ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 267 ตำหนิ
บทที่ 267 ตำหนิ
เถี่ยเสวียนหัวเราะแก้เก้อและรีบประจบสอพลอ “ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเจ้าทำอะไรก็อร่อยไม่ใช่หรือ? ”
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้พูดอะไร หลังจากมาถึงยุคโบราณ นางก็ใช้แต่ของจากธรรมชาติในยุคโบราณนี้ทำอาหาร ซึ่งไม่ต้องกล่าวอะไรเลย แม้แต่ตัวนางเองก็ยังรู้สึกว่าอร่อย
จางซิ่วเอ๋อยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน หลังจากกินข้าวเสร็จ นางก็นำของที่ตัวเองเก็บเอาไว้ให้แม่โจวไปที่บ้านตระกูลจาง
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะเก็บเกี๊ยวแค่ 10 ชิ้น เท่านั้น แต่เกี๊ยวของจางซิ่วเอ๋อนั้นใหญ่มาก จางซิ่วเอ๋อคิดว่าแม่โจวสามารถกินได้เก้าลูก
อย่าว่าแต่นางนำไข่และโจ๊กข้าวฟ่างมาให้แม่โจวด้วยเลย!
แม่โจวคงกินคนเดียวไม่หมดแน่ ที่จางซิ่วเอ๋อจงใจเอาของมาเพิ่มอีกหน่อย ก็เพื่อให้จางต้าหูได้ลิ้มรส
ให้จางต้าหูรู้ว่าการตามใจพวกนางจะทำให้เขาสามารถกินของอร่อยได้เป็นครั้งคราว
เมื่อเวลานั้นมาถึง จางต้าหูก็ไม่มีทางที่จะเข้าข้างแม่เฒ่าจาง เพื่อแลกกับการได้กินอาหารของจางซิ่วเอ๋อ
เมื่อจางซิ่วเอ๋อมาถึง จางต้าหูกำลังทำความสะอาดอุจจาระในคอกหมูอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นจางซิ่วเอ๋อ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย และอดไม่ได้ที่จะลูบท้อง
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนตะกละ แต่หลังจากกินของที่จางซิ่วเอ๋อทำเขาก็ค้นพบว่าเขามีความคิดที่จะกินอย่างเดียว
ที่จริงแล้วเป็นเพราะจางต้าหูไม่เคยกินอะไรดี ๆ มาก่อน เขาไม่รู้ว่าอาหารอร่อยจริง ๆ คืออะไร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดหวังอะไรจากการกิน ได้แต่กินประทังชีพไปวัน ๆ เท่านั้น
แม้ว่าตระกูลจางจะทำอาหารจานเนื้อ แต่รสชาติของอาหารที่จางซิ่วเอ๋อทำก็ต่างกันมาก
ตอนนี้มันยิ่งต่างอย่างสิ้นเชิง หลังจากได้กินของดีจริง ๆ และกลับกินอาหารธรรมดา ๆ จางต้าหูก็รู้สึกว่าอาหารที่บ้านตระกูลจางจืดชืดไปเลย
จางต้าหูไม่ชอบจางซิ่วเอ๋อมาที่บ้านตั้งแต่เริ่มแรก แต่ตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่เขาคาดหวังจากจางซิ่วเอ๋อ!
