ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 787 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (2) ตอนที่ 788 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 787 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (2) ตอนที่ 788 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (3)
ตอนที่ 787 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (2) / ตอนที่ 788 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (3)
ตอนที่ 787 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (2)
แต่ก็มีคนที่โชคร้ายด้วยเช่นกัน ใครก็ตามที่ต้องเผชิญหน้ากับศิษย์จากสำนักศึกษาพิชิตมังกร สำนักศึกษาธงศึก หรือสำนักศึกษาเฟิงหัว เกือบทุกคนจะเลือกสละสิทธิ์ในการแข่งขันและไม่เข้าประลองเลย!
นั่นเป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่และชื่อเสียงของสามสุดยอดสำนักศึกษาได้เป็นอย่างดี!
แต่สถานการณ์ที่ดำเนินมาเช่นนี้หลายปีกลับเปลี่ยนไปในปีนี้…
ความยิ่งใหญ่ของสำนักศึกษาพิชิตมังกรและสำนักศึกษาธงศึกยังคงเหมือนเดิม แต่สำนักศึกษาเฟิงหัวนั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว
สายตาของศิษย์มากมายหลายคนมองมาที่คนที่อยู่คนเดียวในเครื่องแบบสำนักศึกษาเฟิงหัว เด็กหนุ่มร่างเล็กยืนอยู่ในมุมหนึ่ง สำนักศึกษาเฟิงหัวในปีนี้ไม่แค่ลดจำนวนผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณลงเกือบครึ่งเท่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขายังจำเป็นต้องเอาเจ้าเด็กตัวเล็กมาร่วมแข่งขันด้วย! นั่นทำให้ผู้เข้าแข่งขันในเขตที่หนึ่งพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม ไม่มีสักคนที่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ให้กับเจ้าหนูตัวเล็กอ่อนแอแบบนั้นในการต่อสู้ พวกเขาเห็นว่าอย่างมากเขาก็อายุสิบสี่หรือสิบห้าปี ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าภูติวิญญาณของเขาน่าจะตื่นขึ้นได้ไม่นาน ด้วยอายุเท่านั้น อย่างดีที่สุดที่เขาจะไปถึงได้ก็แค่พลังวิญญาณขั้นสีแดง นอกจากอายุแล้ว เจ้าหนูนี่ก็ดูผอมแห้งแรงน้อย ดูไม่เหมือนจะสามารถต่อสู้ได้เลย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ได้บอกพวกเขาว่าพวกเขามีคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่และพวกเขามีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพให้โดดเด่นขึ้นมาได้!
ถึงแม้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะตกต่ำลงแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเขาก็ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วแผ่นดิน ถ้าพวกเขาได้รับโอกาสต่อสู้กับเจ้าหนูตัวเล็กของสำนักศึกษาเฟิงหัวนี้ พวกเขาก็จะโอ้อวดได้ว่าสามารถเอาชนะพวกหัวกะทิมาได้
การเอาชนะศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวในศึกประลองภูติวิญญาณได้จะเป็นเกียรติยศของพวกเขาตลอดไปไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม!
