ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 278 ผู้ใหญ่บ้านโมโหแล้
บทที่ 278 ผู้ใหญ่บ้านโมโหแล้ว
“ทั้งหมดฟังข้า!” ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านซ่งเองก็ขุ่นเคืองขึ้นมาบ้างแล้ว
เขาคิดว่าตนเองก็พยายามฟังแล้ว แต่ฟังไปฟังมา กลับได้ยินแต่คำพูดด่าทอกันราวแม่ค้าปากตลาด
ยามที่สตรีด่าทอกัน บางครั้งมันก็ไม่น่าฟังยิ่งกว่าบุรุษด่ากันเสียอีก!
แม่เฒ่าเถาถลึงตาใส่จางซิ่วเอ๋ออย่างไม่พอใจ คันปากอยากจะพูดแต่เกรงกลัวผู้ใหญ่บ้านซ่งอยู่ จึงทำได้เพียงหุบปากลง
ผู้ใหญ่บ้านซ่งชี้นิ้วไปที่จางซิ่วเอ๋อแล้วพูด “เจ้าเป็นคนพูดก็แล้วกันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
“ทำไมนางถึงได้พูดก่อน? ข้าจะพูด!” แม่เฒ่าเถาพูดขัดผู้ใหญ่บ้านซ่ง
เมื่อผู้ใหญ่บ้านซ่งได้ยินเช่นนั้น เขาก็อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
จางซิ่วเอ๋อพูดอย่างเศร้าโศก “ในเมื่อนางอยากพูด งั้นก็ให้นางพูดเถอะ”
จางซิ่วเอ๋อพูดแบบนี้ แน่นอนว่าผู้ใหญ่บ้านซ่งไม่ได้คัดค้านอะไร
เหตุที่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อบอกให้แม่เฒ่าเถาพูดก่อน ไม่ใช่เพราะกลัวแม่เฒ่าเถา แต่เป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าการที่แม่เฒ่าเถาพูดก่อนจะทำให้ทุกคนไม่ชอบแม่เฒ่าเถา
ตามนิสัยของแม่เฒ่าเถาแล้ว ตอนนี้ยังสามารถพูดได้อย่างไม่แข็งกระด้างและมีเหตุผลอีกหรือ?
หากเรื่องนี้สามารถทำให้แม่เฒ่าเถาดูมีเหตุมีผลได้ก็ช่างมันเถอะ แต่ปัญหาคือเรื่องนี้ตระกูลเถาช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เมื่อแม่เฒ่าเถาพูดเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ผู้คนจะไม่เห็นอกเห็นใจแม่เฒ่าเถาแล้ว แต่ยังทำให้คนทั้งหลายรู้สึกว่าแม่เฒ่าเถาสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล!
เป็นไปตามคาด เหมือนกับที่จางซิ่วเอ๋อคิดไม่มีผิด
ตอนนี้แม่เฒ่าเถากำลังตะโกนเสียงดัง “พวกเราเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแม่โจวหญิงแพศยากลับไปหาครอบครัวของนางหรือ? แล้วดูสิว่าคนพวกนั้นมารังแกหลานข้าได้อย่างไร? ”
ตอนนี้จางเป่าเกินก็ออกมาเช่นกัน ทำสีหน้าคับแค้นใจ “ท่านตา ท่านต้องช่วยข้าเรียกร้องความยุติธรรมด้วยนะ!”
ที่จริงแล้วทุกคนก็พอเดาได้ราง ๆ ว่าตระกูลเถามาที่นี่เพราะอะไร
ได้ยินมาจากปากของแม่เฒ่าเถาตอนนี้ ก็เป็นที่ยืนยันชัดเจนแล้ว
“หลานชายของข้ากำลังจะแต่งงานกับภรรยา! แต่ท่านเห็นไหมว่าตระกูลโจวทำอะไร? เกิดหลานข้ากระทบกระเทือนขึ้นมาล่ะ!” แม่เฒ่าเถากัดฟันพูด
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเย็นชา “หลานชายสำคัญกับท่านมาก แล้วข้ากับแม่ข้าไม่สำคัญหรอกหรือ? ข้าว่าตระกูลเถาของท่านต้องการทำให้ท่านพ่อของข้าไร้ทายาทสืบสกุลเสียมากกว่า!”
จางต้าหูหอบหายใจอย่างหนักและพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าเด็กนี่โดนทุบตีก็สมควรแล้ว! ถ้าเขาไม่ผลักภรรยาของข้า เขาจะโดนทุบตีได้อย่างไร?”
