ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 154 จางเป่าเกิน
บทที่ 154 จางเป่าเกิน
จางซิ่วเอ๋อมองจางเป่าเกินพลางกล่าว “ทำไม? ตอนนี้ไม่คิดจะแต่เห่า? จะพุ่งมากัดด้วยเหรอ?”
ตอนนี้จางเป่าเกินโบกกำปั้นเตรียมเหวี่ยงใส่หน้าจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อยอมให้จางเป่าเกินทุบตีถูกตัวเองที่ไหน นางเอียงตัวหลบจางเป่าเกิน
“นังตัวขาดทุน เจ้าบังอาจหลบรึ! ข้าจะตีเจ้าให้ตายเลย!” จางเป่าเกินพูดอย่างขุ่นเคือง
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเสียงเย็น “จางเป่าเกิน ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้! ข้าแต่งงานแล้ว ตอนนี้ข้าไม่ใช่คนตระกูลจางแล้ว! ถ้าเจ้ากล้าตีข้าจริง ๆ ข้าจะไปฟ้องเจ้าที่ศาล!”
จางเป่าเกินได้ยินคำว่าศาลก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่นานนักเขาก็กลับมาเหิมเกริมอีกครั้ง “แล้วไง เจ้าแต่งงานแล้ว? แต่งกับไอ้โง่หรือไอ้เป๋ล่ะ? เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าแต่งงานแล้วข้าจะกลัวเจ้านะ!”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วเดือดดาลถึงขีดสุด
นางกวาดตามองไปรอบ ๆ คว้ามีดที่เอาไว้สับกระดูกเล่มหนึ่งจากร้านขายหมูร้านหนึ่งมาได้
เจ้าของร้านที่ตอนแรกยังมุงดูอย่างสนุกสนานตกใจกับภาพนี้ รีบเอ่ยขึ้น “แม่นาง ข้าว่าเจ้ารีบวางมีดของข้าลงดีกว่า!”
จางซิ่วเอ๋อมองด้วยสายตาเย็นชา “ท่านวางใจเถอะ ถ้าข้าใช้มีดของท่านฟันคนตาย ข้าจะซื้อเล่มใหม่ให้!”
เจ้าของร้านเห็นจางซิ่วเอ๋อกำลังมีจิตสังหารพลุ่งพล่านจึงไม่กล้าเข้าไปในตอนนี้
มีดเล่มหนึ่งแค่เรื่องเล็ก ถ้าตัวเองเผลอโดนลูกหลงตอนไปแย่งสิเรื่องใหญ่
อีกอย่างคนดูอยู่ตั้งมากมาย ถ้าแม่หนูนี่ใช้มีดเขาทำร้ายคนอื่นจริง ๆ ทุกคนคงเป็นพยานให้ได้ว่าไม่เกี่ยวกับเขา
หลังจากที่เจ้าของร้านชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย จึงตัดสินใจเงียบ
มีดนี่หนักกว่าปังตอเยอะ จางซิ่วเอ๋อถือแล้วหนักมือใช้ได้ แต่นางยังคงกวัดแกว่งเงื้อง่ามีดด้วยท่าทางแสร้งทำเป็นสบาย ๆ
“จางซิ่วเอ๋อ! เจ้าคิดว่าถือมีดแล้วข้าจะกลัวเจ้าเหรอ? นังต่ำช้า! แน่จริงเจ้าก็ฟันข้าสิ! แน่จริงเจ้าฟันข้าเลย! แน่จริงมาฟันสิ!” จางเป่าเกินยื่นคอไปด้านหน้าอย่างท้าทาย
จางเป่าเกินมั่นใจว่าจางซิ่วเอ๋อไม่กล้าลงมือหนัก เมื่อก่อนเขาทำร้ายจางซิ่วเอ๋อจนชิน เวลานี้จึงดูแคลนนางอยู่ไม่น้อย
แน่นอนว่าจางซิ่วเอ๋อไม่กล้าลงมือ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าทำร้ายคนแบบนี้ในที่สาธารณะไม่คุ้มกันเลยสักนิด
แต่จางซิ่วเอ๋อตัดสินใจแล้วว่าจะให้บทเรียนกับจางเป่าเกินเสียหน่อย อย่างน้อยก็ต้องให้จางเป่าเกินรู้ว่าจะมามีเรื่องกับตัวเองไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อจึงแกล้งทำเป็นบันดาลโทสะ หน้าตาดุร้ายถึงขีดสุด
นางเอ่ยเสียงเย็น “จางเป่าเกิน! ข้าให้โอกาสเจ้า รีบคืนเงินมาซะแล้วขอโทษพวกเรา! ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้เจอกับผลที่ตามมา!”
