ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 645 ทักษะการเสริมวิญญาณ (7) ตอนที่ 646 มุ่งหน้าสู่ผาสุดขอบฟ้า (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 645 ทักษะการเสริมวิญญาณ (7) ตอนที่ 646 มุ่งหน้าสู่ผาสุดขอบฟ้า (1)
ตอนที่ 645 ทักษะการเสริมวิญญาณ (7) / ตอนที่ 646 มุ่งหน้าสู่ผาสุดขอบฟ้า (1)
ตอนที่ 645 ทักษะการเสริมวิญญาณ (7)
เมื่อรู้ถึงสภาพร่างกายของตัวเอง จวินอู๋เสียก็ไม่รีบทดสอบผลของอักขระเสริมวิญญาณต่อไปอีก แต่นางได้บันทึกรายละเอียดของผลลัพธ์ที่แตกต่างกันของอักขระยี่สิบกว่าตัวที่เจ้าแมวดำตัวน้อยกับเจ้าดอกบัวขาวน้อยทำการทดสอบไปเมื่อสักครู่
นอกจากไฟกับลม อักขระเสริมพลังวิญญาณส่วนใหญ่มีคุณสมบัติขยายหรือเพิ่มความสามารถอื่นๆ
ตัวอย่างก็คือสิ่งที่ฟ่านจัวพูดถึง เขารู้จักอักขระเสริมวิญญาณสามชนิดที่เพิ่มความเร็ว ความแข็งแรง และความทนทาน จวินอู๋เสียระบุตัวอักษรสองในสามชุดนั้นได้แล้ว และค้นพบเพิ่มอีกสองชุดซึ่งทำให้ร่างวิญญาณมีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นหรือทำให้ปกปิดตัวตนได้
อักขระเสริมวิญญาณที่แตกต่างกันจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าผลของอักขระจับคู่กันได้ดีและเหมาะสม ผลที่ได้จะน่าตกใจมากอย่างแน่นอน!
จวินอู๋เสียนอนฟุบไปกับโต๊ะอย่างอ่อนเพลีย นางผ่อนคลายเต็มที่เพื่อดูดซับพลังวิญญาณจากเจ้าดอกบัวขาวน้อยให้มากขึ้น
แม้ว่านางจะค้นพบวิธีการใช้ทักษะการเสริมวิญญาณและเข้าใจผลกระทบของอักขระเสริมวิญญาณบางตัวแล้ว มันก็ยังเป็นสิ่งท้าทายสำหรับนางอยู่ดีหากนางตั้งใจจะใช้มันในการต่อสู้ ปัจจัยสำคัญก็คือนางควรจะประทับอักขระเสริมวิญญาณลงไปบนร่างวิญญาณอย่างไรดี เนื่องจากระยะเวลาแสดงผลของมันใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ได้ไม่มากนัก
จวินอู๋เสียครุ่นคิดขณะที่นอนฟุบอยู่กับโต๊ะ นางเคลิ้มหลับไปอย่างช้าๆ เจ้าแมวดำตัวน้อยนั้นหมดแรงไปแล้ว แต่มันก็ยังลากขาตัวเองกระโดดขึ้นไปบนเตียงและคาบผ้าห่มลากไปหาจวินอู๋เสีย พยายามที่จะเอามันขึ้นไปคลุมร่างของนางอย่างลำบาก
หลังจากความพยายามอันเหน็ดเหนื่อย เจ้าแมวดำตัวน้อยก็ล้มตัวลงนอนบนโต๊ะ มันขยับร่างมาพิงอยู่ที่มือของจวินอู๋เสียและหลับตาลงเพื่อพักผ่อนอย่างมีความสุข
เช้าตรู่วันต่อมา เฉียวฉู่มาเคาะประตูห้องของจวินอู๋เสีย นางตื่นขึ้นและอุ้มเจ้าแมวดำตัวน้อยที่ยังหลับอยู่ขึ้นมาก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“เสี่ยวจัวบอกให้ข้ามาถามเจ้าว่าอยากจะดูเขาหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณหรือเปล่า” เฉียวฉู่ถาม เขาเต็มไปด้วยความคึกคักฮึกเหิมขณะที่มองไปยังจวินอู๋เสีย ฟ่านจัวช่วยหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณให้ฮวาเหยากับเฟยเยียนไปแล้วเมื่อวาน วันนี้เป็นตาของเขากับหรงรั่ว
จวินอู๋เสียไม่คิดจะไป แต่เมื่อพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พยักหน้า
จวินอู๋เสียมีวิธีเฉพาะตัวในการบ่มเพาะพลังวิญญาณของนาง และนั่นทำให้นางฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ในกรณีของฟ่านจัว เขาหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของฮวาเหยากับเฟยเยียนตามลำดับ และจวินอู๋เสียเดาว่าพลังวิญญาณของเขาจะต้องถูกใช้ไปมากอย่างแน่นอน ตามที่นางคิด ฟ่านจัวไม่น่าจะหลอมแหวนต่อได้ในวันนี้
จวินอู๋เสียเดินไปที่ห้องของฟ่านจัวพร้อมกับเจ้าแมวดำตัวน้อยในอ้อมแขน เมื่อพบฟ่านจัว สภาพของเขาไม่ได้ดูแย่เท่าที่นางคิด พลังวิญญาณของเขาก็ดูไม่เหมือนถูกสูบออกไปมากมายเช่นกัน จวินอู๋เสียงุนงงจึงเอ่ยปากถาม ฟ่านจัวประหลาดใจแต่เขาก็ยิ้มให้นางทันที
