ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 743 หลอกจับมือ (2) ตอนที่ 744 หลอกจับมือ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 743 หลอกจับมือ (2) ตอนที่ 744 หลอกจับมือ (3)
ตอนที่ 743 หลอกจับมือ (2) / ตอนที่ 744 หลอกจับมือ (3)
ตอนที่ 743 หลอกจับมือ (2)
“หือ” จวินอู๋เย่าเลื่อนสายตาขึ้นมอง เขารู้ว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เช่นนั้นเจ้ามดปลวกสามตัวนั่นคงไม่ได้ตายสบายๆ แบบนั้นหรอก!
จวินอู๋เสียก้มหน้าลงมอง ‘กรงเล็บ’ ที่กำลังบีบปลายนิ้วของนางก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา
เขากำลังตรวจดูว่ามือนางบาดเจ็บหรือเปล่าไม่ใช่หรือ
“…” รอยยิ้มของจวินอู๋เย่าแข็งค้างไปเล็กน้อย และทันใดนั้นเขาก็ระเบิดหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง
“คนพวกนั้นไม่ได้อ่อนแอ ทั้งยังถนัดเรื่องการใช้เล่ห์เหลี่ยมสกปรกนัก มีโอกาสมากที่เจ้าจะมีอาการบาดเจ็บซุกซ่อนอยู่โดยที่ไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนละก็ อาการบาดเจ็บพวกนี้อาจถูกมองข้ามไปได้ง่ายๆ เสี่ยวเสียเอ๋อร์เจ้าก็พูดคุยไป ข้าจะฟังขณะที่ช่วยเจ้าตรวจสอบอาการบาดเจ็บที่ซุกซ่อนอยู่ เช่นนั้นไม่ดีกว่าหรือ” จวินอู๋เย่าพูด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาดูไม่จริงใจเอาเสียเลย
จวินอู๋เสียกะพริบตาฟังจวินอู๋เย่าและไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเพิ่มเติม นางนั่งลงเงียบๆ ด้วยกลัวว่าจะรบกวนสมาธิของจวินอู๋เย่า และยื่นมือนางออกไปให้เขาตรวจดูมือต่อ
มุมปากของจวินอู๋เย่ายกสูงขึ้นอีก เขาบีบนวดปลายนิ้วมือของนางและพลิกมือเล็กๆ ให้หงายขึ้น จากนั้นก็เกาฝ่ามือนางอย่างอ่อนโยน สัมผัสแผ่วเบาชวนจั๊กจี้เล็กน้อยนั้นทำให้จวินอู๋เสียตัวสั่นเบาๆ
จวินอู๋เย่าพบงานอดิเรกที่เขาจะไม่มีวันเบื่อเข้าแล้ว!
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยที่ยืนเฝ้าประตูอยู่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะคงสีหน้าเคร่งขรึมเอาไว้
นายท่านหลอกคุณหนูใหญ่โต้งๆ แบบนี้เลยน่ะหรือ
นี่มันหลอกลวงกันชัดๆ!
คุณหนูใหญ่เองก็ออกจะมีสติปัญญาสูงส่ง ทำไมนางถึงไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลัง ‘การตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน’ ของนายท่านได้
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยสบตากัน ทั้งคู่ต่างเห็นแววตาอับจนปัญญาและความครื้นเครงที่ถูกข่มเอาไว้ในดวงตาของแต่ละฝ่าย
จวินอู๋เย่าที่กุมมือนุ่มนิ่มคู่นั้นเอาไว้ แกล้งทำเป็นสงบนิ่งจริงจังขณะที่เอ่ยถามว่า “ที่ด้านล่างของผาสุดขอบฟ้าสนุกหรือไม่”
“ไม่” จวินอู๋เสียตอบ
“รู้ว่าที่นั่นอันตรายยังจะไปอีกหรือ” จวินอู๋เย่าถามพร้อมกับเลิกคิ้ว เยี่ยเม่ยเล่าสิ่งที่พวกเขาเจอที่ด้านล่างผาสุดขอบฟ้าให้เขาฟังทั้งหมดแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนจากดินแดนเทพมารลงทุนลงแรงไปมากจริงๆ แต่…ด้วยพลังของเสี่ยวเสียเอ๋อร์กับสหายของนาง การที่พวกเขาลงไปด้านล่างผาสุดขอบฟ้าแล้วยังรอดชีวิตกลับมาได้นั้น ก็ถือว่ามีความสามารถมากแล้ว
“ข้าอยากหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ” แววตาของนางเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น ยามที่เผชิญหน้ากับคนจากสามโลกชั้นกลาง นางถูกย้ำเตือนซ้ำๆ ถึงความอ่อนแอของตัวเอง นางจะไม่พึ่งพาพลังของคนอื่นในการปกป้องตัวเอง นางรู้ว่านางจำเป็นจะต้องแข็งแกร่งให้มากขึ้นกว่านี้!
