ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 292 หยั่งเชิง
บทที่ 292 หยั่งเชิง
ความตระหนักนี้ทำให้เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกหงุดหงิดตนเองอยู่ไม่น้อย
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่นอกจากตนจะไม่รู้สึกว่าการรับผิดชอบจางซิ่วเอ๋อเป็นปัญหายุ่งยากแล้ว กลับยังตั้งความคาดหวังด้วย
เนี่ยหย่วนเฉียวหยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าวเงียบ ๆ ทว่าไม่รู้สึกถึงรสชาติเลยสักนิด
หลังจากกินข้าวมื้อหนึ่งเสร็จ นอกจากเนี่ยหย่วนเฉียวแล้ว ทั้งเจ้าบ้านและแขกคนอื่น ๆ ต่างเปรมปรีดิ์กันหมด
ทว่าปกติเนี่ยหย่วนเฉียวก็พูดน้อยอยู่แล้ว เวลานี้ต่อให้เนี่ยหย่วนเฉียวไม่พูดอะไรเลยทุกคนก็ไม่รู้สึกว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
จางซิ่วเอ๋อส่งทุกคนกลับไปแล้ว พอกลับเข้ามาในลานบ้านก็อดบิดขี้เกียจและอุทานไม่ได้ “เหนื่อยเหลือเกิน”
“ยังบาดเจ็บอยู่ก็ควรจะพักผ่อน” เนี่ยหย่วนเฉียวเห็นแล้วอดพูดไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อชะงักค้างไป นางลืมไปเสียสนิทว่าเนี่ยหย่วนเฉียวยังอยู่
จางซิ่วเอ๋อมองเนี่ยหย่วนเฉียวอย่างพิจารณา ทันใดนั้นก็รู้แจ้งกระจ่างในใจ…..
ใช่แล้ว นางคิดออกแล้ว ว่าทำไมเช้านี้ตนเห็นเนี่ยหย่วนเฉียวแล้วถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่ตัวเองละเลยไป
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อรู้ตัวแล้ว
เมื่อเช้าเนี่ยหย่วนเฉียวได้เห็นแผลของนางและเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แม้เนี่ยหย่วนเฉียวจะแสดงความเป็นห่วง แต่ไม่ได้ถามนางเลยว่าได้แผลมาอย่างไร มิหนำซ้ำดูเหมือนเขาจะรู้ด้วย
จางซิ่วเอ๋อจ้องเนี่ยหย่วนเฉียว “หนิงอัน เจ้าจะไม่ถามหน่อยหรือว่าแผลที่หน้าข้ามาได้อย่างไร?”
เนี่ยหย่วนเฉียวพยักหน้า “ข้าจะถามบัดเดี๋ยวนี้”
จางซิ่วเอ๋อ “……”
ถ้าจางซิ่วเอ๋อยังไม่เข้าใจอะไรก็ออกจะโง่เขลาเกินไปหน่อยแล้ว
จางซิ่วเอ๋อถามอย่างลังเล “เมื่อวานตอนที่ข้าทะเลาะกับคนอื่น เจ้าเห็นใช่ไหม?”
เป็นไปได้จริง ๆ เมื่อคืนหนิงอันและเถี่ยเสวียนไม่อยู่ทั้งคู่ ตอนทั้งสองผ่านหมู่บ้านไปอาจจะเห็นอะไรจริง ๆ ก็ได้
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อ ไม่รู้ทำไมเขากลับรู้สึกไม่อยากโกหกจางซิ่วเอ๋อ จึงเอ่ยขึ้นตรง ๆ “เห็น”
จางซิ่วเอ๋อถลึงตาใส่เนี่ยหย่วนเฉียว นี่เขาเห็นตั้งแต่แรกหรือนี่!
