ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 757 รัฐเหยียน (8) ตอนที่ 758 โรงประมูลภูติอัคคี (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 757 รัฐเหยียน (8) ตอนที่ 758 โรงประมูลภูติอัคคี (1)
ตอนที่ 757 รัฐเหยียน (8) / ตอนที่ 758 โรงประมูลภูติอัคคี (1)
ตอนที่ 757 รัฐเหยียน (8)
แต่ฟ่านจิ่นก็ไม่ได้ถามอะไรพวกเขา เขาไม่ต้องการรู้ลึกไปมากกว่านี้ เขารู้ว่าไม่ว่าจะเป็นจวินอู๋เสียหรือสหายที่อยู่รอบตัวนาง ทุกคนต่างก็มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา และถ้าพวกเขาไม่บอกเขาว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร เขาก็คิดว่าทุกคนต้องมีเหตุผลของตัวเองที่ทำเช่นนั้น
ฟ่านจิ่นหันไปมองฟ่านจัวช้าๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจของน้องชายอย่างแท้จริง เขาก็รู้สึกดีใจและมีกำลังใจขึ้น
“พวกเจ้าคุยกันไปก่อนนะ ข้าต้องขอตัวไปพบกับท่านราชครูก่อน” ฟ่านจิ่นลุกขึ้นยืน เขาเกรงว่าจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ อาจจะไม่สะดวกใจที่จะพูดคุยกันถ้าเขายังอยู่ที่นั่น เขาจึงหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกไป
“ท่านราชครูอย่างนั้นหรือ พี่ใหญ่จะไปหาเขาทำไมกัน” ฟ่านจัวถาม
ราชครูของรัฐเหยียนเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญตำแหน่งหนึ่ง เขาได้รับความเคารพอย่างสูงจากผู้คน ชื่อเสียงและสถานะของเขาเป็นรองเพียงฮ่องเต้เท่านั้น แถมยังสูงกว่าองค์รัชทายาทที่เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์อีกด้วย แต่ราชครูแทบจะไม่เข้าไปก้าวก่ายกิจการงานเมืองของรัฐเหยียนเลย เขาเพียงแค่ปรากฏตัวยามจำเป็นเท่านั้น ถ้าฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนคือผู้ที่มีอำนาจปกครองรัฐ ราชครูก็คือผู้นำทางด้านจิตใจซึ่งเป็นที่รักและเคารพของผู้คนเป็นอย่างมาก
ฟ่านจิ่นตอบพร้อมกับหัวเราะว่า “ผู้อาวุโสเวินซินหันมอบจดหมายให้ข้าฉบับหนึ่งก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ข้าส่งมันให้ท่านราชครู”
ฟ่านจัวพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก พวกเขาทุกคนได้เดินทางออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัว ตอนนี้เวินซินหันกับกู้หลีเซิงเป็นผู้ดูแลสำนักอยู่ เนื่องจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเพิ่งจะผ่านความยุ่งยากวุ่นวายมา ฟ่านจิ่นจึงได้เชิญให้เวินซินหันอยู่ที่สำนักศึกษาเฟิงหัวชั่วคราวและเขาก็ไม่ปฏิเสธ
เมื่อเห็นฟ่านจิ่นจากไปแล้ว เฟยเยียนก็ลูบคางของเขาพลางกล่าวว่า “ถ้าข้าจำไม่ผิด ราชครูของรัฐเหยียนดูเหมือนจะแซ่เวินนะ” ดวงตาของเขาหันไปมองจวินอู๋เสียอย่างมีความหมาย
แม้ว่าแซ่เวินจะไม่ได้หายากมากมายอะไรนัก แต่เรื่องที่เวินซินหันให้ฟ่านจิ่นไปส่งจดหมายแก่ราชครูของรัฐเหยียนและที่พวกเขามีแซ่เวินเหมือนกัน ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงให้ผู้คนเชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันได้
“ราชครูของรัฐเหยียนชื่อเวินอวี่ใช่หรือไม่” จวินอู๋เสียถาม
เฟยเยียนพยักหน้า
“นั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านผู้อาวุโสเวินนะ เราไม่ควรสืบสาวมากไปกว่านี้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการยืนยันกับเราแล้วว่าเวินอวี่ไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา” ฟ่านจัวพูดด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าในจดหมายของเวินซินหันเขียนอะไรเอาไว้ แต่ถ้าเขามอบให้ฟ่านจิ่นส่งจดหมายนี้ด้วยตัวเองละก็ เขาก็เชื่อมั่นว่าเวินซินหันมีจุดมุ่งหมายส่วนตัวบางอย่าง อย่างเช่นการขอให้เวินอวี่ช่วยดูแลปกป้องพวกเขาหรืออะไรทำนองนั้น
“แค่กๆๆ…ข้าได้ยินมาว่า…ราชครูของรัฐเหยียน…งดงามน่าหลงใหลมาก” เฉียวฉู่พูดขึ้นทันควัน ใบหน้าเจือสีชมพูจางๆ
เฟยเยียนชำเลืองมองเฉียวฉู่ด้วยสายตารังเกียจ
เวลาที่เจ้าโง่นี่เห็นคนหน้าตาดีทีไร ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี มันก็ทำหน้าเป็นลูกหมาป่วยแบบนี้ทุกที!
