ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 673 เจ้าใหญ่กับเหม่ยเจี่ยกลับบ้าน
บทที่ 673 เจ้าใหญ่กับเหม่ยเจี่ยกลับบ้าน
คนเราเวลาพบเจอเรื่องที่น่ายินดีจิตใจก็มีความสุขตาม เมื่อถึงเดือนธันวาคมอากาศก็จะหนาวมาก แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ยังเรียกคนมาจัดการทำความสะอาดทั้งนอกบ้านในบ้าน
แล้วยังติดโคมไฟพร้อมแปะตัวอักษรมงคลบนนั้นด้วย
ภายใต้การจัดแจงตกแต่งของเธอ ทั้งเรือนสี่ประสานจึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นสิริมงคล
เจ้าใหญ่โจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ยกลับถึงบ้านในวันที่ 18 ธันวาคม พอมาถึงบ้านก็เห็นภาพนี้
เจ้าสามคลี่ยิ้มกว้าง “แม่เป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้พี่กับพี่สะใภ้ใหญ่หมดเลย รวมถึงห้องหอของพวกพี่ด้วย”
เวิงเหม่ยเจี่ยไม่ได้กลับบ้านของหล่อน แต่มาที่เรือนสี่ประสานด้วยกัน และได้เจ้าสามพาพวกเขามาดูห้องหอของทั้งสอง
“ต้องลำบากน้าหลินแล้ว” เวิงเหม่ยเจี่ยเอ่ยยิ้ม ๆ
“แม่บอกว่าพวกพี่ชอบก็ดีแล้ว ไม่ลำบากอะไรหรอกครับ” โจวกุยหลายบอกพร้อมยิ้มกว้าง
โจวข่ายพอใจมากกับห้องหอที่แม่เขาเตรียมให้ แต่ตอนนี้หลินชิงเหอไม่อยู่บ้าน เพราะเธอนัดคุณแม่เวิงออกไปแช่น้ำพุร้อน
เดี๋ยวนี้การแช่น้ำพุร้อนเป็นกิจกรรมระหว่างสองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกันบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่พวกเธอสองคน โจวเอ้อร์นีกับโจวเสี่ยวเหมยก็ไปด้วยเหมือนกัน
พอหลินชิงเหอกลับมาถึงบ้านก็เห็นลูกชายและลูกสะใภ้คนโตถึงบ้านแล้ว เธอรู้สึกดีใจมาก
“ทำไมกลับมาก่อนกำหนดหนึ่งวันล่ะจ๊ะ น้านึกว่าพวกเธอจะมาถึงพรุ่งนี้เสียอีก เมื่อกี้แม่เธอก็อยู่กับน้า” หลินชิงเหอพูดกับเวิงเหม่ยเจี่ยด้วยรอยยิ้ม
“เดี๋ยวฉันกลับไปค่ะ” เวิงเหม่ยเจี่ยตอบยิ้ม ๆ “น้าหลินคะ พวกเราเห็นห้องแล้วนะคะ”
“ชอบไหมจ๊ะ?” หลินชิงเหอยิ้มและถาม
ห้องหอที่เตรียมไว้ให้คู่แต่งงานใหม่นี้เรียกได้ว่าพิถีพิถัน ทั้งดูสวยและโอ่อ่า แถมยังไม่ดูรกรุงรังเกินไป
เวิงเหม่ยเจี่ยชอบอยู่แล้ว ส่วนโจวข่ายเอ่ยขึ้น “ม้า ทำไมม้ายังสาวขนาดนี้ล่ะครับ ดูสภาพป๊าผมสิ อย่างกับเป็นพ่อของม้าแน่ะ”
“พี่จะชมม้าก็ชมไป ต้องว่าป๊าด้วยเหรอ สภาพป๊าก็ยังดูหนุ่มอยู่มากนะ” โจวกุยหลายกล่าว
“ปะป๊ายังหนุ่ม ปะป๊าไม่แก่” สาวน้อยมี่มี่ก็ปกป้องพ่อของเธอเหมือนกัน
โจวชิงไป๋ถึงไม่ไปตบลูกชายคนโต เขาอุ้มลูกสาวขึ้นมา โจวข่ายทำมือจะรับน้องสาว แต่โจวชิงไป๋ไม่ให้ “อยากได้ก็มีเองสิ”
“ป๊าอย่าได้ใจไป ปีหน้าผมจะมีให้ดู” โจวข่ายกล่าว
เวิงเหม่ยเจี่ยหน้าแดงเล็กน้อย มองค้อนเขาไปทีหนึ่ง ขณะที่โจวข่ายเอ่ยต่อ “ที่นู่นเราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว มีลูกได้แล้ว มีเร็วจะได้สลัดหลุดเร็วด้วย”
เวิงเหม่ยเจี่ยแอบหยิกเขาเบา ๆ เรื่องแบบนี้บอกกับหล่อนส่วนตัวก็ได้นี่ พูดแบบนี้แล้วจะให้หล่อนพูดต่อว่าอะไรเล่า?