พอนึกไปว่าเนี่ยหย่วนเฉียวต้องเห็นสภาพน่าอับอายถึงเพียงนั้นของตัวเอง จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกไม่พอใจ
นางจึงไม่ถามอะไรอย่างอื่น เก็บข้าวของและออกจากบ้านผีสิงทันที
นางต้องไปหาจางซานหยาและแม่โจวด้วย
ครั้นมาถึงตระกูลจาง จางซิ่วเอ๋อก็ได้ยินเสียงแม่เฒ่าจางก่นด่าอยู่ในลานบ้าน “เจ้าพวกตัวซวยทั้งหลาย! นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว ยังไม่มีใครลุกมาทำงานอีก!”
เมื่อวานจางต้าหูก็บาดเจ็บไม่เบา ตอนนี้จึงลุกขึ้นมาทำงานได้อย่างยากลำบาก
ส่วนจางต้าเหอและแม่เถา หลังจากโดนคนตระกูลเถาจัดการไปแล้วก็บาดเจ็บไม่ใช่น้อย ประกอบกับกำลังขุ่นเคืองใจไม่หาย ใครจะตื่นมาทำงานเล่า?
ตอนจางซิ่วเอ๋อมาถึงบ้านตระกูลจาง จางซานหยาก็ยังไม่ลุกขึ้นมาเช่นกัน
อุตส่าห์มีโอกาสได้อู้งานแท้ ๆ จางซานหยาจะไม่พักผ่อนให้พอได้อย่างไร?
จางซิ่วเอ๋อมาตระกูลจางหนนี้นอกจากส่งข้าวให้แม่โจวและจางซานหยาแล้วมีอีกหนึ่งจุดประสงค์
พอคิดถึงจุดประสงค์นี้ สองมือของจางซิ่วเอ๋อกำหมัดแน่น ถอนหายใจยาว ๆ ศึกนี้หนักหนานัก และดูจะเป็นไปได้ยากด้วย
แต่ต่อให้เป็นไปไม่ได้ จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ยอมอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรหรอก
ต่อให้มีโอกาสเพียงนิดเดียวนางก็ต้องลองดู
แม่เฒ่าจางเห็นจางซิ่วเอ๋อมาแล้วตาเป็นประกาย “ซิ่วเอ๋อ เจ้ามาส่งกับข้าวให้พวกเราเหรอ? ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย!”
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านย่ามีมือมีเท้า ทำกับข้าวเองไม่ได้หรือ?”
“เมื่อวานข้าเกือบจะตีกับคนอื่นเพราะแม่เจ้านะ ตอนนี้เจ้ายกของกินให้ข้าหน่อยจะเป็นอะไรไป?” แม่เฒ่าจางพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
จางซิ่วเอ๋อกวาดสายตามองแม่เฒ่าจาง “ท่านย่า ไหน ๆ ก็ได้เจอกันแล้ว เรามาคุยกันเรื่องซานหยาหน่อยดีกว่าเจ้าค่ะ”
“ซานหยาจะมีเรื่องอะไรได้?” แม่เฒ่าจางถลึงตา
“ต่อให้ซานหยาหายดีแต่สมองก็อาจกระทบกระเทือนอยู่ดี! ดังนั้นท่านย่ายกซานหยาให้ข้าเถอะ ตั้งแต่นี้ไปซานหยาจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวกับท่านแล้ว” จางซิ่วเอ๋อกล่าว
แม่เฒ่าจางได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงเย็น “เจ้าอย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าวางแผนอะไรไว้ ตอนนี้ข้างนอกมีแต่คนลือว่าเจ้ากับท่านหมอเมิ่งคนนั้นมีสัมพันธ์กัน! เรื่องชุนเถาก่อนหน้านี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่พวกเจ้ากุขึ้น เจ้าคิดว่าตอนนี้ข้ายังจะปล่อยจางซานหยาไปโง่ ๆ หรือ?”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแบบนี้ก็รู้แล้วว่าเรื่องจะพาจางซานหยาออกมาคงไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่จางซิ่วเอ๋อก็ยังพูดต่อ “ท่านย่าไม่กลัวว่าหากซานหยาอยู่ในบ้านแล้วเป็นอะไรไปจะกลายเป็นความผิดของท่านหรือ?”
