ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 183 ไม่ใช่คนดีอะไร
บทที่ 183 ไม่ใช่คนดีอะไร
จางซิ่วเอ๋อมองชายชุดเทาอย่างนึกตลก “เจ้าอยากรู้เรื่องนี้ไปทำไม?”
จางชุนเถาพูดอย่างแค้นเคืองอยู่ข้าง ๆ “ตอนพี่สาวข้าแต่งไป ยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนผู้นั้นเลยด้วยซ้ำ! เขาทำให้พี่ข้าต้องเป็นม่าย จะเป็นคนดีได้อย่างไรกัน?”
พวกเขากินข้าวกันในบ้าน ในห้องที่จางซิ่วเอ๋อตั้งป้ายวิญญาณของเนี่ยหย่วนเฉียว
เพราะตอนจะกินข้าวข้างนอกเริ่มมีฝนโปรยปราย
ไม่อย่างนั้นตอนหน้าร้อนทุกคนจะชอบกินข้าวในลานบ้านมากกว่า
ในขณะที่คุยกันอยู่ เสียงฟ้าร้องก็ดังครืน แถมจุดที่เกิดเสียงฟ้าร้องก็อยู่ไม่ห่างจากตัวบ้าน
ทั้งบ้านจึงสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ผ้าลายดอกที่ปิดป้ายวิญญาณไว้ลื่นหล่นลงมา
เถี่ยเสวียนพึมพำ “จากที่ฟังก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร น่าเสียดายหญิงสาวดี ๆ เช่นเจ้านะ”
ใช่แล้ว พอได้กินอาหารที่จางซิ่วเอ๋อทำ เถี่ยเสวียนรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นหญิงสาวที่ดีไปแล้ว!
เถี่ยเสวียนพูดมาถึงตรงนี้ก่อนจะเงยหน้ามอง
ก็เป็นป้ายวิญญาณนั่น ในห้องมืดเล็กน้อยเขาจึงเพ่งสายตามอง และอ่านอย่างยากลำบาก “สามีผู้ล่วงลับ….เนี่ย……”
ไม่ทันอ่านจบชายชุดเทาก็เอ่ยตักเตือน “เถี่ยเสวียน!”
ยังจะอ่านออกเสียงป้ายวิญญาณสามีผู้ล่วงลับของคนอื่นอีก หาเรื่องให้คนอื่นเกลียดหรืออย่างไร?
“เจ้า…..เจ้านาย!” เถี่ยเสวียนเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้
เพราะตอนนี้เขามองเห็นตัวอักษรบนป้ายวิญญาณได้ชัดแจ้งแล้ว
ชายชุดเทานั่งหันหลังให้ป้ายวิญญาณ เมื่อกี้เขาแค่กวาดสายตาผ่าน ๆ ไม่ได้ตั้งใจมอง
เขามองเถี่ยเสวียนอย่างตั้งคำถาม
ก็ได้ยินเถี่ยเสวียนอ่านต่อ “ป้าย…..ป้ายวิญญาณแห่งเนี่ยหย่วนเฉียว”
ชายชุดเทา…..หรือก็คือเนี่ยหย่วนเฉียวบนป้ายวิญญาณนี้ได้ยินแล้วสีหน้าแข็งทื่อ ก่อนจะหันหลังไปเพ่งมองตัวอักษรบนป้ายวิญญาณ
เนี่ยหย่วนเฉียวพินิจพิเคราะห์อักษรพวกนั้น เนิ่นนานไม่ได้สติ
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยทักสองคนนั้นที่นิ่งอึ้งไป “พวกเจ้ารู้จักเจ้าคนอายุสั้นคนนั้นเหรอ?”
เนี่ยหน่วนเฉียวเองก็คิดไม่ถึงว่าคนบนป้ายวิญญาณจะเป็นเขา เขาไม่โง่ขนาดที่คิดว่าแค่เป็นคนชื่อแซ่เดียวกันหรอก
เพราะเขาจำได้ถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่ตนเองแกล้งตายก่อนแต่งงานได้ นั่นก็ทำไปเพื่อที่ตนจะได้ไม่ต้องแต่งภรรยา!