“อย่าลืมว่าข้ามาจากสามโลกชั้นกลาง คนที่สามโลกชั้นกลางสามารถใช้วิธีพิเศษเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณได้ ถ้าข้าใช้พลังวิญญาณโดยไม่มีวิธีพิเศษนั้น ข้าคงสลบไปแล้วหลังจากหลอมแหวนได้แค่วงเดียว”
“วิธีพิเศษเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณของเจ้าอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้ว นางอยากรู้มากเรื่องความสามารถของเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ในการบังคับให้พลังวิญญาณขึ้นไปถึงขั้นสีม่วงหลังจากนางได้เห็นมันเมื่อครั้งก่อน
“ใช่ เป็นสิ่งที่คนจากสามโลกชั้นกลางมีมาตั้งแต่เกิด” เฉียวฉู่พยักหน้าอยู่ด้านข้าง
“ถ้าเจ้าสนใจจะเรียนรู้เพิ่มเติม ข้าจะบอกรายละเอียดให้เจ้าฟังวันอื่น” ฟ่านจัวสัญญาพร้อมรอยยิ้มกว้าง เฟยเยียนกับฮวาเหยาออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ พวกเขาอยากไปหาสถานที่ที่ไม่มีคนเพื่อทดสอบแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่เพิ่งหลอมขึ้นมาใหม่เพื่อดูว่าวงแหวนภูติวิญญาณของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมากน้อยแค่ไหน
“ไม่รีบ” จวินอู๋เสียตกลงอย่างง่ายดาย ข้อสงสัยของนางกระจ่างแล้ว นางจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะอยู่ที่นั่นและเดินออกจากโรงเตี๊ยมไป นางอยากไปหาวัตถุดิบที่นางจะนำมาใช้กับการลงอักขระเสริมวิญญาณบนร่างวิญญาณให้แสดงผลได้นานยิ่งขึ้น
ตอนที่ 646 มุ่งหน้าสู่ผาสุดขอบฟ้า (1)
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวินอู๋เสียกับคนอื่นๆ เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพแล้วและออกเดินทางมุ่งสู่ผาสุดขอบฟ้า
เมื่อมีมู่เชียนฟานเพิ่มเข้ามา คณะเดินทางทั้งหมดก็รวมเป็นเจ็ดคน จวินอู๋เสียซื้อรถม้าขนาดใหญ่มาหนึ่งคันและทุกคนก็เบียดกันเข้าไป นางตั้งใจจะจ้างคนขับรถม้าแต่มู่เชียนฟานปฏิเสธความคิดนั้น ที่ตั้งที่แน่นอนของผาสุดขอบฟ้าไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ยิ่งมีคนรู้ที่ตั้งของมันน้อยเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อพวกเขามากเท่านั้น เขาทำเพื่อป้องกันไม่ให้ตำแหน่งของที่นั่นรั่วไหลออกไป และจะได้ไม่เป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านด้วย
หน้าที่คนขับรถม้าเป็นหน้าที่ของมู่เชียนฟานเพียงคนเดียว และเขาปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ เสนอที่จะผลัดเปลี่ยนหน้าที่กัน
ในใจของมู่เชียนฟานนั้น การได้พบกับจวินอู๋เสียคือการเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาอย่างสิ้นเชิง เขาจะทุ่มเททำทุกอย่างให้นางจนสุดชีวิต
การเดินทางจากตำบลชานหลินไปผาสุดขอบฟ้าจะใช้เวลาสองอาทิตย์เป็นอย่างน้อย พวกเขาเดินทางอย่างไม่หยุดหย่อนในเวลากลางวันและพักผ่อนกันในเวลากลางคืน พวกเขาล้อเล่นและหัวเราะกันตลอดการเดินทาง ทำให้การเดินทางที่ยาวนานสนุกสนานมากขึ้น
นอกจากจวินอู๋เสียแล้ว แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของฟ่านจัวกับคนอื่นๆ ถูกหลอมใหม่ เมื่อฟ่านจัวพยายามหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของจวินอู๋เสียในครั้งสุดท้าย เขาพบว่าแร่หยกดำไม่สามารถละลายหรือหลอมเข้ากับแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของนางได้ ปรากฏการณ์นั้นสร้างความงุนงงให้แก่ฟ่านจัวเป็นอย่างมาก ทำให้จวินอู๋เสียเป็นเพียงคนเดียวที่วงแหวนของนางยังคงอยู่ในสภาพเดิม