“จะผิดก็ต้องผิดที่คนตระกูลเถา เกี่ยวอะไรกับข้า!” แม่เฒ่าจางพูดอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่
ในที่สุดจางซิ่วเอ๋อก็เข้าใจแล้วว่าที่ก่อนหน้านี้แม่เฒ่าจางยอมให้นางพาจางชุนเถาไปง่าย ๆ ก็เพราะจางชุนเถาโหม่งกำแพงโดยมีสาเหตุมาจากแม่เฒ่าจาง แต่ครั้งนี้ต่อให้จางซานหยาเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ไม่เกี่ยวกับแม่เฒ่าจาง
แม่เฒ่าจางไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ อยู่แล้ว
แม้ว่าจางซานหยาจะอายุน้อย แต่ทำงานได้ดี นอกจากไปตัดหญ้ามาให้หมูแล้วยังมีงานทั้งนอกและในบ้านอีกมากมายที่ต้องให้จางซานหยาทำ
แม่เฒ่าจางจะยอมให้จางซานหยาไปได้อย่างไร?
เดี๋ยวนี้แม่เฒ่าจางเห็นว่าจางชุนเถาอาการดีขึ้นไม่น้อย นางจึงสำนึกเสียใจอย่างสุดแสน และเอาแต่คิดว่าจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งหลอกลวงนาง
แม่เฒ่าจางไม่ได้คิดได้เพราะฉลาดหรอก นางเพียงแต่คาดเดาอย่างมุ่งร้ายจากเรื่องระหว่างจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งในตอนนี้ แต่นางก็พูดไปอย่างนั้นไม่ได้มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
“ย่าอยากขายซานหยามาตลอดไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ครั้งนี้ซานหยาได้รับบาดเจ็บ จะให้ท่านดูแลก็ลำบาก ย่าขายซานหยาให้ข้าดีกว่า” จางซิ่วเอ๋อกัดปาก
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าหากจางซานหยายังปกติดี แม่เฒ่าจางต้องปฏิเสธนางแน่
แต่บัดนี้อาการจางซานหยาดูไม่สู้ดีนัก จางซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกว่ายังพอมีโอกาสอยู่บ้าง
แต่ไม่นานนักแม่เฒ่าจางก็ทลายสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อคิดเอาไว้ นางเอ่ยขึ้น “อะไรนะ? เจ้าอยากซื้อนังตัวขาดทุนนั่นรึ? เช่นนั้นก็ได้! ข้าขายในราคา 100 ตำลึงเงิน!”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วแทบถ่มน้ำลายใส่หน้าแม่เฒ่จาง
100 ตำลึงเงิน! ทำไมไม่ไปปล้นเอาเลยเล่า!
อย่าว่าแต่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไม่มี 100 ตำลึงเงินเลย ต่อให้จางซิ่วเอ๋อมีก็ไม่ให้แม่เฒ่าจางหรอก!
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเย็น “ตอนแรกท่านย่าจะขายแค่ไม่กี่ตำลึงเงินไม่ใช่หรือ!”
“ตอนแรกคือตอนแรก! ตอนนี้คือตอนนี้!” แม่เฒ่าจางพูดอย่างโหดร้าย
จางซิ่วเอ๋อชำเลืองแม่เฒ่าจางอย่างเย็นชา ดูท่าการซื้อจางซานหยาจากแม่เฒ่าจางนั้นเห็นจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นตอนนี้ก็เหลือเพียงสองวิธี
หนึ่งคือหาคนที่พึ่งพาได้ไปช่วยซื้อจางซานหยาออกมา
อีกวิธีคือปั่นป่วนให้ตระกูลจางต้องแยกบ้านกัน
เมื่อแยกบ้านกันแล้ว ต่อให้จางต้าหูจะใช้ไม่ได้ขนาดไหนก็ไม่โขกสับจางซานหยาหรอก และไม่เอาแต่ดุด่าทำร้ายจางซานหยาด้วย