ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 147 จางต้าหูมาหา
บทที่ 147 จางต้าหูมาหา
จางซิ่วเอ๋อเปิดประตู
วินาทีที่เปิดประตู จางซิ่วเอ๋อก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาจ้าว ครั้งนี้ขอบคุณท่านมากนะเจ้าคะ”
บัณฑิตจ้าวไม่เคยต้องพูดปด เวลานี้จึงลืมว่าต้องตอบรับว่าอะไร เป็นจ้าวเอ้อร์หลางเองที่มีไหวพริบพูดขึ้นมา “พี่ซิ่วเอ๋อ ไม่ต้องขอบคุณ เราเป็นเพื่อนบ้านกันต้องดูแลกันอยู่แล้ว”
จางต้าหูยืนอยู่หน้าประตู พอเห็นฉากนี้ก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”
คำพูดนี้เขาถามบัณฑิตจ้าว
บัณฑิตจ้าวเป็นคนมีมารยาทดี เขาสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรจากจางต้าหู แต่ก็ยังตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าเอาของมาให้ซิ่วเอ๋อ เด็กคนนี้ลำบาก เป็นเพื่อนบ้านกันจะไม่ดูแลบ้างได้อย่างไร?”
“เหอะ ของอะไรต้องให้พวกท่านเอามาให้! ระวังจะติดโรค!” จางต้าหูพูดอย่างไม่พอใจ
จางซิ่วเอ๋อมีสีหน้าไม่สู้ดี “ท่านไปยุ่งกับคนอื่นทำไมว่ามาทำอะไร ข้าสิต้องถามว่าท่านมาทำอะไร?”
พูดมาถึงตรงนี้จางซิ่วเอ๋อถามพลางยิ้มบาง ๆ “หรือว่าท่านมาคืนค่าจาน?”
บัณฑิตจ้าวถูกจางต้าหูพูดกระทบกระเทือนจิตใจ จึงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าใด แต่เมื่อเห็นจางซิ่วเอ๋อปกป้องตัวเองก็ถอนหายใจเบา ๆ เขารู้มาตลอดว่าจางซิ่วเอ๋อไม่เหมือนกับคนอื่น
ในเมื่อเป็นแบบนี้ คนที่ไปมาหาสู่กับเขาคือซิ่วเอ๋อ เขาจะไปสนความคิดคนอื่นทำไมกัน?
ตอนนี้เขาสัมผัสได้แล้วว่าจางต้าหูมาอย่างไม่หวังดี จึงคิดอยากช่วยจางซิ่วเอ๋อ
แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีจุดยืนอะไรที่จะไปช่วยจางซิ่วเอ๋อ บวกกับเมื่อครู่นี้จางซิ่วเอ๋อให้เขาไปก่อนก็เพราะเป็นเรื่องในบ้านของจางซิ่วเอ๋อ เขาไม่สะดวกออกหน้า บัณฑิตจ้าวจึงได้แต่ปรายตามองจางซิ่วเอ๋ออย่างเป็นห่วงก่อนจะพาจ้าวเอ้อร์หลางออกไป
จางต้าหูมองจ้าวเอ้อร์หลางออกไปด้วยสายตาเย็นเยียบ ไม่ตอบคำถามเมื่อกี้ของจางซิ่วเอ๋อแต่วางท่าสั่งสอน “เจ้านี่นะ ไปข้องแวะกับพวกขี้โรคทำไม! ไม่กลัวติดโรคบ้างรึ?”
“อีกอย่าง เจ้าเป็นแม่ม่าย ให้ผู้ชายเข้าบ้านตัวเองมันหมายความว่าอย่างไร?” จางต้าหูสั่งสอน
จางซิ่วเอ๋อมองจางต้าหูด้วยสายตาเย็นเยียบ “เพื่อนบ้านไปมาหาสู่กันบ้างไม่ได้เหรอเจ้าคะ? แล้วเขาไม่ได้มาคนเดียวด้วย!”
พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็เลิกต่อความยาวสาวความยืดเรื่องบัณฑิตจ้าวกับจางต้าหู แต่ถามขึ้น “เรามาพูดเรื่องเมื่อครู่กันดีกว่า ท่านมาทำไม? มาคืนเงินเหรอ?”
สีหน้าจางต้าหูนิ่งไป เขาหน้าเสียนิดหน่อย มาคืนเงินที่ไหนกันล่ะ? นอกจากจะไม่ได้มาคืนเงินแล้วแถมมาขอเงินด้วย
จางต้าหูไม่มีหน้าจะพูดเรื่องนี้ จึงแสร้งทำเป็นวางมาดบิดา “เจ้าพูดจาแบบนี้กับพ่อได้อย่างไร? ท่าทางอะไรของเจ้าเนี่ย?”
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ข้ามีท่าทางอย่างไร? ก็ต้องดูว่าท่านมีท่าทางอย่างไรด้วย!”
ตอนนี้จางต้าหูไม่สนใจแล้วว่าจางซิ่วเอ๋อยังยืนอยู่หน้าประตู เขาเดินตรงดิ่งเข้าไปในบ้าน
ตอนนี้บนโต๊ะเหลือกับข้าวอยู่ครึ่งจาน
เนื่องจากช่วงนี้ทุกคนกินเนื้อกันมากแล้ว และทุกคนไม่เหมือนคนตระกูลจางที่จ้องคีบแต่เนื้อ กับข้าวที่เหลือยังเหลือพริกหยวกครึ่งหนึ่งเนื้อครึ่งหนึ่ง
ตอนจางต้าหูเข้ามาจึงเห็นเนื้อในจาน
เขาอึ้งไปเล็กน้อย ทำไมใส่เนื้อในกับข้าวเยอะขนาดนี้?
เขาไม่ได้กินเนื้อมานานแล้วจริง ๆ พอเห็นเนื้อพวกนี้ จางต้าหูก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
แต่เวลานี้จางซานหยาและจางชุนเถามองหน้ากัน ก่อนที่จางชุนเถาจะยกจานกับข้าวขึ้นมากวาดใส่ถ้วยจางซานหยาครึ่งนึง และกวาดใส่จานตัวเองอีกครึ่งนึง
ก่อนจะกล่าว “ซานหยา เนื้อนี่อร่อยมาก เจ้ากินเร็ว!”
จางซานหยากัดหมั่นโถวไม่พูดไม่จาและเริ่มกินเนื้อ ส่วนจางชุนเถาก็กินโดยไม่รอช้า
ไม่นานนักเนื้อก็ถูกกินหมด เหลือเพียงก้นถ้วยก้นจานที่เปื้อนน้ำมันแวววาว
น่าสงสารจางต้าหูที่ยืนอึ้งอยู่ ทนมองลูกสาวสองคนที่ไม่มีใครเรียกเขา กลับทำท่าเหมือนระแวงเขา กินเนื้อจนหมดในอึดใจเดียว
“พวกเจ้าเอาเนื้อมาจากไหนกัน? มีเนื้อแล้วไม่รู้จักเอาไปให้ที่บ้านบ้าง…..” จางต้าหูพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้
เขาคิดอยู่ในใจว่าทำไมจางซิ่วเอ๋อถึงอกตัญญูแบบนี้ เขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของนางนะ ไม่ใช่ว่าเขาจะต้องกินเนื้อให้ได้ แต่เขาแค่รู้สึกว่าถ้าเขามีเนื้อ เขาต้องดูแลท่านแม่ได้ดีแน่ ๆ …..
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วขำ “ท่านพ่อ อย่าลืมนะ ถึงแม้ตอนนี้ข้าไม่มีสามี แต่ข้าก็แต่งงานแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นลูกสะใภ้บ้านอื่น มีอะไรต้องเอาไปให้บ้านตัวเองเหรอ?”
