ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 304 ดูไม่แย่
บทที่ 304 ดูไม่แย่
จางอวี่หมินได้ยินแล้วก็เดือดพล่าน “นี่! เจ้าอย่าเพิ่งไป!”
จางซิ่วเอ๋อหันมามองจางอวี่หมินและก้าวเดินออกไป
จางอวี่หมินพลันร้อนรน “ข้าจะถามเจ้า คุณชายฉินถูกลงโทษอะไรหรือไม่ ข้าไม่เห็นคุณชายฉินมาที่หมู่บ้านนานแล้ว!”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วก็รู้สึกตลกยิ่งนัก นางหยุดฝีเท้าหันกลับมามองจางอวี่หมินแล้วพูดว่า “ท่านอา ข้าไม่รู้หรอกนะว่าการที่คุณชายฉินไม่มาหมู่บ้านนี้เพราะเหตุใด และอีกอย่างข้าก็คิดว่าข้าไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย”
“นั่นก็เพราะเจ้าไร้ความสามารถไง! ไม่คิดถึงหัวอกคุณชายฉิน! ถ้าเป็นข้า…” จางอวี่หมินมองจางซิ่วเอ๋ออย่างดูถูก นางช่างไร้ความสามารถจริง ๆ ฮึ ข้าก็ควรจะรู้นานแล้ว ที่คุณชายฉินปฏิบัติต่อจางซิ่วเอ๋อก็เพียงเพราะเห็นนางเป็นของเล่นก็เท่านั้นแหละ!
เนื้อสัตว์เนื้อปลาคงจะทานมาเยอะแล้ว บางทีพอเขาได้ทานผักดองคงจะรู้สึกว่ามันสดใหม่สิท่า แต่พอได้ทานครั้งสองครั้ง คุณชายฉินก็คงจะรู้สึกเป็นแน่ว่าเนื้อสัตว์เนื้อปลานั้นอร่อยกว่า!
ถ้าจางซิ่วเอ๋อรู้ว่าจางอวี่หมินเปรียบเทียบนางกับผักดอง เกรงว่านางคงได้ตบหน้าจางอวี่หมินสักฉากเป็นแน่
จางซิ่วเอ๋อยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมองจางอวี่หมิน “แล้วท่านเป็นอะไร? หรือว่าท่านชอบคุณชายฉิน? ข้าขอบอกท่านตรง ๆ นะ ท่านทำใจเถอะ ท่านไม่ได้รู้ตัวเองเลยหรือว่าเป็นอย่างไร คิดว่าคุณชายฉินจะชอบท่านเหรอ?”
“คุณชายฉินยังชอบเจ้าได้! เขาก็ต้องชอบข้าได้เหมือนกัน!” จางอวี่หมินพูดราวกับมีเหตุผลยิ่ง!
จางซิ่วเอ๋อพลันรู้สึกอับจนคำพูด นี้เกรงว่าสมองของจางอวี่หมินจะเสียหายหนักแล้วมั้งเนี่ย?
จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินอย่างดูแคลน “ประการแรก ข้ากับคุณชายฉินเป็นเพียงสหายกันเท่านั้น ประการที่สองข้าขอตอบแทนคุณชายฉิน ว่าเขาไม่มีทางชอบท่านหรอก!”
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อพอจะรู้จักคุณชายฉินสองในสามแล้วก็ย่อมจะรู้ว่าคุณชายฉินนั้นชมชอบคนแบบใด และก็ไม่มีทางชอบคนความคิดตื้น ๆ แบบจางอวี่หมินได้หรอก
จางอวี่หมินพลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เจ้าหมายความอย่างไร? ทำไมเขาถึงไม่ชอบข้า? ข้าว่าเจ้าถูกคุณชายฉินทิ้งแล้วมากกว่า กล้าที่จะเสนอหน้าแทนคุณชายฉินรึ! ทั้งยังกลัวว่าคุณชายฉินจะชอบข้าสินะ! ดังนั้นเจ้าถึงได้พูดจาเช่นนี้!”
“แล้วแต่ท่านจะคิดเถอะ ถ้าท่านจะคิดว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะก็ ท่านก็ไปหาคุณชายฉินด้วยตัวเองแล้วถามเขาดูสิว่าเขาชอบท่านหรือไม่!” จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินอย่างดูแคลนอีกครั้ง
จางอวี่หมินกัดฟันกรอดพูดว่า “เจ้าก็บอกสิว่าคุณชายฉินอาศัยอยู่ที่ใด ข้าจะไปหาเขาด้วยตัวเอง!”
