ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 302 ชุดผ้าแพรชั้นใน
บทที่ 302 ชุดผ้าแพรชั้นใน
การกระทำหน้าไม่อายของแม่เถาที่แย่งเนื้อมาเข้าปากตนเองนั้น เป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นจริง ๆ
นี้ถ้าเป็นครอบครัวมีการศึกษาหน่อยสักครอบครัวหนึ่งล่ะก็ การกระทำนี้คงเรียกว่าไร้การอบรมสั่งสอนแล้ว
แต่ในใจของแม่เถาไม่มีสิ่งที่ว่ามานี้ในหัวเลยสักนิด ส่วนจางต้าเหอที่เห็นการกระทำดังกล่าวเขาก็ย่อมไม่คิดอะไรมากเช่นกัน ในความคิดเขาการที่เนื้อนั่นเข้าไปในปากของภรรยาตนเองก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
แน่นอนว่าแม่เฒ่าจางก็ไม่รู้สึกสนใจไยดีอะไรกับเรื่องนี้เช่นกัน
นางเพียงแค่จ้องมองแม่เถาอย่างมุ่งร้ายแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็เริ่มต้นกินเนื้อบ้าง นางคิดว่าต้องทานเยอะหน่อยไม่เช่นนั้นเนื้อเหล่านี้คงได้เสียเปล่าให้กับหมาป่าตาขาวนางนี้แล้ว ยังดีที่นางซื้อเนื้อปรุงสุกมาจึงสามารถเก็บไว้ได้จำนวนหนึ่ง
เดี๋ยวให้ทานอาหารมื้อนี้เสร็จค่อยแอบไปกินสักหน่อย อืม และก็ควรเรียกอวี่หมินด้วย ตอนนี้อายุของอวี่หมินก็ถึงเวลาแล้วที่จะออกเรือนแล้ว นางควรใส่ใจอวี่หมินให้มากขึ้นเสียหน่อย เช่นนี้ต่อไปเมื่ออวี่หมินแต่งงานนางถึงจะปฏิบัติต่อนางได้เป็นอย่างดี
แม่เฒ่าจางหลบคิดในใจกับตัวเอง มือก็คีบตะเกียบไปด้วยความว่องไว
จางต้าหูมองอยู่ด้านข้างไม่นานเขาก็ไม่กล้าคีบอาหารกินต่อแล้ว อาหารเหล่านี้น้ำมันเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก หากกล่าวตามจริงจางต้าหูก็กินด้วยความหอมหวนยิ่ง แต่ว่าเมื่อได้กินต่อหน้าผู้คนที่อยู่บนโต๊ะอาหารในตอนนี้ ตัวเองก็ทำได้แค่กินกับข้าวบางส่วนเท่านั้น จางต้าเหอรู้สึกไม่อยากอาหารเลยสักนิด ไม่เพียงเขาจะไม่รู้สึกอยากอาหาร เขาก็ยังรู้สึกไม่คับอกคับใจอีกด้วย
จางต้าหูฝืนกินไปได้หมดหนึ่งถ้วยก็วางตะเกียบลง
แม่เฒ่าจางมองแล้วก็เปิดปากพูดขึ้นทันทีว่า “กินอิ่มแล้วหรอ หากเจ้ากินอิ่มแล้วก็จงรีบไสหัวไปให้ข้าวหมูเสีย จางซานหยาช่างเลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ งานในบ้านถ้าเจ้าไม่ทำแล้วผู้ใดจะเป็นคนทำ?”
จางต้าหูมองถ้วยของตัวเองก็รู้ว่าวันนี้ตนกินไปน้อยมาก ใครก็รู้ว่าเขายังกินไม่อิ่มเลยด้วยซ้ำ
แล้วเหตุใดมารดาของเขาไม่เพียงไม่เป็นห่วงเขาเลย แต่กลับไล่เขาไปทำงานบ้าน?
แต่จางต้าหูนั้นเป็นคนซื่อบื้อเกินไป แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่ชอบใจ เขาก็ไม่พูดมันออกมาแต่กลับข่านรับหนึ่งเสียงและเดินออกไปทำงานบ้าน
จางซิ่วเอ๋อที่อยู่ภายในห้องได้ยินเข้าถึงกับขบเม้มริมฝีปากพูดเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ ท่านได้ยินแล้วสินะ? บิดาข้านั้นช่าง…” จางซิ่วเอ๋อเดิมอยากจะพูดว่าจางต้าหูนั้นโง่เกินไป
แต่คำพูดนั่นก็เพียงแค่ค้างติ่งอยู่ในริมฝีปาก เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้นางก็เป็นลูกสาวของจางต้าหูเช่นกัน จะกล่าวคำไม่ดีต่อหน้าแม่โจวก็คงจะไม่ดีนัก “บิดาของข้าใสซื่อเกินไปแล้ว!”
