ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 975 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (4) / ตอนที่ 976 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (5)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 975 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (4) / ตอนที่ 976 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (5)
ตอนที่ 975 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (4) / ตอนที่ 976 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (5)
ตอนที่ 975 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (4)
เจ้าพยัคฆ์ร้ายวิ่งหนีสุดชีวิต ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างหวาดกลัว ท่าทางกลัวสุดขีดของมันไม่เหลือวี่แววความแข็งแกร่งอย่างผู้ที่เหนือกว่าแบบก่อนหน้านี้เลย!
ทุกคนต่างตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ไม่มีใครคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น!
เจ้านายของเจ้าพยัคฆ์ยิ่งแปลกใจกว่าใคร ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาปากอ้าค้าง มองดูสัตว์วิญญาณของเขากระโจนลงจากเวทีประลองด้วยความกลัว และกลิ้งเหมือนลูกบอลที่ตกลงมาที่พื้น!
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
ทั้งลานประลองเงียบกริบ
ทุกสิ่งที่คนที่นั่นคาดว่าจะได้เห็นไม่เกิดขึ้นเลย เรื่องราวมันกลับตาลปัตรไปหมด
สัตว์วิญญาณที่น่าจะเหนือกว่าคู่ต่อสู้และน่าจะแสดงความแข็งแกร่งออกมาจนโลหิตนองเวทีกลับตัวสั่นงันงกอยู่ในอ้อมกอดของเจ้านาย น้ำหนักของมันเกือบจะทับเขาแบนแล้ว
ขณะที่เจ้าแกะอ้วนที่น่าจะกลายเป็นอาหารของพยัคฆ์ร้ายกลับยืนอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอยู่บนเวทีประลอง ดูอย่างไรก็เหมือนแกะโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ผู้คนต่างจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ยากที่พวกเขาจะยอมรับได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง
ไม่มีใครรู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรดีกับผลที่ออกมาแบบนี้…
มีใครบอกได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ชิงอวี่ที่ลุ้นตัวโก่งก็นิ่งตะลึงไปเหมือนกัน ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไม่เพียงรอดจากการถูกพยัคฆ์กินเท่านั้น แต่มันยังทำให้พยัคฆ์ตัวนั้นหวาดกลัวอย่างหนักด้วยการร้อง ‘แบ๊ะ’ เบาๆ แค่ครั้งเดียว…
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนที่นั่นสับสนอย่างถึงที่สุด
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยืนอยู่บนเวทีและมองเจ้าพยัคฆ์ร้ายขดตัวเป็นก้อนกลมสั่นระริกอยู่บนตัวเจ้านาย น้ำลายฟูมปาก และดวงตาแทบจะเห็นแต่ตาขาว ซึ่งบอกได้เลยว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้กำลังกลัวมากขนาดไหน มันกลัวจนเกือบจะเสียสติแล้ว!
ด้วยขนาดตัวอันใหญ่โตของเจ้าพยัคฆ์ร้ายทำให้กระดูกซี่โครงของเจ้านายมันเกือบจะหักจากน้ำหนักตัวของมันอยู่แล้ว
แบ๊ะ ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเดินมายืนที่ข้างเวที หางกลมๆ ปุกปุยของมันแกว่งไปมาอย่างมีความสุข มันเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียอย่างตื่นเต้น
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะชนะ ‘ประลอง’ แล้วใช่หรือเปล่า แบ๊ะจะได้กินใบบัวจริงๆ ใช่หรือไม่
เมื่อเห็นใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะทำหน้าบ้องแบ๊วเหมือนจะขอคำชมและรางวัล สายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียก็หายไปและมีประกายยินดีจางๆ มาแทน
คนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าแกะน้อยอ้วนกลมเหมือนลูกบอลตรงหน้านี้แท้จริงแล้วคือสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ มันคิดว่าร่างแกะน้อยของมันจะทำให้มันอำพรางตัวตนที่ทรงอำนาจของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้ นอกจากนั้นจวินอู๋เสียก็มักจะสั่งให้มันซ่อนตัวเอาไว้ให้ดีที่สุด ดังนั้นใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจึงสามารถปกปิดตัวตนที่แท้จริงในฐานะสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อมันอยู่ในร่างของแกะน้อยตัวนี้
แต่ตอนที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะส่งเสียงร้องเมื่อครู่ มันเรียกอำนาจของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติออกมาด้วย เสียงร้องเบาๆ นั้นอาจจะฟังดูไม่แตกต่างสำหรับมนุษย์ แต่สำหรับสัตว์วิญญาณที่มีสัญชาตญาณสัตว์อันแหลมคม พวกสามารถรู้สึกได้ว่าเสียงร้องนั้นมาจากสัตว์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของสัตว์วิญญาณ เป็นคำเตือนจากราชา สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ!
ไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าพยัคฆ์ร้ายตัวนั้นเป็นแค่สัตว์วิญญาณระดับต่ำ ต่อให้เป็นสัตว์วิญญาณระดับสูง เสียง ‘คำราม’ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็ทำให้พวกมันกลัวหัวหดได้เหมือนกัน พวกมันไม่สามารถต้านทานใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้เลย ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะมองสบตาใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะด้วยซ้ำ
แค่ไม่ช็อกตายคาที่ก็พูดได้ว่าจิตใจของเจ้าพยัคฆ์ร้ายตัวนี้เข้มแข็งมากแล้ว!