จางต้าหูโมโหมาก
คนตระกูลเถาไม่เพียงแต่ลงมือกับแม่โจวเท่านั้น แต่ยังรังแกแม่เฒ่าจางอีกด้วย!
ต้องบอกว่าทุกครั้งที่แม่เฒ่าจางถูกรังแก จางต้าหูผู้นี้ก็จะพุ่งทะยานเข้าไปช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง
ครั้งนี้ไม่ว่าจางต้าหูจะยืนหยัดเพื่อแม่โจวหรือแม่เฒ่าจาง เขาก็ต้องสู้ตาต่อตาฟันต่อฟันกับคนตระกูลเถา
โดยเฉพาะจางซิ่วเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ นางมักจะพูดคำทักทายและให้กำลังใจเขาอยู่บ่อย ๆ!
“เฮ้! ข้าบอกแล้วว่าตระกูลเถาเป็นฝ่ายไร้เหตุผลก่อน ข้าไม่เคยเห็นใครไร้เหตุผลเช่นนี้มาก่อน! เช่นเดียวกับที่จางต้าหูพูด จางเป่าเกินสมควรถูกทุบตีแล้ว!” แม่เฒ่าซ่งอดไม่ได้ที่จะเข้ามาช่วยพูด
ฮึ่ม ถ้าวันนี้นางไม่ออกหน้าเสียหน่อยจนทำให้คนตระกูลเถากินไม่ได้นอนไม่หลับ นางคงเสียชาติเกิดแล้ว!
“ท่านผู้ใหญ่บ้าน พวกเขาวิ่งเข้ามาและทุบข้าวของท่านย่าของข้าเพราะเรื่องนี้เจ้าค่ะ” จางซิ่วเอ๋อจงใจเหลือบมองแม่เฒ่าจาง
แม่เฒ่าจางได้ยินเข้าหัวใจก็ราวกับถูกมีดกรีด มองคนตระกูลเถาอย่างดุร้าย
หลังจากจางซิ่วเอ๋อยุนางเสร็จ นางก็พูดต่อว่า “นางยังทำร้ายแม่และน้องสาวของข้าอีก ท่านต้องรู้ก่อนว่าแม่ข้าเกือบถูกจางเป่าเกินฆ่าตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ข้าเดือดร้อนยิ่งนัก แม่ของข้าอาจจะ…”
พร้อมกันนั้น จางซิ่วเอ๋อก็ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตา
นางชะงักไปครู่หนึ่ง “ยังมีซานหยา ถึงซานหยายังเด็กมาก ทว่านางก็รู้ความ! แต่ก็ถูกหญิงชราใจดำคนนี้จงใจฆ่าให้ตาย!”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อพูดถึงจางซานหยา ทุกคนก็เห็นอกเห็นใจมากขึ้น
แม้แต่คนที่ไม่ชอบจางซิ่วเอ๋อก็ยังประทับใจจางซานหยามาก
สาวน้อยคนนี้ตื่นแต่เช้าตรู่และออกจากบ้านอย่างรวดเร็วทุกวัน เมื่อกลับมาตอนเย็นจะต้องแบกหญ้าหมูมัดใหญ่กลับมา ใครกันจะทำเหมือนเด็กสาวอายุเท่านี้ ที่สามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้?
อย่าว่าแต่หลานสาวเลย พูดถึงหลานชายแล้ว อายุของจางสือโถวกับจางซานหยาก็ใกล้เคียงกันมาก
แต่ตอนนี้นอกจากจะกินและเล่นไปวัน ๆ แล้ว ยังทะเลาะกับลูก ๆ คนอื่นอีก ทำอะไรที่มีประโยชน์กัน?
เมื่ออายุได้ 3 ขวบ จางซานหยาก็เข้าใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็ต้องเป็นเด็กสาวที่ขยันขันแข็งคนหนึ่ง! สาวน้อยที่ดีเช่นนี้ เหตุใดแม่เฒ่าเถาถึงใจดำลงมือทำร้ายได้ลงคอ!
