ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 301 การแต่งงาน
บทที่ 301 การแต่งงาน
“ท่านแม่ รอให้ข้าออกเรือนไปแล้วเมื่อใดข้าจะซื้อสาวใช้สักสองสามคนมาให้ท่านและให้ท่านเป็นฮูหยินตระกูลใหญ่อย่างแท้จริงเอง!” จางอวี่หมินวาดแป้งทอด*ให้แม่เฒ่าจางยกใหญ่
*วาดแป้งทอด ใช้เปรียบเทียบเหมือนวาดกำลังวาดมโนภาพขึ้นมาเพื่อปลอบใจตัวเอง
แม่เฒ่าจางได้ยินก็ระบายยิ้มเต็มใบหน้า “ยังคงเป็นอวี่หมินที่รู้จักเป็นห่วงแม่เสมอ อวี่หมินลูกไม่ต้องห่วงแม่จะหาบ้านสามีดี ๆ ให้เจ้าแต่งงานเอง”
แค่คิดว่าจะได้เสวยสุขไปกับจางอวี่หมิน แม่เฒ่าจางก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว!
จางอวี่หมินแม้ว่าจะเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง แต่ก็เพราะว่าเป็นเด็กสาวนี้แหละถึงจะสามารถแต่งเข้าตระกูลใหญ่สักบ้านและปีนป่ายจากกิ่งไม้ขึ้นไปกลายเป็นหงส์ได้
สำหรับลูกชายนั้นแม้ว่าเขาจะกตัญญูมากกว่านี้ ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถทำให้อนาคตดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้
จางเป่าเกินถลึงตามองจางอวี่หมิน “แล้วเมื่อไหร่ท่านอาจะแต่งงานเสียทีเล่า ถ้าท่านไม่แต่งงานไปเสียที ข้าก็คงไม่ได้แต่งงานมีภรรยาเช่นนั้นหรือ?”
“ความหมายของเจ้าก็คือข้าจะไม่ได้ออกเรือนงั้นหรือ?” ฉับพลันจางอวี่หมินก็รู้สึกร้อนรน
จางเป่าเกินรีบพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าแค่จะบอกว่าการที่ท่านจะแต่งงานสำเร็จหรือไม่นั้น ก็ไม่ควรให้มากระทบต่อการแต่งงานของข้า”
“เรื่องนี้เจ้าพูดกับข้าไปก็ไร้ประโยชน์ เจ้าควรจะไปพูดกับท่านแม่ข้าถึงจะมีประโยชน์กว่า ท่านแม่ท่านพูดมาเถอะว่าควรจัดแจงเรื่องนี้ให้ผู้ใดก่อน” จางอวี่หมินมองแม่เฒ่าจางแล้วถาม
ขณะนี้แม่เฒ่าจางนั้นคิดเพียงให้ชีวิตตนเองสุขสบายในภายภาคหน้าเท่านั้น ต่อมานางจึงหันไปมองจางเป่าเกินแล้วพูดว่า “อวี่หมินเป็นท่านอาของเจ้า ให้นางแต่งงานก่อนเจ้าเถอะ”
จางเป่าเกินมองจางอวี่หมินอย่างเคียดแค้นทีหนึ่ง เขาได้พูดกระตุ้นแม่เฒ่าจางไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะจางอวี่หมินเข้ามาเป็นท่อนซุ้งขว้างแม่น้ำเขาเสียก่อนเช่นนี้ เรื่องของเขาก็คงจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จางต้าเหอเปิดปากพูดขึ้น “ท่านแม่ หรือว่าท่านไม่เดือดเนื้อร้อนใจเรื่องการแต่งงานของเป่าเกินเลย เป่าเกินเป็นต้นอ่อนของสกุลจางเรา เป็นช่วงเวลาผลิดอกของเขาแล้วด้วย”
ส่วนสูงของจางเป่าเกินห่างเขาอยู่หนึ่งช่วงหัว แต่อายุของเขาก็ไม่ถือว่าน้อยแล้วจริง ๆ
จางต้าเหอเริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เขาพอจะเดาความคิดของจางอวี่หมินได้ว่านางตั้งใจจะทำอะไร นางไม่ใช่ว่าต้องให้งานแต่งงานของตนเองได้รับการจัดสรรงบมากกว่าหรือ?