“ก็ร่ำลือกันว่าเขางดงามมากอยู่ เห็นว่าเขามีใบหน้าที่งดงามที่สุดในรัฐเหยียน แต่อย่าไปพูดแบบนี้ข้างนอกเชียว ราชครูไม่ชอบให้คนพูดถึงเรื่องหน้าตาของเขา” เฟยเยียนเตือน
“ข้าไม่ทำหรอกน่า บุรุษที่ไหนจะชอบให้คนมาบอกว่าตัวเองงดงามกันเล่า” เฉียวฉู่บ่นพึมพำ
จวินอู๋เสียนั่งฟังอยู่เงียบๆ และเมื่อนางได้ยินเรื่องความงามของเวินอวี่ นางก็หันไปมองจวินอู๋เย่าที่อยู่ข้างๆ นางโดยไม่ทันได้คิด สายตาเย็นชาเล็กๆ ของเด็กสาวพินิจพิเคราะห์ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างละเอียด
อาจจะเป็นเพราะว่าสายตาของจวินอู๋เสียนั้นเห็นได้ชัดจนเกินไป แม้กระทั่งเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ก็ยังสังเกตเห็น
“น้องเสียไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ ข้ากล้ารับรองเลย! เจ้าคนที่ชื่อเวินอวี่อะไรนั่นไม่มีทางหน้าตาดีเท่าพี่ใหญ่จวินหรอก” เขาไม่เคยเห็นใครงดงามไปกว่าจวินอู๋เย่าอีกแล้วในชีวิตนี้! ถ้ามีคนบอกเขาว่ามีคนที่ดูดีกว่าจวินอู๋เย่า เขาก็คงไม่อาจจินตนาการได้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นสัตว์ประหลาดประเภทใดกัน
จวินอู๋เสียสะดุ้งเล็กน้อย นางรีบเบนสายตาออกมาทันที และก้มหน้าลงจิบชาของตัวเอง แต่ความพยายามปกปิดอย่างชัดเจนนี้กลับยิ่งทำให้จวินอู๋เย่าเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เขาหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข
ตอนที่ 758 โรงประมูลภูติอัคคี (1)
หลังอาหารกลางวัน พวกเขาต่างก็แยกย้ายกันไป
เมื่อมาถึงเมืองหลวงของรัฐเหยียน เฟยเยียนจึงรวบรวมข่าวสารได้มากยิ่งขึ้น และในช่วงก่อนศึกประลองภูติวิญญาณจะเริ่มขึ้น เขาก็รวบรวมข้อมูลข่าวสารต่อไปเรื่อยๆ นอกจากข้อมูลขององค์รัชทายาทรัฐเหยียนแล้ว เขาได้สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสำนักศึกษาต่างๆ ที่เข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณในปีนี้อีกเล็กน้อยด้วย
ในเวลาสั้นๆ ที่พวกเขาทานอาหารกัน ข่าวเรื่องสำนักศึกษาเฟิงหัวส่งคนมาแค่สิบคนก็กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว คนมากมายที่คิดไปแล้วว่าสำนักศึกษาเฟิงหัวตกต่ำลงในปีนี้ เมื่อได้ยินข่าวนั้นก็ยิ่งแน่ใจว่าพวกเขาคิดถูก
หลังมื้ออาหารกลางวันจบลง จวินอู๋เสียไม่ได้อยู่ในโรงเตี๊ยมต่อ รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินนี้ ทรัพยากรที่พวกเขามีเป็นสิ่งที่รัฐอื่นๆ ไม่อาจเทียบได้เลย และในเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในรัฐเหยียนก็ย่อมมีสถานที่ที่เมืองอื่นๆ ไม่อาจจะเทียบได้เช่นกัน
ตามข้อมูลของเฟยเยียน จวินอู๋เสียได้รู้ว่าเมืองหลวงของรัฐเหยียนมีโรงประมูลภูติอัคคีที่ใหญ่ที่สุดในใต้หล้าอยู่ด้วย มันถูกเปิดโดยคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดของรัฐเหยียน และสามารถพบได้ทุกเมืองในรัฐเหยียน โดยมีสาขาที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในเมืองหลวง พวกมันมีสินค้าหายากและไม่ธรรมดาทุกชนิดมากมายจนนับไม่ถ้วน เป็นสถานที่ที่โรงประมูลชานหลินเล็กๆ ไม่อาจจะคิดฝันไปเทียบเคียงได้เลย
