ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 77 อย่ามากวนข้า (1)ตอนที่ 78 อย่ามากวนข้า (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 77 อย่ามากวนข้า (1)ตอนที่ 78 อย่ามากวนข้า (2)
ตอนที่ 77 อย่ามากวนข้า (1)
จวินอู๋เสียนั่งเงียบๆ อยู่ข้างโต๊ะ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
ข้างนอกหน้าต่างมืดสนิท มีเพียงแสงจากดวงจันทร์เท่านั้น
“กลิ่นหอมมาก”
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น ยังไม่ทันหันหลังกลับก็ถูกวงแขนอันทรงพลังคู่หนึ่งโอบกอดไว้
“เด็กน้อยอย่างเจ้าริอาจดื่มสุราหรือ” จวินอู๋เย่าที่กำลังยิ้มมุมปาก หรี่ตาลงแล้วจ้องไปที่คนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขา
เขาได้กลิ่นสุราแรงมากก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้อง ซึ่งกลิ่นหอมนี้ทั้งแปลกและคุ้นเคย เขาเคยได้กลิ่นหอมของดอกบัวที่อยู่ในอ่างสุรานี้จากตัวนางมาก่อน
กลิ่นมันหอมมาก
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปที่จวินอู๋เย่า นางแทบจะคุ้นเคยกับการกระทำที่แนบชิดของเขาทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว แม้ว่านางจะไม่เห็นด้วย แต่นางก็ไม่สนใจและไม่อยากจะพูด
“นี่คือสิ่งที่เจ้าเด็กมั่วเฉี่ยนยวนให้เจ้าหรือ” จวินอู๋เย่านั่งลงบนเก้าอี้โดยที่มีจวินอู๋เสียอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขายกยิ้มมุมปาก แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเย็นชาเมื่อมองดูสุราชั้นเลิศนั่น
ไม่รอให้จวินอู่เสียเอ่ย เขาได้หยิบไหสุราที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปาก เลิกคิ้วและมองไปที่จวินอู๋เสีย
“สุราแบบนี้ไม่คู่ควรที่จะเข้าปากเจ้า” ขณะที่เขาพูด เขาก็หมุนข้อมือเพื่อเทสุราทั้งหมดในไหทิ้ง
ดวงตาของจวินอู๋เสียเย็นชาขึ้นมาทันที และนางต้องการจะหยุดเขา แต่แขนที่อยู่รอบเอวของนางนั้นแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก บังคับนางให้อยู่ในอ้อมแขนของเขาและห้ามนางขยับแม้แต่เล็กน้อย
“วางมันกลับไปเดี๋ยวนี้” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
จวินอู๋เย่ามองนางด้วยรอยยิ้มโดยไม่โกรธเคืองแม้แต่น้อย
“อู๋เสียอย่าโมโห ถ้าเจ้าชอบสุรา ข้าจะหาสุราดีๆ มาให้ จะให้เจ้าดื่มขยะแบบนี้ได้อย่างไร”
“วางกลับไปที่เดิม” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง
จวินอู๋เย่ามองนางด้วยรอยยิ้มไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาสีดำสนิทของเขาค่อยๆ เผยสีม่วงเข้มออกมาและไม่มีรอยยิ้มในดวงตาของเขาแม้แต่น้อย
“ปล่อย…ปล่อยเจ้านายของข้า…เจ้านาย” ทันใดนั้นก็มีเสียงสะอื้นไห้ดังมา
เจ้าดอกบัวขาวที่หลบอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ น้ำตารื้นขึ้นเต็มขอบตาและร่างเล็กๆ ของเขาที่พิงกำแพงไว้ก็ไหวเอนเกือบล้ม
“นี่คือ” จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วขึ้น
จวินอู๋เสียกลุ้มใจ นางไม่ได้เก็บเจ้าดอกบัวขาวกลับเข้าไป จวินอู๋เย่ามาแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เขาจึงพบเจ้าดอกบัวขาวเข้าอย่างจัง
