ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 563
บทที่ 562 คนที่พวกเราตามหา
ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาในยามค่ำคืน แต่ว่าเฉินเกอมองเห็นอย่างชัดเจน
คนที่ถูกไล่ตาม คือชายวัยกลางคนที่มีเลือดเต็มตัว เขาขับสปีดโบ๊อยู่ กำลังขับตรงมาทางเฉินเกอจากที่ไกล ข้างหลังมีคนประมาณสิบกว่าคนกำลังจับอาวุธแล้วไล่ตามอย่างไม่หยุด บนชายหาดมีคนไม่น้อยที่เห็นภาพๆ นี้ ต่างก็วิ่งหนีกันไปหมด ถึงขั้นแม้แต่คนโทรแจ้งตำรวจก็ไม่มี ทางนี้เป็นทางที่ห่างไกลจากเมือง แล้วยังดูอ้างว้างเป็นพิเศษ มีแต่เฉินเกอที่ยืนเดินไปเดินมาอยู่ชายหาดอย่างไม่ตื่นเต้น
เฉินเกอเห็นคนที่ตามฆ่ามาถึงทางนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ทีแรกก็ถูกหลีหย่าลี่ทำลายอารมณ์ไปแล้ว ตอนนั้นในใจของเฉินเกอมีความไม่สบายเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนคนนี้ที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เห็นว่าไม่มีทางจะหนีแล้ว จึงหนีมาทางเฉินเกอ “เร็ว! นำโทรศัพท์ของนายให้ฉัน! ท่านน้องชายท่านนี้ นำโทรศัพท์ของนายให้ฉัน!”
หลังจากนั้นเขาก็เหยียบสันดอน แล้วพุ่งตรงมา จากนั้นก็โบกมือตะโกนมาทางเฉินเกอ
เฉินเกอไม่มีความสุขอยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่สนใจเขาเช่นกัน
และในขณะนี้ ป่าทึบจากรอบๆ ด้าน มีคนไม่กี่คนพึ่งออกมา บวกกับคนที่ตามไล่ข้างหน้าพวกนั้น เห็นว่าชายวัยกลางคนคนนี้วิ่งไม่ไหวแล้ว ก็ล้อมรอบกับขึ้นมา หัวหน้าคนหนึ่งเห็นว่าเฉินเกอไม่ได้วิ่งหนีไป ก็เดินขึ้นมาแล้วตะโกนพูดว่า “ปู่แกจะจัดการเรื่องเรื่องหนึ่ง! แก! ไปซะ”
เฉินเกอมองเขาด้วยความเย็นชา เขากลับไม่พูดอะไรทั้งนั้น ชายวัยรุ่นข้างหลังเห็นว่าเฉินเกอไม่สนใจอะไรเลย ก็รีบหยิบมีดขึ้นมาแล้วจะฟันไปทางเฉินเกอ แววตาของเฉินเกอมีความโมโหผ่านมา ไอ้หนุ่มนี่ไม่สนเลยว่าเป็นใคร ขอแค่เห็นแล้วก็จะฟัน ดูแล้วคงจะไม่ใช่คนเก่งอะไร
รนหาที่ตาย!