แม้ว่าพวกเขาจะเจอปัญหายุ่งยากวุ่นวายมากมายมาตลอด จวินอู๋เสียก็ไม่ลืมโอสถวิเศษที่เยี่ยนปู้กุยต้องการ ในการหลอมโอสถให้สำเร็จนั้น อย่างแรกเลยนางต้องรวบรวมสมุนไพรที่ต้องการให้ได้ก่อน ดังนั้นนางจึงสนใจโรงประมูลภูติอัคคีและอยากจะไปดูว่าพวกเขามีสมุนไพรที่นางต้องการหรือไม่
เนื่องจากเมืองหลวงมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามามากมายมหาศาล ทั่วทั้งเมืองจึงมีโรงประมูลมากมายทั้งเล็กและใหญ่ โรงประมูลภูติอัคคีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเปิดทำการทุกวัน ทำให้ทุกคนไปเลือกสินค้าที่ต้องการได้ทุกเมื่อ
มันเป็นเวลาเที่ยงวัน เมืองหลวงของรัฐเหยียนเต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียดพลุกพล่าน มองไปทางใดก็มีแต่ผู้คนอยู่เต็มไปหมด
เนื่องจากศึกประลองภูติวิญญาณใกล้เข้ามาแล้ว เมืองหลวงจึงเต็มไปด้วยคนจากสำนักศึกษาต่างๆ มากมาย และคนที่มาจากตระกูลหรือสำนักที่มีอำนาจอื่นๆ ที่มาค้นหาผู้ที่มีศักยภาพที่จะดึงเข้าร่วมกับฝ่ายพวกเขา ทุกคนพากันมาชุมนุมที่เมืองหลวงเพื่อรอคอยการประลองที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ทำให้เมืองล้นทะลักไปด้วยผู้คน
ส่วนเรื่องเจตนาของตระกูลหรือสำนักที่มีอำนาจต่างๆ นั้น ทางรัฐเหยียนมักจะนิ่งเฉยอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะปล่อยให้คนอื่นมาคว้าตัวศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่พวกเขาจับตามองไปได้ตามใจชอบ แต่เป็นเพราะรัฐเหยียนมั่นใจมากว่าไม่ว่าพวกเขาจะเข้าหาใคร คนผู้นั้นจะไม่มีวันปฏิเสธคำชวนของพวกเขา
นั่นคือความมั่นใจของผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน!
จวินอู๋เสียเดินตามแผนที่ที่เฟยเยียนให้นางไว้ นางผ่านถนนใหญ่และตรอกซอกซอยเล็กๆ หลายแห่งเพื่อตรงไปยังโรงประมูลภูติอัคคี และข้างๆ นางก็มีร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งตามมาติดๆ
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์มีของที่อยากจะได้อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เย่าถามด้วยรอยยิ้มพลางมองไปที่จวินอู๋เสีย ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะว่างจัดก็เลยทำตัวติดกับจวินอู๋เสียตลอดเวลา มีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่เขาหายตัวไปซึ่งก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
จวินอู๋เสียไม่เคยถามถึงการหายตัวไปของเขาแม้ว่านางจะได้กลิ่นโลหิตจางๆ จากตัวเขาทุกครั้งก็ตาม นางแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ
“ข้าอยากได้สมุนไพรบางอย่าง” จวินอู๋เสียตอบ
“เจ้าจะหลอมโอสถอีกแล้วหรือ” จวินอู๋เย่าถาม เขาหรี่ตาลงมองจวินอู๋เสีย ตั้งแต่แรกพบจนถึงตอนนี้ เขามักจะได้กลิ่นสมุนไพรบางเบาลอยมาจากตัวนางอยู่เสมอ มันช่างแตกต่างจากกลิ่นแป้งหอมฉุนๆ ที่พบได้ทั่วไปในตัวสตรีโดยสิ้นเชิง และแตกต่างจากกลิ่นหอมหวานเอียนๆ ของบุปผานานาพรรณ จวินอู๋เสียมีกลิ่นเฉพาะตัวนาง เป็นกลิ่นขมจางๆ ซึ่งในตอนแรกอาจจะชวนกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่เมื่อชินแล้วก็จะค่อยๆ ชอบมันมากขึ้นและทำให้รู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก