ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 867 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (6) ตอนที่ 868 หมอเถื่อน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 867 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (6) ตอนที่ 868 หมอเถื่อน (1)
ตอนที่ 867 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (6) / ตอนที่ 868 หมอเถื่อน (1)
ตอนที่ 867 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (6)
เฟิงเย่ว์หยางแกะห่อบรรจุสมุนไพรออกและตรวจสอบสมุนไพรที่ใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นก็ตรวจสอบโอสถวิเศษอย่างละเอียดก่อนจะวางพวกมันลง
“เป็นอย่างไรบ้างขอรับ พวกเขาให้โอสถวิเศษผิดบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ทำไมคุณหนูใหญ่ของเราถึงยังไม่ฟื้น” สยงป้าถามขึ้นอย่างร้อนใจ หลังจากเห็นหมอหลวงหลี่คุยกับหมอคนอื่นๆ อย่างสนุกสนานตอนที่เขาก้าวเข้ามาในห้องครั้งแรก เขาก็ไม่เชื่อถือพวกหมอกำมะลอกลุ่มนี้อีกต่อไป
หมอหลวงหลี่ทนหุบปากเงียบต่อไปไม่ไหวจึงกล่าวออกไปว่า “ท่านหัวหน้าตึกสยง ถึงแม้พวกเราจะไม่เก่งหรือไม่มีความรู้เท่าท่านผู้อาวุโสเฟิง แต่เราก็เป็นหมอที่มีความรับผิดชอบ คุณหนูชวีเป็นแขกคนพิเศษ พวกเราจะกล้าเสี่ยงให้โอสถวิเศษอะไรก็ได้ที่อาจจะไม่เหมาะกับอาการของนางได้อย่างไร”
สยงป้าส่งเสียงหึออกมาอย่างดูถูก
เฟิงเย่ว์หยางส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ท่านหัวหน้าตึกสยงกังวลเกินไป โอสถวิเศษที่หมอที่นี่ให้คุณหนูใหญ่ของเรานั้นไม่มีตัวไหนไม่เหมาะกับอาการของนาง เห็นได้จากฤทธิ์โอสถอ่อนๆ นี่ว่าพวกเขาระมัดระวังมาก แต่อาการบาดเจ็บของคุณหนูใหญ่นั้นสาหัสมาก ทั้งยังซับซ้อนนัก การให้โอสถวิเศษที่มีฤทธิ์รุนแรงกับคุณหนูใหญ่โดยไม่มั่นใจถึงผลที่ตามมา จะสร้างภาระหนักให้กับร่างกายของคุณหนูใหญ่มากยิ่งขึ้นเท่านั้น”
คำพูดของเฟิงเย่ว์หยางทำให้หมอหลวงหลี่สงบลง ใบหน้าของเขามีเลือดฝาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แต่คำพูดของเฟิงเย่ว์หยางก็พลิกกลับอีกด้านทันทีเมื่อเขาพูดต่อว่า “ถึงแม้โอสถวิเศษที่มีฤทธิ์อ่อนจะไม่เป็นอันตรายกับคุณหนูใหญ่ แต่การใช้วิธีรักษาที่ปลอดภัยไว้ก่อนจนเกินไปแบบนี้ ก็เป็นเรื่องเพ้อฝันล่ะนะที่หวังว่าอาการของคุณหนูใหญ่จะดีขึ้นได้ พูดตามตรง อาการของคุณหนูใหญ่น่ะซับซ้อนยุ่งยากมากจริงๆ แม้แต่ข้าเองยังต้องใช้เวลาในการเตรียมการนานมากเพื่อที่จะรักษานางให้หายดี และดูจากอาการของคุณหนูใหญ่ในตอนนี้แล้ว ร่างกายของนางอาจจะทนไปได้อีกไม่นาน” เฟิงเย่ว์หยางถอนหายใจ เสียงของเขาเจือไปด้วยร่องรอยของความกังวล
สีหน้าของสยงป้ายิ่งวิตกกังวลมากขึ้น แม้แต่ชายหนุ่มข้างๆ เขาก็ดูทุกข์ใจมาก
ในตอนนั้นเอง เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านี้ มันยุ่งยากมากขนาดนั้นเลยหรือ”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ทุกคนก็พากันหันไปมองทางต้นเสียง
จวินอู๋เสียที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำมาตลอดถูกทุกคนจ้องมองกันเป็นตาเดียวในทันที
“ยัยเด็กสารเลว! จะมาก่อความเดือดร้อนอะไรที่นี่อีก! เจ้าตกลงแล้วไม่ใช่หรือว่าถ้าไม่สามารถรักษาได้ จะไม่โผล่หัวมาที่นี่อีก!” พอหมอหลวงหลี่ได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสียก็ระเบิดโทสะออกมาทันที เขากระโจนออกมาชี้หน้าด่าจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น พลางมองหมอหลวงหลี่ที่เต้นเป็นเจ้าเข้าแล้วพูดว่า “ข้าแค่พูดความจริง จำเป็นจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้เชียวหรือ”
“เจ้า!”