ด้วยความสามารถของจวินอู๋เย่า จึงไม่ยากที่เขาจะมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้าดอกบัวขาว
“โอ้ ข้าคิดว่าเจ้าแมวดำตัวนั้นเป็นภูตวิญญาณของเจ้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าคิดผิด” จวินอู๋เย่าก้มศีรษะลงและมองจวินอู๋เสีย ดวงตาที่ยิ้มแย้มของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
“เจ้า ถ้าเจ้ายังไม่ปล่อยเจ้านาย ข้าจะโมโหแล้วนะ” ดอกบัวขาวตัวน้อยพองแก้ม ใบหน้าที่แดงก่ำของเขาดูน่ารักเป็นพิเศษ
แมวดำที่นั่งอยู่บนโต๊ะอย่างเงียบๆ ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นเพื่อปิดดวงตาของตัวเอง
ไม่ใช่ว่ามันอ่อนแอเกินไป แต่ศัตรูนั้นร้ายกาจเกินไป
เจ้าโง่ มันอยากตายหรือ
“โอ้” ดวงตาของจวินอู๋เย่าเย็นชาขึ้นมาทันที ปลายนิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย และลำแสงสีดำก็พุ่งออกไปกระทบหน้าผากของเจ้าดอกบัวขาวเต็มแรง
อ้า ความเจ็บปวดออกมาจากหน้าผากของเขา เจ้าดอกบัวขาวน้อยขดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
“เวลาที่ข้าคุยกับอู๋เสียเจ้าพูดแทรกได้หรือ” จวินอู๋เย่ายิ้มอย่างชั่วร้ายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเขาหันไปมองจวินอู๋เสียอีกครั้ง เขาก็หยุดชะงัก
ดวงตาที่เยือกเย็นคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่กะพริบตา คนตัวเล็กที่ถูกเขากักขังอยู่ในอ้อมแขน มือเล็กๆ ที่ขาวเนียนนั้นถือเข็มเงินสองสามเล่มไว้ และแตะอยู่ที่คอของเขา
“ข้าไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระกับเจ้า อย่ามากวนข้าอีก” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางไม่อยากสนใจว่าจวินอู๋เย่าทำอะไรในทุกวัน แต่ถ้าเขามารบกวนนาง นางก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเขา
……….
ตอนที่ 78 อย่ามากวนข้า (2)
จวินอู๋เย่ามองเด็กน้อยที่แสดงเขี้ยวเล็บของตัวเองออกมาด้วยความประหลาดใจ ดวงตาที่เย็นชาจางหายไปในทันที ท่าทางของเขาไม่กลัวเข็มเงินนั้นเลย เพียงแค่หัวเราะออกมาเบาๆ
เข็มเงินในมือของจวินอู๋เสียแตะอยู่ที่จุดมิ่งเหมินของจวินอู๋เย่า แค่แทงลงไป แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้แต่มันก็ทำให้เขาทรมานได้
จวินอู๋เย่าก้มศีรษะลง เข็มเงินที่ปักอยู่ที่คอของเขาแทงเข้าผิวหนังของเขาโดยตรง ครึ่งหนึ่งของเข็มเข้าไปในลำคอของเขา เลือดสีแดงสดไหลไปตามเข็มเงินจนเต็มมือจวินอู๋เสีย ดวงตาของนางเย็นชา ไร้ร่องรอยของความตื่นตระหนก
“มันเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรทำให้เจ้าโมโห เจ้าอยากลงโทษข้าอย่างไร แล้วแต่เจ้าเลย” เข็มเงินสี่เล่มแทงเข้าที่คอของเขา และเลือดก็เปื้อนเต็มคอที่สวยงามของเขา แต่เขาก็ยังคงมองจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“วางกลับไปที่เดิม” จวินอู๋เสียกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จวินอู๋เย่าถอนหายใจเบาๆ แล้ววางไหสุราในมือลงบนโต๊ะ
