ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 919 เปิดม่าน (3) ตอนที่ 920 เปิดม่าน (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 919 เปิดม่าน (3) ตอนที่ 920 เปิดม่าน (4)
ตอนที่ 919 เปิดม่าน (3) / ตอนที่ 920 เปิดม่าน (4)
ตอนที่ 919 เปิดม่าน (3)
อุทยานหลวงในวันนี้แตกต่างจากคืนนั้น มันยังอยู่ในฤดูหนาวก็จริง แต่ต้นพลัมก็ออกดอกบานสะพรั่งเต็มไปหมด
‘ชวีหลิงเย่ว์’ มองอุทยานหลวงตรงหน้า แล้วมุมปากของนางก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
รอยยิ้มนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันมีใครเห็นมันเลยสักคน
ขณะที่เหลยฝานกำลังจะพูดบางอย่างกับ ‘ชวีหลิงเย่ว์’ เงาดำก็กระโจนมายืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง!
บุรุษผู้นั้นสวมชุดดำทั้งตัว และมีผ้าสีดำปิดหน้าไว้เกินครึ่งหน้า
จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวออกมาทำให้พวกขันทีกรีดร้องอย่างหวาดกลัว!
เหลยฝานมองบุรุษชุดดำที่จู่ๆ ก็โผล่มาอย่างตกใจ เขาใจหายวาบจากนั้นก็ตะโกนขึ้นทันที “ผู้บุกรุก! เจ้ากล้ามากที่บุกเข้ามาในวังหลวง! ทหาร! จัดการเจ้านักฆ่านี่เสีย!”
เสียงตะโกนของเหลยฝานทำให้ทหารทุกคนที่อยู่ด้านนอกอุทยานหลวงวิ่งกรูเข้ามาทันที ทหารหลายสิบคนนั้นถือดาบยาววิ่งเข้ามาล้อมบุรุษชุดดำ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารทุกคนกำลังจะพุ่งเข้าใส่นักฆ่าคนนั้น บุรุษผู้นั้นก็ลงมือทันที!
การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วราวสายฟ้า เขาพุ่งเข้าใส่เหลยฝานที่ยืนยโสโอหังอยู่ต่อหน้าต่อตาทุกคน!
เหลยฝานคิดว่าทหารจำนวนมากเช่นนี้จะปกป้องเขาได้ เขาจึงเตรียมอวดเก่งต่อหน้า ‘ชวีหลิงเย่ว์’ ใครจะไปรู้ว่าบุรุษชุดดำจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนไม่มีใครตามทัน! พอรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าตัวเองถูกบุรุษชุดดำจับเป็นตัวประกันเอาไว้แล้วโดยมีดาบจ่ออยู่ที่คอของเขา
“ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรโง่ๆ ข้าเอาชีวิตเจ้าแน่” บุรุษชุดดำเตือนเขาเสียงเย็น
เหลยฝานหน้าซีดทันทีด้วยความกลัว ความยโสเมื่อครู่หายวับไปกับตา!
พอพวกทหารเห็นองค์ชายสี่ถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปช่วยทันที
บุรุษชุดดำกดดาบลงที่คอของเหลยฝานแล้วพูดว่า “บอกให้พวกมันถอยไป ไม่อย่างนั้นดาบในมือข้าไม่ใจดีกับเจ้าแน่”
พอเหลยฝานได้ยินเช่นนั้น เขาก็แทบจะปัสสาวะราดกางเกง ตั้งแต่เด็กทั้งฮ่องเต้และฮองเฮาก็คอยพะเน้าพะนอรักใคร่ตามใจเขา แล้วเขาจะไปทนการทรมานแบบนี้ได้อย่างไร!
เขารีบตะโกนขึ้นทันที “พวกเจ้าถอยไปเดี๋ยวนี้! ใครก็ห้ามก้าวเข้ามาเด็ดขาด!”
