ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi - ตอนที่ 146 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 34) / ตอนที่ 147 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 35)
- Home
- ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi
- ตอนที่ 146 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 34) / ตอนที่ 147 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 35)
ตอนที่ 146 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 34)
ตันหวายรู้สึกเหมือนตนเองกลายเป็นปลาไร้ครีบท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ ไม่อาจดำดิ่งแหวกว่าย ทำได้เพียงลอยละล่องไปตามคลื่นทะเล ถูกกระแสคลื่นโถมซัดไปมาโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่มีทางหลุดพ้นออกไปได้
เมื่อตันหวายฟื้นคืนสติอีกครั้งก็ผ่านไปสิบวันแล้ว ระยะพิเศษของโอเมก้ากินเวลาอย่างมากสิบห้าวัน อย่างน้อยเจ็ดวัน กินเวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายของแต่ละคน
เจ้าของร่างเดิมร่างกายไม่แข็งแรง ทว่าฟื้นตัวได้รวดเร็วอย่างยิ่ง เพียงแค่สิบวันก็ได้สติตื่นแล้ว
ตันหวายรู้สึกเหมือนตลอดทั้งร่างเหลือเพียงแต่ดวงตาที่ขยับได้ ภายในห้องอบอวลด้วยกลิ่นชาเขียวและแอลกอฮอล์ผสมปนเปกัน ก่อให้เกิดกลิ่นอายอันแสนรัญจวนใจ
กงฉือออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่น่าจะออกไปได้ไม่นานนัก เพราะว่าที่นอนด้านข้างยังคงอุ่นอยู่
หยิบมือถือออกมาจากใต้หมอนอย่างอ่อนแรง พอตันหวายลืมตาดูก็พบว่าตนไม่ได้รับโทรศัพท์ตั้งหกสิบกว่าสาย ในจำนวนนั้นมีสายโทรเข้าจากฮั่วหมิงมากที่สุด
โทรกลับไปหาด้วยอาการสะลึมสะลือ อีกฝ่ายรับสายแต่ไม่ยอมพูดจา
ตันหวายเลิกคิ้ว โพล่งถามขึ้นอย่างอดไม่ไหว “เกิดเรื่องหรือ?”
“นายหลับอยู่ไม่ใช่หรือ?” ฮั่วหมิงกล่าวพึมพำ น้ำเสียงเจือแววกระดากอายอย่างอธิบายไม่ถูก
ได้ยินพี่ชายพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ เช่นนี้ ตันหวายก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
“เมื่อกี้กงฉือบอกฉันแล้ว นาย…” พูดไปได้ครึ่งประโยค ฮั่วหมิงก็เงียบกริบโดยอัตโนมัติ แม้การตีตราก่อนแต่งงานจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่เจ้าน้องชายของตนไม่จำเป็นต้องทนทุกข์อีกต่อไป เขารู้สึกยินดียิ่งนัก
“คือว่า…” พอเห็นตันหวายไม่ตอบรับ ฮั่วหมิงก็อายหนักยิ่งกว่าเก่า ถึงเขาจะโตกว่าฮั่วหมิงเยว่หลายปี แต่ตอนนี้ยังเป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์เต็มภาคภูมิ ของแบบนี้เขาจะกล้าพูดออกมาได้อย่างไร!
“อ่ะฮึ่ม…พักผ่อนดีๆ ล่ะ กินอาหารบำรุงให้เยอะหน่อย ไตจะได้แข็งแรง!”