การจับสลากยังไม่เริ่ม บรรดาศิษย์ทั้งหลายก็พากันแอบภาวนาให้ได้แข่งกับจวินอู๋เสียในรอบแรก เนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่าเจ้าจิ๋วนี่จะรอดไปจนถึงรอบที่สอง ดังนั้นไม่ว่าใครที่ได้แข่งกับเด็กนี่ในรอบแรก คนผู้นั้นจะได้เปรียบอย่างมาก และโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาทุกปี
จวินอู๋เสียยืนเงียบๆ อยู่ในมุมโดยไม่รู้ว่าตัวเองถูกเข้าใจว่าเป็นแกะที่ถูกส่งมาให้เชือด นางแค่อยู่ในมุมแบบเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ สายตาประสงค์ร้ายพวกนั้นที่จ้องตรงมาเป็นสิ่งที่นางคุ้นเคยอยู่แล้วและไม่ได้ใส่ใจ แต่ทันใดนั้นเอง นางก็รู้สึกถึงสายตาแปลกๆ ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ แต่สายตานั้นไม่ได้ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจแม้แต่น้อย
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของสายตาคู่นั้น ในฝูงชนนางเห็นใบหน้างามน่ารักของเด็กสาวคนหนึ่งที่มีดวงตาเรียวยาว
เด็กสาวคนนั้นกำลังเฝ้าสังเกตจวินอู๋เสียแล้วจู่ๆ จวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้น ทั้งสองสบตากันพอดี แค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้นใบหน้าเรียบเนียนนั่นก็ราวกับถูกไฟเผาจนกลายเป็นสีแดงเข้ม ดวงตาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที นางรีบก้มหน้าลง พยายามจะซ่อนตัวอย่างไร้ประโยชน์และขยับไปข้างๆ อีกสองสามก้าว
นัยน์ตาของจวินอู๋เสียเจือแววสงสัย นางจำได้ว่าเคยเห็นเด็กสาวคนนี้มาก่อนที่ตำหนักรัชทายาท เด็กสาวคนนี้แต่งเครื่องแบบของสำนักศึกษาธงศึก ถ้านางจำไม่ผิด วันนั้นที่ตำหนักรัชทายาท นางได้ยินเหลยเชินเรียกชื่อเด็กสาวคนนี้อยู่สองสามครั้ง
หลิงเย่ว์หรือเปล่านะ ดูเหมือนจะสองคำนี้แหละ น่าจะใช่
ในหัวของจวินอู๋เสียเริ่มหมุนเร็วจี๋ เมื่อคืนเฟยเยียนเรียกรวมตัวทุกคนและยัดข้อมูลของศิษย์ทุกคนจากสำนักศึกษาธงศึกและสำนักศึกษาพิชิตมังกรที่เข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณครั้งนี้ให้พวกเขา และหนึ่งในนั้นก็เป็นเด็กสาวที่แอบมองนางคนนี้และหน้าแดงทันทีที่ถูกจับได้
ชวีหลิงเย่ว์ ศิษย์ที่ได้อันดับหนึ่งในศึกประลองภูติวิญญาณของสำนักศึกษาธงศึก!
ตอนที่ 788 เริ่มศึกประลองภูติวิญญาณ (3)
ชวีหลิงเย่ว์นั้นจิ้มลิ้มและน่ารักมาก รูปร่างไม่ได้จัดว่าสูงมาก ไม่มีใครจะคิดว่าอันดับหนึ่งในศึกประลองภูติวิญญาณของสำนักศึกษาธงศึกจะเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ดูสวยหวานบอบบางแบบนี้ ถึงแม้ชวีหลิงเย่ว์จะดูตัวเล็กน่ารัก แต่ภูมิหลังของนางทำให้คนจำนวนมากที่คิดไม่ดีต่อนางต้องถอยไปอย่างระมัดระวัง
บิดาของชวีหลิงเย่ว์เป็นเจ้าเมืองพันอสูร และในประวัติศาสตร์ของเมืองพันอสูรมีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปรากฏตัวถึงสองคน แม้ว่าเมืองพันอสูรจะไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงในตอนนี้แล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังเป็นที่จดจำ
จวินอู๋เสียไม่เคยมีการพบปะพูดคุยกับชวีหลิงเย่ว์มาก่อน แม้แต่คืนงานเลี้ยงที่ตำหนักรัชทายาท นางก็เพียงแค่มองชวีหลิงเย่ว์ผ่านๆ ทางหางตาเท่านั้น จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าทำไมชวีหลิงเย่ว์จึงจ้องมองนางเช่นนั้น สายตาของนางแตกต่างจากทุกคน ปราศจากความเป็นศัตรูโดยสิ้นเชิง เหมือนว่านางกำลังหาอะไรอยู่มากกว่า
