ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 308 ถูกจับ
บทที่ 308 ถูกจับ
จางซิ่วเอ๋อมองตวนอู่เหมือนจะมีอะไรในใจก็ลองถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป?”
ตวนอู่รู้สึกสงสารจางซิ่วเอ๋อเล็กน้อย ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่ได้รู้สึกเกลียดจางซิ่วเอ๋อขนาดนั้นแล้วพูดอธิบายอีกประโยค
น้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อยพูด “คุณชายไม่ต้องการข้าแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อมองตวนอู่อย่างุนงง “เจ้าทำเรื่องอะไรที่ทำให้คุณชายเจ้าไม่พอใจหรือ?”
ตวนอู่หลบสายตา “ช่างเถอะขอรับ ข้าไม่พูดแล้ว”
“แต่ว่าข้าคิดว่าคุณชายของเจ้าใส่ใจเจ้ามากนะ ครั้งนี้เขาคงแค่โกรธเจ้าสักพัก หลังจากนี้เขาก็คงให้เจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเขาแล้วล่ะ” จางซิ่วเอ๋อพูดปลอบใจเขาประโยคหนึ่ง
นางไม่ได้มีอคติอะไรกับตวนอู่ แต่กลับคิดว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์มาก
อีกทั้งนางก็พูดตามความจริง จางซิ่วเอ๋อคิดว่าคุณชายฉินนั้นให้ความสำคัญกับตวนอู่มาก ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของคุณชายฉิน จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาให้คนพูดมากเช่นชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ข้างกายเขาแบบนั้น?
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของตวนอู่ที่มีต่อคุณชายฉินนั้นไม่ใช่ข้ารับใช้ธรรมดาแน่
คำพูดของจางซิ่วเอ๋อเหมือนปลอบโยนตวนอู่ ทำให้ใบหน้าแววตาของตวนอู่สดใสขึ้นหลายส่วน ตวนอู่มองจางซิ่วเอ๋อแล้วพึมพำ “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีมุมที่ไม่น่าเกลียดชังอยู่ด้วย”
จางซิ่วเอ๋อจ้องตวนอู่ “ถึงเจ้าจะพูดเสียงเบาก็อย่าคิดว่าข้าจะไม่ได้ยิน! อันใดคือไม่น่าเกลียดชัง? ข้าไม่เคยทำตัวน่าชังเข้าใจหรือไม่?”
ตวนอู่สำรวจมองจางซิ่วเอ๋อแล้วพูดออกมาในที่สุด “ถ้าคุณชายของข้ากลับมาแล้ว หรือว่ามีข่าวคราวอะไรกลับมาข้าจะไปบอกเจ้าเอง”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้าพูด “ได้ งั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อมาถึงตอนเช้า แต่ตอนที่นางจะกลับท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำไปบางส่วนแล้ว
จางซิ่วเอ๋อไม่กล้าอยู่รบกวนอีก นางคิดจะรีบไปซื้อของกินนำกลับไป หลังจากนั้นถึงจะขึ้นเกวียนกลับ หากค่ำไปมากกว่านี้เกรงว่าจะไม่ทันการณ์แล้ว
เรื่อนในจวนฉินเป็นสถานที่ที่เงียบสงบมาก รอบบริเวณไม่มีบ้านคนอยู่เลย มีเพียงจวนใหญ่สองหรือสามหลัง จวนแต่ละหลังเหล่านั้นก็เหมือนจะไม่มีคนเข้าออกเช่นกัน ตอนนี้บ้านทั้งหมดก็ปิดเงียบ
จางซิ่วเอ๋อรีบเร่งฝีเท้า ผ่านกำแพงจวนฉินไป กะว่าจะไปตลาดนัด
แต่ก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว จางซิ่วเอ๋อก็เกิดลางสังหรณ์บางอย่าง
นางหันกลับไป…ทันใดนั้นเอง นางก็เห็นฟันเหลือง ๆ ของผู้ชายจนสะดุ้งตกใจ ยังไม่ทันตอบสนองปากของนางก็ถูกปิดสนิทแล้ว หลังจากนั้นดวงตาก็มืดสนิท นางถูกคนจับยัดใส่ในถุง
จางซิ่วเอ๋อตอนนี้ตื่นตกใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตนถึงถูกจับทั้งที่ท้องฟ้ายังสว่างโร่อยู่แท้ ๆ!
ดิ้นขัดขืนตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว นางจะตะโกน…ปากก็ถูกปิดเอาไว้อีก ทำให้ตะโกนออกมาไม่ได้
ตรงกับคำที่กล่าวว่า เรียกฟ้าฟ้าไม่ตอบ เรียกดินดินไม่ขานรับจริง ๆ*
*เปรียบเทียบ ตกที่นั่งลำบาก ไม่มีคนช่วยเหลือ
จางซิ่วเอ๋อเก็บแรงและสงบจิตสงบใจให้ตัวเองเยือกเย็นเข้าไว้
ใช่ เยือกเย็น นางจะต้องเยือกเย็นเข้าไว้ อย่าตื่นกลัวเป็นอันขาด ตอนนี้ต่อให้หวาดกลัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าอยากจะหนีจากการจับกุมไปได้นางต้องเยือกเย็นกว่านี้
จางซิ่วเอ๋อหายใจเข้าลึก ๆ พยายามไม่ให้ตัวเองกลัว
รอจนกระทั่งจางซิ่วเอ๋อสงบลง นางก็วิเคราะห์สถานการณ์ตัวเอง
ตอนนี้นางน่าจะถูกจับยัดใส่ถุงและถูกแบกขึ้นบ่าอยู่ คนที่แบกนางเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็ว อีกทั้งดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่คนเดียว!