“โอ้โห ท่านอาของข้า ตอนนี้ท่านยังไม่ทันจะออกเรือนก็จะวิ่งแจ้นไปหาผู้ชายเสียแล้วหรือนี้? ท่านไม่กลัวคนอื่นจะเอาท่านไปหัวเราะเยาะหรือไง?” จางซิ่วเอ๋อพูดถึงตรงนี้แล้วก็พูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น
นางไม่สนชื่อเสียงของจางอวี่หมินอยู่แล้ว!
ในเมื่อจางอวี่หมินกล้าที่จะทำ แล้วทำไมนางจะไม่กล้าป่าวประกาศ?
จางอวี่หมินได้ยินแล้วก็แค้นเคือง “ชดใช้ค่าเสียหายมาเสีย! เจ้าจะตะโกนเช่นนี้ให้มันได้อะไร! หุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้นะ!”
พูดถึงตรงนี้จางอวี่หมินก็เพิ่งจะนึกถึงชื่อเสียงของตัวเองขึ้นมาได้ นางกดเสียงลงต่ำพูดว่า “เจ้าบอกที่อยู่คุณชายฉินกับข้าเบา ๆ ก็พอ แล้วข้าจะไปถามเขาด้วยตัวเอง! แค่นี้คนอื่นก็ไม่รู้แล้ว!”
“ท่านอา ท่านคิดว่าด้วยความสัมพันธ์ของเราสองคน ข้าจะช่วยเหลือท่านอย่างนั้นเหรอ?” จางซิ่วเอ๋อส่งเสียงฮึเย็น ๆ หนึ่งเสียง กล่าวจบแล้วเดินจากไป
จางอวี่หมินมองท่าทางนี้ของจางซิ่งเอ๋อก็โกรธจนหน้าแดง “ไม่ชดใช่ค่าเสียหายสักแดง! รอให้ข้ายิ่งใหญ่ก่อนเถอะ เจ้าได้เห็นดีแน่!”
จางซิ่วเอ๋อระหว่างที่เดินกลับก็คิดถึงคุณชายฉินไปด้วย
คุณชายฉินผู้นั้น…เขาไม่มาหานางจริง ๆ เหรอ?
นางอยากจะถามคุณชายฉินให้ชัดเจน เพราะนางเป็นคนที่ไม่ชอบให้เรื่องมันหลุมเครือ
คุณชายฉินผู้นี้จากการที่ได้ร่วมมือกันคราวก่อน เขาไม่ได้นำเครื่องปรุงกลับไปก็ทำให้นางวางใจว่าถ้าคุณชายฉินเปลี่ยนความคิด และนางก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะถ่วงเวลาเอาไว้เพื่ออะไร?
จางซิ่วเอ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งเตลิด
เมื่อกลับถึงบ้าน เนี่ยหยวนเฉียวก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากในตัวบ้าน
และอดไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึงรูปร่างสูงใหญ่องอาจของเขา แม้เพียงสวมชุดสีเทาก็ทำให้คนมองรู้สึกว่าเขาช่างหล่อเหลายิ่ง
แม้แต่จางซิ่วเอ๋อก็ยังอดมองเขาสองสามครั้งไม่ได้เช่นกัน
แน่นอนว่านางมองด้วยสายตาใสซื่อบริสุทธิ์ เหมือนมองดอกไม้ใบหญ้าสวย ๆ นั้นแหละ คนงามก็เช่นกันจางซิ่วเอ๋อก็ย่อมต้องมองหลายทีหน่อยเป็นธรรมดา! ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสบายใจด้วย
เนี่ยหยวนเฉียวเงยหน้าขึ้นมามอง
จางซิ่วเอ๋อแม้จะรู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจ แต่การจ้องมองคนอื่นอยู่แล้วถูกเขาจับได้ จางซิ่วเอ๋อก็พลันรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยเหมือนกัน
นัยน์ตาจางซิ่วเอ๋อละลายใจนิด ๆ หลังจากนั้นนางก็รีบก้าวไปทางห้องครัว
ระหว่างนั้นเนี่ยหยวนเฉียวก็มองจางซิ่วเอ๋อโดยไม่พูดไม่จา ราวกับดวงตาของเขาเกาะหนึบอยู่บนร่างจางซิ่วเอ๋ออย่างไรอย่างนั้น
จนกระทั่งจางซิ่วเอ๋อเข้าไปในห้องครัว นางก็เก็บถ้วยชามมาล้าง เนี่ยหยวนเฉียวก็ยังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหล่อและใช้สายตาเดียวกันมองจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกขนลุกเล็กน้อย นางมองร่างกายตนเองและในที่สุดก็อดพูดไม่ได้ว่า “หนิงอัน เจ้ามองข้าไม่หยุดมีอันใดหรือไม่?”
