ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 370 ตู้แช่แข็ง
บทที่ 370 ตู้แช่แข็ง
ภาคการศึกษาใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า ซึ่งหลินชิงเหอได้เตรียมการเรียนการสอนไว้แล้ว ส่วนโจวชิงไป๋ก็ได้ติดต่อผู้ขายส่งวัตถุดิบไว้เรียบร้อย
เป็นผู้ขายส่งวัตถุดิบสำหรับไอติมกับเครื่องดื่ม
ยกตัวอย่างเช่นหวานเย็นรสสาลี่ขาว รวมถึงไอศกรีมหลากชนิด แต่ไอศกรีมนั้นต้องเก็บแช่แข็งไว้ในตู้เย็นขนาดใหญ่
ดังนั้นหลังจากที่ติดต่อผู้ขายส่งแล้ว โจวชิงไป๋ก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่เพื่อมองหาตู้เย็น
หลังจากเดินดูเสร็จเขาก็มาคุยเรื่องนี้กับภรรยา
“ห้างสรรพสินค้าใหญ่มีตู้เย็นมาใหม่เมื่อสองวันที่แล้วล่ะครับ ผมคิดว่าราคามันก็ไม่แพงเกินไปนะ ผมบอกพวกเขาว่าอยากซื้อมา 4 ตู้และพวกเขาก็บอกว่าสามารถลดราคาให้ได้ทั้งยังบริการส่งถึงบ้านให้ด้วย” โจวชิงไป๋อธิบาย
“แบบนั้นไม่เหมาะหรอกค่ะ” หลินชิงเหอส่ายหน้า
โจวชิงไป๋จ้องมองเธอ
“ตู้เย็นสีเขียวแบบนั้นเหมาะเอาไว้ใช้ที่บ้าน ที่เราต้องการคือตู้แช่แข็งทางการค้าน่ะค่ะ” หลินชิงเหอบอก
“ตู้แช่แข็ง?” โจวชิงไป๋เอ่ยทวน เขายังไม่เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าตู้แช่แข็งเลย
ในยุคนี้มีตู้แช่แข็งเกิดขึ้นแล้ว หลินชิงเหอเห็นมันในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ไห่หนาน เธอจึงเอ่ยว่า “เหลือเวลาอีก 5 วันเท่านั้นก่อนที่จะเปิดภาคการศึกษาหน้า เรายังมีเวลาเดินทางไปกลับจากไห่หนานอยู่นะคะ ฉันจะไปที่นั่นค่ะ”
“งั้นผมไปกับคุณด้วย” โจวชิงไป๋เอ่ยหลังได้ยินดังนี้
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอยิ้มกริ่มและเห็นด้วย
ทั้งคู่จึงออกเดินทางไปยังไห่หนานแบบที่พูดปุ๊บไปปั๊บ ช่างเป็นอิสระเหลือแสน
เมื่อหู่จือกับสวี่เชิ่งเหม่ยมาถึงเมืองหลวง น้าสี่กับน้าสะใภ้สี่ก็เดินทางไปไห่หนานแล้ว
ทั้งคู่ไปด้วยเหตุผลใดไม่มีใครทราบ ทราบเพียงว่าพวกเขาไปไห่หนานเท่านั้น
ร้านเสื้อผ้ายังไม่เปิด หู่จือเลยอยู่ช่วยงานโจวเฉวี่ยน โจวกุยหลาย และโจวเอ้อร์นีที่ร้านเกี๊ยว ส่วนสวี่เชิ่งเหม่ยไปอยู่ทีบ้านของท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจว
แม่เฒ่าหูกำลังกวาดหิมะอยู่ที่ลานด้านนอก ซึ่งตอนนี้หิมะยังคงตกหนัก
“นี่เสี่ยวเหม่ยหรือเปล่าจ๊ะ? ทำไมกลับมาเร็วจัง? ยายได้ยินว่าคุณยายหนูบอกว่าจะกลับมาหลังเทศกาลโคมไฟนี่จ๊ะ” แม่เฒ่าหูเอ่ยด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นหล่อน
“พอคิดว่าตอนนี้ร้านของคุณน้าสี่กับน้าสะใภ้สี่ไม่มีใครดูแลแล้วหนูก็เลยกลับมาเร็วน่ะค่ะ อีกอย่างหนึ่งหนูอยู่บ้านว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำด้วย” สวี่เชิ่งเหม่ยยิ้มละมุน
แม่เฒ่าหูยิ้มกว้างมากกว่าเดิม “เป็นเด็กขยันจริง ๆ ปีนี้หนูอายุ 18 แล้วใช่ไหมจ๊ะ?”