หลินชิงเหอเทน้ำผึ้งมะนาวให้พวกเขาก่อนจะเอ่ย “พวกลูกสองคนจะไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำหรืออาบที่บ้านละ”
“อาบที่บ้านน้ำไม่เย็นไปหรอครับ?” โจวข่ายเอ่ย
“มีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่ ไม่เย็นหรอก” หลินชิงเหอบอก
เธอสั่งทำห้องอาบน้ำบ้านตัวเองเป็นพิเศษ ตอนอาบน้ำจึงไม่ถึงกับหนาว โจวข่ายเข้ามาดูแล้วไม่สนใจเท่าไร เขาอาบน้ำที่โรงอาบน้ำจนชินแล้ว ไม่ว่าจะที่กองทัพหรือที่ไหนเขาก็ชินกับการอาบที่โรงอาบน้ำ มีคนช่วยขัดหลังอย่าให้พูดเลยว่าสบายขนาดไหน
แต่เวิงเหม่ยเจี่ยไม่อยากไปอาบน้ำข้างนอก หล่อนอยากอาบน้ำในบ้านมากกว่า
โจวข่ายจึงเรียกเจ้าสามไปด้วย สองพี่น้องพากันไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำ
แล้วโจวข่ายจะได้สอบถามเรื่องที่บ้านกับน้องชายด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างไหม
“ไม่มีอะไร แค่พี่อู่นีแต่งงานแล้ว แต่งกับลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวเกิง แล้วก็พี่ซื่อนีคลอดลูกสาว” โจวกุยหลายเอ่ย
“ลูกสาวเหรอ?” โจวข่ายจิ๊ปากอย่างอิจฉา เขาเคยพูดกับเวิงเหม่ยเจี่ยว่าอีกหน่อยอยากได้ลูกสาว
เวิงเหม่ยเจี่ยถามว่าแล้วถ้าได้ลูกชายล่ะ? โจวข่ายจะทำอะไรได้ ถ้าเป็นลูกชายก็ต้องเลี้ยงอยู่ดี แต่คงไม่ได้สวัสดิการเหมือนลูกสาวเท่านั้นแหละ ไปเกลือกกลิ้งเอาเองเถอะ
“สวี่เชิ่งเฉียงกับสวี่เชิ่งเหม่ยหย่ากันหมดทั้งคู่” โจวกุยหลายนึกขึ้นได้จึงเอ่ยขึ้น
โจวข่ายถามเรื่องนี้ โจวกุยหลายจึงเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง พอฟังจบแล้วโจวข่ายก็เอ่ยขึ้น “จางเหมยเหลียนกับจ้าวจวินเป็นคนชั่ว พวกเขาสองคนอยากเอาตัวเข้าไปยุ่งเอง ก็สมควรแล้วล่ะ”
“ตอนนี้สวี่เชิ่งเฉียงมาช่วยงานที่ร้านเกี๊ยวของป๊า เขาเป็นคนดูแลแทบทุกอย่างในร้านเกี๊ยวเลย” โจวกุยหลายบอก
“ป๊าเป็นคนตัดสินใจหรอ?” โจวข่ายประหลาดใจ
“ม้าก็ตกลงเหมือนกัน” โจวกุยหลายบอก และเล่าให้พี่ใหญ่ฟังว่าตั้งแต่สวี่เชิ่งเฉียงออกมาจากคุกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ดูขรึมลงไม่น้อย
แต่ก็ถือว่าขยันทำงานอยู่ อย่างน้อยดูจากที่ไปอยู่ที่ร้านเกี๊ยวได้พักใหญ่แล้วยังไม่ได้ก่อเรื่องอะไร เปิดร้านปิดร้านตรงตามเวลาตลอด ดูมีการพัฒนาจริง ๆ ไม่อารมณ์ร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
โจวข่ายจึงไม่ว่าอะไร เพราะนี่ก็น้องชายของเขาเหมือนกัน เหมือนกับหู่จือนั่นแหละ ขอแค่เขารู้จักกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เขาก็ไม่มีอะไรจะพูด พวกเขายังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่ ไม่ใช่คู่แค้นกันเสียหน่อย แล้วจะให้เขาอยากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับสวี่เชิ่งเฉียงหรืออย่างไร?
