ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi - ตอนที่ 44 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (13) / ตอนที่ 45 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (14)
- Home
- ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi
- ตอนที่ 44 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (13) / ตอนที่ 45 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (14)
ตอนที่ 44 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (13)
ตันหวายสายตาได้เรื่องหรือไม่ได้เรื่องเริ่นตงหลิวไม่รู้ แต่ซื่อบื้อนิดหน่อยน่ะเรื่องจริง อืม เหมือนกระต่ายก็เรื่องจริง
ตอนที่เห็นเริ่นตงหลิวยื่นมือไปล้วงหยิบบุหรี่แต่ล้วงไม่เจอเป็นครั้งที่ N ซีหร่านก็เลิกคิ้วขึ้น “สูบหมดแล้ว?”
เริ่นตงหลิวส่งเสียงอืม บริเวณหว่างคิ้วขมวดยุ่งด้วยความหงุดหงิด
“สูบเพลาๆ ลงบ้างเถอะ” ซีหร่านโคลงศีรษะ “สูบหนักขนาดนี้ เดี๋ยวได้ตายไวกันพอดี”
“เรื่องอื่นนายไม่ต้องยุ่ง เลิกคิดเรื่องซุบซิบนินทาอะไรนั่นซะที” เริ่นตงหลิวปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “ฉันต้องการเพลงโปรโมตที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นนายเตรียมตัวรอกลับไปให้หรานหร่านจัดการได้เลย”
ซีหร่านหน้าแข็งค้าง ชำเลืองมองเริ่นตงหลิวอย่างใจฝ่อ ได้แต่อุทานให้กับความใจดำของพี่เขยเขาอีกครั้ง
ถูกต้อง ในขณะที่เทรนด์คู่จิ้นเป็นกระแสโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง พวกเขาได้กลายเป็นพี่เขยกับน้องเขยกันแบบไม่ออกสื่อ
เขา ลู่ซีหร่าน หนุ่มหล่อมากความสามารถผู้หล่อเหลาสง่างามฉลาดล้ำเจ้าคารม ไม่เพียงแต่งงานตั้งแต่อายุน้อย แต่ยังคุกเข่าขอเขาแต่งงานเองอย่างหน้าไม่อาย ที่สำคัญที่สุดก็คือ เพราะว่าภรรยาออกจะแข็งกร้าวเกินไปหน่อย เขาก็เลยค่อนข้างจะ…กลัวเมียมาก…
ผุดกายลุกขึ้นยืนเตรียมตัวทำงานอย่างยอมรับชะตากรรม จู่ๆ ซีหร่านก็ได้รับข้อความหนึ่งที่ส่งมาจากเบอร์แปลก
[สวัสดี ขอถามหน่อยว่าคุณกับเริ่นตงหลิวเป็นคู่รักกันจริงๆ เหรอ?]
ซีหร่าน “…”
อะไรวะเนี่ย แฟนคลับคู่จิ้นมีพลังอภินิหารสูงส่งถึงขั้นนี้แล้วหรือ?
บล็อกเบอร์ทิ้งไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ซีหร่านสอดมือถือเข้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องพัก
ตันหวายที่ยังแอบหลบอยู่ในห้องน้ำจ้องหน้าจอมือถือ ราวกับจะจ้องเอาให้มือถือทะลุเป็นรู
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเพื่อให้ได้เบอร์มือถือของซีหร่านมา เขาต้องเสียค่าประสบการณ์ถึงห้าสิบแต้มเต็มๆ เปิดใช้งานฟังก์ชั่นตรวจสอบข้อมูลของระบบเชียวนะ!
