ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 294 ความลับ
บทที่ 294 ความลับ
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่ว่าข้าเปลี่ยนไป แต่เป็นเพราะพ่อรู้จักทำดีกับแม่ข้าแล้ว”
“ท่านพ่อ คนเราต่างมีหัวใจกันทั้งนั้น ถ้าพ่อดีกับพวกเรา ก่อนหน้านี้มีหรือที่ข้าจะปฏิบัติกับพ่อเช่นนั้น?” จางซิ่วเอ๋อถามกลับ
จางต้าหูกินเนื้อที่จางซิ่วเอ๋อให้มา ท่าทางที่มีต่อจางซิ่วเอ๋อก็ดีกว่าเมื่อก่อน เขาพูดเบา ๆ “ข้าดีกับพวกเจ้ามาตลอด”
ไม่รอให้จางซิ่วเอ๋อพูดอะไรจางซานหยาก็ไม่ยอมขึ้นมาก่อน “ท่านพ่อดีกับพวกเราอย่างนั้นเหรอ? ถ้าไม่ได้พี่สาวข้า พี่รองข้าคงตายไปแล้ว ไหนจะครั้งนี้อีก ท่านพ่อดูหน้าตาที่เป็นแผลของพี่ข้าสิ ถ้าไม่ได้พี่ข้า….ข้ากับแม่ก็ไม่รู้ว่าต้องโดนรังแกอย่างไรบ้าง!”
“ข้ากลับมาครั้งนี้ก็ปกป้องพวกเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ? ไหนจะย่าเจ้าอีก ครั้งนี้ก็ตีกับคนอื่นเพื่อพวกเจ้า” จางต้าหูเอ่ย
พูดมาถึงนี่จางต้าหูก็ชะงักไป ลังเลนิดหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ซิ่วเอ๋อ ย่าเจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลย เราเอาไปให้นางหน่อยดีไหม?”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วเดือดจนไฟแทบลุก เมื่อครู่ยังคิดว่าน่าจะเปลี่ยนแปลงจางต้าหูได้อยู่แท้ ๆ ประโยคเดียวก็เผยธาตุแท้ของจางต้าหูออกมาแล้ว!
สันดอนขุดง่าย สันดานแก้ยากจริง ๆ!
จางซิ่วเอ๋อชี้กับข้าวในกะละมังพร้อมกล่าว “กับข้าวแค่นี้พอให้พวกพ่อกินกันสามคนเท่านั้น ถ้าเอาไปให้ย่าข้าแล้ว พวกพ่อสามคนจะไม่กินงั้นหรือ?”
จางต้าหูขยับริมฝีปาก มองไปมองมาและรู้สึกว่าไม่ให้แม่โจวกินนั้นคงไม่เหมาะ ไม่ให้จางซานหยากิน จางซานหยายังเด็กขนาดนั้น จะไม่ให้กินก็ไม่เหมาะเช่นกัน หากไม่ให้ตัวเองกิน? เขาเองก็ไม่ได้กินของดีแบบนี้มาหลายปีแล้วนะ
จางต้าหูลังเลพักใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “พวกเรากินให้น้อยลงคนละนิดละหน่อยก็พอแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อโกรธจนหัวเราะออกมา จางต้าหูเข้าใจจัดสรรดีจริง ๆ!
“เรื่องอะไรแม่ข้ากับซานหยาต้องยอมกินให้น้อยลงด้วย? อีกอย่าง ถ้าพ่ออยากตอบแทนบุญคุณย่าข้าก็ตอบแทนด้วยความสามารถของตัวเอง อย่ามาใช้ของของข้า!” น้ำเสียงจางซิ่วเอ๋อเริ่มขุ่นเคือง
จางต้าหูชะงัก โดนจางซิ่วเอ๋อย้อนจนเสียหน้า
ผ่านไปพักหนึ่งกว่าจางต้าหูจะพูดเสียงแผ่ว “ที่จริงย่าเจ้าก็ดีกับพวกเจ้ามากนะ”
จางซิ่วเอ๋อย้อนถาม “ย่าดีกับพวกข้ามากหรือ? ดีกับพวกข้าแบบที่แม่ป่วยแต่นางไม่ยอมออกเงินให้ พ่อคิดว่าทำไมเมื่อวานนางถึงทะเลาะกับคนตระกูลเถาล่ะ? ไม่ใช่เพื่อเงินหรอกหรือ!”