จางซิ่วเอ๋อเข้าไปในบ้านได้ไม่นาน จางต้าหูก็วางงานของเขาลงและล้างมือ ก่อนตามเข้าไปในบ้าน
ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง ก็เห็นแม่โจวกำลังถือเกี๊ยวนึ่งกินอยู่
ตอนนี้ยังมีเกี๊ยวสองลูกที่เหลืออยู่ในจาน แม่โจวเหลือบมองจางต้าหูวูบหนึ่ง แล้วพูดขึ้น “ที่เหลืออีกสองอันให้ท่านกินเถอะ! ”
“ท่านแม่! ท่านยังไม่อิ่ม! ท่านจะทิ้งอะไรไว้ให้พ่อข้ากินได้อย่างไร? “จางซิ่วเอ๋อแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ
แม่โจวพูดอย่างอ่อนโยน “ซิ่วเอ๋อ ต่อให้แม่กินน้อยสักคำเดียว ก็ต้องให้ท่านพ่อของเจ้ากินบ้าง ”
จางต้าหูได้ยินดังนั้นก็มองแม่โจวอย่างซาบซึ้งใจ “เหมยจื่อ… เจ้า…”
“ท่านกินเถอะ ของพวกนี้ทำจากเนื้อ หากไม่ยอมให้ท่านกิน ข้าดูแล้วก็รู้สึกปวดใจ” แม่โจวพูดพลางผลักเกี๊ยวให้จางต้าหู
จางต้าหูได้ยินดังนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้ตระกูลจางทำอาหารจานเนื้อแล้ว แถมยังบอกอีกว่าไม่ให้เขากิน ในใจก็รู้สึกแย่
การกระทำเช่นนี้ของตระกูลจาง บวกกับพันธะผูกมัดจากตระกูลโจว ทำให้จางต้าหูรู้สึกว่าบางครั้งแม่โจวก็ดีกว่าแม่เฒ่าจางเสียอีก!
แต่จางต้าหูยังไม่กล้ากิน เขามองไปที่จางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อพูดอย่างไม่เต็มใจ “เอาล่ะ ในเมื่อแม่ข้ายอมให้ท่านกิน ท่านก็รีบกินเถอะ ถ้าท่านทำดีกับแม่ของข้า การกินเนื้อสัตว์ทุกวันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
จางต้าหูเบิกตากว้างและถามว่า “อะไรนะ? กินเนื้อสัตว์ทุกวัน? นี่มันเป็นเงินเท่าไร? ”
“ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้! แม่ข้าก็กินเนื้อทุกวันไม่ใช่เหรอ?” จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง
จางต้าหูคิดเงียบ ๆ ใช่แล้ว ตั้งแต่จางซิ่วเอ๋อเริ่มส่งอาหารให้แม่โจว นอกจากอาหารเช้าแล้ว แม่โจวก็กินเนื้ออีกในสองมื้อที่เหลือ! นอกจากนี้ทุกครั้งที่จางซิ่วเอ๋อส่งเนื้อมา นางก็มักจะมาพร้อมอาหารใหม่ ๆ ไม่ซ้ำอย่าง
เขารู้ว่าสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อพูดเป็นความจริง
แต่ในเวลานี้จางต้าหูยังไม่รู้ว่าจางซิ่วเอ๋อได้เงินมาจากไหน เขาจึงอดคิดไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อจะมีเงินด้วยวิธีเหมือนกับที่คนในหมู่บ้านพูดไหม? ที่ว่าหาเงินโดยแลกกับร่างกายของนาง!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จางต้าหูรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายจึงเอ่ยขึ้น “ซิ่วเอ๋อ ต่อให้พวกเราจน ต่อให้กินเนื้อไม่ได้ ก็ทำเรื่องน่าอับอายนั่นไม่ได้ ”
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้โง่ แม้ว่าจางต้าหูจะพูดคลุมเครือ แต่จางซิ่วเอ๋อก็เข้าใจความหมายของจางต้าหู
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
จางต้าหูหมายความว่าอย่างไร? นี่หมายความว่าเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงอย่างนั้นหรือ
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเย็นชาและพูดว่า “ท่านจะกินหรือไม่? ถ้าไม่กิน ข้าจะนำมันกลับไปเดี๋ยวนี้! ”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่านางไม่มีพันธะสัญญาอะไรที่จะอธิบายให้จางต้าหูฟัง นอกจากนี้คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนักหากจางต้าหูรู้เรื่องสูตรเครื่องเทศผสมของนาง
เขาอยากจะคิดอย่างไรก็คิด!