“คุณหนู เจ้ามาจากไหน รู้หรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา!” สยงป้าพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วมองจวินอู๋เสีย เขากังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์มาก จึงไม่ได้สังเกตคนที่อยู่ข้างๆ เหลยเชินเลย ตอนนี้เมื่อดูดีๆ เขาก็เห็นว่าเด็กสาวคนนี้หน้าตาดีมาก แต่วิธีที่นางพูดทำให้ผู้คนไม่อาจจะชอบนางได้จริงๆ
“ความจริงอย่างไรเล่า” จวินอู๋เสียตอบพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย นางกอดอกมองกลุ่มคนที่กำลังวุ่นวายใจอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่งและใจเย็น
ทันทีที่เจี่ยงอิงหลงเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี เขาก็รีบก้าวออกมาพูดกับเหลยเชินว่า “องค์ชาย ข้าเชื่อว่าองค์ชายคงไม่ลืมข้อตกลงที่เราทำกันไว้นะพ่ะย่ะค่ะ”
เหลยเชินเลิกคิ้วขึ้นทำเป็นไม่สนใจ
ชายหนุ่มจากเมืองพันอสูรสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างแอบซ่อนอยู่ในความสับสนนี้ เขาจึงถามขึ้นทันทีว่า “ช่วยบอกข้าหน่อยได้หรือไม่ว่าท่านอาจารย์เจี่ยงทำข้อตกลงอะไรไว้กับองค์รัชทายาท”
เจี่ยงอิงหลงสะดุ้ง รู้ตัวทันทีว่าถูกจับได้แล้ว
ถ้าคนของเมืองพันอสูรรู้ว่าเขาอนุญาตให้เด็กน้อยมาทำการรักษาคุณหนูใหญ่ของพวกเขาละก็ สยงป้าจะต้องโกรธจนคลั่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
ตอนที่ 868 หมอเถื่อน (1)
เจี่ยงอิงหลงอยากปกปิดความจริง แต่เมื่อเจอกับสายตาเกรี้ยวกราดของสยงป้า เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำใจกล้าพูดออกไปว่า “องค์รัชทายาทเคยตรัสว่าคุณหนูที่อยู่ข้างๆ พระองค์มีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม นางรู้วิธีช่วยชีวิตชวีหลิงเย่ว์ แต่ข้าคิดว่าคุณหนูจวินยังเด็กเกินไปและดูไม่เหมือนว่านางจะรู้เรื่องการแพทย์อะไรมากนัก แต่ข้าก็ไม่สามารถต้านทานการยืนกรานขององค์รัชทายาทได้ และเพื่อไม่ให้การรักษาชวีหลิงเย่ว์ของหมอคนอื่นๆ ต้องล่าช้าออกไป ข้าเลยจำใจอนุญาตให้คุณหนูจวินลองสักครั้ง และทำข้อตกลงกับองค์รัชทายาทว่า ถ้าคุณหนูจวินไม่สามารถรักษาอาการของชวีหลิงเย่ว์ได้ พวกเขาจะไม่มารบกวนเราที่นี่อีก…”
ยิ่งพูดเสียงของเจี่ยงอิงหลงก็ยิ่งเบาลง เขาพยายามเต็มที่ที่จะโยนความผิดทั้งหมดไปให้เหลยเชินด้วยกลัวว่าสยงป้าจะโกรธจนซัดเขาให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว
อย่างที่คาด หลังจากสยงป้าได้ยินที่เจี่ยงอิงหลงพูด ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างพร้อมกับจ้องจวินอู๋เสียด้วยความโกรธอย่างไม่ปิดบัง
“เจี่ยงอิงหลง! เจ้ากล้ามากนะ! ถึงกับอนุญาตให้เด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวมารักษาคุณหนูใหญ่ของเราอย่างนั้นรึ! สำนักศึกษาธงศึกยังเคารพเมืองพันอสูรอยู่หรือไม่! มิน่าเล่าอาการของคุณหนูใหญ่ถึงไม่ดีขึ้นเลย เพราะพวกเจ้ารักษากันแบบขอไปทีอย่างนี้เอง! ไอ้พวกหมอเถื่อนเอ๊ย! กะแค่เด็กคนหนึ่งกับหมอเถื่อนอีกกลุ่มหนึ่งจะไปมีน้ำยาอะไรมารักษาคุณหนูใหญ่ของเราได้!” สยงป้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ว่าจะดูอย่างไรอายุของจวินอู๋เสียอย่างมากก็แค่สิบห้าปีเท่านั้น อายุแค่นั้นต่อให้รู้เรื่องการแพทย์จริงๆ ก็รู้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นแหละ