เฉินเกอขยับขาเบาๆ แล้วหลบการโจมตีครั้งนี้ไป
ชายวัยรุ่นคนนี้ฟันไม่โดนเฉินเกอ ได้ยินแต่เสียง “ป๊าบ ป๊าบ” ไปสองที จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองได้บินขึ้นมา พึ่งตกลงพื้น ก็ได้ยินเสียงคาชาของขาตัวเอง อยากจะจับปากของตัวเอง กลับสังเกตเห็นว่ามือขยับไม่ได้แล้ว นี่พึ่งรู้สึกได้ว่าฟันทั้งหมดของตัวเองที่มีต่างก็ถูกต่อยหลุดไปหมดแล้ว แขนขาต่างก็ถูกถีบจนหัก หนึ่งนั้นยังมีแขนข้างหนึ่งกับขาข้างหนึ่งที่แตกสลายเป็นผงๆ
คนที่อยู่บนชายหาดต่างก็มองเฉินเกอเหมือนกำลังมองตัวประหลาดอยู่ ไอ้หนุ่มที่เป็นหัวหน้าเห็นว่าท่าทีไม่ถูกต้องแล้ว ตัวเองไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามขยับมืออะไรเลย เห็นเพียงแต่คนคนนี้ถีบไปสองที คนของตัวเองก็ล้มลงพื้นแล้ว อีกอย่างยังพิการไปทั้งสี่ข้าง ดูแล้วครั้งนี้เหมือนจะไม่เพียงแต่ไม่บรรลุเป้าหมายยังจะถูกปฏิเสธและตำหนิอีกด้วย
อีกอย่างคนคนนี้ดูแล้วเหมือนจะเป็นวัยรุ่นที่ไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่ลงมือทีโหดเหี้ยมมาก แค่ลงมือก็ทำเอาลูกน้องของตัวเองแขนขาหักไปหมด เก่งกว่าตัวเองเยอะมาก เขาจะไปรู้ได้ยังไง ไม่ต้องพูดว่าเฉินเกอแค่ทำแขนขาของไอ้หนุ่มที่จะมาฟันตัวเองหัก ถึงแม้ว่าจะฆ่าเขา เฉินเกอก็ไม่มีทางเปลี่ยนสีหน้าและท่าทีแน่นอน
เพราะว่าคนที่เฉินเกอฆ่า มีเยอะมากเกินไปแล้ว!
“ท่านน้องท่านนี้ ขอโทษมากจริงๆ ครั้งนี้พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราไป” พูดกับเฉินเกอด้วยความเกรงใจ แล้วหันไปพูดกับชายวัยรุ่นที่หยิบมีดฟันไว้
ชายวัยกลางคนที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดคนนั้น ตอนแรกคิดว่าตัวเองต้องตายแล้ว แต่กลับมาเจอเรื่องที่ดีแบบนี้ ไอ้หนุ่มที่ตามล่าตัวเองกลับจากไปด้วยความอาสาสมัครใจ ดูแล้วชีวิตของตัวเองก็ถือว่ารักษาไว้ได้แล้ว แต่ว่าคำพูดต่อมาที่เฉินเกอพูดก็ทำให้เขากังวลใจขึ้นมา
“ฉันให้พวกนายไปหรอ?” เสียงของเฉินเกอเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งที่เย็นแข็ง
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเกอแล้ว ไอ้หนุ่มพวกนั้นที่เตรียมตัวจะจากไปต่างก็หยิบอาวุธขึ้นมา แล้วมองมาทางเฉินเกอด้วยแววตาที่ตื่นเต้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะการออกตัวของเฉินเกอในเมื่อกี้เก่งกาจมากเกินไป พวกเขาก็ไม่มีทางจากไปแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาอยากจากไปเอง คนอื่นยังไม่ให้ไปอีก
“นายจะเอายังไง?” หัวหน้าคนนั้นที่แขนของเขาสักตัวมังกรอยู่ได้พูดขึ้น แววตากลับตื่นเต้นมาก คนอื่นไม่รู้ แต่ว่าเขารู้ เขารู้ว่าวงศ์ตระกูลที่สืบทอดวิทยายุทธแต่โบราณกลุ่มหนึ่งที่เหลือเชื่อมีตัวจนอยู่จริง คนพวกนั้นมีความสามารถที่ว่าคนหนึ่งคนสามารถสู้กับคนเป็นร้อยก็ไม่ใช่ปัญหา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝั่งตัวเองแล้ว