ตันหวาย “…”
“อ้อ อีกอย่าง!” ฮั่วหมิงกล่าว “เรื่องนั้นจัดการให้นายเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อตอนนี้นายพอมีเวลา ก็เข้าไปดูสักหน่อยสิ”
พูดจบก็ไม่รอให้ตันหวายตอบกลับ ฮั่วหมิงกดวางสายในทันที
เสียงตัดสัญญาณดังมาจากปลายสาย ตันหวายกุมขมับ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้าไปพบเจอใครอีกแล้ว
พอนึกถึงประโยคที่ฮั่วหมิงกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ ตันหวายก็รีบปัดจอมือถือไปยังหน้าข่าว
เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน เหตุการณ์กลับพลิกตาลปัตรอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ชาวเน็ตรุมประณามตันหวายจนไม่ได้ผุดได้เกิด จู่ๆ ก็มีแอคเคาท์ใหญ่ประโคมข่าวว่าความจริงแล้วฮั่วหมิงเยว่คือผู้ถูกกระทำ จากนั้นแอคเคาท์ใหญ่อีกมากมายก็ทยอยออกมาแฉว่าเจี่ยงหลีไม่เคยรักฮั่วหมิงเยว่ กินข้าวในหม้อล่อข้าวในชาม ทั้งนอกใจภรรยาหลังจากรักแรกของตนหวนกลับมา ยิ่งกว่านั้นยังทารุณเจ้าของร่างเดิมด้วยการเพิกเฉยหลายต่อหลายครั้ง ไม่ยอมตีตราเจ้าของร่างเดิม ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมต้องทนทุกข์ทรมานผ่านพ้นระยะพิเศษตามลำพัง
หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ย่อมมีเหลือเฟือ มัดตัวแน่นหนาชนิดดิ้นไม่หลุด เพียงชั่วข้ามคืน ชาวเน็ตก็แห่กันย้ายฝั่งไปประณามผู้ชายสารเลวเจี่ยงหลีแทน
ao คืออะไร : โดนต้มซะเปื่อยเลยจริงๆ นึกว่าโอเมก้าแพศยาแอบนอกใจ ที่แท้ไอ้อัลฟ่าสารเลวก็ทิ้งเขาไปคบชู้ต่อหน้าต่อตา เป็นผู้อำนวยการอีกต่างหาก พวกไฮโซช่างวุ่นวายดีแท้
ขออนุญาตขำคิกๆๆ : หมดคำจะพูด นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังมีอัลฟ่าห่วยแตกแบบนี้อยู่อีกเหรอ
ao หน้าไหนก็สวะทั้งนั้น : ต้องเถียงกันด้วยเหรอ? ดูแล้วไม่ใช่คนดีอะไรทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ใครจะรู้ว่าโอเมก้าแพศยากลบเกลื่อนความผิดหรือเปล่า ao มีอะไรดีกัน เบต้าอย่างพวกเราต่างหากที่ครองโลก
ตันหวายขมวดคิ้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเบต้าคนนี้มีอคติอะไรกับอัลฟ่าและโอเมก้ากันแน่
แน่นอนว่าคอมเมนต์ด้านล่างเต็มไปด้วยคำด่าทอเช่นเดียวกัน
พริบตาเดียวคำวิจารณ์ก็เปลี่ยนไปในแง่บวก ตันหวายอารมณ์แจ่มใส เริ่มฮัมเพลงขึ้นมาอย่างเบิกบาน
“แสนร่าเริง แสนงดงาม แสนเกียจคร้าน แสนคึกคักก็คือเจ้าแกะ~”
แกร๊ก!
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา กงฉือยืนอยู่หน้าประตู มองดูใครบางคนปลดปล่อยตัวเองด้วยสีหน้าประหลาดชอบกล
ตอนที่ 147 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 35)
บทเพลงอันไพเราะรื่นหูหยุดชะงักทันใด ตันหวายตะลึงค้างมองกงฉือที่ปรากฏตัวกะทันหัน รู้สึกว่าหน้าแก่ๆ ของตัวเองใกล้แตกละเอียดเต็มทีแล้ว
กงฉือตัดสินใจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอยู่หลายนาที เดินเข้ามาวางอาหารที่ซื้อมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าตันหวายพลางอุ้มประคองเขาลุกขึ้น
ตอนนี้ตันหวายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว หากไม่ได้กงฉือช่วยเหลือก็ลุกขึ้นนั่งไม่ไหวจริงๆ
ตันหวายหน้าชนเข้ากับแผงอกของกงฉือพอดี ฟีโรโมนเข้มข้นอาบทั่วใบหน้าของตันหวาย ทำให้ร่างกายเขาชาวาบไปครึ่งท่อนชั่วขณะ
โอเมก้าที่เพิ่งถูกตีตรามักจะเกิดความรู้สึกพึ่งพาอันรุนแรงอย่างยิ่งต่ออัลฟ่าของตน จำเป็นต้องได้รับการปลอบโยนจากอัลฟ่าของตนด้วยความเอาใจใส่ ไม่เช่นนั้นโอเมก้าย่อมมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นโรคซึมเศร้า