“อู๋เสียอย่าโมโห ข้าผิดเอง ถ้าเจ้าชอบก็เก็บขยะพวกนี้ไว้ก่อน แต่เจ้าจงจำไว้ว่าอย่าดื่มเป็นอันขาด สุรานี้ไม่ดี มันจะทำให้เจ้าแสบคอ พรุ่งนี้ข้าจะหาสุราที่ดีมาให้เจ้า” จวินอู๋เย่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเบา เหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมจวินอู๋เสียที่กำลังโมโหอยู่ แต่ไม่สนใจเข็มเงินสี่เล่มที่แทงคอของเขาเลย
“ไม่ต้อง” จวินอู๋เสียกล่าว
จวินอู๋เย่าไม่บังคับ เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสียยังไม่หายโมโห เขาก็ยกมือขึ้น กระดิกปลายนิ้วและเก็บวัตถุสีดำที่อยู่บนหน้าผากของเจ้าดอกบัวขาวกลับมา
“ข้าแค่ล้อเล่นกับเจ้า ข้าไม่ได้ทำร้ายเขาจริงๆ ข้าจะฆ่าภูติวิญญาณของเจ้าได้อย่างไร” จวินอู๋เย่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เจ้าดอกบัวขาวค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดเมื่อครู่ทำให้จิตวิญญาณของเขาแทบฉีกออกเป็นชิ้นๆ เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้นมาก่อน โดยปกติสำหรับภูติวิญญาณการทำร้ายจากมนุษย์ไม่ได้เจ็บปวดเยี่ยงนี้ แค่ทำให้พลังของพวกเขาลดลงเท่านั้น ภูติวิญญาณไม่สามารถสัมผัสถึงความเจ็บปวดจากการโจมตีของมนุษย์ได้ แต่คราวนี้เจ้าดอกบัวขาวน้อยเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
เขามองจวินอู๋เย่าด้วยความกลัวที่ยังเหลืออยู่ และก็ยิ่งรู้สึกว่าบุรุษผู้นี้ลึกลับและน่ากลัว
“เจ้ามานี่” จวินอู๋เย่ากระดิกนิ้วเรียกเจ้าดอกบัวขาว เจ้าดอกบัวขาวตัวสั่นเล็กน้อยและเดินเข้าใกล้ด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ
“แค่แกล้งเจ้าเล็กน้อย อย่ากลัว สิ่งนี้ให้เจ้าเป็นการชดเชย” จวินอู๋เย่าโยนไข่มุกสีเขียวมรกตออกไปและ เจ้าดอกบัวขาวก็จับมันไว้อย่างสั่นเทา
หลังจากนั้น จวินอู๋เย่าก็ก้มศีรษะมองจวินอู๋เสียอีกครั้ง
“ตอนนี้เจ้ายังโมโหอยู่หรือไม่”
“เจ้าน่ารำคาญมาก” จวินอู๋เสียกล่าว
“ประโยคนี้ช่างทำให้คนฟังเสียใจจริงๆ” จวินอู๋เย่าขมวดคิ้วและกังวลเล็กน้อย
“ถ้าเจ้าชอบทำร้ายร่างกายตัวเอง ข้ายังมีเข็มเงินอีกหนึ่งร้อยแปดเล่มอยู่ที่นี่” จวินอู๋เสียกล่าว
จวินอู๋เย่าหัวเราะออกมาเบาๆ เขาจับมือเล็กๆ ของจวินอู๋เสียขึ้นมาและจูบลงบนหลังมือของนาง “ถ้ามันทำให้เจ้ามีความสุขเพิ่มอีกสิบเท่าจะเป็นไรเชียว”
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย นางเคยเห็นคนที่ไม่กลัวตายมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนที่ชอบทำร้ายตัวเองเหมือนจวินอู๋เย่า
“แค่เจ้าไม่มากวนข้า ข้าก็ดีใจมากแล้ว” หากยังกล้ามายุ่งกับภูติวิญญาณและยอดสุราธาราหยกของนางอีก เข็มเงินอีกร้อยเท่านางก็กล้าแทง
“ไม่มากวนเจ้าได้ แต่ไม่มาไม่ได้” จวินอู๋เย่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
จวินอู๋เสียเหลือบมองเขาและลุกขึ้นแต่ไม่พูดอะไร
ครั้งนี้จวินอู๋เย่าไม่กล้าใช้กำลังอีก ปล่อยให้นางลุกขึ้น
“กลิ่นเหม็น เจ้าไปได้แล้ว” จวินอู๋เสียขมวดคิ้วและมองสองมือที่เปื้อนเลือด กลิ่นเลือดเหม็นคาวไปทั่วห้องและผสมกับกลิ่นสุรา ทำให้นางรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย นางจำเป็นต้องทำความสะอาด
…………….