ใช่แล้ว มีคนปิดปากนางคนหนึ่ง และจับนางใส่ถุงคนหนึ่ง น่าจะมีใครอีกคนหนึ่งหรือไม่ก็สองคน
แต่ว่าทำไมถึงจับนางกันล่ะ?
ถ้าเพื่อปล้นล่ะก็ เสื้อที่นางสวมอยู่เพียงแค่มองก็น่าจะดูออกนี่ว่ามาจากหมู่บ้านชนบท แต่ภายในเมืองชิงสือนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเมืองไร้การพัฒนาอะไร ถ้าต้องการจับตัวนางเรียกค่าไถ่จริงแล้วมาหาตนเองก็ออกจะโง่เกินไปแล้ว
ถ้าเป็นเพราะหน้าตา ไม่ใช่ว่าจางซิ่วเอ๋อดูถูกตัวเอง แต่ร่างจริง ๆ ของจางซิ่วเอ๋อ หน้าตาเช่นนี้คนที่จับตัวเองไปมีแต่จะทำลายสายตา!
ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน ไม่ใช่เพราะหน้าตา แล้วมันเพราะอะไรล่ะ?
แก้แค้น?
จางซิ่วเอ๋อร่างเดิมนั้นเป็นคนใสซื่อมาก แต่ไหนมามีเพียงแต่คนอื่นมารังแกจางซิ่วเอ๋อร่างเดิม นางไม่เคยรังแกใครก่อน ในสถานการณ์แบบนี้ร่างเดิมไม่มีทางทำให้ใครเจ็บแค้นใจจนต้องส่งคนมาจับแน่
ในเมื่อไม่ใช่ศัตรูของร่างเดิม งั้นก็ต้องเป็นศัตรูของนางเองแล้ว
คิดถึงตรงนี้จางซิ่วเอ๋อก็พลันรู้สึกเศร้าใจ เพราะคนที่เกลียดตัวเองนั้นมีไม่น้อยเลย
ไม่ว่าจะพวกตระกูลจางหรือตระกูลหลิน ก็คล้ายไม่ชอบตัวเองกันทั้งนั้น
จางซิ่วเอ๋อตอนนี้เดาไม่ถูกว่าเป็นใคร แต่จางซิ่วเอ๋อก็มีคนในใจแล้ว
อันดับแรกก็คือแม่เฒ่าจางกับจางอวี่หมิน พวกนางสองคนไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่จับตัวเองไปขาย
แม้ว่าตัวเองจะเคยสร้างความลำบากให้ใครมาก่อน คนคนนั้นก็ไม่มีสิทธิที่จะขายนางเช่นกัน แต่นางอยู่ในยุคโบราณ ที่แต่ไหนมาไม่เคยขาดคนรับจ้างทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ คนเหล่านั้นไม่สนหรอกว่านางจะเคยทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจก็สามารถขายคนได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะจางต้าเหอคนนั้นปกติเห็นเขายิ้มแย้มใบหน้ามีคุณธรรมนั่น แต่ว่าไม่นานมานี้จางซิ่วเอ๋อก็มองออกแล้วว่า คนอย่างจางต้าเหอนั้นไม่ใช่คนดีอะไรเลย
ยังมีจางเป่าเกิน เพียงแค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนไม่ดี
ตระกูลหลินเองก็เช่นกัน แม่หลินกับหลีฮวายิ่งไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้พวกนางโยนเรื่องน่าปวดหัวทั้งหมดมาใส่นาง
นอกจากคนเหล่านี้ก็ยังมีแม่ม่ายหลิวคนนั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นไม่ได้ที่อาจจะทำเรื่องแบบนี้ แม่ม่ายหลิวรู้จักผู้ชายเยอะ บุรุษประเภทไหนก็มีหมด หากจะหาคนมาจัดการนางก็เห็นทีว่าจะไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
นางนั้นไม่ได้โง่ ช่วงนี้ภายในหมู่บ้านก็มีข่าวลือระหว่างนางกับท่านหมอเมิ่ง เรื่องนี้ทำให้แม่ม่ายหลิวที่อยากแต่งกับหมอเมิ่งมาตลอดอิจฉาตัวเอง หากจะทำเรื่องไร้เหตุผลขึ้นมาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อวิเคราะห์ความเป็นไปได้นี้ด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นก็เริ่มคิดแล้วว่าคนพวกนี้จะทำอย่างไรกับตัวเองบ้าง
ดูท่าทางแล้วเหมือนจะไม่ได้ต้องการฆ่านาง
ถ้าต้องการฆ่านางก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งมาไกลขนาดนี้ สามารถฆ่านางให้จบ ๆ ได้แล้วไม่พามาด้วยให้ลำบากหรอกจริงไหม? เนื่องจากคนที่ยังมีชีวิตนั้นสามารถต่อสู้ดิ้นรนได้! ดังนั้นการพาคนที่ตายแล้วมานั้นง่ายกว่าเยอะ
งั้นคนพวกนี้ก็อาจจะนำนางไปขาย
สงสัยว่าจะใช่ ไม่ว่านางจะเดาถูกหรือไม่คนพวกนี้ไม่น่าจะขายนางในที่ดี ๆ แน่
มีเก้าในสิบที่มันจะขายตัวเองให้กับหอนางโลม
หรืออาจจะดีหน่อยหากขายนางให้ไปเป็นภรรยาคนผู้หนึ่ง หรืออาจจะแย่หน่อยหากพวกนั้นเกิดเอาตัวนางโยนเข้าเตาเผาหรือจับไปเป็นโสเภณี