ส่วนเหตุใดถึงไม่ตรวจสอบเบอร์มือถือของเริ่นตงหลิว…ด้วยนิสัยของเริ่นตงหลิว ตันหวายคิดว่าตนอาจจะถูกบล็อกเบอร์ทิ้งก็เป็นได้
แน่นอน เขาในตอนนี้ไม่รู้เลยว่าตนเข้าไปนอนอยู่ในแบล็กลิสต์ของมือถือซีหร่านเรียบร้อยแล้ว ชนิดที่ว่าตลอดชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางถูกปล่อยตัวออกมาอีกเลย
จนกระทั่งออกมาจากห้องน้ำ ตันหวายก็ยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากซีหร่าน พอนึกถึงว่าตนเฝ้ารออยู่ในห้องน้ำเสียนานขนาดนั้น ตันหวายก็เกิดอาการอยากจะทุบคนขึ้นมา
กองถ่ายทำเริ่มต้นทำงานกันแล้ว โชคดีที่เป็นฉากของพระเอก ไม่ต้องเรียกใช้งานตันหวายแต่อย่างใด
ผู้รับบทพระเอกเป็นนักแสดงอาวุโสในวงการบันเทิง มีชื่อว่าหม่าจี้ ฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง แค่รางวัลราชาภาพยนตร์อย่างเดียวก็ได้รับมากมายจนมืออ่อน ได้ยินว่าครั้งนี้กว่าจะเชิญเขามาได้เริ่นตงหลิวต้องทุ่มเทเรี่ยวแรงไปไม่น้อย
ตันหวายหน้าดำคร่ำเครียด สองมือกอดอกเรียนรู้การแสดงของราชาภาพยนตร์ หากไม่เรียนรู้ อย่าว่าแต่ตราบสิ้นอายุขัยเลย ต่อให้เขาเกิดมาชาติหน้าก็ไม่มีทางบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต
“คัท!” เริ่นตงหลิวพยักหน้า “เทคนี้ผ่าน แยกย้ายกันได้ เตรียมการส่วนของวันพรุ่งนี้ด้วย”
เสร็จแล้ว? ตันหวายก้มหน้ามองมือถือ ก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
ชำเลืองมองเริ่นตงหลิวที่กำลังจัดเก็บอุปกรณ์ ตันหวายแค่นหัวเราะหึ ก่อนวิ่งตึกตักไปอยู่ตรงหน้าหม่าจี้ เบิกตาโตพลางหยิบปากกากระดาษในมือยื่นออกมากล่าวว่า “รุ่นพี่ครับ ผมเป็นแฟนคลับของรุ่นพี่ รบกวนเซ็นให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?”
โบราณกล่าวกันไว้ว่า หากคุณอยากได้ผลประโยชน์จากผู้ใหญ่ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรู้จักประจบสอพลอ ส่วนเขาอยากเรียนรู้ทักษะการแสดงกับราชาแห่งวงการหนังพอดี ไม่ประจบไม่ได้อยู่แล้ว!
หม่าจี้ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยยิ้มออกมา “ฉันจำเธอได้ เธอชื่อเยี่ยชิว ฉันเคยดูเรื่องที่เธอแสดง ดูมีพลัง แค่ถูกบริษัทพวกเธอฝังกลบเสียมิด”
วันนี้เป็นการถ่ายทำฉากแรกของพระเอก เนื่องจากปัญหาเรื่องคิวการถ่ายทำ หม่าจี้เลยเพิ่งจะมาถึงวันนี้ ฉะนั้นจึงได้พบกัยเยี่ยชิวเป็นครั้งแรก
ตันหวายตะลึงเมื่อได้รับคำชม เกือบจะเริ่มเหงื่อแตก คุณบอกว่ารุ่นใหญ่อย่างคุณ ดูพวกปลายแถวอย่างผมไปทำอะไรกัน ตอนนี้ผมยิ่งไม่มีทักษะการแสดงอะไรเลยสักอย่าง
หม่าจี้หัวเราะหึๆ ในลำคอ รับปากกากับกระดาษไปเขียนลายเซ็นให้ตันหวาย จากนั้นก็หยิบมือถือออกมาแล้วกล่าว “เจ้าหนุ่มถูกชะตากับฉันมาก แอดวีแชทไหม?”
คราวนี้ตันหวายตกตะลึงของจริง ถึงแม้เขาจะรู้ว่าตัวเองใครเห็นใครก็รัก แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะแอดวีแชทเป็นเพื่อนกับรุ่นใหญ่ได้!
ล้วงเอามือถือตัวเองออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน ตันหวายยื่นมือถือให้กับหม่าจี้ด้วยท่าทางงกๆ เงิ่นๆ
“พรืด…” ราชาภาพยนตร์หม่าหลุดขำด้วยความเอ็นดู “เธอให้ฉันเอาไปทำอะไร แอดวีแชทนะ ไม่ใช่ปล้นมือถือ”
อ้อๆ แอดวีแชทนี่นา!
ตันหวายรีบพยักหน้าหงึกหงัก ขานรับไปพลางหาคิวอาร์โค้ดของตนเองไปพลาง
เริ่นตงหลิวที่มองดูเหตุการณ์การทั้งหมดอย่างเต็มตาอยู่ไม่ไกลขนคิ้วกระตุก หรี่ตากล่าวว่า “เยี่ยชิวเป็นแฟนคลับของหม่าจี้ ทำไมไม่เห็นรู้มาก่อน?” เริ่นตงหลิวรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว
“เฮ้ ตรงนี้มีเรื่องไรเหรอ?” ซีหร่านขยับเข้ามาใกล้ ก่อนยิ้มระรื่นกล่าวว่า “แต่ก่อนไม่เห็น ตอนนี้เห็นแล้วก็ใช่ว่าจะไม่เคย จุ๊ๆ เมื่อกี้น้องหน้ามนของพี่ตาเอาแต่จ้องหม่าจี้ตลอดเวลา ความรู้สึกนับถือไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้เลย”
เริ่นตงหลิวยิ้มเย็น หันไปสบกับใบหน้าที่ยากจะแยกแยะว่าชายหรือหญิงของซีหร่าน “ง่วงจนเพ้อหรือไง?”