กงฉือรับรู้ข้อนี้เช่นกัน เพราะตันหวายบังเอิญเจอหนังสือชื่อว่า ‘แนวทางการดูแลโอเมก้าที่มีภาวะอ่อนแอ’ สอดเก็บไว้ใต้หมอน
กงฉือประคองตันหวายให้เขาเอนซบกับอกของตน แล้วจึงหยิบข้าวต้มปลาจากบนโต๊ะมาป้อนเขาทีละคำ
เกิดมายี่สิบกว่าปี นอกจากตอนเด็กๆ ที่ยังใช้ตะเกียบไม่เป็น ตันหวายก็เพิ่งเคยมีคนดูแลประคบประหงมขนาดนี้ ระยะพิเศษครั้งนี้อาการรุนแรง เปิดโอกาสให้พวกเขาตีตราอย่างเหมาะเจาะพอดี ตอนนี้พวกเขากลายเป็นคู่รักอัลฟ่าโอเมก้าที่ไม่อาจแยกจากกันได้อีกแล้ว
แม้ร่างกายจะยังอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่ตันหวายก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นต้องให้คนอื่นคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ทว่าโอกาสใช่จะมีมาบ่อยๆ ตันหวายจึงยอมตามน้ำไปกับเขา
ตันหวายละเลียดข้าวต้มอย่างเชื่องช้า เทียบกับท้องอิ่มแล้ว เขาอยากซึมซับบรรยากาศระหว่างเขากับกงฉืออยู่ด้วยกันมากกว่า
ข้าวต้มชามนี้สุดท้ายก็กินไม่หมด ตันหวายกินไปได้ครึ่งชามก็อิ่มแล้ว กงฉือไม่ได้รบเร้าเช่นกัน ก่อนจะหยิบผลไม้ที่ปอกเตรียมไว้มาให้ตันหวายกินย่อยอาหาร
“ภารกิจครั้งนี้คืออะไร?” กงฉือเอ่ยขึ้นกะทันหัน มือยังคอยป้อนอาหารเข้าปากไม่หยุด ราวกับถามเป็นเรื่องปกติธรรมดาว่าวันนี้กินข้าวหรือยัง
ตันหวายนิ่งอึ้งไป จากนั้นหัวใจก็คล้ายถูกบางอย่างบีบรัดอย่างฉับพลัน
“ภะ…ภารกิจอะไร?” ตันหวายสังเกตสีหน้าของกงฉืออย่างถี่ถ้วน กลัวว่าจะพลาดอะไรไป
กงฉือยัดแอปเปิ้ลเข้าปากตันหวายหน้าตาเฉย แล้วก้มลงไล้เลียด้านหลังต้นคอเขาเพื่อระงับฟีโรโมนที่ส่งกลิ่นเย้ายวนตลอดเวลา
ตันหวายผวาสะท้าน ต่อมกลิ่นที่ถูกโลมเลียร้อนวูบวาบ มือที่เกาะคอกงฉือเอาไว้สั่นระริกไปหมด
กงฉือ “ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
ตันหวาย ‘…ดีกับผีเอ็งน่ะสิ เอ็งได้อ่านหนังสือหรือเปล่าเนี่ย ต่อมกลิ่นของโอเมก้าจะมาเลียสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง!!!’
ถลึงตาใส่กงฉืออย่างดุร้าย ตันหวายตีหน้าขรึมกล่าวต่อว่า “เมื่อกี้คุณถามถึงภารกิจอะไร?”
กงฉือกะพริบตาปริบ ใบหน้าเรียบนิ่งพลันปรากฏรอยยิ้มเบาบาง “หมายถึงว่า เป้าหมายของคุณในโลกนี้คืออะไร?”
ตันหวายตัวแข็งทื่อ หันไปมองกงฉืออย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ผมมักจะฝันถึงเรื่องราวมากมาย” กงฉือกล่าว “เรื่องราวเหล่านี้ไม่ปะติดปะต่อกัน เหมือนเป็นเพียงบางช่วงบางตอนของนิทานหลายๆ เรื่อง ตอนที่ผมตีตราคุณ ก็เพิ่งจะเชื่อมโยงชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกันได้”
ตันหวายเบิกตาโต “คุณนึกออกแล้วเหรอ?” พูดจบก็นึกอยากผุดกายลุกขึ้น แต่เพราะสะโพกอ่อนแรงเกินไป ยังไม่ทันลุกก็ทรุดยวบกลับลงไปเอง
ตันหวาย “…”
กงฉือคลี่ยิ้ม “คุณจะรีบร้อนไปทำไม? ต่อให้คุณรีบแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางลืมหรอก”
ตันหวายก้มหัวงุดไม่พูดไม่จา
(ท่านเจ้าของร่าง ท่านอย่าลืมกฎเชียวนะ ห้ามบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของระบบเด็ดขาด แกล้งโง่ ต้องแกล้งโง่เข้าไว้!)
กงฉือ “ถึงผมจะปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันได้ แต่ก็ยังนึกอีกหลายเรื่องไม่ออก คุณบอกผมหน่อยได้ไหม?”
ดวงตาของกงฉือเป็นประกายสุกใส สุกใสจนเห็นเงาสะท้อนของตันหวาย
ตันหวายหักใจเบือนหน้าหนี “ไม่ได้”