เขาไม่เคยพอใจในสิ่งที่เนี่ยฟูเหรินจัดการ จึงไม่ทำตามที่นางสั่ง ให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นฟูเหรินน้อย เนี่ยฟูเหรินนี่พยายามหาทางยัดผู้หญิงให้เขาอยู่เรื่อยเลย
เขาจึงไม่สนใจแม้กระทั่งว่าผู้หญิงพวกนั้นชื่ออะไรแซ่อะไร
จึงไม่รู้ว่าคนที่เขาจะแต่งงานด้วยคือจางซิ่วเอ๋อ
เพราะเขาเคยไปสืบเสาะที่จวนตระกูลเนี่ยจนรู้ว่าที่จวนไม่มีฟูเหรินน้อย จึงคิดว่าตัวเองไม่ได้แต่งงาน
แต่คิดไม่ถึง…..
เขาแต่งภรรยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และทำให้จางซิ่วเอ๋อต้องกลายเป็นแม่ม่าย
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อ ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้จางซิ่วเอ๋อเข้าใจอย่างไรดี อธิบายเสร็จแล้วจะทำอย่างไรต่อ
ผ่านไปเนิ่นนาน เนี่ยหย่วนเฉียวจึงเอ่ยขึ้น “ข้าก็คือ…..”
เถี่ยเสวียนได้ยินแล้วตื่นเต้นขึ้นมาทันที รีบขัดคำพูดเนี่ยหย่วนเฉียว “พวกเราเคยได้ยินชื่อคน ๆ นี้น่ะ”
“นี่คงเป็นคุณชายบ้านเจ้าของที่ตระกูลเนี่ยใช่ไหม?” เถี่ยเสวียนถามหยั่งเชิง
จางชุนเถาพูดอย่างเคียดแค้น “ก็ใช่น่ะสิ! คุณชายเนี่ยคนนั้นแหละ ทำให้พี่ข้าต้องไปวนหน้าประตูนรกมาหนึ่งรอบ ถ้าพี่ข้าเป็นอะไรไปจริง ๆ ต่อให้เขาตายไปแล้วข้าก็ไม่ยอมปล่อยเขาไปหรอก!”
ตอนนี้คนที่จางชุนเถาแค้นที่สุดเห็นจะเป็นเนี่ยหย่วนเฉียว
ตอนนี้เถี่ยเสวียนมั่นใจแล้วว่าจางซิ่วเอ๋อก็คือผู้หญิงที่เจ้านายตัวเองแต่งงานด้วย
ถึงแม้เจ้านายจะหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ด้วยการตาย และเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้แต่งงาน แต่ความจริงแล้วจางซิ่วเอ๋อได้กลายเป็นฟูเหรินน้อยโดยที่เจ้านายไม่รู้เรื่องไปแล้ว…..
ชั่วขณะนั้น เถี่ยเสวียนเองก็ว้าวุ่นใจอยู่
แต่มีเรื่องหนึ่งที่เถี่ยเสวียนตัดสินใจแล้วอย่างแน่วแน่ นั่นก็คือตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้จางซิ่วเอ๋อรู้ไม่ได้ว่าเจ้านายตัวเองคือเนี่ยหย่วนเฉียว
นี่เป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงอิรุงตุงนังมาก ต่อให้ต้องอธิบายก็ไม่ใช่ตอนนี้
อย่างน้อยต้องรอให้รู้เรื่องทุกอย่างจนแน่ชัดก่อน!
ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาในตอนนี้ก็ไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น
เขาและเจ้านายยังมีเรื่องใหญ่ต้องสะสาง ถ้าเรื่องนั้นไม่สำเร็จต้องกลายเป็นเรื่องยุ่งแน่!
และต่อให้เล่าให้จางซิ่วเอ๋อฟังตอนนี้ จางซิ่วเอ๋อจะรับได้ในทันทีเหรอ?