แม่โจวพยักหน้า “ซิ่วเอ๋อแม่เข้าใจเจ้า เจ้าวางใจเถอะ ในตอนนี้แม่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ข้าไม่มีทางยอมให้คนพวกนี้รังแกพวกเราไปได้ตลอดไปหรอก!”
แม่โจวพูดแล้วลูบหน้าท้องตนเบา ๆ ลูกของนางคนนี้หากเป็นลูกชายก็คงดี ถ้าเกิดเป็นลูกสาวอีกคนเกรงว่านางคงไม่มีชีวิตที่ดีเท่าลูกสาวสามคนก่อนนี้แน่ และนางก็จำเป็นต้องหาทางหนีไปจากตระกูลจาง!
ความคิดนี้แม่โจวเพิ่งคิดได้เมื่อไม่นานมานี้
หากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ แม่โจวคงไม่มีความคิดที่จะต่อต้านเลยแม้แต่นิดเดียว
จางซิ่วเอ๋อเห็นท่าทางนั้นของแม่โจว ในใจก็รู้สึกลิงโลด ยังดีที่แม้ว่าแม่โจวจะดูอ่อนแอไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ใช่คนแบบไม้ผุพังยากจะเยียวยาแบบจางต้าหู ไม่อย่างนั้นนางก็คร้านจะจัดการเรื่องราววุ่นวายในตระกูลจาง
จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจวทานข้าวเสร็จแล้วก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ ถ้าไม่มีเรื่องอันใดแล้วข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าค่ะ”
แม่โจวมองจางซิ่วเอ๋อแล้วพูด “เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อนเลย”
พูดเสร็จแม่โจวก็พูดขึ้นอีกว่า “ซานหยา เจ้าไปหยิบของในตู้เสื้อผ้าแม่ให้หน่อยสิ”
จางซานหยาดวงตาเปล่งประกาย ก่อนจะเปิดปากพูดว่า “ได้เจ้าค่ะ!”
พูดจบ จางซานหยาก็พูดด้วยสายตาลึกลับบางอย่าง “พี่หญิงใหญ่ ท่านแม่ปฏิบัติต่อท่านดียิ่ง! ท่านแม่ทำของสิ่งหนึ่งไว้ให้พี่ด้วย”
จางซิ่วเอ๋อมึนงงเล็กน้อย แม่โจวทำอะไรไว้ให้นางกัน?
แม่โจวมองจางซานหยาอย่างอบอุ่นแล้วยิ้มออกมานิด ๆ “แม่ก็ทำให้เจ้าด้วยเช่นกัน”
จางซานหยารีบโบกมือเป็นพัลวันพูด “ข้าไม่อยากได้หรอก ถ้าเกิดถูกท่านอาข้าเจอเข้า นางคงแย่งไปไม่ให้ข้าใส่ ทั้งยังจะทำลายของอีกด้วยซ้ำ!”
