ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 354 ปิดร้าน
บทที่ 354 ปิดร้าน
เมื่อนอนหลับฝันในคืนนั้น โจวชิงไป๋ก็รู้สึกเป็นสุขราวกับขึ้นสวรรค์ชั้นเก้าขณะได้โอบอุ้มบุตรสาวสุดที่รัก
แต่เขาถูกกำหนดไว้แล้วว่าให้พบกับความผิดหวัง
หลินชิงเหอที่กำลังหลับอยู่พลันตื่นขึ้นมากลางดึก
ความรู้สึกอันคุ้นเคยนี่มัน!
แต่เธอไม่จำเป็นต้องลุกออกจากเตียงเลย เพราะเธอเตรียมตัวไว้แล้ว!
โจวชิงไป๋ตื่นขึ้นจากการขยับตัวของภรรยา เขารีบเอ่ยขึ้นทันที “มีอะไรเหรอครับ? คุณไม่สบายหรือ?”
หลินชิงเหอรู้สึกได้ถึงความร้อนรนของชายคนนี้ เมื่อคิดว่าสองวันนี้เขามีความสุขเพียงใด หญิงสาวก็เม้มปาก เธอทนไม่ได้ที่จะบอกความจริงกับเขาและตัดสินใจให้เขานอนหลับอย่างมีความสุขแทน
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่หิวน้ำ” หลินชิงเหอตอบ
โจวชิงไป๋ลุกขึ้นเดินออกจากห้องและนำน้ำอุ่นแก้วหนึ่งมาให้เธอดื่ม หลินชิงเหอดื่มแล้วก็นอนลงและหลับต่อ
โจวชิงไป๋รู้สึกตื่นเต้น เมื่อเห็นภรรยานอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เขาก็มั่นใจแล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงดึงผ้านวมขึ้นห่มและผล็อยหลับไป
เช้าตรู่ในวันต่อมา โจวชิงไป๋ก็ออกไปที่ร้านเกี๊ยวแล้ว ขณะที่โจวกุยหลายนำอาหารเช้าแสนอร่อยมาให้
“ม้า ม้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนไหมครับ?” โจวกุยหลายถาม
ในใจของหลินชิงเหอบังเกิดปมอารมณ์ขึ้นมา
ครั้งนี้รอบเดือนของเธอช่างทรมานผู้คนเสียจริง ๆ
แต่โชคดีที่ลูกชายของพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วคงเป็นเรื่องปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม
“ไม่มีนี่” หลินชิงเหอตอบ “ลูกกินอะไรมาหรือยัง?”
“กินแล้วครับ” โจวกุยหลายพยักหน้า เขาพลันโล่งใจหลังแน่ใจแล้วว่าสีหน้าของแม่เป็นปกติ จากนั้นเขาเกิดสับสนขึ้นมาว่าทำไมสองวันที่ผ่านมาพ่อของเขาถึงคอยทะนุถนอมแม่เหมือนไข่ในหินกัน?
“วันนี้อารมณ์ป๊าเป็นยังไงบ้าง?” หลินชิงเหอถามขณะกินอาหาร
“วันนี้ป๊าอารมณ์ดีมากครับ เหมือนได้สมบัติอะไรสักอย่างเลย” โจวกุยหลายตอบก่อนจะมองแม่ของเขา “ม้า บอกความจริงมาเลย จากที่ผมเห็น สองสามวันที่ผ่านมานี้ป๊าดูร่าเริงมากราวกับว่าจะบินได้ ผมไม่เคยเห็นเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย”
หลินชิงเหอถอนหายใจ
เธอจะพูดว่าอย่างไรดีล่ะ?
หลังกินเสร็จแล้ว หญิงสาวก็ให้เจ้าสามล้างจานและเดินไปที่ร้านเกี๊ยว ส่วนเธอไปสอนหนังสือ
ระหว่างทางที่เดินไปเธอก็เริ่มคิด ว่าจะทำให้ชิงไป๋ของเธอมีความสุขอย่างไรดี?
