทนที่
เขาตระหนักดีว่าจวินอู๋เสียต้องพบเจอกับอะไรมาบ้างตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าจะขอให้จวินอู๋เสียกลับมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง แต่ตราบเท่าที่ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณยังไม่สำเร็จ การเปิดเผยตัวตนของจวินอู๋เสียก่อนกำหนดจะยิ่งนำความยุ่งยากมาให้นางเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
ยิ่งกว่านั้น ตัวทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณเองก็เป็นที่ยกย่องในหัวใจของบรรดาศิษย์เป็นอย่างมากและเป็นที่เคารพสูงสุด ถ้าจู่ๆ เขาประกาศออกไปว่าจวินอู๋เสียสามารถพัฒนาและปรับปรุงทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณได้ ไม่ว่าเขาจะพูดออกมาด้วยตัวเองหรือไม่ มันก็ยากที่จะเชื่ออยู่ดี มันอาจจะไม่ช่วยลดคำด่าทอและความสงสัยให้แก่จวินอู๋เสีย แต่จะดึงดูดความสนใจของผู้ที่สนใจจะครอบครองทักษะนี้ คนพวกนี้จะแห่กันไปหาจวินอู๋เสียไม่หยุดหย่อนเพื่อเอาชนะใจนาง
กรณีที่เลวร้ายที่สุด ถ้ามีคนที่มีเจตนาร้ายต่อนาง ผลที่ตามมาเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะคิดเลย
ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณเป็นสิ่งล่อใจที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับผู้คน พวกเขาจะไม่ระวังตัวไม่ได้
ด้วยความหวาดหวั่นทั้งหมดนั้น และจวินอู๋เสียก็ไม่ได้มีทีท่าว่านางตั้งใจจะกลับมาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ กู้หลีเซิงจึงไม่ทำอะไร
แต่ความวุ่นวายในสำนักศึกษา คำประณามกล่าวหาและวิพากษ์วิจารณ์จวินอู๋เสียทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาก
“วางใจได้เลย” กู้หลีเซิงสูดลมหายใจเข้าลึกและลุกขึ้นยืน “ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะกลับมาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณได้อย่างเปิดเผยและสง่างาม ข้าจะทำให้แน่ใจว่าคำพูดให้ร้ายและคำสบประมาททั้งหมดจะถูกลบล้างไปจนหมดสิ้น ปล่อยให้ข้าจัดการเอง ข้ารับรองว่าเจ้าจะต้องพอใจ”
จวินอู๋เสียพยักหน้าตกลง คำพูดของกู้หลีเซิงเป็นสิ่งที่นางต้องการจะได้ยิน
เมื่อจวินอู๋เสียลงมือตอบโต้ นางจะไม่ทำแค่กอบกู้ชื่อเสียงของนางเท่านั้น
สิ่งที่นางต้องการก็คือการตบหน้าเจ้าพวกโง่นั่นฉาดใหญ่ ต่อหน้าต่อตาศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัว!
นั่นสะใจกว่ากันเยอะ!
“พรุ่งนี้ ข้าจะจัดการพรุ่งนี้ เจ้ารออย่างวางใจได้เลย” กู้หลีเซิงให้สัญญาหนักแน่น
จวินอู๋เสียก้มหน้าใช้ความคิด
พรุ่งนี้หรือ…
ตามที่ฟ่านจิ่นพูด กองทัพรุ่ยหลินจะมาถึงสำนักศึกษาเฟิงหัวในวันถัดไป พรุ่งนี้ก็เป็นเวลาที่ดีที่จะทำตามแผนของนาง
การแสดงที่ดีก็ต้องมีหลากหลายเวทีเพื่อที่จะได้ชมการแสดงที่ไม่ซ้ำกันไม่ใช่หรือ
“ตกลง” จวินอู๋เสียพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนที่นางจะลุกขึ้น นางได้วางม้วนกระดาษที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ลงบนโต๊ะของกู้หลีเซิงและจากไปโดยไม่ได้หันหน้ากลับมามองอีก
กู้หลีเซิงหยิบม้วนกระดาษขึ้นมา และเมื่อเปิดมองเพียงครั้งเดียว ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง และหายใจของเขาติดขัดกะทันหัน
ตัวอักษรที่อ่อนช้อยงดงามทุกตัวที่จรดอยู่ในนั้น ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง
มันคือวิธีการที่จะปรับปรุงทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณให้ดียิ่งขึ้น และมันก็ถูกเขียนขึ้นในแบบที่จะทำให้เขาเข้าใจหลักการอันลึกซึ้งของมันได้ในทันที!