“ต่อให้แต่งงานแล้วเจ้าก็ไม่สนคนบ้านตัวเองไม่ได้” จางต้าหูพูดต่อ
ครั้งนี้ไม่รอให้จางซิ่วเอ๋อพูดอะไร จางชุนเถาเงยหน้าพูด “ท่านแม่ข้าก็แต่งงานแล้ว ทำไมพวกท่านไม่เอาของให้ท่านแม่ข้ากลับไปเยี่ยมท่านยายข้าบ้างล่ะ?”
สำหรับจางชุนเถา เรื่องนี้ถือว่าเป็นเสี้ยนหนามตำใจ
ที่ท่านป้าใหญ่ไม่ชอบแม่ตัวเองขนาดนี้จะโทษท่านป้าใหญ่อย่างเดียวไม่ได้หรอก ส่วนใหญ่เป็นเพราะคนตระกูลจางมากกว่า
แม่โจวอยากกลับบ้าน คนทั้งบ้านกลับมองแม่โจวเหมือนระแวงโจร โวโวโถวสักลูกแม่โจวก็อย่าหวังว่าจะเอากลับไปที่บ้านได้
จางต้าหูถูกถามจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
“ท่านพ่อ อีกอย่างหนึ่งกับข้าวพวกนี้เมื่อครู่ท่านอาจ้าวเป็นคนเอามาให้ ต่อให้ข้าอยากเอาไปให้พวกท่านก็กลัวว่าท่านจะติดโรค!” จางซิ่วเอ๋อยิ้มตาหยี
“เจ้าว่าอะไรนะ? กับข้าวพวกนี้บัณฑิตจ้าวเป็นคนเอามาให้เหรอ? บ้านเขาจนขนาดนั้นจะมีกับข้าวแบบนี้ได้อย่างไร? แล้วทำไมเขาต้องเอาของกินมาให้เจ้าด้วย? อีกอย่าง เจ้าเป็นผู้หญิงไปกินกับข้าวของพ่อม่ายได้อย่างไร?” จางต้าหูถามเป็นชุด
จางซิ่วเอ๋อกวาดตามองจางต้าหู เห็นท่าทางไม่พอใจของจางต้าหูแล้วยิ้มบาง “ข้าคิดว่าข้าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ท่านฟังนะเจ้าคะ ข้าเป็นลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว จะคบค้าสมาคมกับใครข้าคิดว่าไม่เกี่ยวกับท่าน”
“ข้าเป็นพ่อเจ้า! จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร!” จางต้าหูพูดอย่างโมโห
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ในเมื่อท่านอยากรู้ข้าจะบอกให้ กับข้าวนี่ท่านน้าของจ้าวเอ้อร์หลางเอาไปให้ที่บ้าน ที่ท่านอาจ้าวเอามาให้ข้าส่วนหนึ่งเพราะข้าช่วยพวกเขาไว้……”
“ถ้าไม่ได้ของกินที่ท่านอาจ้าวเอามาให้ พวกเราต้องอดอยากแล้วท่านพ่อ ในเมื่อท่านมาแล้วก็คืนเงินที่ติดข้ามาเถอะ ข้าจะได้ไปซื้อธัญพืชกิน” จางซิ่วเอ๋อเริ่มโอดครวญถึงความยากจน
จางต้าหูพูดกระอักกระอ่วน “ตระกูลเนี่ยเจ้าของที่ให้เงินเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมเจ้าถึงใช้ชีวิตแร้นแค้นขนาดนี้ล่ะ? ข้าบอกเจ้านานแล้วว่าเจ้าเป็นผู้หญิงอย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย……”
ไม่รอให้จางต้าหูพูดจบ จางซิ่วเอ๋อก็เอ่ยขึ้น “ถ้าวันนี้ท่านไม่ได้มาคืนเงิน แค่อยากมาสั่งสอนข้า งั้นข้าไม่ต้อนรับ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มาสอนอะไรลูกตัวเองคะ เก็บคำพูดทั้งหมดไว้สอนตัวเองเถอะค่ะ
ไหหม่า(海馬)