ในสองวันที่ผ่านมาเธอคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์ เธอแสดงอารมณ์ออกไปไม่น้อย คราวหนึ่งเธอเป็นแบบนี้ อีกคราวหนึ่งเธอกลับเป็นแบบนั้น ซึ่งเธอไม่ได้ทำอะไรให้เขามีสีหน้าดูดีขึ้นมาเลย
แต่เขาก็ไม่ได้บ่นอะไรใด ๆ
ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ตำหนิ เขากลับปลอบประโลมเธอและปฏิบัติราวกับว่าเป็นบรรพบุรุษของเขา
ในตอนนี้เอง เธอก็รู้สึกผิด รู้สึกผิดอย่างมากด้วย
แต่เธอนึกไม่ออกเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น? เมื่อก่อนก็ดี ๆ อยู่ แต่ครั้งนี้รอบเดือนกลับมาช้าไป 4 วัน เหนืออื่นใดนั้นเขาก็ขยันทำการบ้านมาก แถมเธอก็มีอาการเหล่านั้นพอดี เธอจึงคิดไปว่าตัวเองท้อง
เธอไม่ได้ตั้งครรภ์หรือให้กำเนิดลูกอย่างแท้จริงแม้ลูกชายสามคนจะโตกันหมดแล้ว แล้วที่เธอประสบมามันคืออะไรกันล่ะ?
เหมือนกับบอกว่ามีลมพัดตอนฝนกำลังตกไม่น้อยเลย
หลังสอนภาคเช้าเสร็จแล้ว เธอก็ไม่กล้าไปพบหน้าชิงไป๋ของเธอ แต่มุ่งหน้าไปที่ตึกอะพาร์ตเมนต์ ซึ่งโจวชิงไป๋ก็ได้ฝากร้านให้ลูกชายคนรองดูแลก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมกับโจ๊กซี่โครงหมูรากบัว
หลินชิงเหอรู้สึกผิดมากกว่าเดิมเมื่อเห็นชิงไป๋ของเธอเป็นแบบนี้ จนโจวชิงไป๋ต้องเอ่ยขึ้น “มีอะไรเหรอครับ? คุณรีบกินเถอะ ไม่งั้นมันจะเย็นจนไม่อร่อยนะ”
“ชิงไป๋” หลินชิงเหอจ้องมองเขา
โจวชิงไป๋หันมามองเธอพลางส่งเสียง “หือ?”
หลินชิงเหอเหลือบมองเขาวูบหนึ่งก่อนก้มหน้ากินโจ๊ก หลังกินเสร็จโจวชิงไป๋ก็นำชามไปล้างและเอ่ยขึ้น “ตอนบ่ายคุณยังมีสอนอยู่ไหม?”
“มีอีกสองชั้นเรียนค่ะ” หลินชิงเหอบอก
“งั้นผมจะไปรับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะไปที่นั่นเลยหลังเลิกสอนแล้ว” หลินชิงเหอส่ายหน้า
“งั้นคุณพักก่อนนะ” โจวชิงไป๋ตอบ
หลินชิงเหอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยตอนมาถึงที่นี่ เธอรู้สึกเหนื่อยง่ายจริง ๆ จึงเข้าห้องไปงีบพักก่อน
แต่ไม่มีทางที่จะปิดบังเรื่องนี้หรอก
หลินชิงเหอก็ไม่คิดจะปิดบังเหมือนกัน พอถึงตอนเย็นวันนั้นขณะที่ทั้งคู่เข้าห้องหลังกินอาหารเสร็จแล้ว หลินชิงเหอก็สารภาพความจริงหลังปิดประตูห้องเรียบร้อย
“ชิงไป๋ มัน…มันมาแล้ว” ขณะที่หลินชิงเหอพูดแบบนี้ เธอก็ก้มหน้าราวกับเด็กอนุบาลที่กระทำความผิดมา หวาดกลัวที่จะมองชิงไป๋ของเธออย่างสุดขีด
โจวชิงไป๋ชะงัก “อะไรมาเหรอครับ?”
