ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 381 ซื้อรถบรรทุก
บทที่ 381 ซื้อรถบรรทุก
ระหว่างทางกลับบ้าน หลินชิงเหอกล่าวกับโจวชิงไป๋ “คุณว่าที่เชิ่งเหม่ยพูดออกมาอย่างนั้นหมายความว่าอะไรคะ?”
“หือ?” โจวชิงไป๋ขี่จักรยานต่อไปโดยไม่ได้ละสายตา
“หล่อนอยากให้แม่ของหล่อนมาที่นี่หรือคะ? หรือว่าอยากให้แม่หล่อนมาช่วยงานเสี่ยวเหมย?” หลินชิงเหอถาม
“ถ้าพี่สาวใหญ่จะมาที่นี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ” โจวชิงไป๋กล่าว
หลินชิงเหอตอบกลับไปว่า “ฉันก็ไม่ได้พูดว่ามีปัญหานี่ค่ะ”
ถ้าพี่สาวใหญ่อยากมาที่นี่ ก็มาสิ ไม่ได้มีตรรกะว่าตัวเธอสามารถมาที่ปักกิ่งได้ แล้วสามารถไปห้ามคนอื่นไม่ให้มาที่นี่ด้วยนี่
แต่ถ้าหล่อนมาแล้ว ต้องอยู่ให้ไกลออกไปจากที่นี่ พวกเขาจะทำธุรกิจประเภทเดียวกัน ก็ไม่ควรมาอยู่ด้วยกัน เพราะจะทำให้เกิดความระหองระแหงใจระหว่างกันได้
“กลับไปถามในช่วงวันหยุดหน้าร้อนนี้ดีไหมครับ?” โจวชิงไป๋พูด
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอไม่คัดค้าน เธอต้องกลับไปส่งมอเตอร์ไซค์ให้น้องชายในช่วงวันหยุดหน้าร้อนนี้อยู่แล้ว
ถ้าพี่สาวใหญ่มาที่นี่ เธอก็จะมีเหตุผลในการให้สวี่เชิ่งเหม่ยออกไปช่วยแม่ของหล่อนแทน
“แต่ถ้าจะคุยกันถึงเรื่องนี้ คุณเป็นคนไปนะคะ ฉันไม่อยากไปคุยด้วย” หลินชิงเหอกล่าว
โจวชิงไป๋พยักหน้าพลางบอกว่า “พอถึงเวลานั้นผมจะเป็นคนไปคุยกับพี่สาวใหญ่เองครับ”
“ฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนเองค่ะ” หลินชิงเหอถอนใจออกมาเบา ๆ เธอรู้ว่าชิงไป๋ของเธอกำลังต้องหัวหมุนกับเรื่องที่เธอให้กังจือมาที่นี่และไม่ยอมให้สวี่เชิ่งเฉียงมา
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องการไปคุยกับพี่สาวใหญ่เรื่องการมาทำธุรกิจที่นี่
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ อย่าคิดมากเลย” โจวชิงไป๋บอกอย่างใจเย็น
ภรรยาของเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งเฉียงจือและกังจือต่างก็เป็นหลานชายของพวกเขา ดังนั้นไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกัน ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมกังจือได้รับอนุญาต ในขณะที่เฉียงจือไม่ได้รับอนุญาตให้มานั้น ภรรยาเขาก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้รู้
แต่ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นพี่สาวใหญ่ของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องไว้หน้าหล่อนบ้าง
ตอนที่เขาขี่มาถึงอะพาร์ตเมนต์ หลินชิงเหอยังคงครุ่นคิดอยู่ว่าเธอควรจ้างญาติทำงานให้หรือไม่ ถ้าเธอใช้วิธีรับสมัครคนงานตั้งแต่แรกจะดีกว่านี้ไหม?
เธอคงไม่ต้องประสบปัญหาแบบในตอนนี้ ถูกต้องไหม? แน่นอนว่าเป็นเพราะไม่ยอมปฏิเสธในเวลาที่ควรจะปฏิเสธ เธอถึงต้องมาทนรับเรื่องวุ่นวายเหล่านี้
“พอถึงช่วงวันหยุด เราไปทางใต้กันนะครับ” โจวชิงไป๋รู้ดีว่าควรจะอย่างไรถึงจะสามารถหันเหความสนใจและทำให้ภรรยาของเขามีความสุขได้
เมื่อหลินชิงเหอได้ยินอย่างนี้ก็หันเหความสนใจไปทันที “เราควรจะออกเดินทางกันในอีก 2 วันถัดไปเลยดีไหมคะ?”