จางเป่าเกินหัวเราะเย็น ๆ หน้ากลม ๆ ของเขามีฝ้าเหมือนถั่ว เขาหรี่ตาด้วยท่าทางก้าวร้าว “โอ้โห! เจ้าไปกินดีหมีหัวใจเสือมาเหรอ? ตอนนี้ยังกล้ามาโวยวายใส่ข้าอีก?”
จางซิ่วเอ๋อยกมีดขึ้นมาฟาดฟันใส่จางเป่าเกิน
นางรู้ดีอยู่แก่ใจว่านี่แค่จะขู่จางเป่าเกินเท่านั้น ไม่ได้คิดจะฟันแขนฟันขาจางเป่าเกินจริง ๆ ต่อให้นางอยากทำแบบนี้ก็ไม่โง่ทำในที่สาธารณะหรอก!
อย่างน้อย ๆ ก็ต้องหาโอกาสลงมือในที่ลับ ไม่ให้ใครรู้ว่านางเป็นคนทำ!
ใครจะรู้ว่าจางซิ่วเอ๋อเพิ่งจะยกมีดขึ้นมา ก็มีคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน คนผู้นั้นยื่นมือไปจับข้อมือจางซิ่วเอ๋อไว้
จางซิ่วเอ๋อดิ้นอยู่พักหนึ่งก็พบว่าแรงตัวเองสู้คนผู้นี้ไม่ได้ สลัดไม่หลุดเลยสักนิด
จางซิ่วเอ๋อกำลังโมโห น้ำเสียงจึงไม่ค่อยดีนัก “ใคร? อย่ามายุ่งเรื่องคนอื่นนะ!”
พูดเสร็จจางซิ่วเอ๋อก็หันไปมอง
หลังจากจางซิ่วเอ๋อเห็นชายชุดเทาแล้วก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
ถ้าคนอื่นก้าวออกมาอาจจะแค่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่พอชายชุดเทาก้าวออกมานี่เรียกได้ว่าเนรคุณ!
ใช่แล้ว เนรคุณ!
นางกำลังจะขู่จางเป่าเกิน ชายชุดเทาก็มาขวางนางไว้ จะไม่ใช่การเนรคุณได้อย่างไร
จางซิ่วเอ๋อกำลังหงุดหงิด พอเห็นชายชุดเทาก็เดือดทันที “เจ้าถอยไป!”
ชายชุดเทาขยับมือแย่งมีดในมือจางซิ่วเอ๋อมา
จากนั้นชายชุดเทาก็ยื่นมีดให้คนขายเนื้อและเอ่ยเสียงนุ่มนวล “คืนให้เจ้า”
จางซิ่วเอ๋อมองภาพตรงหน้าด้วยตาเบิกกว้าง ที่ชายชุดเทามาขวางนางไว้คือจงใจมาป่วนกันใช่ไหม?
จางซิ่วเอ๋อคิดมาถึงตรงนี้ก็เห็นชายชุดเทาก้าวยาว ๆ ไปอยู่ข้างจางเป่าเกิน
จางเป่าเกินยิ้ม “ขอบคุณพี่ชายผู้นี้นะ”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกโมโหจนควันออกหู สองคนนี้เป็นพวกเดียวกันหรือนี่?