“ข้าจะบอกให้นะ ถ้าไม่มีข้า เด็กในท้องแม่ข้าคงไม่มีทางได้คลอด! แล้วพ่อก็จะได้เป็นคนไร้ทายาทแน่นอน!” จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเย็น
จางต้าหูตบตะเกียบลงกับโต๊ะ “เจ้าพูดจาเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“ข้าพูดจาอย่างไร? ข้ามีของให้กินยังรู้จักนึกถึงพ่อ ต่อให้โมโหพ่อแค่ไหนก็รู้จักเอามาให้พ่อ แต่ย่าข้าล่ะ? ช่วงนี้ที่บ้านได้กินเนื้อก็ไม่มีส่วนของพ่อเลยใช่ไหม? อย่าว่าแต่ช่วงนี้เลย ต่อให้เป็นแต่ก่อนของดีที่บ้านเคยเข้าปากพ่อเสียเมื่อไร?”
“อีกอย่าง ถ้าท่านย่าข้ารักพวกเราจริง ๆ ทำไมไม่เอาเงินออกมารักษาแม่ข้าล่ะ? แม่ข้าต้องรักษาต้องกินข้าว! มีสิ่งไหนไม่ต้องใช้เงินบ้าง? ย่าข้าไม่ออกข้าก็ต้องออก! นี่หรือคือการแสดงออกที่นางรักข้าและแม่ข้า?”
“ถ้าเมื่อก่อนที่บ้านไม่มีเงินยังไม่เท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ตระกูลเถาให้เงินมาแล้ว เหตุใดย่าข้าถึงไม่ยอมเอาออกมา?”
จางซิ่วเอ๋อถามกลับเป็นชุดจนจางต้าหูอึ้งอยู่ตรงนั้น
เนิ่นนานนักจางต้าหูถึงได้สติกลับมา และพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “เรื่องนั้น….”
“ท่านพ่อ ข้าว่าพ่อน่ะซื่อเกินไป โดนรังแกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ย่าข้าก็เหมือนกับลุงสามข้านั่นแหละ ต่อหน้าทำเหมือนหวังดีกับเรา แต่ลับหลัง….เรื่องเมื่อวานพ่อก็เห็นแล้วนี่ว่าลุงสามทำกับพ่ออย่างไร? พวกเขาทำร้ายแม่ข้าจนเป็นแบบนี้สุดท้ายกลับมาโทษว่าเป็นความผิดของพ่อ! พวกเขาจะบอกว่าทั้งข้าและแม่ข้า พวกเราสมควรต้องตาย ส่วนพ่อก็สมควรเป็นคนไร้ทายาท!” จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเย็น
พอนึกถึงจางต้าเหอ ใจของจางต้าหูก็เย็นวาบไปครึ่งดวง
เขาพอจะเถียงแทนแม่เฒ่าจางได้อยู่บ้าง แต่เมื่อวานจางต้าเหอทำทุกอย่างซึ่ง ๆ หน้าแล้ว ต่อให้จางต้าหูไม่อยากเชื่อก็ต้องยอมรับอยู่ดี
ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้จักจางต้าเหอดีพอ
แต่เขาก็ยังกัดฟันพูดออกไป “เขาหาเงินได้ จะโมโหในใจบ้างก็เป็นเรื่องปกติ”
“เขาหาเงินได้ก็จริง แต่เขาหาเงินได้แล้วครอบครัวของเขาไม่ต้องกินข้าวหรือ? เสบียงของที่บ้านมีแต่พ่อกับแม่ที่ดูแลอยู่ เสบียงที่นำไปขายเอาเงินในแต่ละปีมากขนาดไหนเชียว? ข้าว่าไม่น้อยไปกว่าที่จางต้าเหอเอากลับมาหรอกกระมัง?” จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าจางต้าหูเหมือนเป็นท่อนไม้ ที่ต่อให้นางพูดอะไรไปก็ไม่เข้าหูเขา
จางต้าหูได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไป
จางซิ่วเอ๋อพูดต่อ “เขานำเงินกลับมา พ่อนำเสบียงกลับมา เท่ากับว่าหายกันแล้ว แต่งานเล็กใหญ่ที่บ้านใครเป็นคนทำล่ะ? แล้วสุดท้ายล่ะ? ครอบครัวของเขาได้กินอิ่ม แต่พ่อดูแม่ข้าและน้องสาวข้าสิต้องอดอยากขนาดไหน?”
