ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 277 ด่าซี้ซั้ว
บทที่ 277 ด่าซี้ซั้ว
บางคนถึงกับคิดว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นเหมือนแม่ม่ายหลิวแล้ว! ฮึ่ม พวกมันล้วนเป็นสตรีไร้ยางอาย!
จางซิ่วเอ๋อได้ยินบทสนทนาและรู้สึกถึงสายตาของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ตอนนี้นางต้องการคนมาช่วย นางไม่สามารถทำอะไรเพื่อชื่อเสียงของนางได้ ทำได้เพียงมองดูจางซานหยาที่ตอนนี้สลบอยู่
จางซิ่วเอ๋อวางแม่โจวและจางซานหยาลงบนเตียง นางถลึงตาดูคนในห้องพูดว่า “ทุกคนออกไปก่อนเถอะ แม่กับน้องสาวของข้าต้องการความสงบ!”
“ทำไม? ข้ายังไม่ได้ดูเลยว่านางแพศยาแม่โจวนี่เสแสร้งหรือไม่!” แม่เฒ่าเถาพูดเกรี้ยวกราด
คราวนี้ไม่ต้องให้จางซิ่วเอ๋อพูดอะไร แม่เฒ่าซ่งก็ยิ้มเยาะ “นังแก่ไม่ยอมตายนี่มาจากไหนกัน? ต่อให้แม่โจวจะแกล้งทำเป็นหมดสติ แต่จางซานหยาล่ะ? ตอนนี้จางซานหยาเป็นอย่างไร เจ้าดูไม่ออกหรือ? เด็กตัวเล็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะลงมือได้!”
พูดเช่นนั้นแล้วแม่เฒ่าซ่งก็ตบต้นขาของตน พลางถอนหายใจ “ช่างเป็นของเสียไร้คุณธรรมจริง ๆ! ”
แม่เฒ่าเถาถูกทำให้เสียหน้า จึงมองแม่เฒ่าซ่งอย่างดุร้าย เดิมทีคิดจะด่ากลับไป แต่ทันใดนั้นก็นึกถึงฐานะภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านของอีกฝ่ายจึงอดกลั้นไว้ได้
ผู้ใหญ่บ้านซ่งพูดอย่างรำคาญว่า “พอแล้ว ทำตามที่ซิ่วเอ๋อบอก!”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งได้พูดออกไปแล้ว และคนในบ้านก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกไป
จางซิ่วเอ๋อปิดประตูและปิดหน้าต่างอีกครั้ง หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่นางก็เดินออกมา
นางอยากดูแลจางซานหยาด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ต้องมีคนออกมาจัดการเรื่องราวข้างนอกก่อน
นอกจากนี้แม่โจวยังแสร้งหมดสติไป ในห้องนี้ไม่มีคนแล้ว แม่โจวต้องรู้จักดูแลจางซานหยาอยู่แล้ว
จางซิ่วเอ๋อไม่กล้าอยู่ไกลจากประตูมากนัก ใครจะรู้ว่าคนของตระกูลเถาจะบ้าคลั่งและบุกเข้าไปด้านในอีกหรือไม่? นางต้องระวังไว้
ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองคนในลานบ้านแล้วพูดเสียงเย็น “พูดมาสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!”
รอยแผลบนใบหน้าของแม่เฒ่าจางได้กลายเป็นแผลตกสะเก็ดไปแล้ว ยังไม่ทันจางหายดีก็ได้แผลใหม่อีกครั้ง ดูแล้วน่าสมเพชขนาดไหน
แม่เฒ่าจางยิ้มกว้าง นางขยับเข้ามาใกล้และกล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้านซ่ง! วันนี้ท่านต้องให้คนตระกูลเถาอธิบายให้ข้าฟัง! ว่าทำไมพวกเขามารังแกข้า? ท่านเห็นไหมว่าที่บ้านข้ามันวุ่นวายเพียงใด?”