วันมะรืนนี้จะเป็นวันหยุดภาคฤดูร้อนของเธอแล้ว พักผ่อนสัก 1 วันและออกเดินทางในวันถัดไป แม้จะดูเร่งรีบไปสักหน่อย แต่ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย
ด้วยเหตุที่ปีนี้เธอซื้อเรือนสี่ประสาน 2 วงชั้นยอดไป ทำให้มีเงินเหลืออยู่หลังจากที่หักค่าใช้จ่ายแล้วไม่มากนัก ดังนั้นเธอจึงตั้งใจจะไปหาเงินก้อนโตจากที่นั่น
พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ไม่สนใจเรื่องของสวี่เชิ่งเหม่ยกับพี่สาวใหญ่อีกต่อไป
“ดีครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้าเห็นด้วย
หลินชิงเหออารมณ์ดีขึ้นมาก หลังจากการสอนชั้นเรียนสุดท้ายในวันรุ่งขึ้นเสร็จสิ้นลง เธอก็ประกาศเรื่องพักร้อนให้ทุกคนรู้
ในเวลานี้ผลสอบของโจวหยางและโจวอู่นีประกาศออกมาแล้ว พวกเขาโทรศัพท์กลับไปถามผลจากทางบ้าน คะแนนสอบที่ได้ไม่สูงนัก แต่ก็ไม่ได้ต่ำเช่นกัน
ทว่าพวกเขาก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ ตอนนี้พวกเขาต้องรอจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เป็นตัวเลือกในลำดับถัดมา
อย่างไรก็ตาม หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ไม่ได้อยู่รอฟังผลด้วย เมื่อถึงวันที่กำหนด พวกเขาก็ออกเดินทางไปทางตอนใต้
เรื่องทุกอย่างในบ้านให้โจวเฉวี่ยนเป็นคนจัดการ ร้านค้าก็ให้เขาและโจวกุยหลายเป็นคนดูแล สองพี่น้องเคยช่วยงานที่บ้านมาตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังอายุน้อยแล้ว
และความจริงที่ว่าป๊ากับม้าของพวกเขาเดินทางไปตอนใต้ในระหว่างช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อนมาโดยตลอด จึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาทำแบบนี้กันมาทุกปีตั้งแต่ที่ได้ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง
เนื่องจากหลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ไม่อยู่ เฒ่าหวังจึงมาช่วยที่ร้านด้วย
เมื่อมีเฒ่าหวังอยู่ด้วย ท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวก็ไม่จำเป็นต้องมาช่วยที่นี่ ในช่วงที่สภาพอากาศร้อนเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ มีเฒ่าหวังอยู่ก็พอแล้ว
ที่จริงแล้ว ถึงจะไม่มีเฒ่าหวังอยู่ด้วย พวกเขาก็ทำกันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าโจวเฉวี่ยนจะอายุแค่ 16 ปี แต่ความสามารถของเขาไม่อ่อนด้อยเลย สามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองแล้ว
คู่สามีภรรยาซึ่งออกเดินทางหลังจากที่ผลักภาระไปหมดแล้ว ในตอนนี้กำลังอยู่บนรถไฟ
“ปีนี้คนที่รวยเหมือนอย่างเรามีเพิ่มขึ้นเกือบถึง 3 ล้านครัวเรือนแล้ว” โจวชิงไป๋กล่าวขึ้นในขณะที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์
“ต้องมีมากกว่านั้นอย่างแน่นอนค่ะ มีหลายคนที่เก็บตัวและไม่ได้แจ้งรายได้” หลินชิงเหอตอบ เธอที่กำลังกินพุทราสดพร้อมกับป้อนโจวชิงไป๋ไปด้วย
ในมิตินอกจากอาหารบางอย่างแล้ว ยังมีผลไม้ตามฤดูกาลนานาชนิดด้วย ครั้งนี้ระหว่างที่ไปตอนใต้เธอจะเก็บผลไม้ตามฤดูกาลบางชนิดมาเก็บไว้เพิ่มอีก
เธอจัดเตรียมพื้นที่ขนาดเล็ก ๆ ในมิติเป็นการเฉพาะไว้สำหรับเก็บผลไม้เหล่านี้แล้ว
พื้นที่ที่เหลือจะใช้สำหรับเป็นที่เก็บสินค้า
โจวชิงไป๋รู้ว่าหนังสือพิมพ์อาจจะไม่สามารถระบุจำนวนครัวเรือนได้ทั้งหมด จะต้องมีบางคนที่ร่ำรวยอยู่อย่างเงียบ ๆ
อย่างเช่น ครอบครัวของเขา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นี่ก็สามารถสรุปได้ว่าตอนนี้ประชาชนกำลังร่ำรวยขึ้น นโยบายการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องที่ดีมากอย่างแท้จริง
ทั้งคู่เดินทางมาถึงตอนใต้ ครั้งนี้พวกเขาคุ้นเคยกับการเดินทางแล้ว
การซื้อขายสินค้ายังทำตามกฎกติกาเดิม ถึงแม้ว่าหลินชิงเหอจะคุ้ยเคยกับขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว แต่เธอก็ยังระมัดระวังตัวเป็นพิเศษอยู่ตลอดเวลา
หลังจากที่จัดการส่งสินค้าชุดแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินชิงเหอก็พาโจวชิงไป๋ไปดูรถบรรทุก
โจวชิงไป๋ถึงกับนิ่งงันไป “ภรรยาครับ เรามาผิดที่แล้ว มอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ที่นี่?”