จางซานหยาพูดประโยคนั้นด้วยความเคียดแค้น เห็นได้ชัดว่าจางซานหยาเกลียดจางอวี่หมินอย่างไม่คิดจะปกปิดความรู้สึกนั้นเลยแม้แต่น้อย
จางซานหยาพูดจบนางก็เดินไปหยิบของออกมา
จางซิ่วเอ๋อจ้องมองแล้วก็นึกออกในทันที นี้เป็นผ้าที่ตนเองซื้อให้กับแม่โจวเมื่อก่อนหน้านี้
แม่โจวรับสิ่งของมาแล้วเปิดมันต่อหน้าจางซิ่วเอ๋อ
กลับเป็นชั้นในผ้าแพรชุดหนึ่ง
ฝีเข็มนั้นละเอียดถี่ยิบเพียงมองก็รู้ได้ว่าผู้ทำนั้นใส่ใจเพียงใด
แม่โจวหยิบชุดชั้นในมาทาบตัวของจางซิ่วเอ๋อ อย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวที่หล่อนเลี้ยงมาจนโต แม่โจวจึงรู้สัดส่วนร่างกายของจางซิ่วเอ๋ออย่างชัดเจน
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อเข้าใจแล้ว ชุดชั้นในตัวนี้เป็นแม่โจวทำเอง
ชั่วครู่หนึ่งไม่รู้ว่าเพราะความรู้สึกของตัวละครเดิมส่งผลกระทบอะไรต่อนางหรือไม่ กระทั่งนางยังรู้สึกตื้นตันใจด้วยเช่นกัน ทั้งยังรู้สึกแสบร้อนที่ปลายจมูก
“ท่านแม่ ไม่ใช่ว่าข้าให้ท่านทำชุดให้ตัวเองหรือ ท่านสวมเอาไว้ข้างใน เท่านี้ก็ไม่ต้องกลัวคนพวกนั้นแย่งไปแล้ว…” จางซิ่วเอ๋อพูด
แม่โจวกลับพูดสวนมาว่า “แม่มีสวมใส่แค่ตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว เด็กสาวอย่างเจ้าสิถึงต้องสวมใส่ของดี ๆ บ้าง”
พูดตามจริงแล้วนั้นจางซิ่วเอ๋อจำเป็นต้องมีชุดผ้าแพรชั้นในจริง ๆ
ของแบบนี้หมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทชิงสือคงไม่มีใครซื้อใส่ ใครบอกว่าหญิงสาวในบ้านไม่สามารถเย็บปักชุดได้กัน? ก็แค่ไม่สามารถปักดอกไม้ชายกระโปรงพวกนั้นได้ก็เท่านั้น ส่วนการเย็บชุดชั้นในเช่นนี้นางก็ย่อมทำได้อยู่แล้ว
ชุดซับในของบุรุษยังพอจะหาซื้อได้ แต่ชุดผ้าแพรชั้นในของสตรีกลับไม่สามารถหาซื้อได้หรอกนะ
ชุดชั้นในที่จางซิ่วเอ๋อสวมอยู่นั้น ก็เป็นจางชุนเถาทำให้นางเอง
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าร่างเดิมนี้สามารถเย็บปักได้หรือไม่ แต่นางทำไม่เป็นแน่นอน
จางชุนเถาอายุน้อยเกินไปหน่อย ฝีเข็มที่ลงบนชุดจึงไม่ได้ละเอียดมากนัก
จางซิ่วเอ๋อทำให้แม่โจวคิดได้ถึงจุดเล็ก ๆ นี้ จึงตั้งใจทำชุดชั้นในขึ้นมาให้นางด้วยตัวเอง
ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้แม่โจวท้องแก่มากแล้ว อีกทั้งตอนที่ทำชุดชั้นในนั้นยังต้องคอยหลบพวกตระกูลจางอีกด้วย เพราะไม่อาจให้คนเหล่านั้นเห็นได้ ไม่อย่างนั้นคงได้ถูกแย่งไปแน่
สามารถจินตนาการออกเลยว่าแม่โจวนั้นทำเสื้อตัวนี้ด้วยความยากลำบากเพียงใด
อีกทั้งผ้าแพรเนื้อละเอียดนี้นางมอบมันให้กับแม่โจวไปแล้ว แม่โจวก็ควรจะนำมันไปตัดเย็บออกมาให้ดีที่สุด แต่นางไม่คิดถึงตัวเองเลยสักนิด กลับทำเสื้อผ้าให้ลูกสาวอย่างนางแทน
หัวใจเนื้อของจางซิ่วเอ๋อในตอนนี้จำแต่ต้องยอมรับแล้วว่าตัวเองถูกแม่โจวสั่นคลอนจิตใจได้แล้วจริง ๆ
“ท่านแม่ ท่านดีต่อข้ายิ่งนัก” จางซิ่วเอ๋อพูดด้วยตาแดง ๆ
แม่โจวมองจางซิ่วเอ๋อด้วยสายตาอบอุ่น “เด็กโง่ เจ้าเป็นลูกของแม่ ถ้าแม่ไม่ดีต่อเจ้าจะให้แม่ดีต่อใครได้อีก?”
จางซิ่วเอ๋อลอบพูดกับร่างจางซิ่วเอ๋อตัวจริงว่า “ชะตาชีวิตเจ้าช่างน่าสงสาร แต่เจ้ากลับมีมารดาที่ดีคนหนึ่ง เจ้าวางใจเถอะ นางปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี ข้าก็จะดูแลเหมือนนางเป็นแม่แท้ ๆ คนหนึ่งของข้าเช่นกัน!”