พูดจบแม่เฒ่าจางก็มองไปรอบ ๆ ลานบ้าน มองไปก็อดเห็นโอ่งน้ำที่แตกไม่ได้
เมื่อแม่เฒ่าจางเห็นโอ่งน้ำนี้แล้วมันก็ให้ความรู้สึกปวดใจจนมีเลือดไหล
ช่างน่าเสียดายนัก โอ่งน้ำนี้ต้องจ่ายไปหลายตำลึงเงินเชียวนะ…
ตำลึงเงิน? ใช่!
ครั้งนี้ข้าต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ ต้องให้ตระกูลเถาเสียเงินให้ได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แม่เฒ่าจางก็รู้สึกโล่งใจขึ้นไม่น้อย ทั้งยังรู้สึกฮึดสู้ขึ้นมา นางตัดสินใจแล้วว่าครั้งนี้จะไม่ให้คนตระกูลเถากลับไปง่าย ๆ
ทางที่ดีคือควรรีดไถเงินก้อนใหญ่จากตระกูลเถาให้ได้!
“ท่านต้องตัดสินให้ข้านะ! พวกเขารังแกพวกเราโดยใช้คนมากกว่า! ตอนนี้ลูกสะใภ้และหลานสาวของข้าถูกทุบตีโดยคนเหล่านี้! หลานสาวที่น่าสงสารของข้ายังเด็กมาก ลูกสะใภ้ก็น่าสงสารที่ต้องลำบากทั้งยังมีหลานอยู่ในท้องอีก!” แม่เฒ่าจางพูดพลางร้องไห้พลางด้วยเสียงราวกับร้องอุปรากร
จางซิ่วเอ๋อได้ยินดังนั้นก็มองแม่เฒ่าจางอยู่หลายครั้ง
ที่แม่เฒ่าจางเล่าเรื่องแม่โจวกับจางซานหยาในตอนนี้ต้องเป็นเพราะอยากจัดการกับตระกูลเถาแน่ ๆ ไม่ใช่เพราะสงสารแม่โจวกับจางซานหยาจริง ๆ
จากสิ่งที่แม่เฒ่าจางทำก่อนหน้านี้ ก็ดูออกแล้วว่าแม่เฒ่าจางไม่มีทางสงสารแม่โจวกับจางซานหยาแน่นอน
แต่ไม่ว่าแม่เฒ่าจางจะตั้งใจทำอะไร จางซิ่วเอ๋อก็มองแม่เฒ่าจางและคนตระกูลเถาเผชิญหน้ากันอย่างอารมณ์ดีมาก
แม่เฒ่าจางไม่ใช่คนที่ดี คนของตระกูลเถาก็ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าสู้กันจริง ๆ คงเหมือนสุนัขกัดกัน! นางทำเพียงลอบชมอยู่ข้าง ๆ ก็พอ!
แม่เฒ่าเถาพูดอย่างโกรธเคืองว่า “นังแก่! เจ้าพูดเรื่องอะไร? เมื่อใดกันที่ข้าจะทุบตีผู้คนให้ตาย?” ข้อกล่าวหาแบบนี้ แม่เฒ่าเถาไม่อยากเข้าไปพัวพันสักนิด
จางซิ่วเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ นางจึงกล่าวหานางด้วยน้ำตา “ท่านย่าของข้าพูดความจริง! ข้าอยู่ในบ้านและเห็นมันกับตาของข้าเอง! พวกเจ้าลงมือรุนแรงเกินไป! แม่ข้าทำอะไรที่ผิดต่อเจ้างั้นหรือ? ทำไมพวกเจ้าถึงทำแบบนี้?”