เจี่ยงอิงหลงบังอาจให้เด็กพรรค์นั้นมาทำการรักษาชวีหลิงเย่ว์ นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวและน่าตกใจมากๆ
ตามปกติเสียงของสยงป้าก็ดังอยู่แล้ว เมื่อผสมความโกรธเข้าไปด้วยแบบนี้ เสียงตะโกนของเขาจึงยิ่งดังจนแก้วหูแทบแตก
“องค์รัชทายาทเหลยเชิน! ต่อให้ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับคุณหนูใหญ่ของเมืองพันอสูรอย่างชุ่ยๆ แบบนี้! ถ้าท่านเอาคนอื่นมายกย่องเป็นหมอก็คงไม่เป็นไร แต่ดูคุณหนูจวินที่อยู่ข้างท่านสิ! นางอายุเท่าไรกัน นางจะมีความสามารถช่วยชีวิตคนได้อย่างไร องค์รัชทายาทเหลยเชิน ท่านเห็นความเป็นความตายของคุณหนูใหญ่ของเราเป็นเรื่องเล่นๆ อย่างนั้นหรือ! ท่านปล่อยให้เด็กน้อยอย่างนี้มารักษาได้อย่างไร! องค์รัชทายาทเหลยเชินอยากเป็นสาเหตุให้คุณหนูใหญ่ของเราเสียชีวิตอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ!” สยงป้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ ถ้าไม่ใช่ชายหนุ่มคนนั้นขวางเอาไว้ สยงป้าคงพุ่งเข้าไปบีบคอเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวคนนั้นแล้ว
เจี่ยงอิงหลงเบี่ยงเบนความโกรธของสยงป้าไปลงที่จวินอู๋เสียกับเหลยเชินได้สำเร็จ หมอหลวงหลี่ที่เฝ้าดูอยู่แอบหัวเราะอยู่ในใจ นิสัยของหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธก็เป็นเหมือนชื่อตึกของเขา โกรธเป็นไฟอยู่ตลอด เมื่อสยงป้ารู้ว่าเหลยเชินจัดการเรื่องนี้แบบสะเพร่า สยงป้าก็จะไม่ไว้หน้าเหลยเชินอีกต่อไป
ราวกับหมอหลวงหลี่จะคิดว่าบรรยากาศยังไม่เร่าร้อนพอ เขาจึงแสร้งทำเป็นพูดดีว่า “ท่านหัวหน้าตึกสยง ใจเย็นลงก่อนเถิด องค์รัชทายาททรงมีเจตนาดีจริงๆ พระองค์รู้ว่าคุณหนูชวีได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงร้อนใจมากจนทำให้เกิดความคิดไม่เข้าท่าแบบนี้ ต่อให้พวกเราทุกคนจะรู้สึกว่าอายุของคุณหนูจวินจะ…ดูไม่เหมือนว่านางจะมีความสามารถทางด้านการแพทย์เลยจริงๆ แต่อย่างไรก็เป็นเจตนาที่ดีขององค์รัชทายาท แม้ว่าวิธีที่ใช้จะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว โชคดีที่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้อาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีเลวร้ายไปกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราทุกคนได้ใช้ทุกอย่างที่เรามีเพื่อคงอาการของคุณหนูชวีเอาไว้ไม่ให้ทรุดไปมากกว่านี้ ข้าขอร้องท่านหัวหน้าตึกสยงอย่าเอาเรื่องไปมากกว่านี้เลย”
หมอหลวงหลี่จบคำพูดตัวเองอย่างสวยงาม แต่เขาพูดเป็นนัยอยู่ตลอดว่าการรักษาของจวินอู๋เสียไม่ได้เป็นผลดีต่อชวีหลิงเย่ว์เลยแม้แต่น้อย กลับกันมันกลับทำให้อาการของนางเลวร้ายลง และเนื่องจากการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของหมอทั้งกลุ่มนี้ ทำให้พวกเขาสามารถกู้สถานการณ์เอาไว้ได้