ทว่านี้ก็แค่การออกเรือนของหลานนอกผู้หนึ่งเท่านั้น! ไม่มีความสลักสำคัญอะไรเลยมิใช่หรือ?
นางออกเรือนไปก็เหมือนกับส่งตัวคนให้คนอื่นไปแล้ว
จางต้าเหอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
กล้าดีอย่างไรให้จางอวี่หมิน หญิงสาวคนหนึ่งใช้เงินของบ้านตัวเองกัน?
อีกทั้งหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ก็เป็นหมาป่าตาขาวคนหนึ่ง ต่อไปหากนางสมปรารถนาได้จริง ก็คงไม่คิดถึงเขากับแม่เถาหรอก!
“ท่านแม่ การแต่งงานของอวี่หมินไม่ใช่ว่ามีหน้าตาอยู่แล้วเหรอ? ให้บ้านนั่นจัดการไม่ได้หรือ?” ในใจของจางต้าเหอรู้สึกไม่พอใจมาก แต่ปากก็ยังคงเอ่ยเรื่องการแต่งงานของจางอวี่หมินออกมา
จางอวี่หมินขบเม้มริมฝิปาก พูดอย่างยโสโอหังว่า “นั่นมันเรียกว่าตระกูลร่ำรวยได้ที่ไหนกัน ไม่เหมาะสมกับข้าเลยสักนิด”
ไม่ผิด ก่อนหน้านี้แม่เฒ่าจางให้จางอวี่หมินไปบ้านตระกูลนั้นแล้ว พวกเขาถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้จางอวี่หมินจะไม่ได้ตกลง แต่นางก็แอบไตร่ตรองเอาไว้ในใจด้วยเช่นกัน
ทว่าในตอนนี้จางอวี่หมินไม่จำเป็นต้องคิดไตร่ตรองเลยสักนิดเดียว
ต้นเหตุมาจากเขา เพราะวันนั้นจางอวี่หมินได้พบเจอกับคุณชายฉินคนนั้น
จางอวี่หมินคิดว่ามีเพียงคุณชายฉินคนเก่งกาจแบบนี้เท่านั้นที่จะเหมาะสมกับนาง! ตัวนางนั้นต้องการที่จะแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยจริง ๆ ตระกูลพ่อค้าแบบนั้นจะมีเงินสักกี่ตำลึงเชียว นั่นทำให้นางรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะสมกับนางเอาเสียเลย!
กล่าวได้ว่าจางอวี่หมินเลือกไปเลือกมา ต่อไปคงจะไม่เหลือไว้ให้นางเลือกแล้วก็แต่งให้กับตระกูลเท้าเปื้อนโคลน*ครอบหนึ่งไปแล้วกัน
*หมายถึงครอบครัวชาวนา
แม่เฒ่าจางกล่อมอีกหนึ่งประโยค “ดูสิว่าอวี่หมินของข้าหน้าตาสะสวยถึงเพียงนี้ ไหนเลยจะให้นางแต่งงานกับใครก็ได้ พวกเจ้าก็อย่าได้รีบร้อนใจไปเลย รอให้อวี่หมินแต่งงานไปกับคนดี ๆ ได้แล้ว อวี่หมินจะต้องช่วยเป่าเกินของเราแต่งกับเด็กสาวดี ๆ สักคนได้แน่”
“ถ้าสามารถหาเด็กสาวสกุลใหญ่มาให้เป่าเกินได้ อย่างไรก็ย่อมดีว่าแต่งกับเด็กสาวในชนบทสิบเท่าแน่!” แม่เฒ่าจางเปิดปากพูด
นางไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าหญิงสาวตระกูลใหญ่นั่นมีอะไรดี งานบ้านงานเรือนหรือก็ทำไม่เป็นสักอย่าง สำหรับนางจริง ๆ แล้วก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดีหน่อยตรงที่เมื่อหญิงสาวตระกูลใหญ่แต่งงานออกไป พวกนางก็จะนำสิ้นเดิมมาด้วยมากมายอย่างแน่นอน และสินเดิมเหล่านั้นก็น่าจะช่วยบรรเทาความรำคาญใจของตัวเองลงได้ไม่น้อยแล้ว!
นี้เป็นแผนการของแม่เฒ่าจางที่คิดเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว!