“พวกนายทำลายอารมณ์ของฉันแล้ว ทุกคนตัดขาข้างหนึ่งทิ้งหรือแขนข้างหนึ่ง” เฉินเกอพูดอย่างสบายใจเหมือนกำลังพูดว่าให้ทุกคนกินช็อกโกแลตหนึ่งชิ้น
“อะไรนะ? นายอย่างเกินไปนะ พวกเราเคารพนายเป็นคนที่สูงส่ง แต่ก็ไม่ต้องไม่ฉลาดเกินไปนะ เฮอะ!” หัวหน้าคนนี้ที่ร่างกายสูงใหญ่ได้พูดขึ้นด้วยความโหด
“อ๋อ งั้นก็สอง……” คำพูดของเฉินเกอยังพูดไม่จบ ก็เห็นวัยรุ่นรูปร่างผอมคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง อายุราวๆ ยี่สิบปีเกิดเสียง คาชา ขึ้น เขาได้ตัดแขนของตัวเองทิ้งไปหนึ่งข้าง
“นายทำอะไร?” หัวหน้ารูปร่างใหญ่ใหญ่จ้องวัยรุ่นรูปร่างผอมที่ตัดแขนของตัวเอง แล้วรีบตะโกนเรียก แต่ว่าวัยรุ่นคนนี้กลับไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ ภาพเมื่อกี้เขามองเห็นอย่างชัดเจน อีกอย่างแววตาของคนคนนี้ ก็มองออกได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นคนที่ผ่านน้ำผ่านเลือดมา
ภาพลักษณ์ของเขามีเพียงคำสองคำ นั่นคือ ความตาย
ทำให้ผู้คนหวาดกลัวมาก
“นายไม่เลวนะ ไปยืนข้างๆ” เฉินเกอมองดูวัยรุ่นคนนี้แล้วพูดออกมาเบาๆ
“คนที่เหลือจะตัดแขนของตัวเองทั้งสองข้างหรือว่าขา….” คำพูดของเฉินเกอยังพูดไม่จบ หัวหน้ารูปร่างสูงใหญ่ก็จับอาวุธแล้วพุ่งตรงมา คนข้างหลังพวกนั้นนอกจากน้องเล็กคนเมื่อกี้แล้ว ทุกคนต่างก็จับอาวุธแล้วพุ่งตรงมาทางเฉินเกอ
มุมปากของเฉินเกอได้เผยรอยยิ้มที่ประชดออกมา ไม่ถอยแต่กลับโจมตีเข้าไป พุ่งไประหว่างคนพวกนั้น ทั้งต่อยทั้งทับ ได้ยินแต่เสียง คาชา ป๊าบป๊าบ ดังไม่หยุด พริบตาเดียวคนพวกนั้นก็เป็นเหมือนไอ้หนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นแล้ว ต่างก็ถูกตีจนแขนขาหักหมด ฟันก็หลุดออกมา ถึงขั้นมีการแตกสลายของแขนขาเป็นเศษผงๆ
ไอ้หนุ่มไม่กี่คนที่นอนอยู่บนพื้นเจ็บจนจะสลบไปหมด มองเฉินเกอเหมือนกำลังมองตัวประหลาดอยู่ นี่เป็นคนอะไรเนี่ย คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นโทษกับสิ่งมีชีวิตแบบนี้
เฉินเกอขี้เกียจสนใจคนพวกที่อยู่บนพื้น และขี้เกียจสนใจคนที่นี่ สะบัดมือแล้วเดินเล่นต่อ เหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
“ท่านน้องชายท่านนี้! ขอบคุณมาก! ขอบคุณนายมาก!”
และชายวัยกลางคนที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดคนนั้น ขณะนี้ก็เดินขึ้นมา กำหมัดคารวะ แล้วพูดกับเฉินเกอด้วยความเคารพ
“ข้าน้อยหยางเว่ย คือคนไห่เฉิง ขณะที่ออกไปข้างนอก ถูกพวกเขาตามล่าจ้องจะทำร้าย โชคดีที่เจอท่าน ไม่เช่นนั้น ฉันก็คงจะจบแล้ว!”
หยางเว่ยบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ในใจรู้สึกซาบซึ้งมาก
“ฉันไม่ได้อยากช่วยนาย นายไม่ต้องขอบคุณฉัน!”
หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็หันหลังแล้วเดินจากไป
หยางเว่ยมองดูภาพข้างหลังของเฉินเกอ รู้สึกได้ว่าคนคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
โดยเฉพาะท่าทีของเขา
“คุณผู้ชายช้าก่อนครับ ท่านมาไห่เฉิงของเรา เพราะว่าร่วมงานงานฉลองฟ้าสมุทรที่ตระกูลหมิงจัดขึ้นหรอครับ?”
หยางเว่ยถาม
น้ำเสียงให้ความเคารพสูงมาก
“ตระกูลหมิง?งานฉลองฟ้าสมุทร?”
เฉินเกอกำลังคาดเดาอยู่ในใจ
ตระกูลหมิงนี้ ก็คงจะเป็นตระกูลหมิงที่ตามฆ่าจ้าวยีฟานสินะ ยันต์หยกสองก้อนก็คือสิ่งที่ตระกูลหมิงขโมยออกมาจากสุสานราชาสมุทร
ที่ตัวเองมาครั้งนี้ ก็อยากจะมาหาตระกูลหมิงนี่ มาทำข้อแลกเปลี่ยนกับเขา
“คุณผู้ชาย สถานที่นี้ฉันคุ้นเคย ถ้าหากท่ามีความสนใจที่จะไปงานฉลองฟ้าสมุทร หรืออยากจะไปสถานที่ไหนในไห่เฉิง ฉันสามารถ…..แค่กแค่ก!”
ยังไม่ทันพูดจบ หยางเว่ยก็ไออย่างรุนแรงขึ้นมา
เฉินเกอเหลือบไปมองหนึ่งที “นายหาสถานที่หนึ่งรักษาแผลของนายก่อนเถอะ!”
หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็เงยหน้าขึ้นมองไห่เฉิงที่มีแสงไฟสว่างไสวอยู่ไกลจากที่นี่ จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นเดินตรงไปทางนั้น…..
“รีบมารับฉัน!”
หยางเว่ยวิ่งไปโทรศัพท์อีกที่หนึ่ง
“ประธานหยาง ท่าน….ท่านบาดเจ็บแล้ว! ฉันจะรีบส่งคนในโรงพยาบาลใกล้เคียงนี้ไปทันที”
คนในโทรศัพท์พูดด้วยความเคารพบทที่ 563 ความลับเมื่อแปดร้อยปีก่อน
เฉินเกอเดินตรงไปทางเมือง
ขณะนี้ กลับหยุดลง
เขาหันหลังไปพูดว่า “ฉันบอกแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะช่วยนาย นายไม่จำเป็นต้องมาตามฉัน ตอนที่ฉันอารมณ์ยังดีอยู่ นายไปเถอะ ไม่เช่นนั้น นายจะมีจุดจบเหมือนเหมือนพวกนั้น!”
เสียงของเฉินเกอเย็นชามา
คนข้างหลังที่เดินตามเฉินเกอมา คือหยางเว่ย
“คุณผู้ชายอย่างพึ่งโมโหไปเลย แต่แค่ว่าข้าน้อย เห็นรูปลักษณ์ของคุณผู้ชายแล้ว คล้ายกับคนคนหนึ่งมาก และคนคน นี้ก็สำคัญต่อตระกูลหยางเรามาก ฉะนั้น หยางโม๋วอยากจะรู้จักกับคุณหน่อย!”
หยางเว่ยพูดด้วยความเคารพอย่างสูง
ไม่รอให้เฉินเกอถาม เขาก็เปิดปากอธิบายแล้ว
“คุณผู้ชาย ตระกูลหยางของพวกเรา รอคนคนหนึ่งมาโดยตลอด เขาพูดว่าคนคนนั้นจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ไม่ช้าก็แล้ว ฉันเห็นว่าคุณผู้ชาย คล้ายมากจริงๆ หยางโม๋วตามตอแยคุณแบบนี้ เป็นเพราะว่ามีสาเหตุจริงๆ!”
“อืม? รอคนคนหนึ่ง?”