“ค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยยิ้มอ่อน “คุณยายหูนั่งลงก่อนค่ะ หนูจะไปหาคุณตาคุณยายของหนู”
“เป็นเด็กกตัญญูจริง ๆ เลย ไปเถอะจ้ะ” แม่เฒ่าหูเอ่ยอย่างพอใจ
สวี่เชิ่งเหม่ยเข้ามาในบ้าน ตอนนี้ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเหมยอยู่ที่ร้านซาลาเปาแล้ว ทั้งบ้านจึงมีท่านแม่โจวกับเด็กหญิงตระกูลซูนั่งดูทีวีอยู่
“คุณยายคะ” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยทักทายท่านแม่โจวเมื่อเข้ามาในบ้าน
ท่านแม่โจวเห็นแล้วก็ประหลาดใจนิดหน่อยเหมือนกัน “ทำไมหลานกลับมาเร็วจังล่ะจ๊ะ? ไม่ใช่ว่าจะกลับมาหลังเทศกาลโคมไฟหรอกเหรอ? แล้วที่หู่จืออยู่ที่ไหนจ๊ะ?”
“หู่จืออยู่ที่ร้านเกี๊ยวน่ะค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยตอบ จากนั้นก็เอ่ยต่อ “คือหนูเห็นว่าหนูอยู่ที่บ้านว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาที่นี่เพื่อมาช่วยงานบ้างน่ะค่ะ”
ท่านแม่โจวได้ยินก็พอใจ “ช่างมีน้ำใจจริง ๆ จ้ะ”
“คุณยายคะ น้าเล็กกับน้าเขยเล็กอยู่ที่ร้านซาลาเปาเหรอคะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยถาม
“จ้ะ คุณตา เฉิงเฉิง กับสวิ่นสวิ่นก็อยู่ที่นั่นด้วยนะ” ท่านแม่โจวยืนยัน
“คุณยาย หนูได้ยินว่าน้าสี่กับน้าสะใภ้สี่บอกว่าไปไห่หนาน พวกเขาไปที่นั่นทำไมเหรอคะ? หนูได้ยินว่าอีกไม่นานก็จะเปิดเทอมแล้วถูกไหมคะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยถาม
“ยายก็ไม่รู้จ้ะ ยายไม่กังวลเรื่องของน้าสี่กับน้าสะใภ้สี่หรอก” ท่านแม่โจวตอบ
นางไม่สามารถช่วยอะไรลูกชายคนเล็กกับลูกสะใภ้ได้ แค่ช่วยดูแลลูก ๆ ให้เสี่ยวเหมยก็พอแล้ว นางจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องอื่นอีก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกชายคนเล็กกับภรรยาของเขาต่างเป็นคนที่เชื่อใจได้
ได้ยินดังนี้ สวี่เชิ่งเหม่ยก็รู้ว่าคุณยายของหล่อนไม่รู้จริง ๆ หล่อนจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและคุยเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ของหล่อนต้องการให้น้องชายมากับหล่อนด้วยในปีนี้
แต่หล่อนก็ถูกน้าสะใภ้สี่ห้ามไว้
“บอกแม่ของหนูว่าอย่าตัดสินใจอะไรแทนน้าสะใภ้สี่ หล่อนไม่ได้ขอน้าสะใภ้สี่แล้วอยากให้หนูพาเชิ่งเฉียงมาที่นี่เหรอ? หนูไม่รู้เหรอว่าลิ่วนีถูกส่งกลับไปอย่างไร?” ท่านแม่โจวตอบพลางย่นคิ้ว
ชีวิตตอนนี้ของนางสงบสุขแล้ว นางไม่ต้องการปัญหาใด ๆ มาก่อกวนชีวิตอันสุขสงบของนางกับคู่ชีวิต
“หนูเกลี้ยกล่อมแล้วแต่แม่คงไม่ฟัง คุณยายคะ อย่าห่วงเลยค่ะ ครั้งนี้เขาไม่ได้ตามหนูมาด้วย” สวี่เชิ่งเหม่ยพอเข้าใจสิ่งที่คุณยายกำลังหมายถึงได้อย่างคร่าว ๆ
“ไม่มาก็ถูกแล้วล่ะ ก่อนจะมาหนูต้องคุยเรื่องนี้กับน้าสะใภ้สี่ก่อน เขาจะมาได้ก็ต่อเมื่อน้าสะใภ้สี่เห็นด้วย ไม่อย่างนั้นหล่อนก็จะไม่ดูแลเขา” ท่านแม่โจวเอ่ย
“แต่เขาเป็นหลานชายของหล่อนนะคะ” สวี่เชิ่งเหม่ยพึมพำ “ต่อให้เขาจะเป็นญาติทางฝั่งน้าสี่ไม่ใช่น้าสะใภ้สี่ หล่อนก็ไม่น่าจะใจดำขนาดนี้ ทำไมให้งานคนอื่นได้ แต่ให้งานกับหลานชายของเขาไม่ได้ล่ะคะ”
ท่านแม่โจวไม่ชอบฟังคำพูดเหล่านี้เลย “ทำไมหล่อนจะไม่ให้งานกับหลานชายของเขาล่ะ? หู่จือไง แล้วก็ยังมีหนูกับเอ้อร์นีด้วยไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”