แต่เรื่องทั้งหมดของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะนั้นมีเพียงจวินอู๋เสียคนเดียวที่รู้ คนอื่นในลานประลองไม่มีใครรู้สักคน ในสายตาของทุกคนที่นั่นมันจึงเป็นภาพที่แปลกและเหลือเชื่อมาก!
ตอนที่ 976 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (5)
เมื่อคิดว่าสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งและดุร้ายอย่างเจ้าพยัคฆ์จะกลัวจนน้ำลายฟูมปากจากเสียงร้อง ‘แบ๊ะ’ เบาๆ ของแกะที่ตัวเท่ากับหัวของมันเท่านั้น มันก็…
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีเหตุการณ์แปลกประหลาดแบบนี้ด้วย!
ในความเงียบอย่างกะทันหันนั้น จวินอู๋เสียหันไปมองเจ้าหน้าที่ลานประลองที่อยู่อีกด้านของเวที ชายคนนั้นอ้าปากค้างอย่างตกใจ เขามองไปที่เจ้าพยัคฆ์ร้ายที่น้ำลายฟูมปากสลบไปบนตัวของเจ้านาย เห็นได้ชัดว่าเขายังคงตะลึงอยู่
ประกาศผลได้แล้ว จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
คำเตือนของจวินอู๋เสียทำให้ชายคนนั้นได้สติกลับมา และตามกฎของลานประลองสัตว์วิญญาณ เมื่อสัตว์วิญญาณออกจากเวทีประลองมันจะถูกปรับแพ้ และเนื่องจากตอนนี้ตัวทั้งตัวของเจ้าพยัคฆ์ร้ายอยู่นอกเวทีประลอง ผลการประลองจึงเห็นได้อย่างชัดเจน
เอ่อ…ผู้ชนะในรอบนี้คือ…สัตว์วิญญาณของจวินเสีย… ชายคนนั้นพูดตะกุกตะกักอย่างลังเล สีหน้าของเขาค่อนข้างสับสน
ผลแบบนี้มันเหนือความคาดหมายของทุกคนจริงๆ
ถึงมันจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกว่ามันเกินจริงไปมาก
คำประกาศนั้นทำให้ทั้งลานประลองส่งเสียงฮือฮาขึ้นทันที ทุกคนพูดคุยเรื่องผลการแข่งอย่างตื่นเต้น แม้ว่าจะไม่มีสักคนที่อธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม ผู้ตัดสินการประลองมองไปที่จวินอู๋เสียและลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า คุณชายจวินจะให้สัตว์วิญญาณของท่านแข่งรอบต่อไปเลยหรือไม่ขอรับ
ตามกฎของลานประลองสัตว์วิญญาณ เจ้านายของสัตว์วิญญาณที่เข้าแข่งในลานประลองจะสามารถเลือกจำนวนครั้งที่จะให้สัตว์วิญญาณลงแข่งขันได้ ถ้าสัตว์วิญญาณได้รับบาดเจ็บ เจ้านายสามารถเลือกให้หยุดแข่งก่อนและมาแข่งต่อทีหลังได้ หรือจะแข่งรอบต่อไปทันทีเลยก็ได้ และเพื่อให้ได้รับโอกาสในการท้าชิงสิบอันดับแรกของลานประลองสัตว์วิญญาณ พวกเขาต้องเอาชนะการประลองให้ได้สิบครั้งติดต่อกัน
แต่ผู้ตัดสินการประลองไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะให้เจ้าแกะน้อยตัวจิ๋วนี้ลงแข่งต่อจริงๆ ผลการแข่งของรอบนี้ผิดความคาดหมายโดยสิ้นเชิง แต่ไม่มีใครคิดหรอกว่าชัยชนะนั้นมาจากความแข็งแกร่งของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ จากมุมมองของทุกคน ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเพียงแค่ร้องเบาๆ เท่านั้น แล้วจู่ๆ เจ้าพยัคฆ์ก็หนีไปแบบไม่มีเหตุผลเหมือนถูกผีเข้า คนส่วนมากเชื่อว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวของเจ้าพยัคฆ์
อาจจะเป็นไปได้ที่ปัญหาจะมาจากอาหารที่เจ้านายให้มันกินเมื่อครู่นี้ทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะชนะได้ในครั้งนี้ทั้งหมดเป็นเพราะโชคล้วนๆ
แต่ทว่า จวินอู๋เสียกลับตอบว่า แข่งต่อเลย
ชายคนนั้นชะงักไปและถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อได้รับคำตอบเดิมเขาก็รู้สึกตกใจมากและจัดการเรียกคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขึ้นมา
เมื่อผู้ชมได้ยินว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะแข่งต่อ ลานประลองสัตว์วิญญาณก็ฮือฮาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถเข้าใจถึงชัยชนะในรอบที่แล้วของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้เลยแม้แต่น้อย และทุกคนต่างก็คิดว่ามันก็เหมือนแมวตาบอดที่เดินไปสะดุดซากหนูตายนั่นแหละ มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเจ้าพยัคฆ์ร้าย เหมือนกับว่ามันป่วยเป็นอะไรสักอย่างทำให้ผลการแข่งขันออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยู่ในใจ ไม่นานพวกเขาก็ได้ข้อสรุป ‘ที่มีเหตุผล’ มาอธิบายให้ตัวเอง