พวกทหารไม่กล้าขัดคำสั่งเหลยฝาน ทุกคนไม่ก้าวออกไปเลย
“ดีมาก” บุรุษชุดดำพูดและหัวเราะอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาและก่อนที่เหลยฝานจะทันตั้งตัว โอสถวิเศษเม็ดหนึ่งก็ถูกยัดเข้าใส่ปากเขา เหลยฝานถูกบังคับให้กลืนโอสถวิเศษอะไรก็ไม่รู้เข้าไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความกลัว
“เจ้า! เจ้าบังอาจเอาโอสถพิษให้ข้ากิน! ถ้าข้าตาย เจ้าจะไม่มีวันหนีรอดไปจากเมืองหลวงได้แน่! เสด็จพ่อจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!” เหลยฝานเริ่มกรีดร้องเสียงแหลมด้วยความกลัว
แต่คำขู่ของเขาไม่มีผลอะไรกับบุรุษชุดดำซึ่งดูเหมือนจะตั้งใจทำให้เขาหวาดกลัวด้วยการกดดาบให้แทงเข้าไปที่คอครึ่งนิ้ว ความเจ็บปวดวาบขึ้นมาที่ลำคอของเขา
“จะพูดต่อก็ได้ ข้าจะได้เฉือนคอเจ้าทิ้งเสีย” บุรุษชุดดำพูดเสียงเย็น
เหลยฝานหุบปากทันทีด้วยความกลัว เมื่อเผชิญหน้ากับความตายเช่นนี้ เขาก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรอีกเลย
พวกทหารรอบๆ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากล้อมบุรุษชุดดำเอาไว้อย่างนั้น องค์ชายสี่ที่ฮ่องเต้ทรงรักมากที่สุดอยู่ในกำมือเขา พวกเขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
บุรุษชุดดำลดเสียงลงมาจนเป็นกระซิบ เขาพูดข้างหูเหลยฝานว่า “จำไว้ให้ดี มีเพียงโลหิตจากบิดาแท้ๆ ของเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเจ้าได้”
พูดจบบุรุษชุดดำก็ผลักเหลยฝานออกไป แล้วทันใดนั้นเขาก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคนโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย!
เหลยฝานล้มลงกับพื้น เขายังไม่ได้สติกลับมาเนื่องจากความตกใจ และทำได้เพียงนั่งกุมบาดแผลที่คอเอาไว้พร้อมกับอ้าปากสูดเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่
ตอนที่ 920 เปิดม่าน (4)
คำพูดที่บุรุษชุดดำพูดทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะหายตัวไปทำให้เหลยฝานรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“องค์ชาย!” พวกขันทีรีบกุลีกุจอวิ่งเข้ามาช่วยพยุงเหลยฝานขึ้นจากพื้น
แม้ว่าจะยังอยู่ในสถาวะตื่นกลัว แต่เหลยฝานก็ยืนขึ้นจนได้ เขาผลักพวกขันทีออกไปอย่างหงุดหงิด จู่ๆ บุรุษชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วก็หายตัวไปอย่างแปลกประหลาด นอกจากบาดแผลเล็กๆ ที่คอกับโอสถวิเศษที่เขาถูกบังคับให้กินแล้ว ก็ดูเหมือนว่าบุรุษชุดดำแค่ต้องการผลักเขาออกไปเท่านั้น
การที่เกือบถูกลอบสังหารในอุทยานหลวงต่อหน้าต่อตาทหารกลุ่มใหญ่เช่นนั้น ทำให้เหลยฝานรู้สึกขายหน้าต่อหน้า ‘ชวีหลิงเย่ว์’ มาก และสิ่งที่ยิ่งทำให้เขาหวาดกลัวขึ้นไปอีกก็คือโอสถวิเศษอะไรก็ไม่รู้ที่เขาถูกบังคับให้กลืนลงไป!
“เร็วเข้า! ไปเรียกหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้! ให้พวกนั้นมาดูข้าสิว่าเจ้านั่นมันเอาอะไรให้ข้ากิน!” เหลยฝานไม่อาจจะมัวห่วงกังวลเรื่องอื่นอยู่ได้ ชีวิตของเขาจะต้องมาก่อนทุกอย่าง!