เฉินเกอขมวดคิ้ว
“ใช่แล้วคุณผู้ชาย ฉันได้ให้คนที่บ้านส่งรถมาแล้ว ไม่รู้ว่าคุณผู้ชายจะมีเวลาหรือเปล่า กลับบ้านตระกูลหยางพร้อมฉันหน่อย!?”
หยางเว่ยพูด
ใช่แล้ว ในตอนที่ตัวเองถูกวัยรุ่นคนนี้ช่วยเหลือ ก็รับรู้ได้ว่ารู้สึกคุ้นเคยกับวัยรุ่นคนนี้
แต่ว่าทำไมถึงคุ้นเคย หยางเว่ยก็นึกไม่ออกแล้ว
จนกระทั่งเมื่อกี้ได้มองใบหน้าของวัยรุ่นอย่างละเอียดชัดเจน หยางเว่ยถึงได้สติขึ้นมากะทันหัน
ใช่เขาหรือเปล่า?
ฉะนั้น หยางเว่ยรีบสั่งให้คนในบ้านส่งรถมา แล้วตัวเองก็ตามเขาตลอดเวลา
“คนที่พวกนายรอคนนั้น คล้ายกับฉันมาก?”
เฉินเกอถาม
“คล้ายมากๆ แต่ว่าคุณผู้ชาย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะสามารถพูดคุยได้ คุณไปที่บ้านตระกูลหยางกับฉัน แค่เห็นก็จะรู้เรื่องทุกอย่าง!”
เฉินเกอพยักหน้า
เพราะว่าสีหน้าของหยางเว่ย ไม่เหมือนว่ากำลังพูดโกหกอยู่ ช่วงนี้เรื่องที่แปลกประหลาดก็มีมากมายเกินไปแล้ว มีคนให้พวกเขารอคนคนหนึ่งที่นี่อีก จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองหรือเปล่า?
เฉินเกอไม่สามารถไม่คิดมากในเรื่องพวกนี้ได้
จึงตอบตกลงไป
ในไม่ช้ารถก็มาถึง คนขับรถได้ขับมาถึงวิลล่าตระกูลหยาง
หลังจากผ่านการพูดคุยระหว่างทาง เฉินเกอก็เข้าใจแล้ว
หยางเว่ยที่อยู่ในบ้านตระกูลหยาง ในไห่เฉิงนี้ ก็ถือว่าเป็นวงศ์ตระกูลที่ใหญ่
หยางเว่ย ก็คือเจ้าของในตอนนี้ของตระกูลหยาง
ตระกูลหยางที่ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างธุรกิจจนกระทั่งถึงตอนนี้ มีประวัติศาสตร์ราวๆ แปดร้อยกว่าปีแล้ว
เป็นวงศ์ตระกูลที่ลึกลับละเอียดยิบตระกูลหนึ่ง
หยางเว่ยพูดว่า ก่อนที่จะสร้างธุรกิจ ตระกูลหยางก็แค่ชาวประมงบนชายหาด หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้น ถึงได้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงฟ้าราวกับเหวขึ้น
“คุณหยาง ฉันหวังว่าสิ่งของที่นายจะให้ฉันดู สามารถทำให้ฉันเกิดความสนใจได้!”
อยู่ข้างหลังของหยางเว่ย เฉินเกอพูดเตือนด้วยความเย็นชา
หยางเว่ยก็เหงื่อโชกไปทั้งตัว เพราะว่าภาพลักษณ์และท่าทีของวัยรุ่นคนนี้ จะเก่งไปเล็กน้อยจริงๆ
“คุณผู้ชาย ฉันไม่ได้พูดเล่นกับคุณจริงๆ เชื่อว่าหลังจากเห็นแล้วคุณก็จะเข้าใจ ทุกอย่างที่หยางโม๋ว ทำ ไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน!”
ขณะนี้ที่พูด หยางเว่ยได้เหลือบมองซ้ายขวา
พาเฉินเกอไปที่ห้องลับหนึ่งของเขา
“คุณผู้ชาย คุณดูสิ!”
หยางเว่ยทนกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง แล้วหยิบภาพโบราณหนึ่งออกมา ส่งต่อให้เฉินเกอ
“นี่คือภาพวาดภาพหนึ่ง?”