“ใครบ้างในหมู่บ้านนี้ที่ไม่รู้ว่าแม่ข้าเป็นคนอ่อนโยน? ทำไมพวกท่านถึงลงมือกับแม่ข้าแบบนี้?” จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยน้ำตา
จางซิ่วเอ๋อไม่สามารถร้องไห้ได้ในขณะนี้ แต่นางบังคับให้ตัวเองร้องไห้
ในเวลานี้ทุกคนเห็นอกเห็นใจกับคนอ่อนแอ
เมื่อแม่เถาเห็นจางซิ่วเอ๋อเป็นแบบนี้ นางก็รู้สึกโมโหขึ้นมา ถ้าบอกว่าคนอื่นร้องไห้ก็แล้วไป แต่นางกับจางซิ่วเอ๋ออยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน และรู้ว่าจางซิ่วเอ๋อที่ผ่านมาโอหังเพียงใด การที่นางร้องไห้ในตอนนี้มันดูเสแสร้งยิ่งนัก
แม่เถาอดสบถออกมาไม่ได้ “นังแพศยา! ถ้าไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครว่าเจ้า!”
“ทำไมข้าถึงจะไม่พูด? นี่แม่ข้า! แม่ข้า! ไม่ใช่แม่ท่าน!” จางซิ่วเอ๋อถลึงมองแม่เถา
“แม่เถา! หุบปากซะ!” แม่เฒ่าจางมองแม่เถาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็กัดฟันพูดเสียงเบากลัวคนอื่นได้ยิน แต่แม่เถาก็เข้าใจ
“ไว้ข้าค่อยจัดการเจ้าทีหลัง!” แม่เฒ่าจางข่มขู่เกรี้ยวกราด
เมื่อแม่เถาได้ยินเรื่องนี้หัวใจของนางดิ่งวูบ รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ในพริบตาแม่เถาก็เข้าใจกระจ่าง
เมื่อตระกูลโจวมาก่อเรื่อง แม่เฒ่าจางก็ต้องเกลียดแม่โจวตั้งแต่แรก แต่แม่เฒ่าจางถูกคนตีจนหวาดกลัว ถึงตอนนั้นก็ต้องเกรงใจแม่โจวไม่ใช่หรือ?
นี่เป็นเหตุผลเดียวกัน รอให้ครอบครัวฝ่ายแม่ของนางสั่งสอนแม่เฒ่าจางต่อไป ในภายหน้าหญิงชราคนนี้คงไม่กล้าพูดกับตัวเองแบบนี้อีก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หัวใจของแม่เถาก็สงบลง
แม่เฒ่าเถาถลึงตาใส่ แล้วด่าทอ “ทำไมข้าต้องลงมือกับแม่เจ้า? นั่นไม่ใช่เพราะแม่ของเจ้าก่อเรื่องไว้เหรอ!”
“ข้าว่าท่านนี่แหละที่ไร้คุณธรรม!” จางซิ่วเอ๋อร้องไห้ในทันทีและโต้กลับ
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะไม่ยอมแม้แต่ก้าวเดียว แต่ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตาทำให้ทุกคนรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อถูกบีบบังคับและด้วยเหตุนี้นางจึงดูน่าเห็นอกเห็นใจมากกว่า
แม้แต่บรรดาภรรยาในครอบครัวอื่น ๆ ที่ไม่ชอบจางซิ่วเอ๋อก็ยังรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อช่างน่าสงสาร
แน่นอนว่าพวกนางแค่คิดแบบนั้น แต่ในใจยังคงมีอคติกับจางซิ่วเอ๋ออยู่มากตอนนี้พวกนางกำลังคิดว่าจะต้องจับตามองบุรุษของตัวเองให้ดีและไม่ยอมให้พวกเขามุดใต้กระโปรงของแม่ม่ายจางซิ่วเอ๋อเด็ดขาด!
ผู้ใหญ่บ้านซ่งยื่นแขนและสะบัดลงอย่างแรง จากนั้นก็เอ่ยเสียงทุ้ม “พอได้แล้ว! เอาล่ะ หุบปากซะ!”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
รอดูหมากัดกันก็พอ ผู้แปลของีบก่อนล่ะ เลิกกัดกันเมื่อไหร่บอกด้วยนะ
ไหหม่า(海馬)