จวินอู๋เย่ายิ้มมุมปาก เขาขยับหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของจวินอู๋เสีย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรื่นเริง
“อย่างนั้นหรือ ทำไมเสี่ยวเสียเอ๋อร์ถึงอยากจะค้นหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมากนักเล่า”
“เพื่อความแข็งแกร่ง” จวินอู๋เสียตอบตามตรงไม่คิดอ้อมค้อม “เจ้าโง่เฉียวกับคนอื่นๆ บอกข้าว่าสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมีสมบัติจากสามโลกชั้นกลางที่ทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นได้ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ข้าต้องการพลังที่จะเอาไว้ต่อต้านสิบสองตำหนัก”
ความรู้สึกที่ไม่สามารถกลับบ้านได้นั้นเป็นสิ่งที่นางไม่ต้องการจะทนไปนานๆ
รอยยิ้มของจวินอู๋เย่าขยายกว้างขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเป็นใคร เจ้ากล้าปรารถนาในสมบัติของเขาอย่างนั้นหรือ”
“เขาตายแล้ว” จวินอู๋เสียแย้ง
“…”
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู อยากจะพุ่งเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าจวินอู๋เสีย
คุณหนูใหญ่!
การพูดใส่หน้าคนคนหนึ่งว่าเขาตายแล้วเป็นสิ่งที่ควรทำหรือขอรับ
สายตากระวนกระวายสองคู่มองไปที่จวินอู๋เย่าอย่างไม่ตั้งใจด้วยกลัวว่าเขาจะโกรธ
แต่จวินอู๋เย่ากลับหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เขานั่งจับมือเล็กๆ ของจวินอู๋เสียอยู่อย่างนั้นพร้อมกับหัวเราะจนตัวโยน
“ใช่แล้ว…เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิตายแล้ว คนตายไปแล้ว ไม่ว่าตอนมีชีวิตอยู่เขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป”
เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ‘ตายแล้ว’ มิเช่นนั้นเจ้าพวกขยะจากสิบสองตำหนักจะกล้าเล็งมาที่สถานที่นั้นหรือ จวินอู๋เย่าหรี่ตาลงเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ผู้คนมากมายที่ปรารถนาสมบัติของเขา เขาจะต้องไม่ลืมให้ ‘รางวัล’ แก่พวกมันในอนาคตแน่
แต่…
สายตาของจวินอู๋เย่าเลื่อนมามองจวินอู๋เสีย ประกายคมปลาบในดวงตาหายไปในทันที
ตราบเท่าที่เสี่ยวเสียเอ๋อร์ต้องการ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม นางย่อมได้ตามที่ปรารถนา
ตอนที่ 744 หลอกจับมือ (3)
นายท่านช่างปฏิบัติกับคนที่จ้องเล็งเอาสมบัติของเขาได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยรีบแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอย่างเข้าใจกันดีโดยไม่ต้องพูดอะไร
สำหรับนายท่านแล้ว ไม่ว่าคุณหนูใหญ่ต้องการอะไร เขาก็ล้วนจัดหามาให้อย่างยินดี!
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์คิดจะทำอะไรหลังจากนี้” จวินอู๋เย่าถามจวินอู๋เสียพร้อมกับมองนางอย่างเคร่งขรึม ผาสุดขอบฟ้าเกิดขึ้นมาหลังจากเขาหายตัวไป ตามที่เยี่ยเม่ยบอกเขา ที่นั่นเต็มไปด้วยอันตรายอย่างถึงที่สุดเท่าที่ดินแดนเทพมารจะทำได้ ถ้าพวกเขาไปที่นั่นโดยไม่มีแผนที่ แม้แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถหามันพบ
“หาแผนที่” จวินอู๋เสียตอบ นางไม่อยากปกปิดสิ่งใดจากจวินอู๋เย่า
หนิงรุ่ยถูกขังไปแล้ว ไม่นานแผนที่ที่เขาครอบครองอยู่ก็จะตกอยู่ในมือของพวกเขา รวมกับแผนที่อีกสองส่วนที่พวกเขามีอยู่ ก็จะเท่ากับว่าพวกเขามีแผนที่สามในแปดส่วนอยู่ในมือ
“ระหว่างทางไปผาสุดขอบฟ้า เราเจอคนจากรัฐเหยียน ถ้าข้อมูลที่เราได้มาถูกต้อง รัชทายาทของรัฐเหยียนน่าจะมีแผนที่อีกส่วนหนึ่ง” ถ้าพวกเขาได้แผนที่ส่วนนั้นมา พวกเขาก็จะมีแผนที่สี่ส่วนซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่ง ส่วนอื่นๆ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเวลา
“อ้อ แล้วเจ้าต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่” จวินอู๋เย่าถามพร้อมกับหัวเราะ
แต่จวินอู๋เสียกลับส่ายหัว นางไม่ลืมว่าจวินอู๋เย่ามักจะหายตัวไปเป็นครั้งคราวและไปแบบกะทันหัน นั่นหมายความว่าเขามีเรื่องของตัวเองที่จำเป็นต้องจัดการอยู่
จวินอู๋เย่าแข็งแกร่งมากกว่าทุกคนที่นางเคยพบมา แต่นางไม่ต้องการพึ่งจวินอู๋เย่าเสียทุกเรื่อง ถ้านางแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตัวเอง นั่นย่อมเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนาง ถ้าจวินอู๋เสียอยากต่อต้านสิบสองตำหนัก นางก็ต้องไม่พึ่งพาพลังของผู้อื่น
จวินอู๋เย่าไม่ฝืนดึงดันและปล่อยให้จวินอู๋เสียเป็นผู้ตัดสินใจ
“หมายความว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์จะไปที่รัฐเหยียนต่อสินะ” จวินอู๋เย่าถามพร้อมกับเลิกคิ้ว ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่นิ้วเล็กๆ ของจวินอู๋เสีย และดูเหมือนจะมองเท่าไรก็ไม่เบื่อเลย
“ไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก เฟยเยียนยังต้องสอดแนมหาข้อมูลของรัฐเหยียนให้ได้มากกว่านี้ก่อน แล้วยังอาการบาดเจ็บของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับฟ่านจิ่น…ข้าอยากรักษาพวกเขาก่อน” จวินอู๋เสียพูดพร้อมขมวดคิ้วมุ่น อาการบาดเจ็บของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้รับการรักษาแล้ว แค่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นก่อนจะหายดีเท่านั้น แต่อาการของฟ่านจิ่นนั้นซับซ้อนกว่านิดหน่อยและต้องใช้ความพยายามมากกว่า
ฟ่านฉีตายแล้ว สำนักศึกษาเฟิงหัวต้องการอาจารย์ใหญ่คนใหม่เข้ามารับหน้าที่อันหนักหนานี้ ฟ่านจัวจะไปพร้อมกับพวกเขา สำนักศึกษาเฟิงหัวจึงถูกทิ้งไว้ให้แก่ฟ่านจิ่นซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
“อย่างนั้นข้าควรอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเจ้าหรือไม่” จวินอู๋เย่าถาม
จวินอู๋เสียเลื่อนสายตาขึ้นมองจวินอู๋เย่า นางเห็นภาพสะท้อนของตัวเองอยู่ในดวงตาที่ทอแววยิ้มๆ คู่นั้น
“ท่านเสร็จธุระของตัวเองแล้วหรือ”
จวินอู๋เย่าส่ายหน้าและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ถ้าจะล่าช้าไปอีกสักหน่อยก็ไม่มีอะไรแตกต่างขึ้นมาหรอก ตรงกันข้ามข้ากังวลมากกว่าว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์จะไม่ชอบให้ข้าอยู่เป็นเพื่อน” ดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นดูเหงาหงอยเล็กน้อย แต่มีแววหยอกล้อขบขันเจือจางอยู่ภายใน สายตาน่าสงสารเหมือนลูกหมาถูกทิ้งนั้น ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกปั่นป่วนสับสนและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
นางก้มหน้าลงและเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำถามของจวินอู๋เย่า
จวินอู๋เย่าเห็นคนตัวเล็กไม่ยอมตอบคำถามเขาอีกครั้ง แต่กระนั้นเขาก็ยังใจเย็น เขาสั่งให้เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยทำความสะอาดสถานที่ก่อนที่เขาจะหยอกล้อจวินอู๋เสียต่อไป
จวินอู๋เสียที่เจอกับการหยอกล้ออย่างต่อเนื่อง รู้สึกลำบากใจมากและทำอะไรไม่ถูก ท่านอาเล็กกับท่านปู่ของนางไม่เคยหยอกล้อนางด้วยท่าทีเช่นนี้ ถึงแม้พวกเขาจะพูดกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนกัน แต่นางก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามีความแตกต่างอย่างมากในตอนที่จวินอู๋เย่าทำเช่นนั้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อน จวินอู๋เสียจะไล่เขาออกไปในทันที แต่จวินอู๋เย่าอยู่ในฐานะ ‘พี่ชาย’ และจวินอู๋เสียไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันได้อย่างไร
ในขณะที่นางกำลังรู้สึกปั่นป่วนสับสนอยู่นั้นเอง ฟ่านจิ่นก็เข้ามาพร้อมกับเฉียวฉู่และคนอื่นๆ