จากนั้นนางก็เอ่ยปราม “เชิ่งเหม่ย อย่าพูดอะไรแบบนี้เลย ยายฟังแล้วรู้สึกปวดใจมาก”
สวี่เชิ่งเหม่ยหน้าซีด “ทราบแล้วค่ะ หนูปากพล่อยไปเอง คุณยายอย่าบอกใครนะคะ”
“เอาล่ะ ทำงานของหนูให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือก็อย่าตัดสินใจแทนน้าสะใภ้สี่แล้วกัน ทำแค่สิ่งที่หล่อนบอกให้ทำเท่านั้น ทำงานในส่วนของหนูก็พอแล้ว นี่ก็ผ่านมา 1 ปีพอดี หนูยังไม่รู้จักนิสัยน้าสะใภ้สี่ดีอีกเหรอ?” ท่านแม่โจวโบกมือ
เมื่อถูกหาเรื่อง เธอสามารถทำให้แม้กระทั่งแม่สามีอย่างนางเสียหน้าได้ แถมยังต่อหน้าลูกชายคนเล็กอีกต่างหาก
เมื่อใดที่ไม่ได้หาเรื่องเธอ เธอก็พานางกับสามีชรามาอยู่ในเมืองหลวง และยังซื้อชุดทีวีกับพัดลมมาให้นางกับสามีได้ใช้ด้วย
แถมทุกเดือนนางยังได้ค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวน 20 หยวน
ท่านแม่โจวรู้สึกว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรง่ายดายไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ตอนนี้นางจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องอะไรมากนัก
ถ้าถามถึงเหตุผลว่าทำไมนางถึงคิดได้ทะลุปรุโปร่ง ก็เป็นเพราะนางเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับเพื่อนบ้านอย่างแม่เฒ่าหูและแม่เฒ่าจู
สะใภ้ของคนอื่นไม่อาจเทียบหลินชิงเหอในเรื่องความใจกว้างได้
ท่านพ่อโจวเองก็เคยคุยเรื่องนี้กับนาง นางจึงคิดได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยไม่รู้ตัว นางไม่สนใจเรื่องอะไรแล้ว สนใจแค่เรื่องปากท้องของนางกับสามีเฒ่าเท่านั้น
แน่นอนว่าหลานชายและหลานสาวของนางยังเด็กนัก ดังนั้นนางก็จะช่วยเลี้ยงดูพวกเขา
สวี่เชิ่งเหม่ยแทบกระอักเลือดเจียนตาย หล่อนไม่ยักรู้เลยว่าตอนนี้คุณยายของหล่อนลำเอียงเข้าข้างน้าสะใภ้สี่แล้ว
ส่วนตอนนี้หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ที่เป็นลูกรักก็กำลังซื้อตู้แช่แข็งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองไห่หนาน
ตู้แช่เแข็งตู้นี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีความจุทั้งหมดอยู่ที่ 200 ลิตรหรือราว ๆ นั้น
ราคาของตู้แช่แข็งตู้นี้แพงมาก แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ยังกล้าตกลงซื้อและได้มา 3 ตู้ในทันที
ตู้หนึ่งไว้ที่ร้านเกี๊ยวของโจวชิงไป๋เพื่อใช้แช่แข็งคงความสดของเนื้อสัตว์ไว้ ส่วนอีกสองตู้จะนำไปไว้ที่ร้านเครื่องดื่มเพื่อเก็บไอศกรีม
ความจริงแล้วการมีตู้แช่แข็ง 2 ตู้อยู่ที่ร้านเครื่องดื่มนับว่ายังไม่พอ พวกเขาต้องการ 4 ตู้ แต่การซื้อไปถึง 4 ตู้จะเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่หลวง
รอจนถึงยุคหลังแล้วค่อยขยายกิจการช้า ๆ จะดีกว่า ถ้าถึงวันหยุดฤดูร้อนปีนี้แล้วพวกเขาก็จะลงใต้เพื่อไปซื้อมาอีกรอบ
นอกจากตู้แช่แข็ง 3 ตู้นี้แล้ว หลินชิงเหอก็ซื้อเครื่องซักผ้ามาด้วย เธอให้ใครบางคนเคลื่อนย้ายไปในที่ที่ไม่มีคนและให้พวกเขากลับไป เมื่อมองรอบ ๆ และพบว่าไม่มีใครอยู่แล้วเธอก็ขนมันเข้าไปไว้ในมิติ
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางกลับไปโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น