สองพี่น้องอาบน้ำขัดตัวเสร็จ กลับมาด้วยความสบายตัว เวิงเหม่ยเจี่ยอยู่บ้านนั่งคุยเป็นเพื่อนกับหลินชิงเหอ ส่วนโจวข่ายขับรถมาหาปู่ย่ารวมถึงปู่บุญธรรมของเขา
เมื่อมาถึงก็ได้รับการต้อนรับสุดอบอุ่นจากผู้เฒ่าทั้งสาม
“ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องใกล้จะกลับมา เมื่อวานเพิ่งให้พี่เอ้อร์นีของเธอไปถามแม่เธออยู่ แล้วแม่เธอบอกว่าต้องรอจนถึงพรุ่งนี้” ท่านแม่โจวกุมมือหลานชายคนโตพลางกล่าวอย่างดีใจ
“ผมกับเหม่ยเจี่ยกลับมาก่อนกำหนดหนึ่งวัน ก็เลยมาถึงปักกิ่งเร็วขึ้นน่ะครับ” โจวข่ายเอ่ยยิ้ม ๆ สอบถามเรื่องสุขภาพของปู่ย่าและปู่บุญธรรมเขาทีละคน
จริง ๆ แล้วสุขภาพของท่านพ่อโจวและท่านแม่โจวถือว่าแข็งแรงมาก หลายปีมานี้กินดีอยู่ดี แม่บ้านก็ดูแลเป็นอย่างดี แต่สุขภาพของเฒ่าหวังไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ถึงอย่างไรก็เป็นอาการป่วยเดิม ๆ พอถึงหน้าหนาวก็จะกำเริบ หลินชิงเหอจึงให้เจ้าสามเอาผลไม้มาให้อยู่บ่อย ๆ กินแล้วชุ่มชื้นภายใน ธาตุไฟจะได้ไม่แทรก
“เมื่อวานป้าสะใภ้สามเธอโทรมาบอกว่าพวกเขาออกเดินทางวันนี้ มาอยู่นี่หนึ่งวัน วันต่อมาก็เป็นวันแต่งงานของเธอกับเหม่ยเจี่ย” ท่านแม่โจวกล่าว
“มากันกี่คนเหรอครับ” โจวข่ายยังไม่รู้เรื่องนี้ จึงถามด้วยรอยยิ้ม
ท่านแม่โจวพูดรัวเร็วพลางนับนิ้วให้เขาฟัง “ลุงใหญ่เธอมาทั้งบ้าน บ้านลุงรองเธอมีแค่สองสามีภรรยาเซี่ยเซี่ยมา แล้วก็ป้ารองกับป้าสะใภ้สาม รวมถึงน้าเล็กเธอด้วย”
มากันทีเดียวเยอะขนาดนี้ต้องครึกครื้นมากแน่ ๆ ท่านแม่โจวเองก็มีความสุข อย่าว่าแต่นางเลย ท่านพ่อโจวและเฒ่าหวังก็เหมือนกัน
“นี่ก็แต่งงานแล้ว รีบ ๆ มีลูกเร็วเข้า ตอนแม่เธออายุเท่าเธอ หล่อนคลอดพวกเธอสามพี่น้องครบทุกคนแล้ว” ท่านแม่โจวกล่าว
“ครับ พอผมแต่งงานแล้วก็จะมีลูกแล้วล่ะ” โจวข่ายพยักหน้า
ท่านแม่โจวพึงพอใจมาก ลากหลานชายคนโตไปดูไก่ที่นางเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้านซึ่งนางทำเล้าไก่ไว้ แล้วไก่ทุกตัวก็เข้าไปหลบอยู่ในเล้าหมด จากนั้นก็เอ่ย “พอแต่งงานแล้วเอาไก่พวกนี้ไปทำอาหารขึ้นโต๊ะให้หมดนะ ไม่ต้องประหยัดอะไร เมื่อวานย่าก็เพิ่งให้คนมาจับเชือดหลายตัวแล้วแจกจ่ายให้ไปกินกันบ้านละตัว”
โจวข่ายไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด เขาคอยฟังที่ย่าเขาพูด อยู่ที่นั่นราวชั่วโมงกว่าถึงกลับมาที่บ้าน
…………………………………………………………………