ซีหร่าน “…”
ถอยห่างจากเริ่นตงหลิวสามเมตรโดยไม่พูดไม่จา ซีหร่านแอบด่าในใจว่าตาแก่ขึ้นคานเอ๊ย!
มองเห็นตันหวายกับหม่าจี้คุยกันออกรสมากขึ้นทุกที เริ่นตงหลิวก็วางอุปกรณ์ในมือลง เดินเข้าไปพลางพยักหน้ายิ้มๆ ให้กับหม่าจี้ ต่อจากนั้นก็หันไปกล่าวกับตันหวายอย่างเคร่งขรึมว่า “ถึงจะไม่อยากมาขัดจังหวะพวกคุณเลย แต่ใกล้จะถึงเวลาที่พวกเราจองเอาไว้แล้ว คงจะให้ทางร้านอาหารรอไม่ได้”
หา? ตันหวายทำหน้างุนงง ร้านอาหารอะไร? เวลาอะไร?
เริ่นตงหลิวเมินสีหน้างุนงงของตันหวาย ก่อนฉวยมือถือของตันหวายมาไว้ในมืออย่างเงียบขรึม แล้วฉุดข้อมือของเขาเดินออกไปข้างนอก
ตันหวายถูกฉุดจนร่างซวนเซ เกือบจะชนเข้ากับแผ่นหลังของเริ่นตงหลิว
ซีหร่านด้านข้างกระตุกมุมปาก มองไปยังราชาภาพยนตร์หม่าที่งุนงงไม่แพ้กัน พลันรู้สึกเจ็บแค้นเกลียดชัง
พี่เขยนะพี่เขย ไหนพูดซะดิบดีว่าไม่ใช่หนุ่มน้อยหน้ามนของพี่ แล้วพี่หึงหวงอะไรกัน ช่วยทำตัวปากตรงกับใจหน่อยได้ไหม?
ตอนที่ 45 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (14)
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนในเมือง B สวยงามมาก กองถ่ายทำอยู่ติดกับคูเมืองอีกด้วย ตอนออกมาสามารถมองเห็นแสงพร่างพรายที่ส่องสะท้อนจากไฟถนนในคูเมือง
เริ่นตงหลิวขับรถสปอร์ตโฟล์คสวาเกนของเขาแล่นฉิวไปบนถนน ลมราตรีที่โกรกเข้ามาทางหน้าต่างโชยกระทบใบหน้าของตันหวาย พัดจนเขาสมองปลอดโปร่งขึ้นมาทันใด
หางตาเหลือบไปเห็นตันหวายมองมาหาตน เริ่นตงหลิวล้วงหยิบมือถือจากในกระเป๋าของตนออกมา แล้วเอามือถือของตันหวายโยนไปให้เขาพร้อมกัน
“ทำอะไรเนี่ย!” ตันหวายขู่ฟ่อ
เริ่นตงหลิวไม่เปลี่ยนสีหน้า มือเรียวยาวหมุนบังคับพวงมาลัย เชิดคางกล่าวว่า “อยากได้วีแชทไม่ใช่เหรอ? มือถือก็ให้คุณแล้ว แอดสิ รหัสปลดล็อกหน้าจอเป็นชื่อผม”
ตันหวายโกรธเขาจนแทบหัวเราะ เขาไปอยากได้วีแชทของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แม้จะแอบแขวะเงียบๆ อยู่ในใจ แต่ตันหวายก็ยังแอดวีแชทของเริ่นตงหลิวอย่างเชื่อฟัง ตันหวายพิมพ์เมมชื่อไปพลางพูดแขวะไปพลางว่า “เริ่นตงหลิว คุณว่าทำไมคุณถึงตั้งชื่อได้ไม่น่าฟังขนาดนี้ ไม่เห็นคุณตัวเป็นๆ คงนึกว่าคุณเป็นพวกตาแก่ลามก”
เริ่นตงหลิวหัวเราะโดยไม่กล่าวอะไร เมื่อมองเห็นจุดหมายก็เลี้ยวรถจอดในลานจอดรถกลางแจ้งทันที
พอเห็นร้านอาหารเบื้องหน้า ตันหวายก็ทำหน้าตาประหลาดใจ “มากินข้าวจริงๆ ด้วยแฮะ”
“ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าจะทำอะไร เปิดห้อง?” เริ่นตงหลิวคลี่ยิ้ม
ตันหวายหน้าแดงซ่านขึ้นมาเดี๋ยวนั้น เขาถลึงตาใส่เริ่นตงหลิว พูดอึกอักว่า “หน้าม่อ?”