และในเวลานั้นเอง ชายชุดเทาก็คว้ามือจางเป่าเกินและออกแรงหัก…..เสียงดังแกร๊บ มือของจางเป่าเกินงอ ดูท่าไม่กระดูกหักก็ข้อหลุด
จางเป่าเกินร้องลั่น “โอ๊ย! เจ็บ!”
“เจ้า….เจ้า…..ทำอะไร” ความเจ็บปวดมหาศาลเป็นผลให้จางเป่าเกินพูดไม่ชัด
ชายชุดเทาเอ่ยเสียงเข้ม “คืนเงิน แล้วขอโทษด้วย”
จางเป่าเกินผงะ แต่เขายังคงเหิมเกริม “เจ้าเป็นใคร? เจ้าจะออกหน้าแทนนังแพศยานี่เหรอ? หรือเป็นลูกค้าของนังแพศยานี่?”
ชายชุดเทาหรี่ตา สายตาเย็นยะเยือกขึ้นมา ก่อนที่จะออกแรงที่มือมากขึ้น
“ถ้าเจ้ายังอยากเก็บมือข้างนี้ไว้ก็พูดจาให้มันดี ๆ!” ชายชุดเทาเสียงทุ้มต่ำ น้ำเสียงข่มขู่อย่างชัดแจ้ง
คราวนี้จางเป่าเกินนึกกลัวจริง ๆ เขาตัวสั่นเล็กน้อย “ข้า…..ข้า…….”
“คำเดียวกันข้าไม่อยากพูดซ้ำ” ชายชุดเทาเอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะออกแรงที่มือมากขึ้นเรื่อย ๆ
จางเป่าเกินดิ้น แต่พอเขาดิ้นกลับยิ่งเจ็บ ภายใต้ความเจ็บปวดมหาศาล ต่อให้เป็นจางเป่าเกินผู้ดุร้ายเวลานี้ก็ต้องหงอ
“ข้า….ข้าคืนเงินก็ได้?” จางเป่าเกินเอ่ยเสียงเบา ไม่มีความเหิมเกริมเหมือนก่อน
ชายชุดเทาไม่ยอมปล่อยมือ เพียงแต่มองหน้าจางเป่าเกิน เป็นอันว่าให้จางเป่าเกินเอาเงินออกมาก่อน
จางเป่าเกินจนปัญญา ได้แต่หยิบถุงเงินที่เพิ่งใส่อกเสื้อเมื่อครู่ออกมาและโยนลงพื้น
“ตอนนี้ท่านปล่อยมือได้รึยัง?” จางเป่าเกินพูดอย่างขุ่นเคือง
ชายชุดเทาเอ่ยเสียงเย็น “ข้าบอกแล้ว คำเดียวกันข้าไม่อยากพูดซ้ำ!”
ในขณะที่คุยกันอยู่ ชายชุดเทายิ่งออกแรงที่มือหนักขึ้น มีเสียงแกร๊บดังขึ้นอีกสองเสียง
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าถ้าจางเป่าเกินยังไม่ยอมเอ่ยขอโทษอีก ต่อให้เมื่อครู่นี้มือเขาไม่หัก ตอนนี้ก็น่าจะหักแล้ว
“ข้า…..ข้าขอโทษ” จางเป่าเกินกัดฟันพูด
ถึงปากเขาจะพูดแบบนี้ แต่สายตากลับถลึงจ้องพี่น้องตระกูลจางอย่างดุร้าย!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มือเดี้ยงจับตะเกียบกินข้าวไม่ได้แล้วมั้ง สม ปากดีนักก็โดนแบบนี้ซะเถอะ
ชายชุดเทานี่ตามติดน้องตลอดเลยนะ เป็นอะไรกับน้องกันเนี่ย
ไหหม่า(海馬)