“จวินเสียเอ๋ย เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้ไม่หยุดหย่อนจริงๆ เจ้าหนูนี่มัน…ช่างน่าทึ่งอะไรขนาดนี้!” เขาอ่านม้วนกระดาษทั้งหมดรวดเดียว และพบว่าตัวเองกำลังเหงื่อโชก เขาเอนหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับยิ้มกว้างอย่างยินดีและซาบซึ้ง
เขาได้เจอเข้ากับบุคคลที่ประเมินค่าไม่ได้เสียแล้ว!
หลังจากจวินอู๋เสียกลับออกจากห้องทำงานของกู้หลีเซิง นางก็เดินออกจากตึกสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ ศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณสองสามคนเห็นจวินอู๋เสียเข้าก็ส่งสายตาเชือดเฉือนไปให้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสายตาของพวกเขาจะเจาะทะลุร่างนางให้กลายเป็นรูหลายๆ รู
หลี่จื่อมู่ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ เนื่องจากกู้หลีเซิงได้แสดงความโปรดปรานต่อเขาออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งมันก็ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ ในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณพากันอิจฉาและเกลียดชังหลี่จื่อมู่ แต่ความเกลียดชังและอิจฉานั้น ยังไม่มากพอที่จะทำให้พวกเขานิ่งเฉยต่อการตายของหลี่จื่อมู่ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอกที่กล้ามาฆ่าคนของพวกเขา พวกเขาย่อมไม่อภัยให้โดยง่าย
ตอนที่ 580 เตรียมพร้อมตบหน้า (3)
สีหน้าของจวินอู๋เสียเย็นชามากขณะที่เดินออกจากไปจากตึกภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมากมาย และไม่คาดคิดว่าจะเจอเข้ากับ ‘คนคุ้นเคย’ ทันทีที่ก้าวเท้าออกจากประตูตึกของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ
“น้องเสีย! บังเอิญเสียจริง! ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าที่นี่” หนิงซินรอคอยอยู่หน้าประตูทางเข้าตึกสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณอย่างอดทนอยู่เป็นนาน เมื่อนางเห็นจวินอู๋เสีย นางก็เดินยิ้มเข้ามาหานาง รอยยิ้มนั้นอ่อนหวานราวกับฤดูใบไม้ผลิ และอ่อนโยนมากจนไม่มีผู้ใดสัมผัสถึงภัยถูกคุกคามจากความเป็นมิตรที่แสดงออกมานั้น เมื่อเทียบกับสายตาเย็นชาทิ่มแทงเบื้องหลังแล้ว สีหน้าท่าทางของหนิงซินก็โดดเด่นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
จวินอู๋เสียหยุดมองหนิงซินที่ฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบจะถึงหู
ใบหน้าของหนิงซินอาจจะมีรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร แต่ในใจของนางนั้นเย็นชาและเต็มไปด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม
ตอนที่จวินอู๋เสียก้าวเข้าไปในตึกสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ อิ่นเหยียนก็วิ่งไปหาหนิงซินเพื่อส่งข่าวในทันที และหนิงซินก็รีบมารอที่ประตูทางเข้าตึกอย่างไม่รอช้า
หลังจากอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวมานาน นอกจากวันแรกที่ต้องมารายงานตัวที่สาขาแล้ว จวินอู๋เสียก็ไม่เคยโผล่หน้ามาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณอีกเลย แต่เมื่อนางพบว่าจวินอู๋เสียมาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณวันนี้ มันก็ทำให้หนิงซินลอบดีใจ
การสังหารศิษย์ร่วมสำนักไม่มีทางเป็นเรื่องเล็กน้อย อาจารย์ใหญ่จะถูกกดดันจากหลายๆ ทางให้ไล่จวินเสียออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัว เจ้าเด็กนั่นแกล้งทำเป็นใจเย็นในเรื่องนี้มาตลอด ตอนนี้คงเริ่มตื่นตระหนกแล้วกระมัง