เนี่ยหยวนเฉียวสำรวจจางซิ่วเอ๋อแล้วเอ่ย “ดูไม่แย่”
จางซิ่วเอ๋องุนงงนิด ๆ “ดูไม่แย่อะไร?”
เมื่อเห็นว่าปฏิกิริยาของจางซิ่วเอ๋อเป็นเช่นนั้น เนี่ยหยวนจึงอธิบายอีกหนึ่งคำ “เจ้าน่ะดูไม่แย่”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วก็หน้าดำไปหนึ่งแถบ หนิงอันเจ้านี้มัน…จริง ๆ เลย คำพูดนี้ไม่น่าฟังเลยสักนิด!
อะไรคือดูไม่แย่?
ก็ได้นางยอมรับว่าตัวเองหน้าตาไม่ได้สวยอะไร แต่จางซิ่วเอ๋อคิดว่าร่างนี้ก็มีรูปร่างดีไม่เบา ดูจากจางอวี่หมินก็รู้แล้ว
จางอวี่หมินแม้ว่าจะน่าชัง แต่หน้าตานางก็ไม่แย่เลย
ร่างกายนี้เป็นคนสกุลจางเดียวกับจางอวี่หมิน ดังนั้นก็ไม่น่าจะหน้าตาขี้เหร่กระมั้ง?
นางเพียงแค่บำรุงช้า การเจริญเติบโตไม่ดี ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่นก็คือผิวของนางที่กลายเป็นผิวสีเหลืองมีจุดด่างดำ แต่จากการที่นางกินดีอยู่ดีไม่ออกไปตากแดดนานเกินไป ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
นางคิดว่าขอให้เวลานางสักหน่อย ไม่ได้จะบอกว่าตนจะกลายเป็นสาวงามถล่มเมืองนั่น แต่ก็น่าจะเป็นสาวงามสะอาดตาคนหนึ่งได้
เหตุใดพอคำว่าดูไม่แย่ออกมาจากปากของหนิงอันแล้ว มันถึงกลายเป็นว่านางถูกยั่วยุกันนะ?
พอคิดดี ๆ ตนก็สามารถชมหนิงอันดี ๆ สักประโยคได้นะ แต่วิธีที่หนิงอันชมคนอื่นมันก็ออกจะพิเศษเกินไปแล้ว!
พิเศษตรงที่พอคนฟังได้ยินแล้วกลับรู้สึกไม่น่าฟังเลยสักนิด!
เนี่ยหยวนเฉียวชมจางซิ่งเอ๋อหรือ? ก็ไม่ผิดนี่ เนี่ยหยวนเฉียวชมจางซิ่วเอ๋อออกมาจากใจตนเองจริง ๆ
ในความคิดของเนี่ยหยวนเฉียว เมื่อก่อนตอนที่เขาเจอหญิงสาวหน้าขาวมากมายเหล่านั้น เขาเห็นเพียงครู่เดียวก็รู้สึกไม่ชอบแล้ว! มันดู ‘ไม่น่ามอง’ เอามาก ๆ
เนี่ยหยวนเฉียวพูดคำว่า ‘ไม่แย่’ คำเดียว แต่มันไม่ใช่มาตรฐานของคนทั่วไปมอง แต่เป็นมาตรฐานของเขาคนเดียวตัดสินเอาเอง
เขาชอบมองจางซิ่วเอ๋อ จางซิ่งเอ๋อก็ย่อมไม่หน้าตาแย่เป็นธรรมดา
ส่วนหญิงสาวคนอื่น ต่อให้สวยหยาดงามถล่มเมือง เขาก็ไม่ปรารถนาจะมองเลยสักนิด แน่นอนว่ามันจัดอยู่ในประเภท ‘ไม่น่ามอง’ ประเภทหนึ่งเช่นเดียวกัน