เฉินเกอจับไว้ในมือ รู้สึกมีความแปลกใจเล็กน้อย
“ใช่ครับคุณผู้ชาย พูดให้ถูกต้องคือ เป็นภาพวาดคนครับ!”
หยางเว่ยหยักหน้า
เฉินเกอค่อยๆ เปิดภาพนี้ออก บนภาพวาด เป็นภาพวาดคนที่เป็นนายทหารท่านหนึ่ง
นายทหารท่านนี้ วาดเหมือนจริงมาก ดูดีเก่งกาจมากๆ บนมือถือดาบยาวด้ามหนึ่ง เพียงแค่มองเห็น ก็ทำให้เฉินเกอรู้สึกหวาดกลัว
แน่นอน นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ และคนในภาพวาดนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเทพเจ้าในโลงศพที่หน้าตาคล้ายกับตัวเอง
สิ่งที่จับอยู่ในมือ คือกระบี่ชิงหยูที่ตัวเองพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา
“คือเขา!”
หนังตาของเฉินเกอกระตุกไปหนึ่งที
“คุณผู้ชาย ท่านรู้จัก? ท่านดูสิ ฉันไม่ได้โกหกท่าน ฉันมีเรื่องที่เป็นเหตุผลจริงๆ เพราะว่าท่านคล้ายกับคนที่เรารอมาโดยตลอดจริงๆ!”
เฉินเกอไม่รู้ว่าจะตอบยังไงแล้ว
ออกจากทะเลทรายไป ยังสามารถเจอเขาต่อที่นี่อีก เฉินเกอเชื่อว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญ เป็นใครกันแน่? ถึงได้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เขารู้ได้ยังไงว่าตัวเองจะมาที่นี่แน่นอน?
“ใครเป็นคนบอกให้พวกนายรออยู่ที่นี่ เขาอยู่ไหน?”
จู่ๆ เฉินเกอก็ถามขึ้น
ไม่พูดถึงเรื่องอื่น ถ้าหากว่าสามารถหาคนลึกลับคนหนึ่งที่มหัศจรรย์ได้ งั้นข้อปริศนาทั้งหมด ก็สามารถไขออกได้แล้ว
คิดไม่ถึงว่าหยางเว่ยจะส่ายหัว
“ใครให้พวกเรารอนั้น ฉันเองก็ไม่แน่ใจแล้ว เพราะว่านี่เป็นเรื่องเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว แต่ว่าซินแสกุ่ยนั่นคำนวณได้แม่นมากจริงๆ คนที่ฉันจะสามารถรอได้ ถ้าหากว่าเป็นคุณจริงๆ ละก็ งั้นภารกิจเมื่อแปดร้อยปีของพวกเราก็สำเร็จแล้ว!”
บนสีหน้าของหยางเว่ยมีความดีใจ
“แปด…แปดร้อยปีก่อน?”
เฉินเกอตกใจอีกครั้ง
เพราะว่าความหมายของหยางเว่ยเขาเข้าใจแล้ว มีคนให้เขารอตัวเองในวันนี้ เมื่อแปดร้องปีก่อน?
ภายใต้การไถ่ถามของเฉินเกอ หยางเว่ยก็ได้นำเรื่องในตอนนั้นพูดออกมาทั้งหมดอย่างละเอียด
ที่แท้ แปดร้อยปีก่อน บ้านของหยางเว่ยเป็นแค่ชาวประมงธรรมดา แต่ว่ามีวันหนึ่ง บรรพบุรุษของหยางเว่ยไปจับปลากลับมาในช่วยเย็น ระหว่างทางก็เจอขอทานชราที่กำลังขอข้าวกินอยู่ บรรพบุรุษของเขาใจดี จึงพาขอทานชรากลับมาที่บ้าน แล้วทานอาหารทะเลไปมื้อหนึ่ง
หลังจากที่ทานจนอิ่มแล้ว
ก็คิดไม่ถึงว่าขอทานชรานั่นจะไม่ยอมไป
บอกว่าจะให้พวกเขาตระกูลหยางเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิต เป็นคนที่ที่เก่งกาจร่ำรวย
ตอนนั้นบรรพบุรุษต่างก็มีความสุขกันใหญ่ นึกว่าเขาดื่มจนเมาแล้ว
แต่ว่าคิดไม่ถึง หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “ขอแค่พวกเธอยอมตกลงช่วยเหลือฉันเรื่องหนึ่ง จากนี้ไปฉันก็จะทำให้พวกเธอมีชีวิตที่สุขสบายร่ำรวยไม่มีเรื่องต้องกังวล! หลังจากนั้น เขาก็หยิบทองออกมาจากกระเป๋าเยอะมาก!”