“สุดท้ายแล้วพวกเขายังรังเกียจพ่อว่าเป็นตัวถ่วงอีก!” จางซิ่วเอ๋อเสริมประโยคท้าย
ก่อนหน้านี้จางต้าหูไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย เขาเป็นผู้ชายซื่อ ๆ ที่สนแต่หน้าที่ตัวเอง คิดเป็นแค่กตัญญู รู้แค่ว่าต้องทุ่มเทให้บ้านนี้ เหนื่อยนิดลำบากหน่อยก็ไม่เป็นไร
แต่บัดนี้เขาได้ฟังจางซิ่วเอ๋อพูดและนึกถึงท่าทางเมื่อวานของจางต้าเหอ รวมถึงเรื่องที่แม่เฒ่าจางไม่ให้เงิน ก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา
เขาขยับปาก คิดจะพูดจาตอบโต้จางซิ่วเอ๋อ แต่อ้าปากแล้วจางต้าหูกลับพบว่าไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไรก็ไม่มีน้ำหนักพอ
จางซิ่วเอ๋อมีท่าทางไม่เป็นมิตร น้ำเสียงฉุนเฉียว แต่คำพูดของจางซิ่วเอ๋อดูจะมีเหตุผลจริง ๆ
แม่โจวมองจางต้าหูพลางกล่าว “ต้าหู ซิ่วเอ๋อเป็นเด็กหุนหันพลันแล่นไปหน่อย เจ้าอาจจะไม่ชอบฟังสิ่งที่นางพูด แต่เจ้าลองคิดดูสิ….ที่นางพูดมาใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล”
“ข้าให้กำเนิดลูกเจ้าถึงสามคน เจ้ารู้สึกไม่ดีเพราะไม่มีลูกชาย แต่เจ้าไม่คิดบ้างเหรอว่าก่อนหน้านี้ข้าก็เคยท้องเด็กผู้ชายเหมือนกัน…..” แม่โจวพูดมาถึงตรงนี้ก็อดตาแดงไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วชะงักไปเล็กน้อย แม่โจวเคยท้องเด็กผู้ชายเหรอ?
เรื่องเมื่อใดกัน? ทำไมตัวเองไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเลย?
แม่โจวเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อสงสัยจึงเอ่ยขึ้น “หลังจากคลอดเจ้าแล้ว ก่อนคลอดชุนเถา ข้าให้กำเนิดลูกที่มีชีวิตไม่เต็มเดือนดีคนหนึ่ง เป็นเด็กผู้ชาย….แต่น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นวาสนาน้อย”
แม่โจวพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็เริ่มน้ำตาตก
ที่เด็กคนนี้คลอดก่อนกำหนดและเกิดมาเสียชีวิตในทันทีก็เพราะนางทำงานหนักมากเกินไป ถึงได้กลายเป็นแบบนี้
จางต้าหูได้ยินถึงลูกคนนี้แล้วก็มีอารมณ์หมองลงอย่างเห็นได้ชัด
นั่นลูกชายของเขาเลยนะ! ลูกชายที่เฝ้ารอมาตลอด! กลับตายไปง่าย ๆ แบบนั้น
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจเบา ๆ ถึงแม้เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่น้อยในยุคโบราณ แต่ที่ลูกคนนี้ของแม่โจวตายไปต้องไม่ใช่เรื่องปกติแน่
แค่คิดก็รู้แล้วว่าคงเพราะแม่โจวมีชีวิตที่ลำบากในตระกูลจาง ถึงรักษาเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้
ต่อให้จางต้าหูจะซื่อบื้อแค่ไหน พอได้ยินแม่โจวพูดแบบนี้ก็เอ่ยปลอบไป “เหมยจื่อ เจ้าอย่าเสียใจไปเลย เรามีลูกแล้วนี่ไง ต้องเป็นเด็กผู้ชายแน่ ๆ”