เริ่นตงหลิวยกมุมปาก มองใบหน้าแดงก่ำของเขาอย่างเจ้าเล่ห์ “นี่ยังไม่ทันดื่มเหล้า ก็เมาแล้วเหรอ หืม?”
รู้คนรู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ คนคนนี้ทำไมถึงได้หน้าม่อขนาดนี้!
มองดูเริ่นตงหลิวหลุบตาจุดบุหรี่ จู่ๆ ตันหวายก็เอ่ยถาม “สูบบุหรี่หนักขนาดนี้เชียว?”
ตันหวายเม้มปาก ยื่นใบหน้าแดงก่ำเข้าไปดึงบุหรี่จากปากเริ่นตงหลิวออกมา กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เดี๋ยวก็ต้องกินข้าว อย่าเพิ่งสูบเลย”
เริ่นตงหลิวจ้องมองเขาไม่พูดจา
“สูบบุหรี่หนักเกินไปไม่ดี”
สายตาเริ่นตงหลิวจับจ้องมาที่เขา ยังคงไม่พูดอะไร
ตันหวายรู้สึกยอมแพ้ จึงยื่นบุหรี่ในมือส่งคืนไปอีกครั้ง กล่าวเสียงเบาว่า “ถ้าคุณอยากสูบ งั้นก็สูบเถอะ”
เริ่นตงหลิวละสายตากลับ ไม่ได้รับบุหรี่มวนนั้น ทว่าหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านอาหาร “ไปเถอะ กินข้าวกัน”
ตันหวายนิ่งอึ้งไป ก่อนจะไล่ตามฝีเท้าของเริ่นตงหลิว
“ขอประทานโทษครับคุณผู้ชาย” ยามเฝ้าหน้าประตูขวางทางพวกเขาไว้ “วันนี้ทางร้านเรามีการขอแต่งงาน ที่นั่งจองเต็มแล้ว ทางเราต้องขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวกแก่คุณลูกค้า”
ตันหวายหันหน้าไปสบตากับเริ่นตงหลิว ถามว่า “คุณจองเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ผมพูดว่าจองแล้วคุณก็เชื่อ?” เริ่นตงหลิวเลิกคิ้วถามกลับ
นายพูดฉันก็เชื่อโคตะระแม่เอ็งสิ!
ตันหวายสูดลมหายใจลึก พยายามถามอย่างอารมณ์ดีที่สุด “คุณเริ่นครับ คุณรู้จักนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะไหม?”
“ไม่รู้จัก” เริ่นตงหลิวเอ่ยตอบทันควัน “ผมรู้จักแต่…หมาป่ากับลูกแกะ”
ตันหวายแย้มยิ้ม คิดว่าตนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ออกมากินข้าวบ้าบออะไรกับอีตาโรคจิตนี่
เปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างใน ตันหวายหันไปมองเริ่นตงหลิวด้านนอกรถ เบะปากกล่าวว่า “ยืนเหม่อทำไมล่ะ ขึ้นมาขับรถสิ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาที่แจ่มๆ”
เริ่นตงหลิวเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้ใส่ใจสรรพนามเรียกตัวเองของตันหวาย ขึ้นรถตามมาทันที
สถานที่ที่ตันหวายพาเริ่นตงหลิวไปเป็นบาร์เกย์แห่งหนึ่ง เพราะว่าทุกวันมักจะมีกิจกรรมหลากหลายมากมาย ดังนั้นบาร์เกย์แห่งนี้จึงมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในท้องถิ่น
ตันหวายจะลงจากรถโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง กลับพบว่าประตูถูกล็อกเอาไว้ จึงหันหน้าไปมองใบหน้าเคร่งขรึมของเริ่นตงหลิว ตันหวายเม้มริมฝีปาก “หมายความว่าอะไร?”
“รู้ไหมว่าต่อไปจะมีผลตามมาอย่างไร?” สีหน้าของเริ่นตงหลิวขึงขังเกินไปแล้ว มองจนตันหวายตะลึงงัน
พระเจ้า ตันหวายตบหน้าผาก เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าตอนนี้ตนเป็นนักแสดง คิดอย่างเดียวว่าจะบรรลุภารกิจลับเวรตะไลนั่นอย่างไร
ก้มหน้ามองนาฬิกา ตันหวายเพิ่งรู้ว่าเถลไถลกันมาจนสี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว
“คุณเริ่นครับ ตอนนี้พวกเราจะทานมื้อดึกกันไหม?” ตันหวายถาม
เห็นตันหวายล้มเลิกความตั้งใจ เริ่นตงหลิวก็สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองบาร์เกย์ที่คึกคักพลุกพล่าน ถามตันหวายว่า “อยากดื่มเหล้าไหม?”
“อยากครับ” ตันหวายตอบตามตรง
“ผมพาคุณไปเอง” เริ่นตงหลิวเลี้ยวรถกลับทันที