ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 93 ไม่ตื่นเช้าหากไม่มีผลประโยชน์
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》]
- บทที่ 93 ไม่ตื่นเช้าหากไม่มีผลประโยชน์
บทที่ 93 ไม่ตื่นเช้าหากไม่มีผลประโยชน์
แต่หารู้ไม่ พอกินทันทีก็เป็นเรื่องเลย
จางซิ่วเอ๋อกินหมั่นโถวไปแล้วก็ตั้งใจจะบอกว่าค่อยทำต่อพรุ่งนี้
ทว่านางกลับได้ยินเสียงหยางชุ่ยฮวาพูดขึ้นช้า ๆ “ในเมื่อกินอิ่มแล้วก็ทำงานต่อไป! ทำเสร็จแล้วค่อยนอน!”
จางซิ่วเอ๋อแทบอยากจะสำรอกเอาแผ่นหมั่นโถวออกมา ทำไมตัวเองถึงหาเหาใส่หัวนักนะ? กินของของหยางชุ่ยฮวาทำไมกัน!
แต่ตอนนี้กินไปแล้ว ติดหนี้บุญคุณหยางชุ่ยฮวา เวลานี้ก็ต้องทำงานต่อไปอย่าได้บ่น
กว่าจะทำเสร็จทั้งหมดเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน จางซิ่วเอ๋อจึงได้นอนในห้องหนีจื่อ ส่วนแม่โจว ชุนเถาและซานหยานอนอยู่ในห้องโจวเหวิน
จางซิ่วเอ๋อเข้ามาในห้องแล้วก็ผล็อยหลับทันที
จางซิ่วเอ๋อนอนถึงตอนสายของวันรุ่งขึ้น พอตื่นมาแล้วจึงอายนิดหน่อย อยู่บ้านตัวเองจะนอนถึงตอนไหนก็ได้ แต่พออยู่บ้านคนอื่นไม่ควรนอนตื่นสายเลย
หนีจื่อเห็นจางซิ่วเอ๋อตื่นแล้วก็บอกอย่างตื่นเต้น “ซิ่วเอ๋อ วิธีของเจ้าได้ผลจริง ๆ! เราจับปลาได้จริง ๆ!”
จางซิ่วเอ๋อมองหนีจื่ออย่างตะลึง เนิ่นนานกว่าจะได้สติ “จับปลาได้แล้วเหรอ?”
“ใช่แล้ว ตอนเช้าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้หิ้วลอบจับปลากลับมา ในนั้นมีปลาใหญ่สองตัวแล้วก็ปลาเล็กอีกมากมาย! พวกเขาบอกว่าเป็นเพราะนำไปวางหลังเที่ยงคืนแล้วจึงจับได้ไม่เยอะ หากคราวหน้าไปวางลอบตั้งแต่ฟ้ามืด ต้องจับปลาได้ไม่น้อยแน่!”
จางซิ่วเอ๋อถึงรู้สึกตัว ที่แท้สองสามีภรรยาหยางชุ่ยฮวาคลำทางขึ้นเขาตอนกลางคืนไปวางลอบจับปลา! ตอนไปถึงคงเป็นหลังเที่ยงคืนแล้วล่ะสิ? สู้กันจริง ๆ ! ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นความคิดของหยางชุ่ยฮวา!
จางซิ่วเอ๋ออดนับถือหยางชุ่ยฮวาไม่ได้ในเรื่องนี้
ดังนั้นตอนมื้อเที่ยง นอกจากเนื้อตุ๋นน้ำแดงแล้วจึงมีอาหารจานปลาเพิ่มมาอีกจาน
ขณะกินข้าวอยู่นั้น หยางชุ่ยฮวาก็ให้ความสนิทสนมจนจางซิ่วเอ๋อขนลุก “ซิ่วเอ๋อ เจ้ากินเยอะ ๆ หน่อย!”
หยางชุ่ยฮวาพูดพลางคีบกับข้าวใส่ถ้วยจางซิ่วเอ๋อ ไม่นานนักถ้วยของจางซิ่วเอ๋อก็เต็ม
“ดูซิ่วเอ๋อสิผอมจนน่าสงสาร ป้าเห็นแล้วปวดใจจริง ๆ!” หยางชุ่ยฮวาพูดอีก
จางซิ่วเอ๋อพูดนิ่ง ๆ “ซานหยาผอมกว่าข้าอีก ท่านป้าสะใภ้เอ็นดูซานหยาเยอะ ๆ เลยเจ้าค่ะ”
จางซานหยามองจางซิ่วเอ๋อเคือง ๆ พี่ใหญ่เห็นว่านางเด็กเลยจะหลอกล่ะสิ ตัวเองรับความสนิทสนมของป้าใหญ่ไม่ได้ก็เลยให้นางรับแทน
หยางชุ่ยฮวายิ้มรับและบอกปัด “ข้าเอ็นดูพวกเจ้าทุกคนแหละ แต่เจ้าไม่มีสามี ข้าต้องเอ็นดูเจ้ามากกว่าหน่อย”
มุมปากจางซิ่วเอ๋อกระตุก ป้าสะใภ้ใหญ่นี่ไม่ตื่นเช้าหากไม่มีผลประโยชน์จริง ๆ !ปกติไม่เห็นนางจะดีกับตัวเองแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่คิดจะไล่ให้ไปตั้งแต่มาถึงหรอก
แต่ทุกคนอารมณ์ดีกัน จับปลาได้จริง ๆ ก็หมายความว่าชีวิตความเป็นอยู่ของตระกูลโจวจะเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ
ต่อให้ไม่ได้อยู่อย่างสุขสำราญนัก แต่หลังจากนี้ไม่ต้องเครียดเรื่องปากท้องอีกแล้ว
เวลานี้หยางชุ่ยฮวาไม่พูดเรื่องจะให้พวกเธอแม่ลูกไปแล้ว และยังเอ่ยปากอย่างใจกว้างว่าต่อให้กินของที่เอามาหมดแล้วก็อยู่กินข้าวต่อที่บ้านได้
บัดนี้ตระกูลโจวก็ถือได้ว่าครอบครัวเป็นสุข ขณะที่บรรยากาศในตระกูลจางตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก
หลายวันมานี้แม่โจวไม่อยู่บ้าน ตระกูลจางก็โกลาหลไปหมด
กับข้าวไม่มีคนทำ เสื้อผ้าไม่มีคนซัก จานชามก็ไม่มีคนล้าง ซานหยาก็ไม่อยู่ จึงไม่มีคนไปตัดหญ้า ไม่มีคนให้อาหารหมู! เป็ดไก่ยิ่งไม่มีคนสนใจ มูลเป็ดมูลไก่เต็มลานก็ไม่มีคนเก็บกวาด
แม่เฒ่าจางได้แต่ทำงานบ้านไปด่าไปในทุก ๆ วัน
ปกติจางอวี่หมินไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น รออ้าปากกินข้าวอย่างเดียว
2 วันมานี้จางอวี่หมินก็ต้องทำงาน ทุกครั้งที่นางต้องเก็บกวาดมูลเป็ดมูลไก่ในลานด้วยความรังเกียจก็รู้สึกโมโหโทโสที่สุด
และลงทุกอย่างกับแม่โจว
นังแม่โจวเดนตาย บังอาจกลับบ้านโดยไม่บอกบ้านนี้สักคำ
ตระกูลจางมารู้ทีหลังว่าแม่โจวกลับบ้าน วันแรกที่แม่โจวไปและไม่ยอมกลับมาเสียที แม่เฒ่าจางจึงหันไปถามจางต้าหูอย่างโมโห
จางต้าหูถึงนึกขึ้นได้ว่าแม่โจวบอกว่าจะกลับบ้าน จึงลนลานขึ้นมา และคิดจะไปดู ยังไม่ทันได้ไปก็ได้ยินคนในหมู่บ้านพูดว่าเห็นแม่โจวพาลูกสาวสามคนเดินทางเข้าเมือง
จางต้าหูปลอบตัวเองในใจ พวกนางแค่ไปเดินเล่นในตัวเมือง เดี๋ยวก็กลับมา
แต่ 2 วันแล้ว ยังไม่มีใครกลับมาเลย!
จางต้าหูจึงรู้แล้วว่าแม่โจวกลับบ้านไปจริง ๆ
พอเล่าเรื่องนี้ให้แม่เฒ่าจางฟัง แม่เฒ่าจางก็โมโหจนด่าทันที งานบ้านมากมายขนาดนี้ แม่โจวจะกลับบ้านตัวเองโดยไม่สนอะไรเลยได้อย่างไรกัน แม่โจวนี่น่าโมโหจริง ๆ
พอถึงพลบค่ำ คนในบ้านที่กินข้าวกันเสร็จแล้วก็ไม่มีใครอยากเก็บจาน
ช่วงนี้แม่เถายังกร่างอยู่ แม่เฒ่าจางไม่กล้าใช้ จึงทอดสายตาไปที่จางต้าหู
จางต้าหูได้แต่เก็บกวาดอย่างยอมรับชะตากรรม แต่เขาเป็นผู้ชาย ปกติไม่ค่อยได้ทำงานบ้านแบบนี้ จึงทำจานแตกไปใบหนึ่ง!
แม่เฒ่าจางเด้งตัวขึ้นมา “เจ้านี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ! ให้เจ้าทำงานแค่นี้เจ้ายังทำพังได้!”
“ท่านแม่ ตอนนี้บ้านจางซิ่วเอ๋อไม่มีคน ให้พี่สี่ไปดูหน่อยไหมเจ้าคะ ถ้ามีจานก็เอากลับมาสักใบ” จางอวี่หมินเสนอความคิดชั่ว ๆ
จางต้าหูได้ฟังก็รีบบอก “ซิ่วเอ๋อมีจาน แต่เราไปเอาไม่ได้!”
คำพูดของเขาทำให้แม่เฒ่าจางตาดวงตาเป็นประกาย “มีจานเหรอ? งั้นเจ้าก็รีบไปสิ! ”
จางต้าหูนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำจานราคาแพงแตกไปหลายใบ เวลานี้จึงไม่ยอมไป
จางต้าหูไม่ไป แม่เฒ่าจางจึงกัดฟันและเอ่ย “แม่เถา! เจ้าไปกับต้าเจียง!”
แม่เถายังนึกกลัวบ้านผีสิงอยู่ จึงเอ่ยขึ้นมาทันควัน “ข้าไม่กล้าไป! อยากไปก็ไปกันเองสิเจ้าคะ!”
แม่เฒ่าจางทำใจกล้าแล้วบอก “งั้นเราไปกันทั้งบ้านนี่แหละ!”
คนยอมตายเพื่อเงินนกยอมตายเพื่ออาหาร ตอนนี้แม่เฒ่าจางหมายตาของของจางซิ่วเอ๋อแล้ว นางได้ยินว่าก่อนหน้านี้จางซิ่วเอ๋อซื้อของมาไม่น้อย ถ้าตอนนี้ฉวยโอกาสตอนที่บ้านจางซิ่วเอ๋อไม่มีคนไปขนของกลับมาได้ก็เยี่ยมไปเลย!
แม่เฒ่าจางเองก็กลัว แต่ตอนนี้ไม่มีใครยอมไป นางอยากได้ของในนั้นจริง ๆ จึงตัดสินใจให้ทุกคนไปด้วยกัน
ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และคิดว่าไปด้วยกันก็ได้
โดยเฉพาะจางอวี่หมินที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตกลง พูดด้วยใบหน้าโอหัง “ที่บ้านจางซิ่วเอ๋อมีเสื้อผ้าและดอกไม้ติดผมไม่น้อย ถึงตอนนั้นต้องเป็นของข้าทั้งหมด!”
ยังไม่ทันได้ของ จางอวี่หมินก็แสดงความเป็นเจ้าของเสียแล้ว
ดังนั้นคนในตระกูลจางนอกจากจางต้าหูจึงเดินทางไปที่ป่าตอนฟ้าเริ่มมืด
พอมาถึงชายป่าก็ไม่มีใครยอมเดินเข้าไปข้างใน แม่เฒ่าจางจึงผลักแม่เถาไปพลางด่าไป และดึงจางต้าเจียงเดินเข้าไปข้างใน
……………………………………………