“ถูกแล้วค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อจะซื้อรถบรรทุก” หลินชิงเหอกล่าว
ในยุคนี้รถบรรทุกยังมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก มิติของเธอมีพื้นที่แค่ 10 ตารางเมตร ในขณะที่รถบรรทุกใช้พื้นที่ 5-6 ตารางเมตร ของที่เธอกักตุนไว้ใช้พื้นที่เพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้น ดังนั้นมิติจึงสามารถเก็บรถบรรทุกได้อย่างไม่มีปัญหา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทั้ง 2 คนทำธุรกิจซื้อมาขายไปแบบนี้เป็นงานที่หนักมากจริง ๆ ถ้าพวกเขามีรถบรรทุกใช้ก็จะสะดวกขึ้นอีกมาก
ดังนั้นหลินชิงเหอจึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย สินค้าชุดแรกถูกจัดส่งขายออกไปเพื่อที่จะมาซื้อรถบรรทุก
รถบรรทุกราคาอยู่ที่ราว ๆ 16,000 หยวน นับได้ว่าเป็นราคาที่สูงมาก มูลค่าเท่ากับ 1.5 เท่าของครัวเรือนที่มีรายได้ 10,000 หยวนเลยทีเดียว
การซื้อมาขายไปเพียงรอบเดียวยังทำเงินได้ไม่มากพอ พวกเขาต้องหาเงินเพิ่มเพื่อมาชดเชยเงินที่จ่ายไปจากการซื้อเรือนสี่ประสาน
หลังจากซื้อรถบรรทุกมาแล้ว ยังมีเงินทุนเหลืออยู่อีกมากกว่า 2,000 หยวน ทั้งคู่จึงขับรถบรรทุกไปซื้อสินค้ามาเพิ่มอีก
แม้ว่ารถบรรทุกคันนี้จะเป็นรถแบบเก่าที่มีราคาแพงมาก แต่เมื่อโจวชิงไป๋ได้ขับรถไปบนถนน ก็เห็นได้ชัดเจนจากสีหน้าว่าเขารู้สึกสนุกมาก
ใช่แล้ว ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่ชอบเรื่องรถ
อย่าว่าแต่โจวชิงไป๋เลย หลินชิงเหอเองก็ยังชอบเหมือนกัน
พอมีรถแล้ว การไปซื้อสินค้าก็เป็นเรื่องที่สะดวกมากสำหรับพวกเขา หลังจากที่สินค้าหนึ่งคันรถบรรทุกได้ถูกเก็บไปไว้ในมิติแล้ว พวกเขาก็ไปซื้อสินค้ามาเพิ่มอีกหนึ่งคันรถบรรทุก ฉะนั้นจึงเท่ากับว่ามีสินค้ามากถึงสองคันรถบรรทุกที่ถูกส่งไปขายในเมืองหลวงประจำมณฑลที่อยู่ใกล้เคียงกันนี้ หลังจากนั้นพวกเขาจึงขับรถกลับมาที่หยางเฉิง(1) อีกครั้งเพื่อซื้อของกลับบ้าน
พวกเขาซื้อมอเตอร์ไซค์สำหรับน้องชายสามตระกูลหลิน เครื่องซักผ้าสำหรับท่านพ่อโจวท่านแม่โจว ตู้แช่แข็งสำหรับเอาไปใช้เพิ่มในร้านเครื่องดื่มและแม้แต่กล้องถ่ายรูป ซึ่งโจวกุยหลายลูกชายคนเล็กถวิลหา
หลินชิงเหอเต็มใจที่จะซื้อของนำเข้าในราคากว่า 900 หยวน
กล้องตัวนี้จะต้องถูกใช้ไปอีกนาน ดังนั้นเป็นการดีที่จะเลือกซื้อรุ่นที่ดีกว่า
ส่วนที่เหลือเป็นนาฬิกาและอื่น ๆ ของเหล่านี้สำหรับเด็กสาวและเด็กหนุ่มทั้งหลาย
สิ่งเหล่านี้ถูกเก็บไว้บนรถบรรทุก ซึ่งไม่ได้ใช้พื้นที่ใด ๆ เลย
ธุรกิจซื้อมาขายไปแบบนี้สามารถทำกำไรได้ดี แต่ทั้งคู่ก็เหน็ดเหนื่อยมากเช่นกัน เนื่องจากครั้งนี้มีรถบรรทุกใช้จึงช่วยประหยัดแรงไปได้เยอะ ถึงกระนั้นก็ยังต้องใช้พลังงานไปมากอยู่ดี
“อีก 2 ปี เราจะเปิดร้านค้าหรูในปักกิ่งกันและให้คนของเราขับรถมาซื้อสินค้าทางตอนใต้กลับไปขาย คุณคิดว่ายังไงคะ?” หลินชิงเหอถามขณะกำลังกินแอปเปิลอยู่บนรถไฟ
โจวชิงไป๋กำลังกินแอปเปิลอยู่เช่นกันตอบว่า “ให้คนมาดูแลร้านก็พอครับ เราต้องเป็นคนไปซื้อของเอง”
……………………………………………………………………………………