ก่อเรื่องวุ่นวายหนักขนาดนี้ ต่อให้เป็นพี่น้องสกุลฟ่านก็ไม่สามารถปกป้องจวินอู๋เสียได้
เมื่อนางรู้ว่าจวินอู๋เสียมาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณตั้งแต่เช้าตรู่ หนิงซินก็ยินดีเป็นอย่างมาก
ถึงจะเห็นสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของจวินอู๋เสีย หนิงซินก็ไม่สะทกสะท้านและพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “น้องเสีย ข้าได้ยินเรื่องทั้งหมดที่พูดกันในสำนักศึกษาแล้ว…เรื่องนี้มัน…เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่แล้ว ข้าเห็นพี่ใหญ่ฟ่านจิ่นไปที่ห้องทำงานของท่านลุงอาจารย์ใหญ่หลายครั้งเพื่ออ้อนวอนให้เจ้า แต่ว่า…”
หนิงซินทำสีหน้าอับจนหนทางและถอนใจแรง
“ข้าไม่คิดว่าการมาหาท่านลุงกู้จะช่วยเหลือได้ ท่านลุงกู้ไม่ทำให้ตัวเองยุ่งยากกับเรื่องเช่นนี้หรอก แล้วนี่เรื่องยังเลวร้ายขึ้นไปอีก หลี่จื่อมู่เป็นศิษย์คนโปรดของท่านลุงกู้ การตายอย่างกะทันหันของหลี่จื่อมู่ย่อมทำให้ท่านลุงกู้โกรธมาก ท่านลุงกู้ให้คนไปสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ทำให้เกิดข่าวลือพวกนี้ขึ้นมา ข้าคิดว่าท่านลุงกู้ต้องยังโกรธอยู่มากแน่”
ถึงแม้หนิงซินจะรู้แค่ว่าจวินอู๋เสียไปพบกับกู้หลีเซิง แต่นางก็คิดว่ารู้แค่นั้นก็พอแล้ว
นางรู้ว่ากู้หลีเซิงมีนิสัยอ่อนโยนแต่มักจะปกป้องศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณอย่างรุนแรงอยู่เสมอ อิ่นเหยียนเล่าให้นางฟังอยู่บ่อยๆ ว่ากู้หลีเซิงคอยดูแลและแสดงความห่วงใยหลี่จื่อมู่เป็นพิเศษเพียงใด และตอนนี้หลี่จื่อมู่ตายแล้ว ซ้ำเรื่องที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงกับจวินอู๋เสีย ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่กู้หลีเซิงจะยังคงสุภาพและเอื้อเฟื้อต่อจวินอู๋เสีย นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก
เมื่อมั่นใจว่าจวินอู๋เสียจะไม่ได้รับคำพูดดีๆ จากการเข้าพบกู้หลีเซิง ในใจของหนิงซินก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของจวินอู๋เสียก็ยังคงเย็นชาเช่นเดิม ดวงตาของนางนิ่งสงบไร้ความรู้สึก ขณะที่มองหนิงซินเสแสร้งแกล้งทำ
เจ้าแมวดำตัวน้อยที่นอนอยู่บนบ่าของจวินอู๋เสีย พ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ยัยผู้หญิงที่ชื่อหนิงซินนี่ปัญญาอ่อนหรือไง นางโง่จนเกินเยียวยาแล้วที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพบเจอกับชะตากรรมที่น่าสังเวชเช่นไรในวันข้างหน้า
นี่ยังจะมาพูดจาเหลวไหลไร้สาระเรื่องกู้หลีเซิงกับศิษย์คนโปรดของเขาหลี่จื่อมู่อีก ไหนจะยังการสืบสวนที่ไม่มีอยู่จริงนั่นที่เขาสั่งเพราะความโกรธนั่นอีก
เหลวไหลไร้สาระทั้งเพ!
มันอยู่กับเจ้านายของมันตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
กู้หลีเซิงไม่ได้แสดงความโศกเศร้าหรือเสียใจแม้สักเสี้ยวกระผีกเดียว ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่พูดถึงชื่อของหลี่จื่อมู่เลยสักครั้งเดียว!
เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ ต้องเป็นผลงานของยัยผู้หญิงโง่เง่าคนนี้เป็นแน่!
สมองของนางคงมีแต่ขี้เลื่อย ถึงได้คิดจะมาต่อกรกับเจ้านายของข้า
ช่างตลกสิ้นดี!
เหมียววว
เจ้านาย อย่าได้เสียเวลาพูดกับยัยคนโง่ซ้ำโง่ซ้อนคนนี้เลย ประเดี๋ยวก็ติดเชื้อโง่ไปด้วยหรอก!