จางเป่าเกินได้ยินก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถ้าเขาสามารถหาหญิงสาวสกุลใหญ่ได้จริง เขาก็คงจะยินดีไม่น้อย
หญิงสาวสกุลใหญ่แต่ละคนถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจนมีผิวพรรณขาวผ่อง ไม่เหมือนกับเด็กสาวในชนบทที่มีผิวหยาบหนาเหล่านั้นเลยสักนิด!
เพียงแค่คิดจางเป่าเกินก็อดกลั้นความรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้เลย
แต่จางต้าเหอกลับพูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผล “ท่านแม่ ข้าคิดว่าเป่าเกินหาคนที่เรียบง่ายใช้ชีวิตไปด้วยกันได้น่าจะดีกว่า”
หากหญิงสาวสกุลใหญ่แต่งเข้ามา พวกเขามีหรือจะไม่รู้สึกแปลก?
อีกอย่างจางต้าเหอคิดว่าคำพูดของแม่เฒ่าจางนั้นช่างเลื่อนลอย
หญิงสาวจากสกุลใหญ่อะไรกัน ถ้าจางอวี่หมินมีความสามารถเช่นนั้นจริงค่อยว่ากัน! อีกอย่างหญิงสาวจากสกุลใหญ่ที่ไหนจะสนใจแต่งเข้าครอบครัวตระกูลชาวนากัน?
จางซิ่วเอ๋อตอนนี้อยู่ภายในห้องก็ได้ยินบทสนทนาที่คนเหล่านี้พูดด้วยเช่นกัน
นางอดแบะปากให้แม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินไม่ได้ ทั้งสองเหมาะแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน ที่คิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ขึ้นมาได้
อีกอย่างต่อให้จางอวี่หมินมีความสามารถที่จะแต่งกับชายสกุลใหญ่จริง นางก็ไม่มีทางที่จะช่วยจางเป่าเกินเช่นกัน
อย่ามองแค่คำพูดดุจดอกไม้*ของจางอวี่หมิน ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อรู้จักตัวตนของจางอวี่หมินดี จางอวี่หมินไม่ใช่คนที่จะคิดถึงคนอื่น ยิ่งเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ต่อนาง นางยิ่งไม่ทำ
*หมายถึง พูดจาไพเราะแต่หาความจริงใจไม่ได้
แม่เฒ่าจางมองจางต้าเหอแวบหนึ่ง “พวกเจ้าเหตุใดจึงรีบร้อนขนาดนี้ ผู้ใดรีบไปตายที่ใดรึ?”
“ท่านแม่…” จางต้าเหอวางตะเกียบลงมองแม่เฒ่าจางอย่างไม่พอใจ
ทางด้านจางต้าหูก็มองซ้ายทีขวาทีก่อนจะยืดมือไปคีบเนื้อมา 3 ชิ้น
แต่ในตอนนี้เองก็ถูกแม่เถาเห็นเข้าพอดี “นี้ ข้าว่าน้องสี่อย่ากินเนื้อนี้เลยจะดีกว่า ซิ่วเอ๋อให้ทานแต่ของดี ๆ ไปเสียมากแล้ว เอาไว้ให้พวกข้าที่นาน ๆ จะได้กินเนื้อเหล่านี้บ้างเถอะ!”
เมื่อเอ่ยจบ แม่เถาก็แย่งเนื้อนั่นมาในทันที
จางต้าหูมองเนื้อของตัวเองถูกแม่เถาคีบไป ฉับพลันเขาก็ไม่รู้จะกล่าวอะไรแล้ว
แม่เฒ่าจางกวาดสายตามองจางต้าหู “เจ้าก็หยุดกินเสีย เมื่อเจ้ากินเนื้อนั่นก็เท่ากับเจ้าไม่กตัญญู รวมทั้งเนื้อของพวกเราเจ้าก็ห้ามกินเช่นกัน!”
แม่เฒ่าจางเห็นจางต้าหูแล้วก็นึกถึงจางซิ่งเอ๋อ มีของสิ่งใดนางก็ไม่เคยกตัญญูต่อตนเลย เพียงแค่คิดในใจนางก็พลันเกิดโทสะ
ตอนนี้แม่โจวกับจางซานหยาไม่มีผู้ใดกินข้าวกับพวกนางเลย นางจึงไม่สามารถระบายความโกรธกับแม่โจวและจางซานหยาได้ ทำได้เพียงระบายโทสะกับจางต้าหูเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน แม่เถาก็นำเนื้อเข้าปากของตนเองไปแล้ว