พูดให้ยุติธรรมแล้วจะตำหนิฟ่านจัวก็ไม่ได้ เนื่องจากแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยแปลงร่างนั้นล่องหนอยู่ แม้แต่จวินอู๋เสียก็ยังมองไม่เห็นว่ามันมีรูปร่างเช่นไร นางไม่สามารถตรวจสอบรูปร่างของมันได้ ทิ้งให้ฟ่านจัวรู้สึกอับจนหนทางในการหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของนาง
วันเวลาผ่านไป ตลอดการเดินทางจวินอู๋เสียทำการทดลองวัตถุดิบทุกชนิดเพื่อที่จะยืดระยะเวลาการแสดงผลของทักษะเสริมวิญญาณ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
เมื่อจวินอู๋เสียยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดให้ฟ่านจัวฟัง เขาก็ตกตะลึงอยู่นาน แต่พอเขาลองใช้อักขระเสริมวิญญาณที่จวินอู๋เสียให้มาลงบนแหวนของเฉียวฉู่ หรงรั่ว และของเขาเอง ผลที่ได้กลับล้มเหลว
นั่นสร้างความงุนงงให้กับจวินอู๋เสียเล็กน้อย นางลองใช้น้ำเขียนอักขระและใช้มันกับกุ๋นกุ่น ผลที่ได้ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่เมื่อฟ่านจัวใช้อักขระชุดเดียวกันหลอมวงแหวน มันกลับไม่มีผลอะไรเลย
“น้องเสียได้ค้นพบบางอย่างที่น่ามหัศจรรย์มาก แต่มันกลับนำมาใช้ไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ” เฉียวฉู่นั่งอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่ไป เขากุมมือประสานไว้ที่หน้าอกพร้อมกับคร่ำครวญอย่างแสนเสียดาย เมื่อเขาเห็นร่างอันใหญ่โตสง่างามของกุ๋นกุ่นที่ดูดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อปกคลุมด้วยเปลวไฟจากทักษะเสริมวิญญาณ เขาก็เกือบจะคลุ้มคลั่งด้วยความปีติยินดี! แต่ทว่า…มันกลับอยู่ได้ไม่นาน เรื่องที่มันใช้งานไม่ได้เมื่อฝังลงไปบนแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ ทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมากจนเกือบจะร้องไห้
“ไม่ต้องกังวล เมื่อน้องเสียเรียนวิธีการหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณแล้ว นางอาจจะสามารถหลอมแหวนให้พวกเจ้าทุกคนใหม่ได้” ฟ่านจัวปลอบเฉียวฉู่พร้อมกับหัวเราะก่อนจะหันไปมองอีกด้านหนึ่งของรถม้า และเห็นจวินอู๋เสียถือชาดและหมึกเอาไว้ในมือ
“ข้าเชื่อว่า ทักษะเสริมวิญญาณและอักขระต้องถูกทำความเข้าใจให้เต็มที่ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ข้าอาจจะสามารถคัดลอกตัวอักษรมาได้ แต่ข้าไม่สามารถเข้าใจถึงพลังที่ถูกต้องของมันเพื่อทำให้มันใช้งานได้ การที่เจ้าตั้งใจจะเรียนวิธีหลอมแหวนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นความสูญเสียที่ใหญ่หลวงทีเดียว”
การได้เห็นด้วยตาตัวเองถึงความเป็นไปได้และพลังของทักษะเสริมวิญญาณ ทำให้ฟ่านจัวกระตือรือร้นที่จะถ่ายทอดความสามารถของช่างหลอมแหวนให้แก่จวินอู๋เสีย เขาเชื่ออย่างแรงกล้าว่าหลังจากจวินอู๋เสียเรียนรู้ทุกอย่างที่เขารู้แล้ว นางจะสามารถสร้างและหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่ทำให้ทุกคนตกใจได้อย่างแน่นอน
จวินอู๋เสียพยักหน้า สิ่งที่ฟ่านจัวพูดคือสิ่งที่อยู่ในใจของนาง
นางศึกษาพื้นฐานการหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณมาจากฟ่านจัวบ้างแล้ว แต่นางไม่มีเพลิงวิญญาณมาใช้ทำการทดลอง เพลิงวิญญาณของช่างหลอมแหวนเป็นของช่างหลอมแหวน เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับสืบทอดมาจากคนที่มีสายโลหิตเดียวกัน ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีประโยชน์ต่อให้ส่งเพลิงวิญญาณให้กับมือเลยก็ตาม