จางต้าหูอยากจะบอกจางซิ่วเอ๋อว่าจะไม่กิน แต่ตอนนี้จางต้าหูไม่สามารถมีความกล้าหาญเช่นนี้ได้ เขารีบคว้าเกี๊ยวนึ่งไว้และพูดว่า “ซิ่วเอ๋อ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น พ่อเป็นห่วงเจ้า ข้าจะกินเกี๊ยวนี้ ข้าจะไม่กินได้อย่างไร! ”
จางซิ่วเอ๋อพูดเบา ๆ ว่า “ในเมื่อท่านอยากกินก็รีบเถอะ ข้าไม่มีเวลามานั่งรอที่นี่! ”
จางต้าหูหยิบเกี๊ยวขึ้นมาและกัดมันเป็นคำเล็ก ๆ
กลิ่นหอมที่อวลไปทั่วทั้งปากทำให้จางต้าหูไม่อยากกลืนมันลงไป แต่หลังจากนั้นจางต้าหูก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีก เขากินเกี๊ยวทั้งสองชิ้นไปทีละชิ้น ๆ แม้แต่โจ๊กลูกเดือยที่เหลือและไข่ไก่อีกครึ่งฟองก็กินมันหมดในคราวเดียว!
หลังจากกินเสร็จ จางต้าหูก็มองไปที่ตะกร้าเกี๊ยวอย่างอารมณ์ดี ในเวลานี้เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ทำไมข้ากินเร็วจริง? ยังไม่ทันได้ลิ้มรสชาติของมันดี ๆ เลย เขาดันสวาปามจนหมดเสียก่อน!
จางต้าหูประณามตัวเองในใจ
จางต้าหูกินข้าวแล้วในตอนเที่ยง แต่หลังจากกินเกี๊ยวแล้ว เขาไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกอิ่ม แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองหิวมากขึ้น
จางซิ่วเอ๋อไม่อยากพูดอะไรกับจางต้าหูเหมือนเช่นเคย นางเก็บของและเดินออกไป
ในตอนนี้เองจางอวี่หมินก็กรีดร้องจากข้างนอกห้อง “พี่สี่! ท่านทำงานประสาอะไร! งานยังไม่เสร็จ ยังมีกลิ่นขี้หมูในลานนี้อยู่เลย! ”
จางต้าหูรีบตอบ “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้! ”
แล้วเขาก็เดินออกไป
จางอวี่หมินที่ตาแหลมมองวูบเดียวก็เห็นว่าปากจางต้าหูมันวาว ไม่มีสิ่งใดในบ้านที่สามารถทำให้ปากมันแผลบได้เช่นนี้! นางมองแผ่นหลังของจางซิ่วเอ๋อที่เดินจากไปอีกครั้ง มั่นใจว่าจางต้าหูจะต้องได้กินของดีกับจางซิ่วเอ๋อแน่ ๆ
ตอนนี้นางรู้สึกเหมือนจับโจรได้ และตะโกนออกมา “ท่านกินของดีกับจางซิ่วเอ๋อมาเหรอ?”
จางต้าหูรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เขากินของดีแต่กลับไม่ได้เอามาแสดงความกตัญญูต่อแม่ และยังไม่ได้ให้น้องสาวด้วย…
จางอวี่หมินระเบิดโทสะขึ้นทันที “ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไร? ท่านไม่รู้เหรอว่าแม่กับข้าไม่ได้กินอะไรดี ๆ มาตั้งนานแล้ว? จางซิ่วเอ๋อเอาอะไรมาให้ท่าน? ทำไมท่านถึงไม่รู้จักเก็บไว้ให้พวกเรากินบ้าง? ”
ใบหน้าของจางต้าหูแดงระเรื่อ เขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำตำหนิของจางอวี่หมิน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นึกถึงอาหารของซิ่วเอ๋อไว้นะต้าหู ถ้าเอาไปให้แม่ลูกคู่นี้ระวังจะอดกินนะ
ไหหม่า(海馬)