“มัน” หลินชิงเหอเม้มปาก เธอมองเขาและเอ่ยต่อ “ฉันไม่ได้ท้องค่ะ มันเพิ่งมาเมื่อคืนนี้”
โจวชิงไป๋ชะงักงันไป หลินชิงเหอจึงรีบอธิบายรัวเร็ว “ชิงไป๋ ฉันไม่ได้จงใจทำนะคะ คุณก็รู้ว่าฉันด้อยประสบการณ์ ดังนั้นอาการก่อนหน้าของฉัน…ฉันเข้าใจผิดไปเอง อย่าโกรธเลยนะคะ” พอถึงคำพูดสุดท้าย เธอก็พูดเสียงเบาหวิวจนแทบจะไม่ได้ยิน
หลินชิงเหอรู้สึกผิดเหลือเกิน เธอไม่เคยรู้สึกผิดขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
โจวชิงไป๋เห็นภรรยาเป็นแบบนี้เขาก็เอ่ยตอบ “ไม่ท้องก็ไม่ท้องครับ”
หลินชิงเหอเหลือบมองเขา เธอรีบเดินออกไปชงน้ำผสมน้ำผึ้งให้เขาแก้วหนึ่ง โจวชิงไป๋เหลือบมองภรรยาก่อนจะรับมาดื่ม
“ภรรยาครับ ผมไม่ได้เศร้านะ” โจวชิงไป๋เอ่ยอย่างสงบ
เขาไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมาก็ไม่ได้ขายเกี๊ยว แต่เขียนป้ายกระดาษแผ่นหนึ่งแปะไว้ที่ประตูว่า ‘ปิดทำการหนึ่งวัน’
“ป๊าอยากพักผ่อนงั้นเหรอ?” โจวเฉวี่ยนกับโจวกุยหลายต่างอึ้งกันไปทั้งคู่
ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น หู่จือกับโจวเอ้อร์นีก็ด้วย
“มีอะไรทำก็ไปทำซะไป” หลินชิงเหอโบกมือ
หญิงสาวรู้ว่าความเข้าใจผิดใหญ่หลวงนี้สร้างความเจ็บปวดให้ชิงไป๋ของเธอมากเกินไป เขาอยากได้ลูกสาวมานานแล้ว ไม่ได้หวังมาเป็นหลาย ๆ ปีเพื่อที่สุดท้ายจะยังไม่ได้ลูกสาว
ในที่สุดชายหนุ่มก็มีความหวังขึ้นมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะคว้าน้ำเหลว เขาจะไม่รู้สึกผิดหวังและเคว้งคว้างได้อย่างไร?
ข่าวที่โจวชิงไป๋หยุดทำการร้านเกี๊ยวไปหนึ่งวันได้เข้าหูท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวด้วยการบอกกล่าวจากสวี่เชิ่งเหม่ย
“น้าสี่ของหนูไม่ได้เปิดร้านตลอดทั้งวันเลยเหรอ?” ท่านแม่โจวถามอย่างประหลาดใจ
“ค่ะ หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้าสี่ดูมีความสุขมากในสองวันที่แล้ว หนูเองก็เห็นเขายิ้ม แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาน่ะค่ะ เขาเอาแต่ขังตัวอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ทั้งวันเลย” สวี่เชิ่งเหม่ยตอบ
“เขาทะเลาะกับน้าสะใภ้หรือเปล่านะ?” ท่านแม่โจวคาดเดา
“ทะเลาะอะไรกัน? อย่าเพิ่งสรุปส่งเดชสิ” ท่านพ่อโจวเอ็ดนาง
“ฉันไม่ได้สรุปส่งเดช แต่ถึงขนาดไม่เปิดร้านแบบนี้จะเป็นเรื่องไหนได้ล่ะ?” ท่านแม่โจวบอก
ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเหมยเพิ่งกลับมาถึง ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นเท่านั้น วันนี้พวกเขาปิดร้านกันเร็ว
“เชิ่งเหม่ย หนูได้เลิกงานเร็วเหรอ?” โจวเสี่ยวเหมยถาม
“ค่ะ วันนี้หิมะตกหนักมาก ร้านเลยปิดเร็ว” สวี่เชิ่งเหม่ยพยักหน้า
“เสี่ยวเหมย แกเห็นสะใภ้สี่บ้างไหม?” ท่านแม่โจวรีบถามขึ้น
“ไม่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้สี่เหรอคะ?” โจวเสี่ยวเหมยถามขณะดึงผ้าพันคอออก
“พี่สะใภ้สี่กับพี่สี่ของแกเหมือนจะทะเลาะกันน่ะ วันนี้พี่สี่ของแกไม่ได้เปิดร้านเลย” ท่านแม่โจวบอก
โจวเสี่ยวเหมยได้ยินก็ตกใจและหันมาถามสวี่เชิ่งเหม่ย “วันนี้คุณน้าสี่ไม่ได้เปิดร้านเหรอ?”
“ค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยพยักหน้า
“ตอนนี้ยังไม่มืด ไปดูพวกเขาเร็ว” ท่านแม่โจวบอก
“ค่ะ แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ เป็นไปไม่ได้หรอกที่พี่สี่จะทะเลาะกับพี่สะใภ้สี่” โจวเสี่ยวเหมยตอบก่อนจะหยิบผ้าพันคอขึ้นมาสวมอีกครั้ง
ซูต้าหลินตามไป และคนทั้งคู่ก็เดินมาที่ตึกอะพาร์ตเมนต์
…………………………………………………………………………………