เมื่อผู้ใหญ่บ้านซ่งเห็นจางซิ่วเอ๋อเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกแย่เช่นกัน เขาถอนหายใจและพูดขึ้น “พอได้แล้ว ซิ่วเอ๋อ ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้เลย”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้าและพูดต่อ “มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว! ดังนั้นท่านต้องตัดสินให้ข้า!”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองแม่เฒ่าเถาแล้วกล่าวว่า “เพราะเหตุนี้หรือ? เจ้าถึงมาสร้างปัญหาที่บ้านจาง? มีอย่างอื่นที่พูดผิดไปหรือไม่?”
แม่เฒ่าเถาเชิดหน้าขึ้น “ข้าระบายความแค้นให้หลานชายข้า มีอะไรที่พูดไม่ได้เล่า?”
“ตอนนี้มันเป็นการฆาตกรรมไปแล้ว! เรื่องนี้เกรงว่าคงไม่ดีแน่!” เสียงของผู้ใหญ่บ้านซ่งหนักแน่นและข่มขู่อยู่กลาย ๆ
แม่เฒ่าเถาเองก็ตื่นตระหนกเช่นกัน เวลานี้ได้แต่ฝืนใจพูดแบบกัดลูกปืนว่า “จะเป็นการฆาตกรรมได้อย่างไรกัน! ตอนนี้นางยังไม่ตายเสียหน่อยไม่ใช่หรือ? อย่ามากล่าวหาข้านะ!”
“ตามความหมายของท่านก็คือไม่ได้ตีคนให้ตาย แต่ตีจนพิการก็ได้แล้วใช่ไหม? ถ้าท่านคิดอย่างนั้นจริง ท่านก็ยืนอยู่ที่นี่ให้ข้าทุบตีท่านและปล่อยให้เหลือเพียงลมหายใจสุดท้ายเถอะ!” จางซิ่วเอ๋อพูดอย่างเดือดดาล
ผู้ใหญ่บ้านซ่งหรี่ตาลง แค่นเสียงเย็นชาแล้วกล่าวว่า “อีกประเดี๋ยวท่านหมอก็จะมาแล้ว หากแม่โจวไม่เป็นอะไรก็ช่างเถอะ แต่ถ้าแม่โจวกับจางซานหยาเป็นอะไรไป เช่นนั้นตระกูลเถาของพวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้!”
“และเจ้า! แม่เถา! ตามหลักแล้วมันเป็นเรื่องของครอบครัวเจ้า คนนอกอย่างข้าไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนี้ ข้าจำต้องพูดกับเจ้าสักสองสามคำ การที่ครอบครัวของเจ้ามาก่อเรื่องที่นี่ได้ นั่นคงเป็นความคิดของเจ้ากระมัง?” เมื่อผู้ใหญ่บ้านซ่งเห็นแม่เถา ก็ให้นึกโมโหขึ้นมาในใจ
เป็นเพราะความไม่สบายใจ! ที่เห็นคนจากตระกูลโจวมา เพราะความอิจฉาจึงขอให้บ้านแม่ตัวเองมาก่อเรื่อง! สร้างปัญหาให้เขาอย่างซึ่ง ๆ หน้า!
ผู้ใหญ่บ้านซ่งไม่ชอบคนที่ชอบสร้างปัญหาแบบนี้!
เมื่อแม่เถาเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่บ้านซ่ง นางก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ในเวลานี้ได้แต่พึมพำเสียงเบา “ข้าได้รับความคับข้องใจ แล้วทำไมท่านแม่ของข้าถึงมาไม่ได้? ขนาดแม่โจวยังมีคนมาช่วยเลย! ”
“เจ้ารู้สึกทุกข์ทรมาน? หมายถึงเจ้ายังไม่ยอมรับใช่ไหม? ไม่ยอมรับการลงโทษครั้งสุดท้ายของข้าที่มีต่อลูกชายของเจ้า? เรื่องนั้นมันเป็นความคิดของข้า! หากเจ้ามีความสามารถนักก็ไปบุกตระกูลซ่งของเราเสีย!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งได้ยินดังนั้นก็โกรธ
แม่เถาจะน้อยเนื้อต่ำใจอะไร? เขาเป็นคนเสนอเรื่องโบยจางเป่าเกินแท้ ๆ! ตอนนี้นางกลับบอกว่ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นั่นเท่ากับว่านางไม่เชื่อฟังหัวหน้าหมู่บ้านของตัวเองไม่ใช่หรือ?
ผู้ใหญ่บ้านซ่งยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อย่าลูบเกล็ดย้อนของมังกรเชียว โมโหขึ้นมานี่วอดวายทั้งตระกูลนะ
ไหหม่า(海馬)