จวินอู๋เสียละสายตาออกไป
ไม่นานผู้ที่มีหน้าที่ทำการจับสลากก็เดินเข้ามา สิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าก็คือกล่องที่ปิดผนึกเกือบหมด มีแค่รูที่ใหญ่พอจะเอามือล้วงเข้าไปได้เท่านั้น พวกผู้เยาว์ที่เอะอะเสียงดังกันอยู่ก็พากันเงียบทันทีพร้อมกับจ้องมองไปที่กล่องอย่างกระวนกระวายใจ ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นจะเป็นตัวตัดสินว่าพวกเขาจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหนในศึกประลองภูติวิญญาณครั้งนี้
พวกผู้เยาว์เดินขึ้นมาจับสลากกันทีละคน ตัวเลขที่เหมือนกันหมายถึงพวกเขาคือคู่ต่อสู้ของกันและกันในการประลองรอบแรกที่กำลังจะมาถึง
จวินอู๋เสียเดินมาแบบไม่รีบร้อน นางยืนอยู่ท้ายแถว การปรากฏตัวของนางดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมาก เกือบทุกคนอยากเป็นคู่ต่อสู้ของนาง เนื่องจากในสายตาของพวกเขา ไม่มีใครที่จะเอาชนะได้ง่ายไปกว่าเจ้าหนูตัวเล็กคนนี้อีกแล้ว
เมื่อศิษย์ของสำนักศึกษาพิชิตมังกรคนหนึ่งก้าวขึ้นมาจับสลาก คนหลายคนได้ชะเง้อคอดูอย่างอยากรู้อยากเห็น พวกที่จับสลากของตัวเองไปแล้วเมื่อเห็นว่าผู้เยาว์จากสำนักศึกษาพิชิตมังกรจับสลากได้หมายเลขห้าสิบ ก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขาดีใจที่ไม่ได้จับสลากได้หมายเลขเดียวกับผู้เยาว์คนนั้น
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนอื่นๆ ศิษย์ของสำนักศึกษาพิชิตมังกรก็รู้สึกภูมิใจในตัวเอง เขายืดอกขึ้นและเดินเชิดหน้าออกไปจากโต๊ะ สายตาหวาดกลัวของคนอื่นๆ ทำให้เขารู้สึกพอใจและเต็มไปด้วยความทระนงตัว
ชวีหลิงเย่ว์จับได้หมายเลขสิบเจ็ด และผู้เยาว์อีกคนที่ต้องสู้กับนางก็รู้สึกเหมือนถูกทุบอย่างแรงเมื่อเห็นหมายเลขในมือของชวีหลิงเย่ว์
ไม่ว่าชวีหลิงเย่ว์จะดูสวยหวานน่ารักเพียงใดก็ตาม ตำแหน่งอันดับหนึ่งในสำนักศึกษาธงศึกของนางก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นๆ รู้สึกหวาดกลัวได้ ยกเว้นศิษย์ของสำนักศึกษาพิชิตมังกรแล้ว ไม่มีใครที่นั่นคิดว่าการได้ชวีหลิงเย่ว์เป็นคู่ต่อสู้จะทำให้พวกเขาได้เปรียบในการประลอง
ผู้เยาว์คนที่เหลือทยอยจับสลากกันไปเรื่อยๆ นอกจากหมายเลขสิบเจ็ดแล้ว อีกหนึ่งหมายเลขที่หมายถึงตายแน่ๆ สำหรับพวกเขายังไม่ถูกจับขึ้นมา พวกผู้เยาว์พากันเดินออกจากโต๊ะด้วยความกลัวว่าจะได้หมายเลขอับโชคนั้น แล้วทันใดนั้นเองพวกเขาก็เห็นว่ามีเพียงจวินอู๋เสียคนเดียวที่ยังไม่ได้จับสลาก และนางก็คือคนสุดท้ายแล้ว
ไม่จำเป็นต้องจับ ทุกคนก็รู้ว่าหมายเลขสุดท้ายในกล่องคือหมายเลขห้าสิบอย่างไม่ต้องสงสัย!
ขณะที่พวกเขาต่างยินดีที่ไม่ได้สู้กับสำนักศึกษาพิชิตมังกร ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เสียดายที่เจ้าหนูที่อ่อนแอที่สุดจะพบกับสำนักศึกษาพิชิตมังกรในรอบแรก หนึ่งในสองผู้แข่งขันที่แข็งแกร่งที่สุดสู้กับคนที่อ่อนแอที่สุด…ไม่ต้องสงสัยผลที่ออกมาเลย
ขณะที่ทุกคนพากันแอบเสียใจที่จับสลากไม่ได้จวินอู๋เสียเป็นคู่ต่อสู้ คนของสำนักศึกษาพิชิตมังกรที่ทุกคนต่างหวาดกลัวที่จะสู้ด้วยกลับหน้าเขียวหน้าเหลืองขึ้นมาทันที!