บรรพบุรุษต่างก็อึ้งกันไปหมด
รีบถามขอทานชราคนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นเขาก็หยิบภาพคนภาพนี้ออกมา
บอกว่าให้พวกเราตระกูลหยางรอการปรากฏตัวของคนคนนี้ในที่นี่ แล้วนำกล่องไม้นี้ให้เขา หลังจากนั้นมาตระกูลหยางของพวกเรา ก็จะกลายเป็นวงศ์ตระกูลที่ร่ำรวย
หลังจากนั้น ขอทานชราท่านนี้ก็จากไปแล้ว
ตระกูลหยางของพวกเราก็มีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ไม่ถึงหนึ่งปี ก็มีบ้านที่ไห่เฉิง ก่อตั้งธุรกิจ แล้วสืบทอดมาจนถึงตอนนี้
แน่นอนว่า เรื่องนี้ ต่างก็เป็นสิ่งที่พ่อของฉันบอกฉันไว้ก่อนที่ท่านเสียชีวิตไป ขณะนั้น ฉันไม่ได้นำมาใส่ใจ คิดว่าเป็นเรื่องเมื่อแปดร้อยปีก่อนแล้ว ไม่ได้มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้
“ฉะนั้นวันนี้ที่เจอคุณผู้ชาย ฉันตกใจมากจริงๆ!”
หยางเว่ยพูด
เฉินเกอได้ยินเรื่องราวที่หยางเว่ยเล่าแล้ว ก็มีความตกใจเล็กน้อยจริงๆ
“ขอทานชรา? ขอทานชราคนนี้อีกแล้ว? ทำไมถึงบังเอิญเช่นนี้ อยู่ที่ประเทศทั้งหลายที่เป่ยโม่ เขาก็เคยปรากฏตัวออกมาแล้ว ตอนนี้ก็มาปรากฏตัวอีก เวลาต่างกันประมาณพันๆ ปี หรือว่าจะเป็นผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่ของขอทานชรา หรือว่า ทั้งสองก็คือคนเดียวกัน?”
เฉินเกอรู้สึกว่าตัวเองขนลุกไปหมดแล้ว
คนคนหนึ่งที่รู้จักและเข้าใจตัวเองมาก แล้วยังมีคนลึกลับที่มีความแปลกประหลาดอยู่ข้างกายของตัวเอง ไม่ว่าใคร ก็ล้วนแต่รู้สึกไม่สบายใจ
“จริงด้วยคุณผู้ชาย ตอนนั้นขอทานชรายังเหลือคำพูดไว้สองประโยค!”
หยางเว่ยมองไปทางเฉินเกอ
“คำพูดอะไร?”
“ข้างดอกฮิกังปะนะ(เป็นดอกไม้ที่เติบโตในนรก)เกิดใหม่ ก็จะปรากฏมังกรขึ้นที่เอ๋อตง!”
ส่วนหยางเว่ย กลับมองไปทางที่เฉินเกอจะตรงไป แล้วตะโกนพูดด้วยความกระวนกระวายว่า
“ไม่ แผลของฉันไม่สำคัญ พวกแกรีบมา! ฉันเหมือนจะเจอคนคนนั้นแล้ว ถึงขั้นพูดได้ว่า คือเขานั่นแหละ!”