พวกทหารรีบไปเรียกหมอหลวงทันที ขณะที่เหลยฝานยังคงยืนอ้าปากหายใจอยู่ในอุทยานหลวง
แต่แล้วปรากฏการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น รอยแผลเล็กๆ ที่คอของเหลยฝานเริ่มมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุด ปริมาณโลหิตที่ไหลออกมาจากบาดแผลเล็กๆ นั้นมากพอจะเปรอะเปื้อนเต็มมือของเขา โลหิตอุ่นๆ ยังคงไหลออกจากคออย่างต่อเนื่อง และเขาก็รู้ตัวแล้วว่ามันต้องไม่ใช่แค่รอยบาดธรรมดาแน่ๆ!
เหลยฝานกุมคอเอาไว้แน่น เขารู้สึกเย็นเยียบไปทั้งร่าง ดวงตาเบิกกว้างและความไม่สบายใจก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“องค์ชาย! เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!” พวกขันทีพากันตื่นตระหนก ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่านั่นเป็นแค่แผลเล็กๆ แต่ปริมาณโลหิตที่ไหลออกมานั้นน่าตกใจอย่างยิ่ง เหตุประหลาดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที!
“เรียกหมอหลวงมาเร็ว! รีบเรียกหมอหลวงมาเร็วเข้า!” ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของพวกขันที เหลยฝานที่เสียโลหิตไปมากก็พลันหมดสติไป! พวกขันทีกับทหารในอุทยานหลวงช่วยกันแบกเหลยฝานไปที่ตำหนักของฮองเฮากันอย่างสับสนอลหม่าน
ไม่มีใครให้ความสนใจ ‘ชวีหลิงเย่ว์’ ที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ตอนที่เหลยฝานเป็นลมหมดสติ นางก็เผยรอยยิ้มเย็นออกมา
ฮ่องเต้ใส่ร้ายนางว่าทำร้ายองค์ชายสี่ในอุทยานหลวงไม่ใช่หรือ เช่นนั้นนางก็จะทำให้คำพูดว่าร้ายนั้นเป็นความจริงในวันนี้!
ไม่มีใครคิดว่า ‘ชวีหลิงเย่ว์’ ที่เข้าวังมาพร้อมกับสยงป้าและคนอื่นๆ จะถูกสลับตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน และคนที่มาที่นี่วันนี้ไม่ใช่ชวีหลิงเย่ว์ แต่เป็นคนที่หยวนเปียวกำลังพลิกเมืองหลวงทั้งเมืองค้นหาตัวอยู่ ‘จวินเสีย’!
จวินอู๋เสียมองเหลยฝานที่ถูกแบกออกไปอย่างเย็นชา นางระงับรอยยิ้มให้หายไปอย่างช้าๆ แต่ภายในดวงตาคู่นั้นยังคงส่องประกายเย็นเยียบ
นี่เพิ่งจะเปิดม่านขึ้นเท่านั้น!
ตอนที่เหลยฝานถูกแบกกลับไปที่ตำหนักของฮองเฮา ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยโลหิต ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกระดาษ ฮองเฮาที่กำลังแต่งพระองค์อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง พลันเห็นเหลยฝานที่เปื้อนโลหิตทั้งตัว พระนางก็แทบจะตกจากเก้าอี้นั่งด้วยความตกพระทัย!
“ลูกฝาน! ลูกฝาน! เกิดอะไรขึ้น! อย่าทำให้แม่กลัวแบบนี้สิ!” ฮองเฮากระวนกระวายจนแทบคลั่ง เครื่องประดับที่ห้อยอยู่ที่พระเกศาของพระนางหลุดออกและหล่นลงกระแทกพื้น พระนางทอดพระเนตรมองพวกขันทีแบกเหลยฝานไปที่แท่นบรรทม จากนั้นก็มองหน้าพวกขันทีและตรัสถามว่า “เกิดอะไรขึ้น!”
ขันทีตัวสั่น เขารีบเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอุทยานหลวงให้ฮองเฮาฟัง
ทันใดนั้นฮองเฮาก็รู้สึกเหมือนห้องทั้งห้องหมุนคว้าง พระนางไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนกล้ามาลอบสังหารพระโอรสของพระนางถึงในวังหลวง