อีกอย่าง เรื่องแต่งงานกับจางซิ่วเอ๋อก็ไม่ใช่ความตั้งใจของเจ้านายด้วย
พอโดนเถี่ยเสวียนขัด เนี่ยหย่วนเฉียวก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร
จางซิ่วเอ๋อเดินไปอยู่ข้างป้ายวิญญาณหยิบผ้าลายดอกขึ้นมาปิดป้ายวิญญาณ นางไม่จุดธูปให้เนี่ยหย่วนเฉียวทุกวันหรอก
เนี่ยหย่วนเฉียวในชุดสีเทาทั้งตัวมองจางซิ่วเอ๋ออย่างพิจารณา บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
ต่อให้ตอนนั้นเขาไม่อยากแต่งงานกับจางซิ่วเอ๋อขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ทำลายชีวิตจางซิ่วเอ๋อจนได้
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าจางซิ่วเอ๋อไม่เหมือนกับหญิงสาวคนอื่นที่เนี่ยฟูเหรินยัดให้เขา นางเป็นเพียงคนบริสุทธิ์ที่ถูกตัวเองพาให้ลำบากไปด้วยเท่านั้น
หลังจากออกจากบ้านผีสิงแล้ว เถี่ยเสวียนก็พูดโดยที่ยังนึกหวาดเสียวอยู่ “เจ้านาย ข้าตกใจแทบแย่ ข้านึกว่าท่านจะบอกตัวตนที่แท้จริงของท่านกับจางซิ่วเอ๋อเสียอีก”
เนี่ยหย่วนเฉียวมองเถี่ยเสวียนอย่างมีความหมาย “นางควรต้องรู้”
“เจ้านาย! ท่านอย่าวู่วามสิขอรับ! ท่านไม่เคยเห็นนิสัยของจางซิ่วเอ๋อมาก่อน ขืนนางรู้ว่าท่านคือเนี่ยหย่วนเฉียว นางไม่อยู่เงียบ ๆ แน่!” เถี่ยเสวียนเอ่ยรัวเร็ว
เนี่ยหย่วนเฉียวหันกลับไปมองทางบ้านผีสิงและพูดอย่างจริงจัง “ข้าจะให้นางรู้สักวัน”
เถี่ยเสวียนรู้ว่าตัวเองเถียงสู้เจ้านายตัวเองไม่ได้ เวลานี้ได้แต่ภาวนาว่าเจ้านายตัวเองจะเห็นแก่การใหญ่ ค่อยบอกความจริงกับจางซิ่วเอ๋อทีหลัง และภาวนาให้หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อรู้เรื่องแล้วอย่าทำอะไรวู่วาม
จางซิ่วเอ๋อไหนเลยจะรู้ว่าสามีเดนตายของตนเพิ่งจะลอยผ่านหน้านางไป
หลังจากส่งเนี่ยหย่วนเฉียวและเถี่ยเสวียนไปแล้ว ชีวิตของจางซิ่วเอ๋อก็กลับสู่ความสงบ
หลายวันหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น
ผ่านไปอีกหลายวัน จางซิ่วเอ๋อคิดว่าเครื่องเทศที่อิ๋งเค่อจวีน่าจะใช้หมดแล้ว นางต้องเตรียมตัวเข้าเมือง
นางมีเรื่องผิดใจกับเถ้าแก่เฉียนจริง แต่ธุรกิจต้องดำเนินต่อ นี่เป็นแหล่งรายได้อันมั่นคงของพวกนางเลยนะ ถ้าขาดสะบั้นไปตอนนี้คงใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านแบบสุขสบายใจแบบนี้ไม่ได้แน่
จางซิ่วเอ๋อไปลงลอบจับปลาอีกรอบ
แต่ครั้งนี้จางซิ่วเอ๋อไม่มีแผนจะขายปลา แต่เลือกปลาที่ใหญ่สุดออกมา 2 ตัว ครั้งนี้นางต้องไปหาโจวเหวินด้วย กระดานซักผ้านั่นน่าจะทำเสร็จแล้ว
โจวเหวินอาจจะไม่ต้องการปลาพวกนี้ แต่นางจะเอาไปให้เถ้าแก่ที่ร้าน เขาจะได้ปฏิบัติตัวดีกับโจวเหวิน
จางซิ่วเอ๋อก็เป็นคนเช่นนี้ คนที่ทำดีกับนางอย่างจริงใจ นางก็จะตอบแทนด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเป็นคนแบบตระกูลจาง ต่อให้นางมีกองเงินกองทองก็ไม่ยอมยกให้แม้เพียงนิดเดียว